Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1773 ถ้ำเนตรวิเศษ
ดวงตาของเย่หยวนกลายเป็นสีแดงฉานคุ้มคลั่งได้ด้วยจิตสังหาร แผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
“เจ้าสังหารเขาลงจริง?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น
จิตสังหารของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยกับราชันพยัคฆ์สวรรค์เลยแม้แต่น้อย
จริงๆ แล้วเมื่อพวกเขาได้เห็นมัน ความโกรธของเย่หยวนเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขามันก็เป็นได้แค่เรื่องตลก
ราชันพยัคฆ์สวรรค์หัวเราะออกมา “ดูท่าเจ้าจะสนิทสนมกับเสือขาวตัวนั้นมากนะ! แต่ความโกรธแค้นของเจ้ามันไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าข้าผู้นี้ นี่คือโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากเจ้าไม่มีพลังฝีมือ ต่อให้จะโกรธแค้นมากมายเพียงใดเจ้าก็มีแต่ต้องกดเก็บมันไว้ในหัวใจเท่านั้น!”
ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้าน สายตาอันเย็นเยือกนั้นจ้องมองออกมา “ข้าถามเจ้าว่าเจ้าได้สังหารเขาลงจริงไหม?”
“ฮ่าๆ ไอ้เด็กคนนี้มันคงโง่เกินเยียวยา ถึงขั้นยังไม่เห็นสภาพการณ์ตอนนี้อย่างชัดเจนอีก?”
“แค่เด็กระดับสี่คิดมาข่มขู่เขาพยัคฆ์สวรรค์เรา แถมยังทำท่าพูดจาใหญ่โต!”
“ไอ้เด็กที่ชื่ออิ้งหมัวหู่มันกล้ามาทำร้ายหู่ชิงจนบาดเจ็บสาหัส มันย่อมสมควรที่จะตายลงแล้ว!”
…
เหล่าสัตว์อสูรที่ติดตามราชันพยัคฆ์สวรรค์ต่างแสดงสีหน้าท่าทางเย้ยหยันออกมา
สำหรับพวกเขาแล้ว สำหรับยอดฝีมือแล้วการได้หยอกล้อเหล่าผู้อ่อนแอนั้นมันก็นับว่าเป็นความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง
ราชันพยัคฆ์สวรรค์หัวเราะลั่น “ทำไมเล่า ฆ่าก็ฆ่าสิ หรือว่าเจ้าคิดจะกลบฝังเขาพยัคฆ์สวรรค์ของเราลงได้จริง? เด็กน้อย ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าอ่อนแอหรอกนะ แต่ด้วยคนเช่นเจ้านี้? ไปรักษาหู่ชิงให้หายเสีย หากเจ้าคิดที่จะทำอะไรไม่เข้าท่ารับรองได้เลยว่าราชันผู้นี้จะทำให้เจ้าได้อยู่ในสภาพอยู่ไม่ได้ ตายไม่ดี!”
จู่ๆ ร่างของเย่หยวนก็กลับเป็นความสงบนิ่ง อาการสั่นเทาใดๆ จางหายไป ดวงตาที่มองไปยังราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นไม่เหลือเศษเสี้ยวความรู้สึกใดๆ
สภาพนี้ของเย่หยวนนั้นคือเวลาที่เขาโกรธแค้นจนไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างและชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าออกมาไว้ในมือ
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาราชันพยัคฆ์สวรรค์
ราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นรู้สึกขำขันอย่างเปี่ยมหัวใจ “เด็กน้อย หากวันนี้เจ้าไม่ยอมรักษาหู่ชิง เรื่องราวที่จะติดตามมามันคงเหนือกว่าที่เจ้าจะคาดคิดได้แน่!”
ปัง!
จู่ๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ปล่อยคลื่นพลังออกมาจนทะลุฟ้า มันเป็นคลื่นพลังที่แสนรุนแรงจนทำให้เขาทั้งลูกต้องสั่นสะเทือน
ตอนนี้แม้แต่เหล่าลูกน้องของเขาเองก็ยังต้องทิ้งระยะห่างออกมาจากตัวเจ้านาย
ราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นเหยียบขึ้นไปถึงระดับหกได้แล้ว พลังในร่างของเขาจึงแสนที่จะรุนแรงเหนือกว่าที่นักยุทธทั่วๆ ไปจะต้านรับได้
แม้แต่เจ้าเมืองจักรพรรดิพยัคฆ์ใสก็ยังไม่พอที่จะต้านทานเขา แค่นั้นมันก็แสดงได้อย่างดีแล้วว่าตัวเขาเก่งกาจเพียงใด
แต่ทว่าคลื่นพลังนั้นยังไม่ทันไปถึงตัวเย่หยวนราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ต้องเบิกตากว้างออกมาด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
เพราะตอนนี้คลื่นพลังของเขากำลังถูกกดดันกลับมา
ร่างของเขาแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
“ใคร… ท่านยอดฝีมือผู้ใดกัน? โปรดแสดงตัวด้วย!”
