Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2167 เมื่อสองพยัคฆ์ปะทะ มันต้องมีฝ่ายหนึ่งตาย!
- Home
- Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ
- ตอนที่ 2167 เมื่อสองพยัคฆ์ปะทะ มันต้องมีฝ่ายหนึ่งตาย!
เมื่อผลึกต้นมังกรนี้เข้าสู่ร่างกายเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงเข้ามาจนต้องสูดหายใจเข้าลึก
จากนั้นพลังงานต้นกำเนิดมังกรมันก็ค่อยๆ ไหลรวมเข้ากับเส้นชีพจรของเขา
เวลานี้ทั้งกายเนื้อและสายเลือดของเย่หยวนมันต่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขานั้นสัมผัสได้ว่าร่างกายของตนกำลังพัฒนาขึ้นไปทีละน้อยๆ
แต่ว่าพลังจากเจ้าผลึกต้นมังกรนี้มันกลับมีส่วนหนึ่งที่ถูกดูดไหลลงไปสู่ปราณเทวะและจิตศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ตั้งแต่ที่เย่หยวนบรรลุขึ้นอาณาจักรพิภพโกลาหลมานี้ เย่หยวนก็ได้รู้ว่าไม่ว่ามันจะเป็นพลังงานใดแต่เมื่อเขาดูดซับมันเข้าร่างไป พลังวิญญาณนั้นมันจะถูกแบ่งออกเป็นสามสาย
หรือก็คือไม่ว่าเขาจะบ่มเพาะอย่างไร สุดท้ายแล้วมันก็จะเป็นการพัฒนาปราณ กายและจิตขึ้นไปพร้อมๆ กันอย่างไม่อาจควบคุม!
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพลังของเย่หยวนมันย่อมจะหนักแน่นขึ้นในทุกด้าน
แต่แน่นอนว่าข้อเสียก็คือการบ่มเพาะของเขามันจะช้าลงเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าเจ้าพลังงานต้นกำเนิดมังกรนี้มันกลับถูกส่งเข้าไปพัฒนาอีกสิ่งหนึ่งในกายเย่หยวน
เวลานี้เย่หยวนสัมผัสได้ชัดเจนว่ามีคลื่นพลังอบอุ่นไหลเข้าไปที่หว่างคิ้วของเขายังตำแหน่งของตรามังกรสวรรค์ก่อนที่มันจะค่อยๆ ไหลลงไปทั่วร่างอีกครั้ง
มันจึงทำให้พลังสายเลือดมังกรของเขานั้นบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น!
เว้นเสียแต่ว่าแม้จะดูดซับผลึกต้นมังกรไปถึงหกชิ้นแล้วแต่เย่หยวนก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ว่าตรามังกรสวรรค์นี้จะตื่นขึ้นใดๆ จนต้องรู้สึกผิดหวัง
“พลังสายเลือดเพิ่มพูนขึ้นร้อยละยี่สิบ วรยุทธเผ่ามังกรเองก็พัฒนาขึ้นไปอีกร้อยละยี่สิบ! เจ้าผลึกต้นมังกรนี้มันเป็นของดีเสียจริง!” เย่หยวนร้องกล่าว
เพราะเมื่อก้าวขึ้นมาถึงระดับของเขานี้การจะพัฒนาสายเลือดใดๆ ขึ้นไปมันย่อมเป็นเรื่องสุดแสนยากเย็น
แต่เจ้าผลึกต้นมังกรไม่กี่ชิ้นนี้มันกลับเพิ่มพลังสายเลือดขึ้นไปได้ราวร้อยละยี่สิบ สมชื่อว่าเป็นยอดสมบัติของเผ่าพันธุ์
แต่เย่หยวนเองก็สัมผัสได้ว่าผลของผลึกต้นมังกรมันค่อยๆ ลดจางลงไป
ที่สำคัญความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในทีแรกมันกลับมีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่มีลดตาม
เย่หยวนคาดเดาว่าเขาคงต้องดูดซับพลังของมันเข้าไปอีกระดับหนึ่งก่อนที่มันจะถึงจุดอิ่มตัว
หลังจากลุกขึ้นได้เย่หยวนก็ไม่คิดรอช้าใดๆ รีบเดินหน้าออกตามหาผลึกต้นมังกรต่อไป
ของเช่นนี้ยิ่งมีมากมันยิ่งจะดีกว่า
ไม่นานนักเขาก็ได้ใช้ตรามังกรสวรรค์ออกตามหาผลึกต้นมังกรจนเจออีกชิ้น
แต่ทว่าเวลานี้เองทายาทมังกรสวรรค์อีกผู้หนึ่งก็ได้เจอมันเข้าเช่นกัน
“เย่หยวน!” อีกฝ่ายหนึ่งร้องขึ้นอย่างตกใจ
เย่หยวนนั้นได้เห็นมาก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร เขาคนนี้ก็คืออ่าวหยูนั่นเอง
อ่าวหยูยิ้มเย้ยออกมา “ศัตรูกันมันย่อมไม่อาจหลบกันพ้น! ว่าอย่างไรเล่า? เจ้าพอรู้ตัวบ้างหรือยัง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “รู้ตัว? เรื่องใดเล่า?”
