Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1809 ประลองเชียนเย่
“ช่องว่างความห่างของอาณาจักรนภาสวรรค์และอาณาจักรราชันพระเจ้านั้นข้าย่อมรู้ถึงมันดี ข้ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ยิ่งเจ้าพูดมากมันก็ยิ่งแสดงความไม่มั่นใจของตัวเองออกมามากเท่านั้น” เย่หยวนบอกออกมาต่อหน้าเชียนเย่
เชียนเย่นั้นผงะไปนิดหน่อยและเย่หยวนก็ย่อมสามารถมองเห็นถึงความไม่มั่นใจนั้นได้
ราชันพระเจ้าท้าทายนภาสวรรค์ การรนหาที่ตายเช่นนี้หากเชียนเย่มีความมั่นใจในตัวเองจริงๆ เขาก็คงไม่แสดงท่าทางผงะแบบนั้นออกมา
แต่ทว่าเขาลังเล
นี่แสดงออกมาอย่างชัดเจนได้ว่าพลังฝีมือที่เย่หยวนแสดงออกมาก่อนหน้าในตอนนั้นมันทำให้เชียนเย่หวั่นกลัวมากแค่ไหน
เมื่ออีกฝ่ายเพิ่มขั้นบ่มเพาะขึ้นอย่างมาก ความไม่มั่นใจของเชียนเย่ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากตาม
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะรับคำท้าใดๆ
เพราะการปล่อยให้เย่หยวนโดนลงโทษไปตามระเบียบมันปลอดภัยกว่ามาก
เชียนเย่ยิ้มตอบ “หึ แค่คนอย่างเจ้า? ข้าแค่ไม่อยากลดตัวลงมือก็เท่านั้น แต่ไหนๆ เจ้าก็มารนหาที่ตายถึงเบื้องหน้าข้าแล้วข้าก็ย่อมจะแก้แค้นเรื่องฮันหลินให้เขาเอง!”
เย่หยวนยิ้มด้วยความเหยียดหยาม “พูดมากปากเหม็นจริงๆ! อะไรที่มันจบได้ง่ายๆ จะยังมาลังเลอะไรอีก?”
เจียงหงได้แต่ขมวดคิ้วแน่นและได้ต้องมองเย่หยวนใหม่
เพราะด้วยสายตาของเขา เขาย่อมสังเกตได้ว่าเชียนเย่กำลังกังวล!
แม้ว่าคนทั้งสองนี้จะมีพลังบ่มเพาะที่ห่างกันหนึ่งอาณาจักรแต่กลับเป็นเย่หยวนที่เป็นฝ่ายกดดัน
หากศัตรูมีพลังฝีมือเทียบเคียงกันความผิดพลาดเช่นนี้มันอาจส่งผลถึงตายได้!
เย่หยวนนั้นมีพลังฝีมือมากถึงขนาดนั้นหรือว่าแท้จริงแล้วเขาแค่อวดอ้างเกินตัว?
“เฉียวฟู เจ้ามั่นใจในตัวเด็กคนนี้?” เจียงหงหันไปถามอย่างอดไม่ได้
เฉียวฟูยิ้มกลับมา “หึๆ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากถามอะไร แต่ข้าก็ไม่รู้ บางทีคนแพ้มันอาจจะเป็นเย่หยวนก็ได้! แต่ที่ข้ารู้คือถึงแม้เย่หยวนจะแพ้ มันก็คงไม่ใช่งานง่ายหากเชียนเย่อยากจัดการเขาลง”
เจียงหงได้แต่ทำหน้ามึนงงออกมาอย่างถึงที่สุด ได้แต่คิดในหัวว่าเจ้าหมอนี่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนของตัวจะชนะแต่ยังปล่อยให้เด็กมันขึ้นสู้?
ช่างเป็นคนบ้าคลั่งป่าเถื่อนที่อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้เสียจริง!
เย่หยวนบอกขึ้นพร้อมชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าออกมา “เมื่อเจ้าไม่ลงมือ เช่นนั้นข้าจะขอลงมือก่อนแล้ว!”
พูดจบเย่หยวนก็ยกดาบและก้าวเท้าออกไป
ความรุนแรงของการฟาดฟันดาบนี้มันทำให้ทุกคนหน้าถอดสี
“แนวคิดแห่งดาบระดับห้า นี่หรือคือความมั่นใจของมัน? โง่เง่าสิ้นดี!”
เมื่อผู้อาวุโสเถาเห็นภาพนั้นเขาก็ผงะไปไม่น้อยแต่ปากกลับยังสามารถพ่นพูดคำถูกดูเหยียดหยามออกมาได้
ราชันพระเจ้าที่สามารถบรรลุแนวคิดแห่งดาบระดับห้าได้ มันคือยอดของยอดอัจฉริยะ
เว้นเสียแต่ว่าเมื่อต้องมาเจอกับนภาสวรรค์แล้วมันยังไม่มากพอ
แต่เชียนเย่นั้นรู้สึกราวกับได้เจอศัตรูคู่แค้นแสนแข็งแกร่งและกัดฟันแน่นพูดขึ้น “ใครจะไปสนเรื่องแนวคิดของเจ้า? ข้าจะใช้นภาสวรรค์ของข้าบดทำลายเจ้าทิ้งเสีย!”
