Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1840 ความรักนั้นคืออะไร?
“แค่นั้น? หากข้าบอกว่าไม่ล่ะ?” ตงน้อยมองดูเย่หยวนด้วยสายตาที่ไม่คิดจะยอมจำนนอย่างเต็มที่
เขานั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ แม้ว่าตอนนี้พลังฝีมือการบ่มเพาะของเขาจะไม่เป็นอย่างเดิมแล้วแต่เขาก็ไม่คิดจะยอมให้ใครมาเล่นหัวง่ายๆ
เขาไม่คิดว่าเย่หยวนจะกล้าลงมือทำอะไรต่อเขาจริงๆ
ตราบเท่าที่คนอื่นๆ รู้ถึงเรื่องนั้น เย่หยวนต้องตายลงแน่
มีหรือที่ตงน้อยจะยังมีท่าทางสดใสเหมือนเด็กๆ อยู่? ตอนนี้สภาพของเขานั้นทั้งเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และดูมากเล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก
หมูสมบัติหันไปมองดูตงน้อยด้วยความสงสาร มันเป็นท่าทางที่ทำให้ผู้คนที่พบเห็นอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามากอดอุ้มมัน
แต่ตงน้อยกลับตะโกนบอก “เจ้าหมูโง่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า กลับมานี่!”
หมูสมบัติส่ายหัวออกมาอย่างรุนแรงและยังคงเกาะขาเย่หยวนไว้อย่างไม่คิดปล่อย
เย่หยวนยิ้มตอบ “อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์! ท่านไม่คิดที่จะก้าวขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์บ้างหรือ?”
คำพูดนี้ทำให้ตงน้อยเปลี่ยนสีหน้าไปทันที
แต่ไม่นานเขาก็กลับมาหัวเราะเย้ย “หึ อาณาจักรเทพสวรรค์นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้า นักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์จะมาสัญญาอะไรให้แก่ข้าได้หรอก”
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและคงรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ “มิติอนัตตาก่อไผ่นั้นมันก็เป็นเพียงแค่โลกใบแคบๆ แค่ส่วนเล็กๆ ที่เทียบเคียงมหาพิภพถงเทียนไม่ได้ แม้ท่านจะเป็นตัวตนที่ราวกับเทพเจ้าในมิตินี้ สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่การหลอกตัวเองและคนอื่นมิใช่หรือ? ที่สำคัญสภาพของท่านในวิหารตอนนี้มันก็คงไม่ดีนักใช่ไหมล่ะ?”
ตงน้อยหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยิน เย่หยวนนั้นมีทักษะการสังเกตและวิเคราะห์ที่แม่นยำมาก
เขาย่อมไม่เคยพบเจอกับเหล่าผู้ปกครองวิหารมากก่อนแน่นอนและย่อมไม่มีทางรู้สถานการณ์ภายในของวิหาร แต่เพียงแค่ใช้การเดาวิเคราะห์เขากลับสามารถฟันธงเรื่องราวลงมาได้อย่างแม่นยำ
เรื่องนี้มันเหนือล้ำกว่าที่คนทั่วๆ ไปจะเทียบเคียงได้!
ที่สำคัญคำพูดของเย่หยวนนี้มันยังกระแทกเข้ากลางใจเขาอย่างรุนแรง
เพราะพวกเขาเหล่าผู้ปกครองมิติอนัตตาก่อไผ่นี้ต่างยินดีปรีดาที่ได้รับการยกย่องราวกับเป็นเทพเจ้า
แต่แท้จริงแล้วพวกเขาต่างกลัวโลกภายนอก
เทพสวรรค์นั้นเป็นกำลังที่ไม่ต่ำต้อยในมหาพิภพถงเทียน แต่หากให้พูดถึงความสูงส่งแล้วมันก็ยังไม่อาจนับได้ว่าเป็นตัวตนที่สูงส่งเลยสักนิด
เพราะเหนือเทพสวรรค์ไปมันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ และเหนือจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปมันก็ยังมีถึงเต๋าบรรพกาล!
เทพสวรรค์จะไปมีค่าใด?
หากเจอจักรพรรดิเทพสวรรค์สักคนเข้า พวกเขาก็คงถูกสังหารลงอย่างไม่มีทางต้าน!
ให้พูดตรงๆ พวกเขานั้นเป็นเพียงแค่กบในกะลา ปกครองดินแดนอันคับแคบของตัวเอง
เย่หยวนมองดูสีหน้านั้นของเขาและบอก “ข้านั้นเป็นแค่นภาสวรรค์ ข้าย่อมไม่มีสิทธิ์ใดๆ ไปพูดถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ทักษะการโอสถของข้าท่านก็ได้เห็นมันแล้ว ท่านคิดว่ามันเป็นอย่างไรบ้างเล่า?”
