Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2139 ซุนน้อยขอคารวะ
ภายในป่าทึบนั้นพวกหลงซุนทั้งสามได้แต่เดินนำออกไปด้วยขาสั่นกลัว
ส่วนตัวเย่หยวนนั้นเดิมตามหลังมาด้วยท่าทางสุดแสนสบายใจ
ระหว่างทางมานี้เย่หยวนได้ลงมือไปหลายครั้งฆ่าสังหารเหล่ามารนรกทั้งหลายในกระบวนท่าเดียวสิ้น ทำให้พวกหลงซุนกลัวจนหัวหด
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่เขาวางท่าเหนือหัวเย่หยวนก่อนหน้านี้ หลงซุนก็ยิ่งหวาดกลัวและอับอายจนอยากจะตาย
“พี่ซุน นี่…มนุษย์ผู้นี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว! ท่านรับมือเขาไม่ไหวหรอก!” อ่าวหมิงร้องกระซิบขึ้นข้าง ๆ
“เห้ย! เจ้าบ้ามาพูดอะไรข้างหูข้าเนี่ย? คิดจะสังหารข้าทางอ้อมหรืออย่างไร?”
หลงซุนนั้นกลัวคำพูดทั้งหลายนั้นจนมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกลางหน้าผากและแทบจะยกดาบปาดคออ่าวหมิงลงเสียด้วยซ้ำ
อ่าวหมิงที่ได้ยินก็รีบตอบกลับมา “พี่ซุน ข้า…ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแค่ว่าเขาจะหยิบผลึกมารดำไปเพื่อการใด? สิ่งนั้นมันมีพลังกัดเซาะรุนแรงจนแม้แต่เผ่ามังกรเรายังต้านทานไม่ได้เลยนะ!”
“ข้าจะไปรู้เรอะ? เขาอาจจะแค่ชอบเก็บผลึกสีดำ ๆ ก็ได้! ต่อให้จะเก็บของพวกนั้นเข้าไปในแหวนแต่มันก็คงกัดกินผิวหนังผู้คนได้ง่าย ๆ” หลงซุนตอบกลับไปด้วยท่าทางมึนงงไม่แพ้กัน
ระหว่างทางนั้นตัวเขาเองก็สงสัยเรื่องนี้มาตลอด
เพียงแค่ว่าเมื่อได้เห็นกำลังเย่หยวนแล้วตัวเขาก็ได้แต่กลัวหัวหดไม่กล้าจะพูดถามใด ๆ
เหล่ามารนรกสุดแกร่งทั้งหลายนั้นถูกเย่หยวนฆ่าสังหารลงอย่างง่ายดาย ราวกับว่ามันเป็นแค่เป็ดแค่ไก่
“เอาล่ะ ที่นี่น่าจะปลอดภัยพอแล้ว เราหยุดพักกันเสียหน่อย” เย่หยวนบอก
เมื่อหลงซุนได้ยินตัวเขาก็รีบวิ่งเข้าไปถามทันที “นายท่าน ท่านมีคำสั่งใด?”
เย่หยวนตอบกลับไป “ระหว่างทางข้าเก็บผลึกมารดำมาได้มาก ข้าจึงจะนำมันมากลั่นหลอมเสียหน่อย พวกเจ้าดูพื้นที่รอบ ๆ ไว้ก็พอ”
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าวพวกหลงซุนก็ร้องขึ้นมาพร้อม ๆ กัน “น-น-นายท่าน…นายท่านจะใช้ผลึกมารดำนี้ในการบ่มเพาะหรือ? ข-ข-ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?”
หลงซุนร้องถามขึ้นด้วยความตื่นตกใจอย่างสุดขีดทำให้ลิ้นพันกันแทบพูดไม่เป็นภาษา
หลงซุนนั้นคิดไปเสียว่าเย่หยวนมีงานอดิเรกแปลก ๆ ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนกลับเอามามันกลั่นหลอมเป็นทรัพยากรบ่มเพาะ
การใช้พลังงานชั่วร้ายที่หนาแน่นปานนี้มาบ่มเพาะ มันจะมิใช่การรนหาที่ตายหรือ?
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ทำไมเล่า? เจ้ามีปัญหา?”
