Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1711 รัศมีจักรพรรดิผ่าโลกา!
ตอนที่ 1711 รัศมีจักรพรรดิผ่าโลกา!
“ท่านเจ้าศาลา! เขาอยากจะพบเจ้าเด็กคนนี้จริงๆ เด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหนกัน?”
“ท่านเจ้าศาลาคิดอยากพบกับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าสองดาว นี่ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?”
“นี่มัน…นี่มันการตบหน้ายอดผู้อาวุโสเทียนหัวต่อหน้าผู้คนชัดๆ! เด็กคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนถึงกับทำให้ท่านเจ้าศาลาต้องลุกขึ้นมาปกป้องเองแบบนี้”
…
ยิ่งเวลาผ่านไปผู้คนก็ยิ่งมองดูเย่หยวนอย่างมึนงงสงสัย พยายามคาดเดาว่าเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่
เพาราะท่านเจ้าศาลานั้นไม่ใช่ว่าจะยอมพบกับทุกผู้คน
ต่อให้เป็นยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ หากอยากมาพบท่านเจ้าศาลามันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย อย่าไปพูดถึงราชันพระเจ้าสองดาวเลย
แต่วันนี้ เขากลับทำเรื่องเหนือคาด!
มันไม่มีทางเลยที่คนในศาลามายาล้ำทุกคนจะไม่สงสัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียนเทียนหัวผู้ที่มีสีหน้าสุดย่ำแย่คนนี้
ตัวเขาเองนั้นก็ไม่ได้โผล่หน้าออกมาพบผู้คนบ่อยนัก แต่วันนี้เขาเลือกที่จะออกมาห้ามเจียนเจิ้นเทา แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นเขาเองที่ถูกท่านเจ้าศาลาตบหน้าเองเช่นนี้
คนมากมายได้เห็นเรื่องราว นี่มันทำให้ยอดผู้อาวุโสอย่างเขาเสียหน้ามาก!
แต่ยังไงนี่ก็เป็นคำสั่งท่านเจ้าศาลา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม
เจียนฉาวหนิงและเจียนปิงสองพี่น้องเดิมทีมีท่าทางพึงพอใจมากจนไปได้ยินเสียงนั้นเขา เสียงของท่านเจ้าศาลาที่ทำให้พวกเขาถึงขั้นขี้หดตดหาย
เด็กคนนี้มันมีความสามารถใดกันถึงทำให้ท่านเจ้าศาลาต้องการพบตัวเขาเองเช่นนี้?
“ไม่นานศาลามายาล้ำของข้าจะได้มียอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์คนใหม่แล้ว คงได้ฉลองกันยกใหญ่ วันนี้ข้าขอตั้งเจิ้นเทาสู่ตำแหน่งยอดผู้อาวุโส เจ้าต้องพยายามให้มากและรีบบรรลุให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ตอนนี้ท่านเจ้าศาลาส่งเสียงประกาศออกมาอีกครั้งทำให้ทุกผู้คนตื่นตะลึงกันอย่างถึงที่สุด
“ไม่มีทางใช่ไหม? ผู้อาวุโสเจิ้นเทาจะขึ้นสู่ตำแหน่งยอดผู้อาวุโสแล้ว?”
“หมายความว่าเขากำลังจะบรรลุอย่างนั้นหรือ? ข้าก็นึกว่าชีวิตนี้ผู้อาวุโสเจิ้นเทาจะไม่มีทางบรรลุได้แล้วเสียอีก ไม่นึกเลยว่าเขาจะได้รับโอกาสชีวิตใหม่เช่นนี้!”
“บางครั้งโชคร้ายมันก็กลายเป็นดีได้ และดูท่าคำพูดนั้นจะไม่ผิดจริงๆ! ตาของเขามืดบอดไป ทุกคนคิดว่าเขาคงพิการไปชั่วชีวิต ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะรักษาดวงตาจนหายได้ แถมยังบรรลุอาณาจักรนภาสวรรค์ได้อีก”
“ผู้อาวุโสฉาวหนิงสู้กับเขามาเกือบครึ่งชีวิต ใครจะไปคิดว่าผู้อาวุโสเจิ้นเทาจะเป็นคนที่บรรลุได้ก่อนกัน? เรื่องนี้มันช่างน่าขันนัก!”