ตงน้อยเงียบไปทันทีด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
‘อู๊ดๆ…’
ตงน้อยไม่คิดพูด แต่เจ้าหมูสมบัติกลับร้องขึ้นแทน
ความหมายของมันนั้นชัดเจนมาก โอสถของเย่หยวนนั้นอร่อยกว่าของตงน้อย!
ตงน้อยแทบคิดอยากเตะมันให้ปลิวคาเท้า “เจ้าสัตว์หน้าขนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เจ้าไปกับมันเลยสิ ยิ่งไปไกลมันยิ่งดี!”
หมูสมบัติทำหน้าเศร้าออกมาเพราะมันแค่พูดบอกความจริงเท่านั้น
เมื่อเย่หยวนเห็นเช่นนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มออกมา
หมูสมบัตินั้นมีลิ้นที่สัมผัสถึงคุณภาพของโอสถได้อย่างดี ตอนนี้เมื่อมันชินกันโอสถที่เย่หยวนหลอมไปแล้ว แม้จะเป็นโอสถของตู้หรูเฟิงก็คงกลายเป็นไร้รสชาติสำหรับมัน
“หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่าวันหน้าข้าจะไม่อาจหลอมโอสถช่วยท่านบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิสวรรค์ได้?”
พูดจบเย่หยวนก็เงียบปากลงรอฟังคำตอบของตงน้อย
เขานั้นมั่นใจมากว่าตงน้อยต้องยอมรับคำ
เพราะตอนนี้เขามีพลังที่แสนอ่อนแอ หากอยู่ในวิหารต่อไปมันมีแต่จะทำให้เกิดอันตราย สู้ออกไปท่องโลกภายนอกเสียจะยังดีกว่า
“เอาล่ะ เจ้าชนะ ข้าจะไปกับเจ้า! ปล่อยข้าได้แล้ว!” ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่ในที่สุดตงน้อยก็ยอมรับคำ
ได้ยินคำของตงน้อยหมูสมบัติก็รีบกระโดดโลดเต้นอย่างยินดีทันที
ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าของอร่อยๆ สำหรับมัน
เย่หยวนยิ้มบอก “เรื่องนั้นคงไม่ได้ เทพสวรรค์ที่กลายเป็นเด็กก็ยังคงเป็นเทพสวรรค์ ข้าไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยง ตอนนี้ข้าได้หลอมพิษหนึ่งขึ้นมาเป็นพิเศษ เมื่อท่านกินข้าจึงจะปล่อยท่าน”
ตงน้อยนั้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดงด้วยดวงตาที่แสนดุร้าย “เด็กน้อย เมื่อใดที่ข้าได้พลังกลับมาข้าจะสังหารเจ้าลงเสียตรงนั้นเลย!”
เย่หยวนส่ายหัวออกมาทันที “ท่านไม่ทำแน่! สังหารข้าแล้วใครกันที่จะหลอมโอสถให้หมูสมบัติ? ใช่ไหมหมูสมบัติ?”
หมูสมบัติรีบพยักหน้ารับพร้อมพุ่งตัวเข้ากอดเย่หยวนในทันที
…
“อะไรนะ? ท่านอยากไปยังมหาพิภพถงเทียน?” เมื่อตู้หรูเฟิงได้ยินคำของตงน้อยเขาก็แทบจะกระโดดลุกขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
ตงน้อยบอกมาด้วยท่าทางจริงจัง “ข้าคิดดีแล้ว ตอนนี้ออกไปเสียก่อนจะดีกว่า ข้ากลับมาเป็นเด็กได้เพราะวรยุทธบ่มเพาะที่ข้าใช้ แต่เรื่องนี้มันคงปิดไว้ได้ไม่นาน เมื่อพวกเฒ่าอู่เต๋ารู้ถึงสภาพข้าในตอนนี้พวกมันคงไม่มีทางปล่อยข้าไว้แน่”
ตู้หรูเฟิงหน้าถอดสี “เช่นนั้น… ศิษย์จะตามท่านไปยังมหาพิภพถงเทียนด้วย!”
ตงน้อยส่ายหัวออกมา “ไม่ ต่อให้เจ้าไปเจ้าก็คงช่วยอะไรได้ไม่มาก แค่ให้เย่หยวนไปกับข้าก็เพียงพอแล้ว”
ตู้หรูเฟิงผงะไปไม่น้อย “เย่หยวน?”
