Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 1996 มีชะตาแต่ไร้วาสนา
“ให้ตายสิ เจ้าใช้วิชาใดกัน?” เจียนซู่เทาร้องตะโกนใส่เย่หยวน
เย่หยวนตอบกลับมาด้วยท่าทางเรียบเฉย “ท่านเองก็จะดูถูกข้า เย่หยวนผู้นี้เกินไป เรื่องของเรื่องก็คือข้าเย่หยวนนั้นสัญญาคำไหนเป็นคำนั้น และข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าหากท่านมีปัญญาก็เอามันไป”
เจียนซู่เทากัดฟันแน่นพร้อมตะโกนลั่น “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะไม่อาจจัดการกับกระดูกคนตายได้!”
พูดจบเจียนซู่เทาก็ได้ใช้พลังกดดันของเทพสวรรค์ออกมายกมือขึ้นสูงใช้ปราณเทวะออกมาอย่างมหาศาลจนครอบกระดูกจักรพรรดินี้ไว้สิ้น
พลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันเหนือล้ำจนน่ากลัว แม้แต่เย่หยวนที่ยืนอยู่ห่างออกไปก็ยังมีใบหน้าซีดเผือดลง
แต่ในตอนนั้นเองที่ทางกระดูกจักรพรรดิเองก็ได้ฉายแสงส่องกลับออกมาอย่างแผ่วเบาแต่มันกลับเป็นพลังที่หนักหน่วงจนกดดันตัวเจียนซู่เทาไปด้านหลัง
เจียนซู่เทาที่รู้สึกได้เช่นนั้นก็หน้าซีดลงก่อนจะยิ่งปล่อยพลังปราณเทวะออกมารุนแรงขึ้นกว่าเก่า
แต่ทว่าคลื่นพลังแผ่วเบานี้มันกลับเป็นเหมือนสปริงที่ยิ่งเขาใช้พลังกดเข้าไปรุนแรงเท่าใดมันก็ยิ่งสะท้อนพลังกลับมารุนแรงเท่านั้น
‘ปัง!’
จนในที่สุดเจียนซู่เทาก็ไม่อาจทนรับไว้ไหวร่างถูกซัดกระเด็นออกไป
จากนั้นเจ้ากระดูกจักรพรรดิกิเลนก็ได้ค่อยๆ บินกลับมาในมือของเย่หยวนอีกครั้ง
เจียนซู่เทานั้นได้แต่ยืนทำหน้าเหยเก จนถึงตอนนี้แล้วมีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจว่ากระดูกจักรพรรดินี้มันมีจิตใจและเลือกเย่หยวนเป็นนายของมัน?
เว้นเสียแต่ว่าเขานั้นไม่คิดอยากยอมรับ เจ้ากระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้มันอยู่มานานแสนนานอย่างที่ไม่อาจนับปีได้แล้วแต่เหตุใดมันกลับยังสามารถมีพลังที่รุนแรงเหนือล้ำเช่นนี้ได้?
เย่หยวนมองดูที่เจียนซู่เทาก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านเองก็เป็นคนเจ้าแผนการคำนวณทุกสิ่งอย่างไว้ให้เด็กแห่งโชคชะตาเสี่ยงชีวิตไปเอากระดูกจักรพรรดิมาให้ แต่คงไม่นึกไม่ฝันใช่หรือไม่ว่ากระดูกจักรพรรดินี้มันจะมีความคิดเลือกนายของตนได้?”
เจียนซู่เทาสุดแสนจะอึดอัดใจ ตอนนี้เลือดสดๆ ไหลลงมาจากมุมปากของเขาดูท่าอวัยวะภายในของเขาเองก็คงได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย
เจามองดูเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเด็กโอหัง! เจ้าคิดว่าเทพสวรรค์ผู้นี้จะไม่กล้าแตะต้องเจ้าหรือ?”
เย่หยวนยิ้มบางๆ ตอบกลับไป “ข้าเองก็ไม่ได้ดูถูกท่าน แต่ท่านนั้นไม่มีปัญญาเอามันไปจริงๆ ที่ข้าเข้าสนามรบเทพโบราณไปครั้งนี้มันก็ได้มีจักรพรรดิเทพสวรรค์ของตระกูลเจียนท่านหันมาสนใจและคอยสอดส่องดูข้าอยู่ตลอด ตอนนี้ดูท่าท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ก็คงจะรู้ว่าข้าทำอะไรไว้ในสนามรบเทพโบราณสิ้นแล้ว หากข้าเดาไม่ผิดตอนนี้การสื่อสารคำสั่งใดๆ มันคงกำลังเดินทางมาอย่างแน่นอน”
เจียนซู่เทานั้นยิ้มเย้ยออกมา “เจ้าคิดใช้นามของท่านบรรพบุรุษเฉียนจี้มาขู่ข้า? หึๆ นอกจากนี้แล้วการสอดส่องของจักรพรรดิเทพสวรรค์มีหรือที่เทพถ่องแท้อย่าเจ้าจะตรวจจับถึงมันได้?”
