Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1943 ผงาดล้ำ
“เป็นไปไม่ได้น่า!”
ภายในศาลาโอสถสวรรค์ในตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างกำลังรับฟังข่าวที่เซินชางนำมาบอกเล่า และการตอบสนองแรกหลังจากได้ฟังเรื่องราวนั้นคือ เป็นไปไม่ได้
“พี่เซิน เจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? เป็นไปได้อย่างไรที่บนโลกใบนี้จะมีผู้สามารถคิดค้นสูตรโอสถทำให้ผู้ที่หลอมซึมซับผลวิญญาณเต๋าสามารถกลับมาบ่มเพาะต่อได้?” เฉินหยู่ถามขึ้น
“ใช่แล้ว เรื่องนี้มันจะน่าเหลือเชื่อจนเกินไปหน่อย! ผู้ที่หลอมซึมซับผลวิญญาณเต๋านั้นไม่อาจบ่มเพาะพัฒนาตัวต่อได้ นี่เป็นกฎเหล็กของโลก จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนมาทลายกฎนี้ลง?” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวขึ้นเสริม
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขาทั้งหลายก็ไม่คิดที่จะเชื่อมัน เพราะเรื่องราวนี้มันน่าเหลือเชื่อจนเกินกว่าที่จะทำใจรับได้
เซินชางเองก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “ข้าจะไม่ปิดบังใดๆ กับพวกเจ้าทั้งหลาย แต่ตอนที่เฒ่าคนนี้ได้ยินได้ฟังเรื่องราวเป็นครั้งแรกข้าเองก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกเจ้าเลย! แต่เฒ่าคนนี้ได้วิ่งเต้นตามสืบสาวและยืนยันข้อมูลอย่างเต็มที่ ข้าย่อมไม่มีทางจะเข้าใจผิดโดนหลอกลวงใดๆ ได้แน่ เพราะเช่นนั้นข้าจึงได้มาปรึกษากับพวกเจ้าทั้งหลายนี้ ที่สำคัญศิษย์ของท่านเย่ ไป๋เฉินผู้นั้นเองก็ได้บรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้ไปเรียบร้อยแล้วหลังจากกินโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าเข้าไป”
ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็เบิกตากว้างออกมาอย่างเงียบงัน
เพราะศิษย์ของเย่หยวนที่หลอมซึมซับผลวิญญาณเต๋าเข้าไปนั้นพวกเขาย่อมรู้จักดี
แต่ตอนนี้เขาผู้นั้นกลับบรรลุอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้?
ข่าวเรื่องนี้มันเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะ!
เหล่าผู้อาวุโสของศาลาโอสถสวรรค์นั้นต่างได้แต่ร่ำร้องออกมาในจิตใจ
พวกเขาย่อมเข้าใจดีว่าหากโอสถครองวิญญาณผสานเต๋านี้ถูกป่าวประกาศออกไปแล้วมันจะต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตมากมายเพียงใดและทางหอมหาสมบัตินั้นจะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากมายเพียงใด
ในมหาพิภพถงเทียนนี้หากคิดจะหาตัวผู้ที่กินซึมซับผลวิญญาณเต๋าลงไปนั้นมันคงเป็นเรื่องไม่ง่าย
แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นจำนวนที่ไม่น้อย
ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมียอดฝีมือมากมายเพียงใดที่เติบโตและตายลงไป?
มันเป็นจำนวนที่มากมายจนไม่อาจนับได้!
ผลวิญญาณเต๋ามากมายนั้นได้สาบสูญหายไปตามกาลเวลา
แต่ผลวิญญาณเต๋าบางส่วนก็ได้ถูกเหล่ายอดฝีมือในยุคปัจจุบันนำไปกินหลอมซึมซับ
เหล่าค่ายสำนักใหญ่ๆ อย่างแท้จริงหลายต่อหลายที่นั้นจะมีผลวิญญาณเต๋าอยู่ในครอบครองไม่น้อย พวกเขาทั้งหลายนั้นจะใช้พวกมันเพื่อมอบให้แก่ศิษย์ที่ทำความดีแต่ไม่มีโอกาสหรือพรสวรรค์มากพอจะบรรลุได้ด้วยตัวเอง
สำหรับกองกำลังอย่างวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้วผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์นั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่โตใดๆ พวกเขานั้นถึงขั้นมีผลวิญญาณเทพถ่องแท้อยู่ในมือเสียด้วยซ้ำ
เหล่าผลวิญญาณเต๋าทั้งหลายนี้เดิมทีแล้วมันไม่ได้มีค่าใดๆ ในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์มากมาย
แต่เมื่อมีโอสถครองวิญญาณผสานเต๋านี้ปรากฏขึ้นมาแล้วเหล่าผลวิญญาณเต๋าทั้งหลายนั้นก็จะเพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้หลายเท่าตัว
ศิษย์ทั้งหลายที่ยังขึ้นไม่ถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าหากให้พวกเขานั้นได้กินผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์ลงไปแล้วพวกเขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปจนเป็นยอดฝีมือนภาสวรรค์ได้ในเวลาแค่ไม่ถึงร้อยปีหรืออาจจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ปี!
