Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2049 ทะเลแห่งแนวคิด
“ที่แท้แล้วมันเป็นเช่นนี้! ที่แท้เรื่องนั้นมันเป็นอย่างนั้น!”
ภายในกลุ่มคนมากมายนั้นหลินตงได้แต่เบิกตากว้างขึ้นและกว้างขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเมฆหมอกความลึกลับตรงหน้ามันได้ถูกปัดเป่าหายไปสิ้นด้วยแสงสว่างจ้าตรงหน้าเขานี้
เมื่อได้ลองฟังไปเต็มๆ หนึ่งวันหนึ่งคืนในที่สุดเขาก็ได้เห็นแสงสว่างที่ปัดเป่าความมืดดำไม่เข้าใจของตนไปสิ้น
ความสงสัยคาใจใดๆ ที่เคยมีของเขามันได้ถูกเย่หยวนแก้ไขไปทีละอย่างทีละอย่าง
หลินตงนั้นได้เข้าใจอย่างสุดซึ้งว่าการสอนบรรยายของปรมาจารย์เย่นี้มันแตกต่างจากของเทพสวรรค์ดันหยู่มาก
เพราะเรื่องราวที่เทพสวรรค์ดันหยู่บรรยายพูดนั้นมันดูลึกลับซับซ้อนจนไม่อาจทำความเข้าใจได้ หลังได้ฟังดูมันอาจจะดูเหนือล้ำแต่หากได้ลองคิดตามดูจริงๆ แล้วเขาก็จะรู้ได้ทันทีว่าตนเองไม่อาจทำความเข้าใจได้แม้แต่น้อย
แต่การบรรยายของปรมาจารย์เย่นี้มันเหมือนเป็นคำสอนที่พูดบอกแก่ตัวเขาโดยเฉพาะ
เต๋านั้นอยู่ที่ใด ความหมายของมันสามารถทำความเข้าใจได้ แต่เป็นการยากนักที่จะอธิบายมันออกมาให้แก่ใคร
ไม่ว่าจะมีอาณาจักรความรู้ที่สูงส่งปานใด ไม่ว่าจะมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำปานใด หากการสั่งสอนมันไม่ถูกต้องแล้วผู้คนทั้งหลายก็ย่อมไม่อาจจะเข้าใจมันได้
แต่การบรรยายของเย่หยวนนี้มันเป็นเหมือนการสั่งสอนของครูบาอาจารย์ผู้ชำนาญการ อธิบายวิเคราะห์เต๋าออกมาด้วยความแม่นยำและเข้าใจง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่านักหลอมโอสถระดับล่างๆ ทั้งหลายแล้ว มันยิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล
เรื่องของการบรรยายนี้หากไม่ได้ทำมันก็แล้วไป แต่หากจำต้องทำแล้วเย่หยวนก็ย่อมไม่คิดที่จะทำมันอย่างครึ่งๆ กลางๆ เขาได้เตรียมการสอนมาอย่างดี
และในเมื่อเหล่าคนทั้งหลายที่จะมาร่วมฟังในครั้งนี้มันเป็นเหล่านักหลอมโอสถอาณาจักรต้นขั้นต้นและขั้นกลาง เย่หยวนจึงได้เตรียมการสอนมาบรรยายโดยเฉพาะกับกลุ่มนี้
กับตัวเย่หยวนในเวลานี้แล้ว ความรู้ของอาณาจักรนี้มันง่ายแสนง่ายจะอธิบายออกมาก็ไม่ต้องเตรียมการใดๆ มากมาย
แต่เมื่อผู้คนทั้งหลายได้ยินได้ฟังแล้วมันราวกับว่าได้ฟังท่วงทำนองแห่งยอดเต๋า เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้
ตอนนี้คลื่นพลังบนร่างของหลินตงมันค่อยๆ ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยคลื่นพลังเต๋าประหลาดที่ตกลงมาใส่ร่างกายของเขา
“หืม? เดี๋ยวนะ ช่างเป็นคลื่นพลังที่ประหลาดนัก! นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกันนี่?”