…
เจียนฉาวหนิงนั้นมีใบหน้าที่ดูไม่ได้อย่างถึงที่สุด เพราะเรื่องราวมันพลิกกลับอย่างรวดเร็วจนเกินไป
เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขายังเป็นฝ่ายเหยียบเจียนเจิ้นเทาจมดินอยู่เลย
ใครจะไปคิดว่าในวินาทีต่อมา เจียนเจิ้นเทาจะได้โอกาสชีวิตใหม่และกลับเป็นฝ่ายเหยียบย่ำเขาจนจมดินแทน
หากท่านเจ้าศาลาว่ามาแบบนั้น มันก็เท่ากับว่าเขานั้นทำนายไว้ได้นานแล้ว!
ไม่มีใครสงสัยในคำพูดของท่านเจ้าศาลาแม้แต่น้อย หากเขาว่าเจียนเจิ้นเทาจะบรรลุ เขาก็ต้องบรรลุได้แน่ๆ
เมื่อขึ้นถึงอาณาจักรนภาสวรรค์แล้ว มันก็จะเหมือนได้ก้าวผ่านประตูมังกรพุ่งขึ้นสู่สวรรค์ในคราเดียว
เขาจะอยู่ต่างกันคนละโลกไป เพราะตัวเขายังเป็นแค่ราชันพระเจ้าเก้าดาว
คนที่ต่อสู้กันมานานกว่าครึ่งค่อนชีวิต ใครจะไปนึกไปฝันว่าวันหนึ่งจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
เจียนเจิ้นเทาเองก็ตื่นตกใจไม่น้อย เขาก้มหัวลงขอบคุณทันที “ขอบคุณท่านเจ้าศาลา เจิ้นเทาจะพยายามฝึกบ่มเพาะเพื่อทำการบรรลุให้เร็วที่สุด!”
แต่ทว่าท่านเจ้าศาลาก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรมาแล้ว
เย่หยวนยิ้ม “ยินดีด้วยท่านผู้อาวุโส!”
เจียนเจิ้นเทาตอบกลับมาอย่างรื่นเริง “สหายเย่หยวน เป็นเพราะเจ้าแท้ๆ! มาสิ ข้าจะพาเจ้าขึ้นไปหาท่านเจ้าศาลาเอง!”
เย่หยวนพยักหน้ารับและตามไป
เจียนเทียนหัวหน้าถอดสีและได้แต่หัวเราะพ่นลมก่อนจะจากไป
เจียนเจิ้นเทาพาเย่หยวนมาจนถึงหน้าบันไดขึ้นไปยังชั้นสาม
“ขึ้นไปจากนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของท่านเจ้าศาลาแล้ว เจ้าขึ้นไปเองเถอะ เฒ่าคนนี้จะลงไปจัดการเทียนปิงแล้วรอเจ้าอยู่ด้านล่าง” เจียนเจิ้นเทาบอก
เย่หยวนพยักหน้ารับและเดินขึ้นบันไดไป
จู่ๆ เย่หยวนก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้เดินผ่านม่านอะไรสักอย่างเข้ามา มาถึงยังมิติอีกด้านหนึ่ง
มันเป็นห้องที่เรียบง่ายและลับเร้น แฝงไปด้วยกลิ่นอายที่แสนพิลึกพิกลไปทั่ว
ชายแก่ท่าทางสงบคนหนึ่งกำลังต้มชาวิญญาณอยู่ ให้กลิ่นที่หอมยั่วผู้คนนัก
ชายแก่คนนี้เปิดปากออกและหัวเราะ “ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งในชีวิตของเฒ่าคนนี้จะได้มาเจอคนหนุ่มที่มีรัศมีผ่าจักรพรรดิ ช่างเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดจริงๆ!”