อ่าวหยูได้แต่ส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยินก่อนจะใช้สายตาเย้ยหยันมองดูเย่หยวน “ช่างไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ ว่าความมั่นใจของเจ้านี้มันมาจากที่ใด กล้ามาทำตัวอาจหาญต่อหน้าข้าในเวลานี้ได้! เจ้าคงไม่รู้สินะ? ก่อนหน้านี้ข้าได้ไปเจอกับหลงฉีแห่งปราการมังกรเมฆาและจัดการเอาชนะมันลงได้อย่างไม่ยากเย็น!”
หลงฉีนั้นเป็นตัวตนที่อาจขึ้นถึงอันดับหนึ่งในสามได้ เวลานี้เขาผู้นั้นกลับแพ้พ่ายให้แก่อ่าวหยู
แค่นี้มันก็มากพอจะเป็นหลักฐานแล้วว่าฝีมือของอ่าวหยูมันพัฒนาไปมากเท่าใด
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเย่หยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและถามกลับ “อ่า? แล้ว?”
คำพูดไร้อารมณ์ของเย่หยวนนี้มันทำให้อ่าวหยูไม่พอใจ กระตุ้นความโกรธแค้นของเขาขึ้นอย่างมาก
ที่ด้านนอกนั้นเมื่ออ่าวฉีได้เห็นคนทั้งสองเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาอย่างหมดหวัง
อย่างที่เขาว่าโลกมันกลม สุดท้ายคนทั้งสองนี้ก็มาเจอกันจนได้!
ก่อนหน้านี้ที่ด้านนอกนั้นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้เห็นเรื่องราวสุดตื่นตะลึงกับตา
อ่าวหยูที่เดิมทีไม่มีใครคิดสนใจนี้กลับเอาชนะอ่าวฉีผู้ถูกวางไว้ว่าเป็นตัวเต็งหนึ่งในสาม
ผลลัพธ์นี้มันย่อมทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
เดิมทีไม่มีใครคิดสนใจอ่าวหยู แต่เวลานี้เมื่อเขาเข้าไปยังลานศึกหมอกแล้วเขากลับเหมือนดั่งได้บรรลุฟ้า ได้รับผลึกต้นมังกรมาอย่างไม่ขาดมือ
สุดท้ายตรามังกรสวรรค์ของเขาจึงตื่นขึ้นได้ถึงสองครั้งและยังสามารถปลุกทักษะเทวะภายในที่สองออกมา แม้แต่หลงฉีเองก็ไม่อาจจะเทียบเคียงเขาได้
หลงจื่อเฟิงที่กำลังเสียหน้าเมื่อได้เห็นภาพนี้ก็อดไม่ได้ที่จะร้องเย้ยขึ้น “ดูท่าคนทั้งสองนี้จะไม่ถูกกัน มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว! ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเย่หยวนจอมโอหังจะเก่งกาจกว่าหรืออ่าวหยูที่ปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นมาได้จะเก่งกาจกว่า! เมื่อสองพยัคฑ์ปะทะมันย่อมจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องเจ็บตัว! หึๆ”
แต่อ่าวฉีนั้นกลับถอนหายใจยาวตอบกลับไป “มันมิใช่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บตัว มันเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายลง!”