พูดจบเชียนเย่ก็ปล่อยคลื่นพลังออกมาอย่างเต็มที่ทำให้ภายในสังเวียนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังโลกของเขา
เวลานี้มันราวกับว่าสังเวียนนี้ได้กลายเป็นโลกของเชียนเย่ไปแล้ว
เย่หยวนได้แต่หรี่ตามอง ตอนนี้เขาได้เข้าใจพลังที่แท้จริงของยอดฝีมือนภาสวรรค์แล้ว
หากพลังโลกของราชันพระเจ้านั้นเป็นหยดน้ำ พลังโลกของนภาสวรรค์ก็คงเป็นดั่งแม่น้ำทั้งสาย
พลังโลกคือพลังที่ได้มาจากการปกครองโลกของนักยุทธ!
อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นคือตอนที่พวกเขาสามารถปกครองโลกได้อย่างละเอียดอ่อนและพิถีพิถันไปแล้ว
คนที่จะต้านทานอาณาจักรนภาสวรรค์ได้ก็คือคนที่อยู่อาณาจักรนภาสวรรค์ขึ้นไป!
แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมไม่ได้อยู่ภายใต้กฎข้อนี้
ร่างของเย่หยวนเริ่มเบลอขึ้น พื้นที่รอบๆ กายเขาเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความไม่แน่นอน
หากพลังโลกของเชียนเย่คือโล่ที่แสนแข็งแกร่ง เช่นนั้นเย่หยวนก็จะเป็นดาบสุดคม
นี่คือการปะทะกันระหว่างหอกและโล่ที่แท้จริง!
ภายใต้สายตาของทุกผู้คนเย่หยวนได้ทะลุพลังโลกอันหนาแน่นนั้นและเข้าไปถึงตัวเชียนเย่ได้ในที่สุด
เมื่อเชียนเย่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ได้แต่เบิกตากว้าง
ราชันพระเจ้าสามารถฝ่าเข้ามาถึงตัวนภาสวรรค์ได้?
เพราะอย่างไรพลังโลกของอาณาจักรนภาสวรรค์มันก็เหนือล้ำกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้านับสิบนับร้อยเท่า!
“ไอ้หมอนี่มันมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่แข็งแกร่งขึ้นมาก!”
เห็นเช่นนั้นแล้วเชียนเย่ยังจะประมาทได้อีกหรือ? ตอนนี้เขารีบยกอาวุธขึ้นมารับการโจมตีของเย่หยวนได้อย่างทันท่วงที
หอกแสงดาบเงา เมื่อเริ่มเข้าปะทะกันแล้วคนทั้งสองกลับมีพลังฝีมือที่เท่าเทียมกัน
ผู้คนที่มามุงดูรอบๆ นั้นทุกๆ คนต่างรู้สึกขนลุกชันไปตามๆ กัน พวกเขาได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เจียงหงอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “แนวคิดแห่งดาบระดับห้าผสานกับแนวคิดแห่งห้วงมิติระดับสาม! ไอ้เจ้าเด็กคนนี้… มันทำได้อย่างไรกัน?”
ในเวลานั้นเขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนมากมาย
ตัวตนที่แสนบ้าคลั่งขนาดนี้เข้านิกายมาได้กว่าสองร้อยปีแต่กลับไม่มีใครรับรู้ถึงตัวเขาเลย
เรื่องนี้มันล้อเล่นกันชัดๆ!
เมื่อเทียบกับเย่หยวนแล้วไป่หลี่ชิงหยานนั้นดูธรรมดาไปเลย
ยอดอัจฉริยะแบบนี้กลับได้ไปอยู่ที่ยอดผู้กล้าสวรรค์ ไอ้หมูหมาตัวไหนมันเป็นคนทำกัน?
