Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1871 ความน่ากลัวของค่ายกลดาบสามระดับสุดท้าย
- Home
- Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ
- ตอนที่ 1871 ความน่ากลัวของค่ายกลดาบสามระดับสุดท้าย
“ท้าทายต่อ!”
เย่หยวนไม่คิดที่จะลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เลือกที่จะท้าทายต่อในทันที
สำหรับคนอื่นๆ แล้วค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้มันเป็นสิ่งที่ใหญ่ยิ่งสามารถพรากชีวิตพวกเขาทั้งหลายไปได้ง่ายๆ
แต่กับเย่หยวนแล้วมันไม่สามารถจะทำอะไรได้มากมาย
ที่เขาผ่านรอบแรกมาได้อย่างง่ายดายนั้นก็มิใช่เพราะแนวคิดแห่งห้วงมิติเสียด้วยซ้ำ
การกลับมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมันก็เหมือนได้กลับบ้านเกิด ตราบเท่าที่เย่หยวนปล่อยคลื่นเต๋าสวรรค์ของจอมเทพนิรันดร์ออกมา ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลดาบที่แข็งแกร่งปานใดมันก็ไม่มีทางทำอันตรายเขาได้เลย
ค่ายกลดาบสังหารสวรรค์มันก็ไม่มีข้อยกเว้น กับเลือดแท้วิหคชาดเองก็เช่นกัน ทุกสิ่งอย่างมันล้วนดำเนินไปเช่นนี้
เย่หยวนนั้นมีไข่มุกสยบวิญญาณและศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ สองสมบัติวิญญาณอยู่กับตัวมีหรือที่กับดักของจอมเทพนิรันดร์จะทำอันตรายใดๆ ต่อเขาได้?
ในค่ายกลดาบระดับที่สี่ จู่ๆ คนทั้งหลายก็เห็นพลังของมันที่เพิ่มพูนขึ้น
ตอนนี้เย่หยวนจึงเริ่มลงมือ
แต่การลงมือของเขานั้นเรียบง่าย เพียงแค่เขาขยับมือเหล่าดาบแสงทั้งหลายมันก็ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดาย
เหล่าดาบแสงที่ว่ารุนแรงนั้นไม่สามารถจะเข้าถึงตัวเขาได้แม้แต่น้อย
“แข็งแกร่ง! เย่หยวนสามารถผ่านระดับที่สี่ไปได้สบายเสียยิ่งกว่าฉูชิงเสียอีก!”
“ฉูชิงผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกัน แถมยังมีเลือดแท้พยัคฆ์ขาวในกายถึงสามารถทำได้ขนาดนั้น แต่เย่หยวนคนนี้… เขาพึ่งพาอะไรกัน?”
ทุกคนต่างมองดูท่าทางสบายๆ ของเย่หยวนด้วยความตื่นตกใจและหวาดกลัว
ตอนนี้เย่หยวนนั้นไม่ได้ใช้พลังของเต๋าสวรรค์อีกแล้ว
ฉูชิงที่ผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันนั้นมันอาจจะฟังดูแข็งแกร่งแต่การผสานสามแนวคิดเข้าด้วยกันมันย่อมจะทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะเข้าใจแนวคิดแต่ละแนวคิดของเขาช้าลงไปด้วยอย่างมาก
แม้ว่าฉูชิงจะมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันไปอย่างมากหลังผสานแนวคิดทั้งสามได้แต่มันก็ยังไม่พอหากเขาคิดอยากกระโดดข้ามสองถึงสามดาวไปสู้อย่างที่เย่หยวนทำ
แถมตอนนี้เย่หยวนยังบรรลุแนวคิดแห่งดาบมาถึงห้าดาวขั้นกลาง แนวคิดแห่งห้วงมิติถึงสี่ดาวขั้นสุด
แน่นอนว่าเมื่อนำทั้งสองแนวคิดนี้มาผสานกันมันจะสร้างพลังที่เหนือล้ำกว่าใครๆ
ค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้มันจะทำการประเมินโดยรวมถึงพลังของผู้ท้าทายและพลังคล้ายๆ นภาสวรรค์สามดาวอย่างเย่หยวนมันย่อมไม่ถูกประเมินไว้สูง ทำให้เขาสามารถผ่านระดับที่สี่มาได้อย่างไม่ยากนัก
หลังจากนั้นไปก็เป็นระดับที่ห้า ระดับที่หก สุดท้ายเย่หยวนก็สามารถผ่านบรรลุมาได้จริงๆ
เมื่อค่ายกลเคลื่อนย้ายปรากฏขึ้นมาอีกครั้งทุกคนต่างแทบลืมหายใจ
เขาจะเลือกท้าทายต่อหรือไม่?