หลงซุนร้องตอบ “เจ้า…เจ้าผลึกมารดำพวกนี้มันเป็นแก่นพลังชั่วร้ายของมารนรกทั้งหลาย มันเป็นจุดศูนย์รวมพลังชีวิตของพวกมัน พลังงานชั่วร้ายภายในนั้นมันเป็นพิษต่อนักยุทธ ท่าน…ท่านกลับจะใช้มันบ่มเพาะจริง ๆ หรือ? จะทำได้อย่างไร?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไปอย่างไม่คิดสนใจ “ข้ามีวิธีของข้า เจ้าไปสนใจดูเฝ้ารอบ ๆ ก็พอ”
เย่หยวนค่อย ๆ นั่งทิ้งตัวลงพร้อมกางค่ายกลป้องกันออกมาในทันที
ผลึกมารดำหนึ่งก้อนนั้นปล่อยคลื่นพลังชั่วร้ายออกมาอย่างหนาแน่นและถูกเย่หยวนสูบมันเข้าร่างไป
ภาพนี้มันทำให้พวกหลงซุนทั้งหลายอ้าปากค้าง
พวกหลงซุนทั้งสามต้องเบิกตากว้างมองดูมันอย่างมึนงง
“เขากลืนพลังงานชั่วร้ายลงไปจริง ๆ! พระเจ้าช่วย แถมยังกลืนลงไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย! นี่เขาไม่กลัวว่าจะตัวแตกตายหรือ?” อ่าวหมิงร้องขึ้น
“ข้าได้ยินว่ามามนุษย์บางคนที่ใฝ่หาทางลัดในฝีมือนั้นจะใช้เต๋านอกรีดเพื่อพัฒนาตน หรือว่าเขาเองก็จะเป็นคนพวกนั้น?” หลงชิงถามขึ้น
ตุบ!
หลงซุนรีบตบหัวของหลงชิงจนแทบล้มคะมำ “เจ้าโง่! นายท่านมีปราณเทวะที่บริสุทธิ์ขนาดไหน? มีหรือที่เขาจะเป็นนักยุทธนอกรีดพวกนั้นได้? ที่สำคัญนายท่านนั้นยังมีปราณเทวะที่สุดแสนหนาแน่นกว่านักยุทธในระดับเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เจ้าตาบอดกันหรือ? มีเทพถ่องแท้ที่ไหนบ้างจะมีปราณได้มากและรุนแรงปานนี้?”
หลงชิงเองก็ได้แต่หันมามองด้วยใบหน้ามึนงง แต่พอลองนึกตามมันก็จริง
เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะที่บริสุทธิ์และหนาแน่นกว่าใคร ๆ ไม่มีทางจะเป็นนักยุทธนอกรีดพวกนั้นไปได้
แต่การบ่มเพาะเช่นนี้มันย่อมจะทำให้พวกเขาต้องตื่นตะลึงอยู่ดี
“แต่…แต่นี่มันจะประหลาดไปแล้ว! อย่าว่าแต่มนุษย์เลย! ต่อให้จะเป็นพวกเผ่าปีศาจเองก็คงไม่อาจจะกลืนพลังงานชั่วร้ายลงไปได้ตรง ๆ เช่นนี้แน่!” หลงชิงร้องบอก
หลงซุนพูดพร้อมมองดูเย่หยวนด้วยสีหน้าหลงใหล “นายท่านนั้นย่อมมิใช่คนธรรมดาแน่! คลื่นพลังงานชั่วร้ายนี้ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็เป็นแค่พลังงานรูปแบบหนึ่งของพิภพนี้ มารนรกทั้งหลายเองก็ยังเอามันมาใช้เพิ่มพลังของตนเองได้ หากพูดกันตามหลักการแล้วไม่ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์หรืออสูรทั้งหลายเองก็น่าจะทำได้เช่นกัน เพียงแค่ว่าวรยุทธบ่มเพาะธรรมดามันคงไม่มีทางกลั่นพลังงานจากมันได้ ดูท่าแล้ววรยุทธบ่มเพาะของนายท่านนี้คงเป็นอะไรที่เหนือล้ำกว่าพวกเราหลายเท่าตัว!”
หลงซุนนั้นเป็นคนที่รอบรู้ไม่น้อยจึงพอจะเดาเรื่องราวต่าง ๆ ได้
เมื่อคนทั้งสองได้ยินพวกเขาก็เริ่มพยักหน้าเข้าใจขึ้นมา แต่สายตาที่มองดูเย่หยวนนั้นมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากหวาดกลัวเป็นชื่นชมไป
คลื่นพลังชั่วร้ายที่พวกเขากลัวจนหัวหดอันนั้นเย่หยวนกลับเอามันมาใช้งานดั่งเป็นเรื่องปกติ
“ชิ ๆ เก่งกาจเกินไปจริง ๆ! ข้ารู้สึกได้เลยว่าพลังบ่มเพาะของนายท่านกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี่มันระดับเทพถ่องแท้แปดดาวมิใช่หรือ!” อ่าวหมิงร้องขึ้นมาอย่างชื่นชม
คนอื่น ๆ เองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
หลังจากผ่านไปได้หลายวันในที่สุดเย่หยวนก็หลอมกลั่นมาจนถึงผลึกสุดท้าย ทำให้พลังบ่มเพาะของเขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
หลงซุนทั้งหลายนั้นต่างรีบเข้าไปหาเย่หยวนทันทีหลังเขาลืมตาขึ้น “นายท่านช่างเก่งกาจจริง ๆ ถึงขั้นใช้ผลึกมารดำเป็นดั่งผลึกปราณเทวะได้! ซุนน้อยขอคารวะ!”
เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “เลิกพูดจาเลียแข้งเลียขาเสียที!”
“เอาล่ะ! นายท่าน ซุนน้อยตัดสินใจแล้วว่าจะติดตามท่านไป ท่านอย่าได้ทิ้งซุนน้อยนะ!” หลงซุนกล่าวขึ้นด้วยอย่างหน้าด้าน
ในถ้ำเนตรมังกรนี้มันจะมีสิ่งใดดีไปกว่าการได้เกาะยอดฝีมือเล่า?
เมื่อมียอดฝีมืออย่างเย่หยวนอยู่ด้วยแล้ว หากอีกฝ่ายไม่เป็นถึงเทพสวรรค์พวกเขาก็คงไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด
เท่านี้โอสถที่จะหาร่องมิติได้มันก็จะเพิ่มขึ้นมาก
เย่หยวนตอบกลับไป “เรื่องนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเจ้า”
…
เย่หยวนและคนทั้งสามนั้นเดินทางต่อมาอย่างไม่หยุดพักจนครึ่งเดือนให้หลัง พวกเขาก็มาถึงยังหุบเขาแห่งหนึ่งที่เป็นฐานของพวกหลงซุนทั้งหลาย
แต่ทว่าภายในฐานมันกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างกับว่าเพิ่งจะผ่านสงครามครั้งใหญ่มา
“พี่ซุน! พี่ซุนกลับมาแล้ว!”
ภายในป่าทึบที่ด้านข้างนั้นมีผู้คนหลายคนรีบพุ่งตัวออกมา
เมื่อหลงซุนเห็นใบหน้าของคนทั้งหลายนี้เขาก็เบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตระหนกทันที
“จะแหกปากไปทำไม? เอ๋? หลงฉุนเกิดอะไรขึ้นกัน?”
หลงซุนกำลังคิดจะด่าคนทั้งหลายให้ทำความเคารพเย่หยวนแต่กลับต้องหยุดปากลงเมื่อเห็นใบหน้าอาบเลือดของพวกหลงฉุนทั้งหลาย
เมื่อหลงฉุนเห็นหลงซุนตัวเขาก็รีบร้องไห้ออกมาทันที
“พี่ซุน หลายวันที่ท่านไม่อยู่นี้เราลำบากเหลือเกิน!” หลงฉุนร้องไห้ขึ้นมาด้วยน้ำตาอาบหน้า ดูท่าหลายวันที่หัวหน้าไม่อยู่นี้พวกเขาจะต้องประสบภัยไม่น้อย
หลงซุนขมวดคิ้วออกมา “หยุดร้อง! ค่อย ๆ พูดออกมา! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลงฉุนได้แต่เล่าออกมาทั้งน้ำตา “พี่ซุน มัน…มันล้วนเป็นฝีมือหลงจ้าวเทียน! มันบอกไว้ว่าให้เวลาท่านยอมมอบตัวสามเดือน! หากท่านไม่ยอมแล้วมันจะเผาทำลายฐานเราไม่ให้เรามีที่อยู่อีกต่อไป”
หลงซุนที่ได้ยินก็ร้องร่ำขึ้นอย่างไม่พอใจทันที “ไอ้เจ้าหลงจ้าวเทียน! ให้ตาย แมวไม่อยู่มันก็มาทำตัวเป็นหนูร่าเริง! พี่น้องตามข้ามาเถอะ ข้าจะไปจัดการสั่งสอนไอ้สารเลวนี้ให้รู้ซึ้ง!”
พูดไปหลงซุนก็เดินนำหน้าออกไปแต่กลับถูกหลงฉุนรั้งไว้
“พี่ซุน ท่านอย่าไป! หลงจ้าวเทียนมันมีกำลังเสริมเป็นถึงเทพสวรรค์! ตอนนี้พวกนั้นมีกำลังเหนือล้ำฟ้าดิน เราไม่อาจเทียบเคียงได้แน่! ตอนนี้ทางฐานของพวกมันก็เหมือนจะมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าแล้วด้วย!”
หลงซุนต้องหยุดตัวลงทันทีที่ได้ยินคำของหลงฉุน ดูท่าความรุ่มร้อนใด ๆ ของหลงซุนมันจะดับลงพร้อม ๆ กับข่าวนี้
“จ-เจ้าว่าอย่างไรนะ? เทพสวรรค์?” หลงซุนร้องถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ
แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนกลับพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย้ยเยาะ “แค่เทพสวรรค์ ดูสิว่าเจ้ากลัวคำนี้จนหน้าเสียแค่ไหน”
เมื่อหลงฉุนได้ยินคำของเย่หยวนเขาก็รีบพูดกราดขึ้นมา “เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาพูดกับพี่ซุนเช่นนี้?”
……………….