หลินตงนั้นตื่นตกใจอย่างมากเพราะเขารู้สึกราวกับว่าคลื่นพลังแนวคิดรอบๆ กายนี้มันรุนแรงหนักหนาจนเกินไป
สภาพรอบกายของเขาในเวลานี้มันราวกับว่าฟ้าถล่มลงมาทับผู้คน
คลื่นพลังแนวคิดมหาศาลไหลเวียนวนรอบกาย มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนได้แหวกว่ายเข้าไปกลางทะเลเต๋าโอสถ
แต่ที่มากไปกว่าความตื่นตกใจก็คือความตื่นเต้นดีใจ
การได้เห็นเต๋าโอสถอยู่ตรงหน้าเช่นนี้มันย่อมราวกับได้เห็นภูเขาสมบัติอยู่ตรงหน้า มีหรือที่เขาจะยอมกลับไปมือเปล่า?
เพราะฉะนั้นในเวลานี้เขาจึงได้พยายามไล่คว้าแนวคิดจากเต๋าโอสถทั้งหลายนั้น!
หลินตงนั้นยังคงฟังไปอย่างมีสมาธิ ทำให้ตัวเขาไม่ได้เห็นเลยว่าเวลานี้ทั้งจัตุรัสพึงสวรรค์ที่มีเย่หยวนเป็นศูนย์กลางนั้นมันได้ถูกอัดแน่นไปด้วยผู้คนจนแทบไม่อาจหายใจได้
นี่มันคือทะเลผู้คนนับแสนๆ คน!
และในหมู่คนทั้งหลายนี้หลายต่อหลายคนก็ได้มีสภาพไม่ต่างจากหลินตงคือติดอยู่ในจุดตายมานานหลายปีอย่างที่ไม่อาจพัฒนาตนไปได้
ในช่วงเวลาหลายวันมานี้คนทั้งหลายที่ติดย่ำอยู่ที่เดิมมานานหลายต่อหลายปีเริ่มจะก้าวเดินพัฒนาตนเองได้อีกครั้งเพราะการสอนบรรยายอันแตกฉานของเย่หยวน
ตอนนี้ ณ จัตุรัสที่เทพสวรรค์ดันหยู่ทำการสอนอยู่ไม่มันไม่ผู้คนอีกต่อไปแม้สักคน
เขาจึงได้หยุดการบรรยายใดๆ และเริ่มเข้าสู่การทำสมาธิแทน
แต่ในเวลานั้นเองที่สองตาของเขาต้องพลันเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึงจ้องมองลงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
ตอนนี้คลื่นพลังแนวคิดอันมหาศาลมันได้ร่วงตกลงมาจากท้องฟ้าจนครอบยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาไว้สิ้น
แม้ว่าจะอยู่แสนห่างไกลแต่เทพสวรรค์ดันหยู่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความไร้สิ้นสุดของมัน
พลังแนวคิดอันไร้สิ้นสุดนี้มันสุดแสนน่ากลัว ต่อให้เป็นตอนที่ตัวเขาบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลมาเองก็ยังไม่อาจจะสร้างคลื่นพลังแนวคิดอันรุนแรงหนักหน่วงได้ปานนี้
“นี่มัน… ทะเลแห่งแนวคิดจุติลงมาหรือ?” เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวขึ้นอย่างตื่นตะลึง
จากนั้นร่างของเขาก็ขยับไหวจางหายไปทันที
ที่ด้านตะวันออกของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาเอง ณ จัตุรัสที่เทพสวรรค์เปียวหยูทำการบรรยายอยู่มันก็มีสภาพะรกร้างไร้ผู้คนไม่ต่างกัน
แต่จู่ๆ สองตาของเทพสวรรค์เปียวหยูก็ต้องเบิกกว้างขึ้นจ้องมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้
“นี่มัน…”
เทพสวรรค์เปียวหยูพูดออกมาได้แค่สองคำก็ขยับร่างพุ่งตัวหายไปทันที
ฟุบ!
ฟุบ!
ฟุบ!
เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายต่างพุ่งตัวหายไปแทบจะพร้อมๆ กัน
มันมิใช่แค่พวกเขาตอนนี้เหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายที่ยังอยู่ในเมืองต่างก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังแนวคิดอันมหาศาลนี้จนต้องพุ่งตัวมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสพึงสวรรค์ในทันที
“เปียวหยู ข้าว่าเด็กคนนี้… มันคงมิใช่สิ่งที่หอมหาสมบัติของเจ้าจะดูแลไหวหรอก!” เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวขึ้นอย่างไม่คิดหันหน้ามามองเทพสวรรค์เปียวหยู
แม้ว่าคำพูดของเขานี้มันจะฟังดูเรียบเฉยแต่ความตื่นตกใจของเขามันแสดงออกมาในดวงตาอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
เทพสวรรค์เปียวหยูยิ้มออกมาน้อยๆ ในใจแต่ภายนอกยังรักษาท่าทีไว้ได้ “เรื่องนั้นมันไม่ต้องให้พี่ดันหยู่มายุ่งหรอก”
เทพสวรรค์ดันหยู่จึงได้แต่หัวเราะขึ้นและเงียบปากลงไป
“นี่มัน… ทะเลแห่งแนวคิด! ทะเลแห่งแนวคิดเต๋าโอสถ! ไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์ผู้นี้จะได้มาเห็นภาพอะไรเช่นนี้ในชีวิตนี้! อาณาจักรความรู้ของผู้คนนับแสนๆ คนมันได้พัฒนาขึ้นพร้อมๆ กันจนทำให้ยอดเต๋าตอบสนอง ส่งทะเลแห่งแนวคิดลงมา! นี่มันเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่สิบล้านปีมันจะเกิดขึ้นได้สักครั้ง!” เทพสวรรค์เฉิงเฟิงร้องบอกด้วยความชื่นชมเปี่ยมหัวใจ
“ปรมาจารย์เย่นั้นช่างทำตัวสมชื่อปรมาจารย์เสียจริง ก่อนหน้าพวกเราหลายคนถึงขั้นคิดว่าเขาไม่มีฝีมือพอ เมื่อได้มองดูในเวลานี้แล้วมันเป็นพวกเราต่างหากที่ไม่มีค่าพอจะรับชื่อปรมาจารย์!” เทพสวรรค์เหลียวหมิงได้แต่ส่ายหัวออกมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม
“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดปรมาจารย์เย่จึงได้ทำให้ทั้งเมืองเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เช่นนั้น ที่แท้ความเข้าใจต่อเต๋าโอสถของเขานั้นมันลึกล้ำกว่าเราไปมาก!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขานั้นมายืนฟังแค่ไม่กี่นาที แต่แค่เวลาสั้นๆ นี้พวกเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เย่หยวนพูดออกมา แม้แต่พวกเขาบางคนยังไม่รู้ถึงมันมาก่อน
เนื้อหาของมันเป็นสิ่งที่สุดแสนล้ำค่า
ความเข้าใจของเย่หยวนนั้นมันลึกล้ำกว่าที่พวกเขาจะกล้าเอาตนไปเทียบเคียง
เทียบกันแล้วความเข้าใจของพวกเขาทั้งหลายในอาณาจักรต้นนั้นมันยังเป็นความรู้ที่รับมาตรงๆ ไม่มีการนำมาย่อยใดๆ
เทพสวรรค์ผู้หนึ่งได้แต่ส่ายหัวออกมา “งานใหญ่เช่นนี้มันคงมีแต่โอสถบรรพกาลหรือศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลของเผ่าอสูรเท่านั้นที่จะทำได้ แต่ด้วยตัวตนของพวกเขาแล้วพวกเขาก็คงไม่มาสั่งสอนเหล่านักหลอมโอสถทั่วๆ ไปเช่นนี้หรอกใช่ไหมเล่า?”