“เจ้าสามารถเลือกที่จะออกไปหรือท้าทายต่อได้!” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
ที่ส่วนลึกที่สุดของมหาค่ายกลตอนนี้ฉูชิงนั้นเดิมทีกำลังดีใจเพราะสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำที่ได้มาไว้ในมือ
แต่ทว่าตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเหยเกอย่างถึงที่สุด
เขาจ้องมองดูเย่หยวนหวังเพียงแค่ว่าอีกฝ่ายจะเลือกการท้าทายต่อไป
เพราะเขามั่นใจมากว่าเย่หยวนจะไม่สามารถผ่านสามระดับหลังสุดไปได้แน่
สามระดับหลังนี้ มันไม่เคยมีใครกล้าที่จะเข้าไปท้าทายมาก่อน
“ท้าทายต่อ!” เย่หยวนกล่าว
นั่นทำให้สติของหลายๆ คนต้องสั่นสะท้าน ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะกล้าทำการท้าทายต่อเช่นนี้
เพื่อที่จะข่มฉูชิง เขากลับไม่คิดรักชีวิตตัวเองอีกแล้วหรือ?
หลายๆ คนที่เห็นเรื่องราวต่างก็มองออกว่าระดับที่หกนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายกับเย่หยวนนัก แม้มันจะไม่ได้ลำบากถึงขั้นฉูชิงแต่มันก็คงเป็นภาระที่หนักไม่น้อยแก่เขา
สามระดับสุดท้ายนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถผ่านไปได้!
ระดับที่เจ็ดนั้นไม่ได้เปิดใช้งานขึ้นในทันที
ก่อนที่มันจะเปิดใช้มันกลับมีพลังทำลายล้างได้พวยพุ่งออกมายังพื้นที่รอบๆ
‘ฟุ ฟุ ฟุ…’
เหล่านักยุทธ์หลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ค่ายกลถึงกับถูกคลื่นพลังนี้ทำลายจนแหลกสลายลง!
นั่นทำให้สีหน้าของเหล่านักยุทธ์ทั้งหลายถอดสีและรีบพุ่งตัวถอยหลังกลับออกมาทันที
ค่ายกลดาบระดับเจ็ดนั้นช่างมีพลังที่แสนน่ากลัว แค่พลังที่ถูกปล่อยออกมารอบๆ มันก็มากพอที่จะระเบิดร่างของนักยุทธ์อาณาจักรนภาสวรรค์ทิ้งไปได้
เย่หยวนที่อยู่กลางดงพลังนี้จะต้องพบเจอแรงกดดันแค่ไหนมันก็คงไม่อยากที่จะเดา
นั่นทำให้สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่เย่หยวน
“นี่มัน… ต้องมีคนได้ตายแน่! เย่หยวนประเมินพลังของตนสูงเกินไป!”
“นี่หรือคือพลังของเทพสวรรค์? เด็กคนนี้มันต้องตายลงแน่!”
“ระดับเจ็ดยังน่ากลัวขนาดนี้ ถ้าเป็นระดับแปดหรือเก้ามันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน?”
…
ใบหน้าของทุกผู้คนในตอนนี้มันแสดงอารมณ์ที่หลากหลายออกมาอย่างถึงที่สุด นี่คือพลังของค่ายกลดาบระดับเจ็ด พลังที่พวกเขาทำได้แค่ชื่นชม!
พลังทำลายล้างที่มันปล่อยออกมานี้ทำให้พวกเขาทั้งหลายได้รับรู้ถึงพลังของจอมเทพนิรันดร์
และในตอนนี้เองที่ค่ายกลดาบระดับเจ็ดก็ได้เปิดใช้งานขึ้น!
ดาบแสงจำนวนนับไม่ถ้วนต่างพุ่งเข้ามายังร่างของเย่หยวน
เหล่ายอดฝีมือด้านนอกทั้งหลายนั้นต่างไม่อาจมองเห็นร่างกายของเย่หยวนได้อีกต่อไป
“ฮ่าๆ…ไอ้โง่! ขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะรอดมาได้อีกไหม!” เมื่อฉูชิงเห็นเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นขึ้นมา
ส่วนจีคังนั้นกำลังถอนหายใจครั้งใหญ่ด้วยความโล่งอก
เพราะเขานั้นรู้สึกโล่งอกที่ตัวเองไม่ได้เข้าไปท้าทายระดับเจ็ดเช่นนี้!
จีคังลองประเมินดูแล้วและคิดว่าหากเขาเข้าไปท้าทายค่ายกลดาบระดับเจ็ดจริงๆ เขาคงได้ตายลงแน่!