เท่านี้แล้วมันจะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการบ่มเพาะไปได้มากเพียงใด?
“หากเรื่องนี้เป็นความจริงแล้วหอมหาสมบัติก็คงได้กลายเป็นยอดมหาอำนาจในมหาพิภพถงเทียนอย่างแน่นอน! แม้โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้านั้นมันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากมายแต่เมื่อใดก็ตามที่โอสถครองวิญญาณผสานเต๋าถูกปล่อยสู่ท้องตลาดแล้วมันคงสร้างความสั่นสะเทือนอย่างยิ่งใหญ่ และเมื่อท่านเย่บรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้มาได้แล้วและทำให้โอสถครองวิญญาณผสานเต๋ากลายเป็นระดับหกได้มันก็จะยิ่งเป็นการช่วยสร้างยอดฝีมือเทพถ่องแท้ได้ในพริบตา! นี่มัน… แค่คิดข้าก็ขนลุกแล้ว!” เฉินหยู่ร้องบอก
เพราะเหล่านภาสวรรค์นั้นมันไม่ได้เป็นกำลังที่มากมายภายใต้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย
แต่เมื่อกลายเป็นเทพถ่องแท้แล้วมันจะเป็นคนละเรื่องในทันที
ต่อให้เป็นในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ ยอดฝีมือเทพถ่องแท้นั้นก็มิใช่ผู้คนที่จะดูถูกได้
เพราะเมื่อมีพลังถึงระดับเทพสวรรค์แล้วเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างล้วนเป็นยอดคนชื่อดัง ย่อมไม่คิดจะไปยอมรับใช้จักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ง่ายๆ
พวกเขานั้นหากไม่ปกครองยอดเมืองหลวงจักรพรรดิด้วยตัวเองก็จะกลายเป็นนักยุทธ์จรเพื่อหาทางในการพัฒนาศึกษายอดเต๋าต่อไป
การที่ผู้คนขึ้นเป็นเทพถ่องแท้ได้ในเวลาแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันปีนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวจนเกินไป!
ที่สำคัญพวกเขาทั้งหลายนั้นยังจะสามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้ในอนาคต
ย่นระยะเวลาบ่มเพาะได้นับพันๆ ปีมันย่อมทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นมีโอกาสก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์มากขึ้น!
เซินชางพูดขึ้น “เรื่องราวในครั้งนี้มันยิ่งใหญ่เกินไป ท่านเปียวหยูเองตอนนี้ก็กำลังเก็บตัวอยู่เราเองก็คงไม่อาจตัดสินใจใดๆ เองได้ ข้าจึงได้คิดมาว่าจะนำเรื่องนี้ไปรายงานแก่ท่านวันเปาและให้ท่านผู้นั้นเป็นคนตัดสินใจ”
เฉินหยู่พยักหน้ารับ “ก็จริง หากเรื่องราวนี้กระจายออกไปแล้วมันคงเปลี่ยนมหาพิภพถงเทียนไปทั้งหมดแน่! ด้วยลำพังแค่ศาลาโอสถสวรรค์ของเรามันไม่เพียงพอที่จะแบกรับเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ปานนั้น”
…
ภายในห้องลับหนึ่งของเมืองจักรพรรดิมีชายแก่ที่ดูท่าทางเหมือนคนรอวันตายเบิกตากว้างขึ้น
“ฮ่าๆ! สวรรค์ช่างมีตาไม่ยอมปล่อยให้ข้าตายลงง่ายๆ เสียจริง! ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีใครคิดค้นโอสถวิเศษเช่นโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าออกมาได้ ในตอนนั้นข้าที่ได้หลอมซับผลวิญญาณเต๋าไปข้าก็คิดไปแล้วว่าชีวิตนี้คงไม่อาจจะทำการบ่มเพาะได้อีก ไม่นึกไม่ฝันว่าวันนี้จะมาถึง! ด้วยความเข้าใจที่ข้าสั่งสมมานานปีนี้หากข้าสามารถกลับมาบ่มเพาะได้อีกครั้งข้าจะต้องสามารถบรรลุขึ้นไปสู่อาณาจักรเทพถ่องแท้ได้ในคราเดียวแน่! ครั้งนี้เฒ่าคนนี้จะต้องไปซื้อโอสถครองวิญญาณผสานเต๋ามาให้ได้!”
เมื่อชายแก่คนนั้นได้ยินข่าวเรื่องโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าเขาก็แทบกลายเป็นคนคลั่งในทันที
ไม่นานนักเขาก็ได้สั่งให้คนไปตรวจดูคลังของเมืองจักรพรรดิและมุ่งหน้าไปซื้อโอสถยังหอมหาสมบัติในทันที
…
ภายในเมืองหลวงจักรพรรดิหนึ่ง สองหนุ่มน้อยนักยุทธ์อาณาจักรนภาสวรรค์กำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่
ฝ่ายหนึ่งกล่าวขึ้น “เหตุใดเจ้าจึงสามารถบ่มเพาะได้รวดเร็วปานนี้? แค่ไม่กี่วันก่อนนั้นเจ้ายังเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์หนึ่งดาวอยู่แท้ๆ!”