ไม่มีใครตอบกลับมา!
ราชันพยัคฆ์สวรรค์ตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจ เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังใดๆ แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถขยับร่างได้แม้แต่น้อย
เขาได้แต่มองดูเย่หยวนค่อยๆ เดินเข้ามาหาอย่างไร้ทางสู้
เช่นเดียวกัน ตอนนี้เหล่าสัตว์อสูรลูกน้องของราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ไม่สามารถที่จะขยับร่างกายได้
จู่ๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็สะดุ้งตัวขึ้นมา เขานึกถึงคำพูดของเย่หยวนที่บอกในตอนแรกขึ้นมาได้
เขาบอกว่าจะกลบฝังเขาพยัคฆ์สวรรค์ไปพร้อมๆ กับอิ้งหมัวหู่!
เดิมทีเขามองมันเป็นแค่เรื่องตลก ไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กราชันพระเจ้าคนนี้จะสามารถมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งปานนี้ได้!
เมื่อเห็นเย่หยวนค่อยๆ ก้าวเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็รู้สึกราวกับว่านั้นคือความตายที่กำลังคืบคลาน
ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะปล่อยปราณอสูรเทวะออกมาปกป้องร่างกายได้ด้วยซ้ำ
มันง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือหากเย่หยวนคิดที่จะสังหารเขาลง!
เมื่อมองดูนัยน์ตาอันเย็นชาของเย่หยวน ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมิใช่คนที่มากเมตตาแน่
“ด-เดี๋ยวก่อน! บางที… บางทีอิ้งหมัวหู่อาจจะยังไม่ตายก็ได้!” ราชันพยัคฆ์สวรรค์บอก
นั่นทำให้เย่หยวนหยุดเท้าเดินทันที แต่ใบหน้าก็ยังไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ และถามขึ้นมา “เจ้ามีเวลาสามอึดใจ หากเรื่องที่เล่าไม่น่าฟังพอเจ้าตาย!”
เหงื่อเย็นเหยียบของราชันพยัคฆ์สวรรค์ไหลพลั่ก เขาไม่เคยรู้สึกถึงแรงกดดันที่มหาศาลขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“จ-จริงๆ แล้วหลังจากเราจับตัวอิ้งหมัวหู่ได้เราก็ได้โยนมันเข้าไปยังถ้ำเนตรวิเศษ! ที่แห่งนั้นคือสถานที่ต้องห้ามในเทือกเขาเทพอสูร หากมีใครได้เข้าไปพวกเขาก็จะไม่มีทางกลับออกมาได้ ฉะนั้น… ข้าว่า… เขาอาจจะ… ยังพอรอด… ได้อยู่ตอนนี้”
ยิ่งพูดไปเสียงของราชันพยัคฆ์สวรรค์ยิ่งแผ่วเบาลง
เพราะการพูดว่าอิ้งหมัวหู่ยังรอดอยู่นั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อมัน
หากอิ้งหมัวหู่ยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิตเขาก็ย่อมไม่คิดที่จะปกปิดเย่หยวนมาตั้งแต่แรก ถึงกับต้องโกหกไปว่าเขาขังอิ้งหมัวหู่ไว้
แต่ว่าสายตาอันเย็นเยือกของเย่หยวนนั้นกลับค่อยๆ เบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด
เพราะตอนนี้ตรงหน้าเย่หยวนได้มีแสงแห่งความหวังบังเกิดขึ้นแล้ว
ตราบเท่าที่ราชันพยัคฆ์สวรรค์ไม่ได้สังหารเขาลงกับมือ มันก็ยังไม่แน่ว่าเขาจะตายหรือไม่
เย่หยวนเชื่อว่าอิ้งหมัวหู่ไม่ได้เป็นคนที่มีดวงอาภัพถึงขนาดนั้น!
เย่หยวนค่อยๆ เก็บดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าลง จิตสังหารที่มีจางหายไปพร้อมๆ กับคลื่นความกดดันที่พวกราชันพยัคฆ์สวรรค์ต้องทนรับ
ตอนนี้ราชันพยัคฆ์สวรรค์นั้นตกตะลึงมาก เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นไหนที่ทำให้เขาไม่สามารถจะปล่อยปราณอสูรเทวะออกมาได้แม้แต่น้อยเช่นนี้!