เวลาค่อยๆ เลื่อนผ่านไปจนในที่สุดดาบแสงมันก็เบาบางลง
แต่นั้นทำให้ทุกผู้คนต้องหรี่ตามองดูร่างที่อยู่กลางค่ายกลอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“นี่มัน… เป็นไปไม่ได้! พลังที่รุนแรงปานนั้นทำไมมันถึงยังรอดออกมาได้?” ฉูชิงมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะได้เห็นร่างของเย่หยวนอีกครั้ง เพราะภายใต้พลังทำลายล้างที่มหาศาลเช่นนั้นแม้แต่ศพของเย่หยวนมันก็ไม่น่าจะเหลือซากอยู่อีกต่อไปแล้ว
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับยืนอยู่ตรงนั้น
แม้ว่าบนร่างนั้นของเขาจะมีบาดแผลอยู่ไม่น้อย
แต่เย่หยวนก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมหลับตานิ่ง
บนดาบฝ่าน้ำค้างแข็งนั้นมีเลือดไหลท่วมลงมาตั้งแต่ด้ามจรดปลาย
แค่นั้นมันก็มากพอจะบอกแล้วว่าสภาพของเย่หยวนในตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ลมหายใจสบายๆ ของเขากลับทำให้ทุกคนไม่อาจคิดว่าเขากำลังลำบากได้เลย
“เป็นไปได้อย่างไร? เขาสามารถผ่านระดับที่เจ็ดมาได้ บ้าไปแล้ว!”
“หรือว่าแท้จริงแล้วเขาจะมีพรสวรรค์เหนือล้ำยิ่งกว่าฉูชิง?”
“แต่… แม้แต่ท่านจีคังก็ยังไม่มีความอาจหาญพอจะไปท้าทายค่ายกลดาบระดับเจ็ดเลยนะ!”
…
เสียงโห่ร้องแสดงความคิดเห็นดังขึ้นทั่วเพราะผลงานนี้ของเย่หยวนมันเหนือล้ำกว่าที่ทุกผู้คนคาดคิดไปมาก
เดิมทีพวกเขาทั้งหลายต่างคิดว่าเย่หยวนที่เป็นแค่นภาสวรรค์สามดาวย่อมจะไม่มีทางผ่านสามระดับความยากแรกของค่ายกลดาบไปได้เสียด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับสามารถผ่านไปได้ถึงระดับเจ็ด
พลังที่น่ากลัวเช่นนี้มันย่อมทำให้ผู้คนหวั่นไหว
ในพริบตา ค่ายกลดาบระดับแปดก็เริ่มทำงานขึ้น
ตอนนี้พลังที่มันส่งออกมานั้นเหนือล้ำกว่าระดับที่เจ็ดอย่างหลายเท่าตัว!
ฉูชิงด่าแช่งให้เย่หยวนรีบๆ ตายลงในใจเพราะเขาไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะสามารถผ่านไปได้ถึงระดับแปด
แต่เมื่อค่ายกลดาบจบลงเย่หยวนกลับยังยืนนิ่งอยู่ในท่าเดิม โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
และที่ที่เขายืนอยู่นั้นมันก็คือที่เดิม อย่างที่ไม่มีการขยับเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ทุกคนต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หรือว่าเย่หยวนจะสามารถผ่านระดับแปดมาได้โดยไม่ต้องขยับเคลื่อนไหวร่างกายเลย?
ค่ายกลดาบระดับเก้าทำงานขึ้นมาส่งพลังอันมหาศาลมายังร่างของจีคัง ทำให้แม้แต่เทพถ่องแท้เก้าดาวคนนี้ก็ยังแทบหน้ามืด
น่ากลัวนัก!
“น่าสนใจจริงๆ!” ภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของจี้ฉุน เทพสวรรค์โหมวหยู่ได้พูดขึ้นมา
จี้ฉุนได้แต่ขมวดคิ้วแน่นพร้อมบอกขึ้น “ใช่! เจ้าเด็กคนนี้มันแปลกมากจริงๆ!”
เทพสวรรค์โหมวหยู่ยิ้มตอบ “เจ้าสัมผัสไม่ได้หรือ?”
“สัมผัสอะไร?”
“เด็กคนนี้มันกำลังทำความเข้าใจดาบ!”
“ทำความเข้าใจดาบ? มันกำลังทำความเข้าใจในค่ายกลดาบสังหารสวรรค์นี้? เจ้าพูดจาบ้าบออะไรของเจ้าออกมากัน!” จี้ฉุนร้องขึ้นอย่างไม่คิดเชื่อ
“หึ หากข้าเดาไม่ผิด หลังจากระดับที่เก้าจบลงมันก็จะยังยืนนิ่งในท่าเดิม ระดับที่แปดและเก้านี้มันจะไม่ขยับตัวแม้สักก้าว” เทพสวรรค์โหมวหยู่พูดคำพูดแสนน่าเหลือเชื่อออกมา
จี้ฉุนได้แต่พูดขึ้นอย่างไม่อยากคิดเชื่อ “เรื่องเช่นนั้นมันย่อมไม่มีทางเป็นไปได้!”
เทพสวรรค์โหมวหยู่ยิ้ม “หากข้ามองไม่ผิด ขีดจำกัดพลังของเด็กคนนี้มันจะอยู่ที่ระดับเจ็ด! สองระดับสุดท้ายนี้เด็กคนนี้มันไม่ได้ใช้พลังของตัวเองเลยแม้แต่นิด!”
…………………………