Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2127 วินาทีแห่งปาฏิหาริย์!
“เป็นไปไม่ได้! เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”
เสียงของโอสถบรรพกาลนั้นดังลั่นลงมาจากบนท้องฟ้ากว้าง
เมื่อสัญลักษณ์หยินหยางนั้นแตกสลายหายไปพร้อมเสียงดังลั่นหมากล้อมนิรันดร์ ‘อย่าถาม’ กระดานนี้ก็ได้ปล่อยแสงสว่างจ้าออกมาพร้อมค่อย ๆ หลอมรวมเข้าหากัน
ตอนนี้โลกกว้างใหญ่นั้นมันกำลังถูกดูดเข้าไปกลางพายุอันหมุนวน
พร้อม ๆ กันนั้นเงาร่างของสองผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้ค่อย ๆ จางหายลง
“ฮ่า ๆ ๆ …คนหนุ่มนี่มันน่ากลัว! คนหนุ่มนี่มันน่ากลัวเสียจริง ๆ! หลังผ่านไปถึงสิบล้านปีในที่สุดมันก็มีคนที่มาร่วมหมากกระดานนี้กับพวกเราได้!” แม้ว่าเวลานี้เงาร่างของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมันจะค่อย ๆ หายไปแต่เสียงหัวเราะของเขานั้นมันกลับมีแต่ดังขึ้น
ในที่สุดโลกทั้งใบมันก็ได้กลับมากลายเป็นกระดานหมากอันน้อย และแน่นอนว่านี่มันคืออย่าถามที่แท้จริง!
เว้นเสียแต่ว่าเวลานี้กระดานหมากนั้นมันได้ปล่อยคลื่นพลังสุดแสนรุนแรงออกมาอย่างไม่มีทีท่าหยุดยั้ง
“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไร?”
“เสมอ! มันจบลงด้วยผลเสมอ!”
“เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็เคยศึกษาอย่าถามมาก่อนจนถึงแก่น แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดสักเท่าไหร่สุดท้ายผลลัพธ์มันก็คือความพ่ายแพ้ เรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?”
“ปาฏิหาริย์! นี่มันวินาทีแห่งปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง! ข้าได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาแล้ว!”
…
ตอนนี้ไม่มีใครจะไม่ตื่นตะลึงเพราะผลของอย่าถามกระดานนี้มันกลับออกมาด้วยผลเสมอ!
เหล่าคนทั้งหลายในเวลานี้ต่างย่อมจะเคยได้ยินหรือถึงขั้นศึกษาอย่าถามมาบ้าง
เจ้าหมากล้อมนิรันดร์ ‘อย่าถาม’ นี้มันเป็นเกมที่โอสถบรรพกาลได้เปรียบอย่างมหาศาล ทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นมีแต่จะตกต่ำลงจนแพ้ในที่สุด
แม้จะบอกว่ามันคือหมากล้อมนิรันดร์ แต่แท้จริงมันคือความพ่ายแพ้อันนิรันดร์ของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
แต่ในเวลานี้หมากกระดานนี้มันกลับมีผลที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ขาวและดำ ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างมีจำนวนหมากบนกระดานเท่า ๆ กัน
ไม่มีฝั่งไหนมากหรือน้อยไปกว่ากัน
สภาพของมันนั้นคือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ในข้ามีเจ้า ในเจ้ามีข้า มันทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งหัวใจ
สมบูรณ์แบบ!
นั่นคือคำพูดที่ทุกผู้คนต่างคิดอยู่ในหัวใจ
จีโมมองดูที่กระดานหมากตรงหน้าอย่างตกตะลึงไม่รู้ต้องพูดกล่าวคำใด
เพราะภาพเช่นนี้มันทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้านจนเกินควบคุม
หากจะพูดถึงอย่าถามนี้มันจะมีใครเข้าใจไปมากกว่าตัวเขา?
หรืออาจจะต้องพูดว่า มันจะมีใครเข้าใจไปมากกว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่เล่นมันมากับมือ?
แต่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นได้ตั้งตัวอุทิศเวลาศึกษามันมานานแสนนานแต่ก็ยังไม่สามารถจะแก้สถานการณ์ของหมากกระดานนี้ได้
แต่เวลานี้เมื่อมันตกมาถึงมือของเย่หยวน เขากลับเปลี่ยนหมากตายกระดานนี้ให้มีชีวิตจนทำให้เกิดผลลัพธ์อันสมบูรณ์แบบได้
เย่หยวนได้ใช้เต๋าของตนออกมาแก้เกมของอย่าถามจนทำให้เกิดเป็นสภาพอย่างปัจจุบัน
แต่ตัวเขาเป็นแค่นักบวชหกดาว เขาทำได้อย่างไรกัน?
“ฮ่า ๆ ๆ …หมากล้อมนิรันดร์! นี่สิคือหมากล้อมนิรันดร์ที่แท้จริง! ที่แท้แล้วสภาพสุดท้ายของอย่าถามมันเป็นเช่นนี้นี่เอง!”