เจียงหงได้แต่ร่ำร้องอยู่ในหัวใจ พวกเขาเหล่าเก้าผู้อาวุโสถ่ายทอดนั้นย่อมไม่ได้อยู่กับค่ายพรรคนิกายใดๆ
หากคนระดับพวกเขายังไปอยู่กับค่ายพรรคใด นิกายเงาจันทร์ก็คงไม่ใช่นิกายเงาจันทร์อีกต่อไปแล้ว
เพราะฉะนั้นเมื่อเขาเห็นความสามารถอันน่ากลัวนี้ของเย่หยวน เจียงหงจึงได้แต่ด่าว่าร่ำร้องอยู่ในใจ!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็รู้ได้เลยว่าเย่หยวนถูกอิจฉาที่มีความสามารถพรสวรรค์จึงโดนเล่นเล่ห์ส่งไปอยู่ยังยอดผู้กล้าสวรรค์
ไม่แปลกใจเลยที่เย่หยวนจะโกรธแค้นมากถึงขั้นนี้ เป็นใครก็คงไม่มีใครทนได้
เวลาสองร้อยปีมานี้เย่หยวนมิใช่แค่บรรลุดาวพลังบ่มเพาะ เขายังได้ต่อสู้กับตัวเองในมิติบ่มเพาะมรณา
ตอนนี้แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขานั้นบรรลุไปถึงระดับห้า แนวคิดแห่งห้วงมิติบรรลุไปถึงระดับสามขั้นสุด
เมื่อรวมสองแนวคิดนี้เข้าด้วยกัน เย่หยวนจึงมีพลังฝีมือการต่อสู้ที่เหนือล้ำกว่าตอนก่อนเก็บตัวมากมาย
แม้ว่านภาสวรรค์จะแข็งแกร่งแต่เย่หยวนก็มีวรยุทธบ่มเพาะที่เหนือล้ำ แม้จะคล้ายกับราชันพระเจ้าเก้าดาวแต่เขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนทั้งหลายในระดับเดียวกันมาก
วรยุทธบ่มเพาะที่แข็งแกร่งผสานกับพลังแนวคิดที่เหนือล้ำ ความแตกต่างของเย่หยวนและนภาสวรรค์หนึ่งดาวมันจึงไม่ได้มากอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย
เชียนเย่นั้นไม่ได้เป็นนภาสวรรค์ทั่วๆ ไปเช่นกัน พลังแนวคิดของเขาเองก็สูงส่งมากรวมมาด้วยพลังโลกของเขานั้นเขาจึงสามารถกดดันเย่หยวนกลับมาได้อย่างไม่อยากเย็น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นผู้คนก็ยังตื่นตะลึงในฝีมือของเย่หยวน
“ฮ่าๆๆ ต่อสู้ข้ามระดับได้แล้วทำไม? สุดท้ายเจ้าก็ถูกข้ากดดันได้อยู่ดีไม่ใช่เรอะ? ไอ้โง่เง่าเอ้ย เจ้าคิดจริงหรือว่าตัวเองจะท้าทายสวรรค์ได้? ข้าไม่ขอเสียเวลากับเจ้าอีกแล้ว จงเบิกตามองดูพลังที่แท้จริงของข้าพร้อมๆ กับไปยังโลกหน้าเสีย!”
เชียนเย่ขยับหอกยาวออกมาพร้อมด้วยพลังที่แสนน่ากลัวพุ่งตรงใส่เย่หยวนทันที
“หอกเขี้ยวมังกรสวรรค์คำราม!”
พลังโลกอันบ้าคลั่งพุ่งติดออกมาอยู่ที่ปลายหอกนั้น
ราวกับว่าที่ปลายหอกนี้มันมีโลกทั้งใบติดมาด้วย
ตอนนี้เองที่ผู้คนได้รับรู้ถึงพลังแท้จริงของเชียนเย่
หอกนี้มันราวกับได้กลายร่างเป็นมังกรพุ่งตัวออกมา ทำให้ผู้คนที่มองดูได้แต่จ้องมันอย่างลืมหายใจ
“ไม่ดีแล้ว พลังหอกนี้มันรุนแรงเกินไป เย่หยวนอันตราย!”
เมื่อไป่หลี่ชิงหยานเห็นหอกนี้นางก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด
แต่เฉียวฟูกลับหัวเราะออกมา “ไม่ต้องห่วงไป เชียนเย่ปล่อยไพ่ตายออกมาแล้ว แต่เย่หยวนยังไม่ได้ปล่อยไพ่ตายของตัวเองออกมาเลย!”
เขายังพูดไม่ทันขาดคำพลังบนร่างของเย่หยวนก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากมายมหาศาล
นี่คือพลังโกลาหลที่ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่มีการเก็บปิดใดๆ
พลังดาบที่รุนแรงดุร้ายพุ่งขึ้นสูงพร้อมๆ กันนั้นพื้นที่มิติรอบๆ ก็เริ่มแปรปรวน
“ดาบวิญญาณลับ!”
คลื่นพลังอันแข็งแกร่งทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงบ้าคลั่ง
ตอนนี้ห้วงมิติรอบๆ แตกกระจายพลังปราณเทวะพุ่งพวยออกมาอย่างบ้าคลั่งทำให้คนที่ดูอยู่ต้องหน้าถอดสีไป
เคร้ง!
จู่ๆ ดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าในมือของเย่หยวนก็ไม่อาจต้านทานพลังนั้นได้และแตกหักลงคามือเย่หยวน!
…………………………