เย่หยวนมองดูยังชายแก่และได้เห็นว่าเหมือนอีกฝ่ายกำลังอยู่ในม่านหมอก ไม่สามารถมองทะลุผ่านไปได้เลย
เหมือนราวกับว่าชายแก่คนนี้เลือนหายเข้าไปกับพื้นหลังของห้อง
ทั้งๆ ที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกล
“รัศมีผ่าจักรพรรดิ?”
เย่หยวนนั้นมึนงงไม่น้อย หรือว่ารัศมีผ่าจักรพรรดินี้มันจะเป็นดวงชะตารูปแบบหนึ่งด้วย?
เว้นเสียแต่ว่า เจียนเจิ้นเทาบอกว่าเขาเป็นรัศมีจักรพรรดิมิใช่หรือ? ทำไมมันกลายเป็นรัศมีผ่าจักรพรรดิอะไรนี่ไปได้?
ชายแก่ทำท่าทางเชิญเย่หยวนนั่งลงตรงข้ามเขา ก่อนจะค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง “รัศมีจักรพรรดิ ผ่าโลกา นามรัศมีผ่าจักรพรรดิ! เหล่าผู้มีรัศมีผ่าจักรพรรดินั้นจะมีชะตาที่ส่องสว่าง หากไม่มีเรื่องราวเหตุร้ายใดพวกเขาเหล่านั้นจะไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ไม่ยาก!”
เย่หยวนนั่งลงตรงข้ามชายแก่และบอก “ดูเหมือนท่านเจ้าศาลายังไม่ได้ใช้ศาสตร์การดูรัศมีเลยใช่หรือไม่? ทำไมท่านถึงได้รู้กันเล่าว่าข้ามีรัศมีผ่าจักรพรรดิ?”
ชายแก่ยิ้ม “แม้ว่ารัศมีจักรพรรดินั้นจะรุนแรงแค่ไหน มีหรือที่มันจะทำให้คนตระกูลเจียนรับผลสะท้อนกลับที่รุนแรงได้ขนาดนั้น? มีแค่รัศมีผ่าจักรพรรดิเท่านั้นที่จะทำให้สมาชิกตระกูลเจียนได้รับผลร้ายแรงปานนี้ จริงๆ ตั้งแต่ที่เจิ้นเทากลับมาจากเมืองหลวงลาภสายน้ำ เฒ่าผู้นี้ก็รู้มาตลอดแล้ว ต่อให้เฒ่าคนนี้ไม่ต้องใช้ศาสตร์การดูรัศมีเฒ่าคนนี้ก็พอดูเรื่องราวออกบ้าง”
เย่หยวนนั้นตกตะลึงในหัวใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจียนเจิ้นเทาถึงได้ชื่นชมวิธีบ่มเพาะของเจ้าศาลาว่าลึกลับและเข้าใจดวงชะตาได้ดี
ดูเหมือนความสามารถของชายแก่คนนี้มันจะเหนือล้ำจินตนาการจริงๆ!