บนฟ้ากว้างนั้นจีโมหัวเราะดังลั่นอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง
เขานั้นไม่เคยจะรู้สึกโล่งใจมากถึงขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่เริ่มศึกษาวิชาโอสถ
อย่าถามนั้นมันคือจุดที่อาจารย์ของเขาติดค้างมานับสิบล้านปี วันนี้ในที่สุดมันก็ถูกแก้ลง
เขานั้นรู้ดีว่าตัวอาจารย์ของเขาย่อมจะมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด เวลานี้ตัวอาจารย์ของเขาเองก็คงหัวเราะลั่นไม่ต่างกัน
ในโลกหล้านี้สิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดมันมิใช่ศัตรูคู่ปรับอันเก่งกาจ แต่มันเป็นเดียวดายของยอดฝีมือ
ตอนนี้เมื่ออาจารย์ของเขาได้เจอคู่ปรับในวิชาโอสถที่พอมือแล้วแน่นอนว่าเขาจะต้องตื่นเต้นดีใจอย่างมาก
“ซือซู เจ้าคิดว่าหมากกระดานนี้ของรองมหาปราชญ์สนุกหรือไม่?” จีโมหันไปมองจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูอย่างเย็นเยือก
เวลานี้เหล่ายอดฝีมือเผ่ากิเลนนั้นต่างตกตะลึงกันไปถ้วนหน้า
ต่อให้พวกเขาทั้งหลายจะไม่เข้าใจถึงวิชาโอสถแต่พวกเขาก็รู้ได้ว่าสิ่งที่เย่หยวนทำนี้มันยิ่งใหญ่ปานใด
เจ้าหมากล้อมนิรันดร์ ‘อย่าถาม’ นี่ทางเผ่ากิเลนเองก็ทราบดีว่ามันคือเกมของสองยอดคน
เจ้าหมากกระดานนี้มันคือปริศนาอันเป็นนิรันดร์
เวลากว่าสิบล้านปีมานี้ไม่รู้ว่ามียอดคนมากมายปานใดคิดท้าทายแก้ไขมัน แต่ก็ไม่เคยจะทำได้สำเร็จแม้สักผู้คน
แต่ในเวลานี้มันกลับมีนักบวชหกดาวผู้หนึ่งทำได้ มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?
มันถูกแก้ลงแล้ว!
ถูกแก้ลงอย่างสมบูรณ์ด้วย!
มิใช่แค่การเดินรอดชีวิตออกมาจากกระดานหมาก!
สองเรื่องนี้มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สำหรับคนอื่น ๆ นั้นความเก่งกาจคือการที่สามารถปกป้องตัวเองเอาชีวิตรอดออกมาจากกระดานหมากของสองยอดคนนั้นได้
แต่เย่หยวนนั้นกลับทำลายโลกยอดคนทั้งสองสร้างขึ้นด้วยเจตจำนงอันเหนือฟ้า ทั้งยังเข้าไปนั่งร่วมวงใช้ยอดเต๋าของตนแก้ไขปริศนาอันเป็นนิรันดร์ สร้างโลกที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา
เจ้าสิ่งนี้มันเป็นกระดานหมากและก็เป็นโอสถ
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะเหนือล้ำกว่าที่จะจินตนาการ
แค่นับจากเรื่องนี้ชื่อของเย่หยวนก็สมควรจะถูกบันทึกลงใบหน้าประวัติศาสตร์แล้ว!
วันนี้พวกเขาได้เห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับตา!
แต่สิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือไม่กี่วินาทีก่อนหน้าพวกเขายังมีหน้าจะไปว่ากล่าวบอกว่าเย่หยวนจะตายแน่แล้ว
ตอนนี้พวกเขานั้นจะยังมีหน้าไปพบใครได้อีกเล่า
เมื่อถูกถามทางจักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูจึงสะท้านไปทั้งกายด้วยสีหน้าสุดแสนเหยเก
แต่จู่ ๆ เขาก็ยกมือขึ้นมาคารวะและกล่าวต่อหน้าเย่หยวน “ท่านเก่งกาจสมชื่อรองมหาปราชญ์จริง ๆ! ซือซูได้ลบหลู่ท่านรองมหาปราชญ์ไปหวังว่าท่านจะไม่ถือสาเอาความ!”
ไม่ว่าตัวเขาจะดื้อด้านสักเพียงใดแต่เมื่อหมากกระดานนี้ถูกแก้ลงแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีใครมองเย่หยวนว่าเป็นแค่เด็กหนุ่มอีก
เวลานี้เขานั้นได้กลายเป็นยอดคนที่นั่งในระดับเดียวกับยอดคนทั้งสองท่านนั้นได้!
บางทีเวลานี้พลังฝีมือของเขาอาจจะยังด้อย แต่ในวันหน้าความยิ่งใหญ่ของเขาจะไม่อาจคาดวัด!