“เลิกพูดเถอะ เวลานี้ทะเลแห่งแนวคิดจุติแล้ว มันเป็นโอกาสอันดีงามของเราทั้งหลายเช่นกัน ต้องทำความเข้าใจมันให้มากไว้!” เทพสวรรค์ดันหยู่ร้องบอก
ทะเลแห่งแนวคิดนั้นมันมีความหมายตามที่ชื่อบอก มันคือทะเลที่ผสานความรู้แนวคิดต่างๆ ไว้มากมาย
แล้วเต๋าโอสถนั้นมันยิ่งใหญ่ปานใด? ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตมันก็คงไม่อาจจะทำความเข้าใจได้ถึงหนึ่งในหมื่นของมัน
แต่ทะเลแห่งแนวคิดนี้มันคือพรจากยอดเต๋า มันเป็นโอกาสมหาศาลที่สิบล้านปีมันจะเกิดขึ้นสักครั้ง
ต่อให้เย่หยวนจะทำการบรรยายสอนสั่งวิชาอีกครั้งมันก็ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมาอีก
ในทะเลแห่งแนวคิดนี้ต่อให้เป็นเหล่าอาณาจักรบรรพกาลทั้งหลายเองก็สามารถตักตวงประโยชน์ไปได้มากมาย
เมื่อขึ้นมาถึงระดับของเทพสวรรค์ดันหยู่แล้วแค่คิดจะพัฒนาไปด้านหน้าแม้สักก้าวมันก็เป็นเรื่องยากแสนยาก
แต่ในทะเลแห่งแนวคิดนี้พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงเต๋าที่อยู่แค่เอื้อม การจะบรรลุใดๆ มันย่อมง่ายดายกว่าไปบ่มเพาะเองอย่างมาก
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างสงบจิตใจลงและเริ่มตั้งสติก้าวเข้าสู่ทะเลแห่งแนวคิดเพื่อทำความเข้าใจเต๋าโอสถ
การจุติของทะเลแห่งแนวคิดนี้ แน่นอนว่าเย่หยวนผู้เป็นศูนย์กลางของมันเองก็ย่อมจะสัมผัสถึงได้
โอกาสงามๆ เช่นนี้สักพันปีมันจะมีมาให้แก่เขาสักครั้ง หากพูดแล้วเย่หยวนความจะหยุดสอนบรรยายและเริ่มทำการเรียนรู้ทำความเข้าใจทะเลแห่งแนวคิดไป
เพราะไม่มีใครจะรู้ได้ว่าทะเลแห่งแนวคิดนี้มันจะอยู่อีกนานเพียงใด
แต่เย่หยวนกลับไม่ทำ
เขานั้นยังคงทำการสั่งสอนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
หนึ่งวัน สองวัน…
ในพริบตาเวลาครึ่งเดือนนี้ก็ได้ผ่านไป การบรรยายของเย่หยวนนั้นจบลงและเป็นเวลานั้นเองที่เย่หยวนเริ่มหลับตาลงทำความเข้าใจทะเลแห่งแนวคิดเสียบ้าง
“ปรมาจารย์เย่ช่างน่ายกย่องนัก!”
“ปรมาจารย์เย่นั้นกลับไม่คิดหยุดสอนบรรยายเพื่อประโยชน์ของพวกเราทั้งหลาย!”
“ไม่ได้การแล้ว! หลังจบงานชุมนุมโอสถเมฆานี้ข้าจะต้องมุ่งหน้าไปที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เพื่อตอบแทนคุณที่ท่านช่วยสั่งสอนครั้งนี้!”
…
ในหมู่ผู้คนเหล่านักหลอมโอสถทั้งหลายถึงขั้นหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความซาบซึ้ง
เวลาเท่าไหร่ที่เย่หยวนยอมเสียไป พวกเขาย่อมเข้าใจมันดี
ชนะใจด้วยใจ มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่ซาบซึ้งได้?
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้สนใจมันอีกต่อไป เวลานี้ทั้งจิตใจของเขาได้ดำดิ่งสู่ทะเลแห่งแนวคิดไปแล้ว
ทำให้เกิดคลื่นพลังอันลึกซึ้งหมุนวนรอบกาย
…………………………