เพราะการสอดส่องของยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันย่อมไม่อาจจะถูกนักยุทธ์ทั่วๆ ไปตรวจจับได้
แต่ด้วยวรยุทธ์บ่มเพาะที่เย่หยวนมีมันสุดแสนพิเศษสามารถเข้าใจความผิดปกติของยอดเต๋าได้ทำให้เขานั้นสัมผัสได้ถึงการสอดส่องต่างๆ อย่างไม่ยากเย็น
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็คงไม่อาจรับรู้ถึงการจ้องมองของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ในทางเดินไปสนามรบเทพโบราณ
แม้ว่าร่องรอยนั้นมันจะแสนเบาบาง แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้าสนามรบเทพโบราณไป แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นฝีมือของใครบางคนที่จับตาดูเขาอยู่
แล้วในสนามรบเทพโบราณนั้นมันจะยังมีใครนอกไปจากเจียนหรง?
เย่หยวนนั้นเข้าใจดีว่าตอนนี้เบื้องบนของตระกูลเจียนได้จับตามองดูเขาอยู่ และพวกเขาย่อมจะไม่ฆ่าสังหารเขาลงง่ายๆ แน่
เพราะนั่นคือนิสัยอยากรู้อยากเห็นของคนตระกูลเจียน
เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับมา “ตระกูลเจียนท่านเชื่อในดวงชะตาที่สุดมิใช่หรือ? เช่นนั้นท่านลองคาดเดาดูสิว่าข้าจะอายุสั้นหรือไม่?”
เจียนซู่เทานั้นแทบสำลักเมื่อได้ยิน
เพราะเย่หยวนพูดถูก แม้ว่าตัวเจียนซู่เทาจะไม่อาจทำนายชะตาของเย่หยวนได้โดยตรงแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าเย่หยวนคนนี้จะไม่อายุสั้นอย่างแน่นอน
เรื่องนั้นแม้แต่เจียนหงเซียวยังสัมผัสได้ มีหรือที่เจ้าเมืองแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิชะตาเลิศผู้ศึกษาดวงชะตาอย่างลึกล้ำอย่างเขาจะสัมผัสไม่ได้?
หรือว่า… ที่เย่หยวนว่ามามันจะจริง?
แต่มันก็เกินกว่าที่จะเชื่อได้เกินไป
ในเวลานั้นเองที่ความคิดของเจียนซู่เทากลับสั่นคลอนก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่งขึ้นในหัว
และผู้ที่ส่งข้อความนี้มามันกลับกลายเป็น… ตัวของจักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชาง!
เจียนซู่เทานั้นตื่นตะลึงไปทั้งกายและใจ
เขานั้นมองดูเย่หยวนราวกับได้เห็นผี สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความตกตะลึง
จักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางนี้คือใคร?
นี่คือหนึ่งในต้นตระกูลเจียน เป็นยอดฝีมือจักรพรรดิเทพสวรรค์ตัวจริงเสียงจริง!
แม้ว่าเจียนซู่เทานั้นจะเป็นยอดคนของภูมิภาคแต่เทียบกับจักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางแล้วมันไม่ต่างจากมดปลวก!
จักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางนั้นเป็นลูกชายแท้ๆ ของบรรพบุรุษตระกูลท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้!
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นอยู่มานับล้านๆ ปีแน่นอนว่าย่อมจะมีลูกชายลูกสาวอยู่มากมาย
แต่เหล่าคนที่ยังอยู่มาได้จนทุกวันนี้นั้นมันมีเพียงไม่กี่คน
จักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางนี่เองก็เป็นหนึ่งในยอดคนที่รอดอยู่มาได้จนทุกวันนี้!
การที่จักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางส่งข้อความลงมาเองเช่นนั้นมันจะหมายถึงอะไร?
มันย่อมหมายถึงว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้กำลังสนใจในตัวเย่หยวนจริง!
นี่มัน… จะเป็นไปได้อย่างไร?
“ซู่เทา กระดูกจักรพรรดินี้มันไม่มีวาสนาต่อตระกูลเจียนเรา อย่าได้ทำให้เย่หยวนลำบากใจอีกเลย นอกจากนั้นเจ้าและหงเซียวยังต้องคอยจับตาดูเด็กคนนี้ไว้ให้ดี เข้าใจหรือไม่?”
คำสั่งของจักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางส่งตรงเข้าสมองของเจียนซู่เทา
“ขอรับ ซู่เทาเข้าใจแล้ว!”