ตงน้อยรีบพยักหน้าตอบกลับ “ตอนนี้หมูสมบัติมันเลิกที่จะกินโอสถใดๆ ของเจ้าไปแล้ว เจ้าคิดว่าตัวเองยังจะแทนที่เย่หยวนได้อีกหรือ? วางใจเถอะ คิดเสียว่าข้าพาเขาออกไปฝึก เด็กคนนี้มันมีอนาคตไกล”
ตู้หรูเฟิงพยักหน้าออกมาเพราะในใจของเขาเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน “เช่นนั้น… ก็ได้ แต่นายท่านต้องระวังตัวให้ดี มหาพิภพถงเทียนนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้มากความสามารถอย่างที่เทียบกับมิติอนัตตาก่อไผ่ไม่ได้”
ด้วยเหตุนี้เย่หยวนจึงสามารถไปยังมหาพิภพถงเทียนได้อย่างเป็นทางการ
ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลแล้วว่าวิหารจะไปลงโทษนิกายเงาจันทร์ใดๆ อีก
ก่อนจะออกมิติอนัตตาก่อไผ่ไปตู้หรูเฟิงก็ได้ส่งมอบสมุนไพรระดับห้าให้เย่หยวนอย่างมากมายมหาศาล
เพราะเจ้าหมูสมบัตินั้นมันกินจุมาก ไม่ว่าจะเอาไปด้วยเท่าไหร่มันก็คงไม่พอ
แต่แท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นสามารถเปิดโถงบัลลังก์ม่วงชั้นสองออกได้ ตอนนี้เขาจึงมีเงินตราติดตัวมากมายมหาศาล จะซื้อสมุนไพรระดับห้ามากเท่าไหร่มันก็คงไม่มีปัญหา
แต่เมื่อวิหารมอบมา มีหรือที่เขาจะปฏิเสธไม่รับไว้
สิบวันจากนั้นสองคนหนึ่งหมูก็หายเข้าไปในดวงใจมิติอนัตตา หายไปอย่างไม่อาจมีใครมองเห็นได้อีก
…
เจ็ดปีจากนั้นคนทั้งสี่ที่เหลือก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจากสมาธิ
“ดูเหมือนพวกเจ้าจะได้รับประโยชน์กันไปไม่น้อย เอาล่ะเรื่องในครั้งนี้ถือว่าจบลงแล้ว เฒ่าคนนี้จะพาพวกเจ้ากลับและไปรายงานภารกิจเสีย ไปกัน” ตู้หรูเฟิงบอก
แต่ไป่หลี่ชิงหยานกลับขมวดคิ้วแน่น “ผู้อาวุโสตู้ เย่หยวนล่ะ? ทำไมเขาถึงไม่อยู่กัน?”
ตู้หรูเฟิงบอก “เย่หยวนนั้นเสร็จเร็วกว่าพวกเจ้าไปมาก และทางวิหารก็มีภารกิจให้เขาพอดีตอนนี้เขาจึงออกไปทำภารกิจแรกแล้ว”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นแสดงความรู้สึกไม่เชื่อออกมาลึกๆ “ภารกิจ? เย่หยวนเป็นแค่ศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้าวิหารมา วิหารจะสั่งให้เขาไปทำภารกิจแบบใดกัน? แล้วตงน้อยกับหมูสมบัติเองก็ไม่อยู่! ผู้อาวุโสตู้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ตู้หรูเฟิงหน้าเสียทันทีก่อนจะตอบอย่างกลบเกลื่อนออกมา “เรื่องของวิหารยังต้องมาปรึกษาเจ้าหรือ?”
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นฉลาด นางย่อมรู้สึกได้ว่าการหายตัวไปของเย่หยวนมันผิดปกติ นางรู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นและรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้สูญเสียบางสิ่งไป
หัวใจของนางนั้นปวดร้าว!
“ขออภัย ผู้อาวุโสตู้ ข้า…” ไป่หลี่ชิงหยานพูดขอโทษออกมา
มีหรือที่ตู้หรูเฟิงจะไม่เข้าใจนาง? เขาได้แต่ถอนหายใจ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”
ไปหลี่ชิงหยานพยักหน้ารับและเตรียมตัวเดินทางกลับ
แต่เมื่อทุกคนเตรียมตัวอย่างไม่ทันสังเกต ไป่หลี่ชิงหยานกลับพุ่งตัวเข้าไปยังใจกลางของดวงใจมิติอนัตตาและหายวับไป
เมื่อตู้หรูเฟิงเห็นนางหายตัวไปเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา ด้วยพลังของเขาหากคิดหยุดไป่หลี่ชิงหยานมันย่อมทำได้ง่ายๆ
แต่เขาไม่ทำ
ตู้หรูเฟิงถอนหายใจยาว “ความรักมันคืออะไรกันแน่นะ ชักจูงผู้คนให้หลงมัวเมาจนสุดท้ายต้องตายแยกจาก! ช่างเถอะ ปล่อยนางไป! พวกเจ้าทั้งหลาย เรื่องในวันนี้พวกเจ้าห้ามแพร่งพรายออกไปอย่างเด็ดขาด! ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องได้รับโทษอย่างสาหัส!”
…………………………