ได้เห็นแบบนั้นเย่หยวนก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
หากเป็นชายแก่คนนี้ที่ลงมือเอง มันก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะรู้ที่อยู่ของพวกลี่เอ๋อก็ได้
“หากท่านเจ้าศาลารู้มาก่อนหน้าแล้วทำไมท่านถึงยังปล่อยให้ผู้อาวุโสเจียนเจิ้นเทาได้เจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนั้นกัน? ต่อให้ตาเขาจะไม่เห็นแต่เขาก็เป็นถึงราชันพระเจ้าเก้าดาว มันไม่ควรปล่อยให้เขาไปนั่งปลูกดอกไม้ใบหญ้าหรอกใช่ไหม?” เย่หยวนถามอย่างสงสัย
ชายแก่ตอบกลับ “ความลับของสวรรค์นั้นมันลึกล้ำ ต่อให้คนตระกูลเจียนเราจะอ่านความลับสวรรค์นั้นออกเราก็ไปเปลี่ยนอะไรมันไม่ได้ การฝืนเข้าไปยุ่งคลื่นแห่งยอดเต๋ามีแต่จะทำให้เจอผลสะท้อนเท่านั้น หากเล็กน้อยก็ต้องบาดเจ็บหนักกระอักเลือด พลังการบ่มเพาะตกต่ำ หากร้ายแรงก็จะดับสูญวิญญาณไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้ คนตระกูลเจียนเราที่ตายไปเพราะเรื่องราวแบบนี้มันมีมากมายอย่างนับไม่ถ้วน! เพราะฉะนั้นต่อให้เราจะเห็นชะตาของผู้คนได้อย่างเด่นชัด เราก็ทำอะไรกับมันไม่ได้ เจิ้นเทานั้นถูกรัศมีผ่าจักรพรรดิของเจ้าเข้ามันจึงช่วยให้เขาบรรลุได้ในที่สุด เรื่องที่ยอดเต๋าเปลี่ยนแปลงชะตาเขานั้น หากไม่ได้รับความทุกข์ที่ว่ามานี้เขาเองก็จะไม่สามารถบรรลุขึ้นไปได้”
เย่หยวนฟังอยู่อย่างตื่นกลัวไม่น้อย เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องราวธรรมดาๆ นั้นมันจะมีความลับหลบซ่อนอยู่มากมาย
เย่หยวนจึงถามออกไปอย่างสงสัย “ถ้าเช่นนั้น การที่ตระกูลเจียนทำนายดวงชะตาร้ายดีให้คนอื่นทุกวันนี้เองมันก็จะไม่โดนสวรรค์ลงทัณฑ์เข้าหรือ?”
ชายแก่ยิ้ม “นักยุทธทั่วๆ ไปนั้นไม่มีดวงชะตาที่แข็งแกร่งพอจะเปลี่ยนโลกหรอก ที่สำคัญคนตระกูลเจียนก็มีกฎในการทำนายอยู่ด้วย พวกเราจะบอกแค่ สองถึงสามจากสิบ ดูเหมือนใช่แต่ก็ไม่ ด้วยสภาพการณ์ปกติพวกเราจึงทำการได้อย่างไม่มีปัญหา แต่หากเมื่อใดที่พบเจอกับยอดคนที่ดวงชะตาแก่กล้า คนตระกูลเจียนก็จะไม่ยอมรับทำนายดวงชะตาให้คนผู้นั้นง่ายๆ เพราะหากฝึกฝนบ่มเพาะมาไม่ดีพอพวกเขาเองนั่นแหละที่จะโดนผลสะท้อนจากยอดเต๋าแทน”
เย่หยวนหน้าถอดสีทันที ตอนนี้เขาเหมือนได้ยินเรื่องราวสุดสิ้นหวังมา
เพราะเขานั้นมีรัศมีสุดรุนแรงอย่างรัศมีผ่าจักรพรรดิ หมายความว่า…ตัวเขาจะไม่มีทางได้รับการทำนายใดๆ เลย?
เย่หยวนถามออกมาอย่างตระหนก “ท่านผู้อาวุโส เรื่องนี้…”
แต่ชายแก่กลับยื่นถ้วยชามาให้เย่หยวนด้วยรอยยิ้มแทน “ดื่มชาก่อนสักถ้วย อย่าได้กังวลไป”
เย่หยวนจะไม่กังวลได้อย่างไร? สุดท้ายเขาจึงยกแก้วชาดื่มจนหมดในอึกเดียว
เย่หยวนยกมือขึ้นมาประสานและถาม “ท่านเจ้าศาลา คนรักของผู้น้อยไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร การมายังที่แห่งนี้ข้าแค่หวังว่าจะได้รู้ถึงสถานะของพวกเขาทั้งหลายนั้น หวังว่าท่านเจ้าศาลาจะเห็นใจช่วยข้าสักครั้ง! เรื่องนี้เย่หยวนพร้อมที่จะจ่ายทุกสิ่งอย่าง!”