เรื่องนี้มันย่อมไม่มีใครคิดจะเถียง
บางทีในมหาพิภพถงเทียนนี้มันอาจจะได้มีโอสถบรรพกาลคนที่สองเกิดขึ้นจริง ๆ
เย่หยวนมองดูที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูและตอบกลับไป “ถึงเวลานี้เจ้ายังอยากคิดจะได้กระดูกจักรพรรดิกิเลนอีกหรือไม่?”
ซือซูที่ได้ยินก็รีบตอบกลับมาทันที “มิกล้า! ท่านรองมหาปราชญ์ ท่านเคลื่อนดารา ซือซูขอตัวลา!”
พูดจบเขาก็นำตัวพวกเช่าหยุนทั้งหลายมุ่งหน้ากลับทันที
เวลานี้เขาย่อมจะไม่กล้าอยู่ต่อไป และไม่มีหน้าจะอยู่ด้วย
เดิมทีคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่เด็กน้อยรุ่นหลัง ขโมยก็ขโมย
แต่เวลานี้เขาได้พบแล้วว่าเย่หยวนนั้นคือผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
เรื่องราวใด ๆ ก่อนหน้ามันจึงกลายเป็นแค่เรื่องตลกไป
“ปาฏิหาริย์! ช่างเป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ!”
“ในที่สุดข้าก็ได้เข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจึงได้ตั้งท่านเป็นรองมหาปราชญ์!”
“ได้เห็นเรื่องราววันนี้แล้วข้าคงเอาไปโม้ได้อีกเป็นแสน ๆ ปี!”
…
เสียงโห่ร้องชื่นชมดังขึ้นทั่วทั้งเมืองด้วยความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานวินาทีแห่งปาฏิหาริย์
ตอนนี้หมู่นักบวชเจ็ดดาวแห่งวิหารนักบวชทั้งหลายต่างได้แต่ยืนนิ่ง
ตอนที่เย่หยวนบอกว่าตนนั้นคือคู่ปรับคู่แข่งของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยอยู่ในใจ
แต่เวลานี้พวกเขาได้เข้าใจถึงความหมายของมันแล้ว!
เย่หยวนนั้นมีค่าพอที่จะไปท้าทายมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจริง ๆ!
ต่อหน้าเย่หยวนแล้วแม้แต่เหล่าศิษย์ของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลทั้งหลายก็ยังต้องหลบทางให้
“สุดยอด! ช่างเหนือล้ำจริง ๆ! ข้า…ข้าอยากกราบเขาเป็นอาจารย์!” ในเมืองเวลานี้หลงเสี่ยวไห่ถึงกับร่ำร้องออกมาด้วยสายตาสุดเหม่อลอย
“หึ ๆ ข้ากลัวว่าเย่หยวนเขาจะบอกว่าพี่โง่ไปน่ะสิ! เดี๋ยวนะ หากพี่ไปกราบเขาเป็นอาจารย์แล้วข้าก็ต้องเป็นผู้น้อยสิ? ไมเอาด้วยหรอก!” หลงเสี่ยวฉุนร้องขึ้นห้าม
แต่เวลานี้หลงเสี่ยวไห่นั้นไม่ได้คิดจะสนใจนางใด ๆ เวลานี้ดวงตาและดวงใจของเขามันเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
เขานั้นได้กลายเป็นคนคลั่งเย่หยวนไปเรียบร้อย พร้อมที่จะก้มลงกราบเหมือนดั่งเทพเจ้า
หลงฉือเองก็ได้แต่มองดูภาพนี้อย่างไม่คิดอยากเชื่อ
เขาเองก็ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งจะมีความสามารถล้ำฟ้าเหนือสวรรค์ได้ปานนี้
“รองมหาปราชญ์ จักรพรรดิผู้นี้ต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ก่อนหน้านี้ยังคิดสงสัยในตัวรองมหาปราชญ์อยู่มาก แต่เวลานี้ข้าเชื่อมันอย่างสุดใจแล้ว!” จีโมก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวน
การคำนับนี้มันมาจากก้นบึ้งหัวใจของเขา
ตั้งแต่ที่เขาติดตามมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมานั้นจีโมเองก็รู้สึกอยู่หลายครั้งว่าการกระทำของอาจารย์นั้นมันลึกล้ำเปี่ยมความหมายกว่าที่ตนจะเข้าใจ
แต่วันนี้เมื่อได้เห็นฝีมือของเย่หยวนที่ก่อปาฏิหาริย์นี้ขึ้นแล้ว ตัวเขาก็ได้เข้าใจอาจารย์อย่างสุดซึ้ง
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้านั้นมีพลังบ่มเพาะต่ำต้อย แน่นอนว่ามันย่อมทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ ส่วนเรื่องคำขอโทษใด ๆ นั้นมันไม่จำเป็นหรอก แค่มหานักบวชเคลื่อนดารานำเอาอย่าถามมาส่งเองนี้เย่ผู้นี้ก็ซึ้งใจแล้ว”
…………………