อีกฝ่ายจึงหัวเราะลั่นตอบมา “ข้ากินผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์เข้าไป ด้วยพรสวรรค์ของข้าอีกไม่นานก็คงสามารถขึ้นไปถึงอาณาจักรนภาสวรรค์เก้าดาวได้! เจ้านั้นชอบอวดดีเรื่องที่ว่าตัวเองบ่มเพาะได้รวดเร็วนักมิใช่หรือ?”
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเขาก็แสดงสีหน้าดูถูกออกมาในทันที “เจ้าโง่ ที่แท้กลับคิดใช้ผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์เพื่อก้าวข้ามข้า ช่างโง่เง่าเสียจริง! ชาตินี้เจ้าคงไม่มีโอกาสขึ้นไปอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้อีกแล้ว!”
“หึๆ คนโง่มันคือเจ้าต่างหาก! ตอนนี้พ่อข้าได้ไปซื้อโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าจากหอมหาสมบัติมาไว้แล้ว ตราบเท่าที่ข้ามีโอสถวิเศษนี้ข้าก็สามารถบ่มเพาะต่อได้อย่างเป็นปกติแม้จะกินผลวิญญาณเต๋าเข้าไป! แต่เจ้าอย่าได้คิดอะไรให้มากความเลย เพราะตอนนี้โอสถครองวิญญาณผสานเต๋าในเมืองหลวงจักรพรรดินี้มันมีแค่เม็ดเดียวและโอสถเม็ดนั้นมันก็อยู่กับพ่อข้าแล้ว! ฮ่าๆ!”
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเขาก็ได้แต่เบิกตากว้าง
…
ข่าวที่หอมหาสมบัติปล่อยออกไปนั้นแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าเมื่อข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไปโอสถครองวิญญาณผสานเต๋ามันก็กลายเป็นของร้อนที่ต้องการของผู้คนทั้งมหาพิภพถงเทียน
การปรากฏขึ้นของโอสถครองวิญญาณผสานเต๋านี้มันทำให้ทุกผู้คนได้รู้ถึงความเยี่ยมยอดของมันในแทบจะทันที
เหล่าค่ายสำนักใหญ่ต่างพยายามแย่งชิงโอสถครองวิญญาณผสานเต๋ากันอย่างบ้าคลั่ง
ที่สำคัญโอสถทั้งหลายนี้มันยังถูกหลอมขึ้นโดยเย่หยวน แน่นอนว่าคุณภาพของพวกมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าขั้นเทวะทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นราคาของโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าจึงยิ่งพุ่งขึ้นสูง
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นการจะหามันได้ให้สักเม็ดก็ยังเป็นเรื่องยาก
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเย่หยวนก็เป็นคนผู้เดียว ต่อให้เขาจะพยายามหลอมโอสถทั้งวันทั้งคืนเขาก็ไม่อาจจะสนองความต้องการของผู้คนทั้งมหาพิภพถงเทียนได้
และแน่นอนว่าทางหอมหาสมบัติเองก็ไม่ได้คิดจะเพิ่มจำนวนการผลิตให้พอแก่ความต้องการของผู้คนในมหาพิภพถงเทียนแต่อย่างใด
เรื่องที่ว่าของหายากนั้นมีราคาสูงพวกเขาย่อมรู้ดีแล้วมีหรือที่หอมหาสมบัติผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าจะปล่อยความได้เปรียบนี้ไป?
ในหลายสถานที่โอสถครองวิญญาณผสานเต๋านั้นมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
ตอนนี้ราคาของโอสถครองวิญญาณผสานเต๋านั้นมันเหนือล้ำจนเกินกว่าที่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับหกคุณภาพขั้นสูงจะเทียบเคียงได้เสียด้วยซ้ำ
เหตุผลแรกนั้นคือโอสถทั้งหมดนั้นเป็นโอสถที่เย่หยวนหลอมขึ้นด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันย่อมมีคุณภาพสูงอย่างที่ผู้อื่นไม่อาจเทียบเคียงได้
สองคือโอสถหนึ่งเม็ดนี้จะช่วยย่นเวลาบ่มเพาะไปได้นับพันๆ ปีหรืออาจจะถึงหมื่นปี มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่อยากได้มัน?
เวลายาวนานขนาดนี้พวกเขาจะหาผลึกปราณเทวะได้มากมายเพียงใดและจะสามารถพัฒนาตัวไปได้ถึงระดับใด?
เรื่องราวนี้ตราบเท่าที่มิใช่คนโง่ไร้สมองพวกเขาย่อมรู้ว่าจะคำนวณมันอย่างไร!
เพราะฉะนั้นชื่อเสียงของหอมหาสมบัติบนมหาพิภพถงเทียนจึงได้พุ่งทะยานผงาดล้ำด้วยโอสถครองวิญญาณผสานเต๋าเพียงแค่ชนิดเดียว
…………………..