เจียนซู่เทานั้นตอบกลับไปด้วยสีหน้าหนักใจ
คำสั่งเดียวนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์หยุนชางก็ไม่ได้ตอบกลับใดๆ มาอีก
ส่วนอีกด้านทางเย่หยวนนั้นกำลังมองดูร่างของเจียนซู่เทาสั่นเทาอย่างบ้าคลั่งและได้เข้าใจทันที
แต่เขาเองก็ไม่นึกว่ามันจะมาได้เวลาเหมาะเจาะปานนี้
เพราะทุกสิ่งอย่างที่คิดก่อนหน้านี้มันล้วนเป็นการคาดเดาของเขาอย่างไร้หลักฐานใดๆ เพียงแค่คิดจะข่มขู่อีกฝ่ายไว้ก่อน
แต่ตอนนี้ดูท่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้องแล้ว
ดูท่าคนที่จ้องมองดูเขาในเส้นทางนั้นมันจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้จริงๆ
เจียนซูเทาหันมามองดูเย่หยวนอย่างไม่อาจตัดใจได้
เด็กคนนี้มันเหนือล้ำจนเกินกว่าสัตว์ประหลาดทำให้ผู้คนไม่อาจสรรหาคำมาบรรยาย
การสอดส่องของจักรพรรดิเทพสวรรค์ แม้แต่ตัวเขายังไม่อาจสัมผัสได้แต่เจ้าเด็กคนนี้มันทำได้อย่างไร?
และต่อให้เขาจะจับได้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียนหรงสอดส่องดูเขา แต่เขาจับการจ้องมองของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ได้อย่างไร?
หากเป็นแค่การสอดส่องของเจียนหรงที่ถูกจับได้เขายังพอจะทำใจเชื่อลง
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นคือใคร?
ในมหาพิภพถงเทียนนี้คนที่จะก้าวล้ำกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ได้มันคงมีเพียงแค่หยิบมือ
ความเก่งกาจของเขานั้นสะท้านฟ้าดินมานานปี
แต่เทพถ่องแท้อย่างเย่หยวนกลับไปมีพลังอำนาจใดตรวจจับการสอดส่องของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ได้?
แล้วความเก่งกาจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นคือสิ่งใด?
การสอดส่องเข้าไปดูเรื่องราวของสวรรค์นั้นคือความถนัดที่ตัวท่านมี
หากเขาสนใจในตัวเย่หยวนจริงเหตุใดถึงไม่ทำนายให้มันแล้วสิ้นไป?
หรือว่าแม้แต่ท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้เองก็ไม่อาจอ่านดวงชะตาของเย่หยวนได้?
นี่มัน… จะเหนือล้ำเกินจินตนาการไปแล้ว
ความสงสัยของเจียนซู่เทานั้นมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นมา ยิ่งคิดไปเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้ความสงสัยนั้นมันกำลังทำให้เขารู้สึกคันทั้งเนื้อทั้งตัว คันอกคันใจจนไม่อาจอธิบายได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียเขาก็ไม่กล้ามองดูดวงชะตาของเย่หยวน!
อีกด้านทางเย่หยวนนั้นมองดูเจียนซู่เทาอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “ดูท่าท่านเองก็คงได้ข่าวมาแล้ว ข้าคงบอกได้เพียงว่าท่านนั้นมีชะตาได้พบเจอกับกระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้แต่ไม่มีวาสนาจะครอบครองมัน”
‘อ่อก!’
เจียนซู่เทาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปต้องกระอักเลือดออกมาคำโต
เพื่อเจ้ากระดูกจักรพรรดิกิเลนนี้ตัวเขาต้องรอคอยมาอย่างยาวนานไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี แต่สุดท้ายกลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งแย่งชิงไป
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือทางเบื้องบนสั่งตรงลงมาว่าอย่างยุ่งเกี่ยวกับเจ้าของชิ้นนี้อีก
หากของมันหายไป ก็ถือว่าหายกันไป แต่ตัวเย่หยวนนั้นยังอยู่เบื้องหน้าเขานี้… และยังมีหน้ามาแสดงความรู้พูดคำสั่งสอนใส่ตัวเขาอีก?
เจียนซู่เทานั้นเสียใจอย่างมากที่คิดทำเช่นนี้ลงไป หากเขารู้แล้วเขาคงไม่ปล่อยให้เย่หยวนเข้าสนามรบเทพโบราณไปแน่
ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่านี่คือของขวัญให้แก่ตัวเย่หยวนไป
แต่สุดท้ายแล้วหรือว่าเรื่องราวทั้งหลายนี้มันจะเป็นลิขิตสวรรค์กัน?
……………………