เย่หยวนมองดูราชันพยัคฆ์สวรรค์และบอก “พูดต่อ เรื่องของไอ้ถ้ำเนตรวิเศษที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร! เจ้าน่าจะเข้าใจนะว่าตัวเองไม่มีโอกาสที่สองแล้ว!”
“มิกล้าๆ! ราชันพยัคฆ์สวรรค์ผู้นี้พร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ข้ารู้มาอย่างไม่ปิดบัง!”
ตอนนี้ราชันพยัคฆ์สวรรค์จะยังมีท่าทางของผู้ปกครองใดๆ หลงเหลืออีก?
ต่อหน้าเย่หยวนเขาทำท่าทางสุดนอบน้อมราวกับลูกแมว
เขารู้ดีว่ายอดฝีมือที่หลบซ่อนอยู่นั้นแค่ใช้ลมหายใจก็มากพอจะสังหารเขาลงได้ในพริบตา!
ราชันพยัคฆ์สวรรค์ค่อยๆ หดร่างลงเหลือแค่ไม่ถึงครึ่งตัวเย่หยวน เขาพูดจาออกมาอย่างระมัดระวังกลัวว่าจะเป็นการไม่สุภาพ “เทือกเขาเทพอสูรภายใต้การปกครองของเทพสวรรค์หยุนหลิงเรานั้นมีดินแดนต้องห้ามอยู่สามแห่ง ยอดม่วงโมฆะ ป่าไผ่ทะเลหมอกและถ้ำเนตรวิเศษ ยอดม่วงโมฆะนั้นคือสถานที่อาศัยของท่านเทพสวรรค์หยุนหลิง ส่วนอีกสองแห่งนั้นเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความตาย! ไม่มีใครทราบว่าภายในถ้ำเนตรวิเศษนั้นมีอะไร แต่ข้าได้ยินว่าเคยมียอดฝีมือระดับหกเข้าไปภายในแต่ก็ไม่สามารถกลับออกมาได้ ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะย่างเท้าเข้าไปยังที่แห่งนั้นอีก”
พูดถึงตรงนี้ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองดูเย่หยวน แต่กลับพบว่าเย่หยวนยังทำหน้านิ่งไร้อารมณ์ใดๆ ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆ เย่หยวนก็หันหลังเดินกลับไปยังหู่ชิงอีกครั้ง
ราชันพยัคฆ์สวรรค์มองดูเย่หยวนอย่างตื่นตกใจและพบว่าตอนนี้เขากำลังเริ่มปล่อยปราณเทวะออกมารักษาหู่ชิงอีกครั้ง!
ด้วยความสามารถที่เหนือล้ำของเย่หยวน หู่ชิงก็เริ่มกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปได้ห้าวัน หู่ชิงก็กลับมามีสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยพลังชีวิตและความสมบูรณ์
จนถึงตอนนี้ราชันพยัคฆ์สวรรค์ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ แต่ดูท่าว่าเย่หยวนจะมีปัญญาพอที่จะรักษาจริงๆ “ขอบพระคุณนายท่าน!”
เย่หยวนยังมีใบหน้าที่นิ่งเรียบและชี้ไปยังหู่ชิง “อย่าเพิ่งมาขอบคุณ เขาต้องเข้าไปยังถ้ำเนตรวิเศษกับข้าด้วย!”
ราชันพยัคฆ์สวรรค์ยังดีใจได้ไม่ทันไรร่างกายของเขาก็ต้องสั่นสะท้านและร้องออกมาอย่างตื่นตกใจ “นี่มัน… จะทำได้อย่างไร?”
เย่หยวนบอก “หากข้าไม่สามารถออกมาได้ ท่านผู้นั้นก็ย่อมไม่ทำลายเขาพยัคฆ์สวรรค์ของเจ้า แต่ลูกชายของเจ้าจะต้องตายไปพร้อมกับข้าและน้องชาย! นี่คือเรื่องที่เจ้าก่อขึ้นทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็จงเตรียมตัวรับมันไปเองเถอะ!”
เย่หยวนนั้นเข้าใจดีมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลยี่นั้นต้องการคนที่ขึ้นมาเป็นคู่ปรับ ไม่ได้ต้องการชุบเลี้ยงให้เขาเป็นคุณชายไร้ความสามารถ
หากไม่ใช่เพราะต้องการช่วยอิ้งหมัวหู่เย่หยวนก็คงไม่คิดที่จะส่งยอดฝีมือของวิหารไปบอกแน่ๆ
ส่วนเรื่องการเข้าถ้ำเนตรวิเศษ มันย่อมจะไม่มีความช่วยเหลือใดๆ
หากเย่หยวนตายลงในถ้ำเนตรวิเศษ ทุกสิ่งอย่างย่อมจบสิ้นลงแค่นั้น!
………………………