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้ยินต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมองดูอ่าวฉีอย่างมึนงง
เดิมทีมันเป็นทีของปราการมังกรม่วงที่จะอวดได้หน้า ไม่มีใครนึกใครฝันว่ามันจะกลับกลายเป็นศึกเป็นตายของพวกเขาขึ้น
การเอาชีวิตกันนั้นมันไม่ได้ถูกห้ามใดๆ ในลานศึกหมอก แต่หากไม่ได้มีความแค้นโกรธเคืองใดๆ กันมามากมายจริงๆ แล้วมันก็ย่อมจะไม่ถึงขั้นเอาชีวิตกัน
ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วแค่ต่อสู้กันจนมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดสติถูกถอดออกจากลานศึกหมอกก็ถือเป็นจบเรื่องราว
แต่เวลานี้สองยอดคนนี้กลับจะมาเอาชีวิตกัน แน่นอนว่ามันย่อมทำให้คนทั้งหลายมึนงงสงสัย
จนมีเสียงหนึ่งถามขึ้นมา “อ่าวฉี เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่า?”
อ่าวฉีถอนหายใจยาวอีกครั้งก่อนจะเล่าเรื่องราวความขัดแย้งของคนทั้งสองให้แก่ทุกผู้คนฟังจนต้องอ้าปากค้าง
เจ้าเย่หยวนคนนี้มันช่างก่อเรื่องได้เก่งกาจถึงขั้นฆ่าสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงได้!
แต่เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายต้องยิ้มขึ้นที่มุมปาก
ฝ่ายเดียวกันฆ่าสังหารกันเอง พวกเขาที่เหลือนั้นมีแต่จะได้กับได้
“หึ เย่หยวนคนนี้มันก็ช่างโอหังเสียจริงๆ มันคงไม่นึกว่าอ่าวหยูนั้นจะปลุกตรามังกรสวรรค์ขึ้นได้ถึงสองครั้งใช่หรือไม่เล่า? ต่อให้มันจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดแต่ก็คงไม่อาจใช้แค่วรยุทธต่อสู้มาต้านทานอ่าวหยูได้แน่!” หลงจื่อเฟิงร้องขึ้นพร้อมหัวเราะลั่น
แต่ในใจของเขานั้นอยากจะให้ทั้งสองนี้มีฝีมือเท่าเทียมจนทำร้ายกันบาดเจ็บสาหัสและต้องถอนตัวจากลานศึกหมอกไปทั้งคู่!
แต่คำพูดที่กล่าวนี้มันย่อมทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องพยักหน้าตาม
หลงเทียนยู่นั้นกล่าวขึ้น “หลังจากปลุกตรามังกรสวรรค์ได้สองครั้งแล้วไม่ว่าจะเป็นพลังสายเลือดหรือวิชาทักษะเทวะภายในใดๆ มันก็ย่อมจะมีพลังมากขึ้นเป็นเท่าตัว เย่หยวนนั้นยังไม่อาจปลุกมันขึ้นมาได้แม้สักครั้ง แน่นอนว่าย่อมจะไม่อาจใช้ทักษะเทวะภายในใดและย่อมจะไม่มีโอกาสชนะได้!”
เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้ยินนางก็สวนกลับมาทันที “พวกเจ้ารอดูเถอะ เย่หยวนจะชนะแน่!”
เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาต่างก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้
การต่อสู้นั้นมันจะวัดผลกันที่ความรู้สึกไม่ได้
กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดนั้นเก่งกาจจริง แต่เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายเองก็ไม่มีใครจะธรรมดา
หากวัดกันแค่ที่พลังกายเนื้อแล้ว พวกเขาเองก็ย่อมจะเข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบได้
แม้ว่าสุดท้ายมันจะยังมีช่องว่างอยู่มาก แต่มันก็ไม่ได้ห่างชั้นจนถึงขั้นไม่อาจใช้สิ่งใดมาทดแทน
การตื่นที่สองและทักษะเทวะภายในที่สองมันย่อมจะลบช่องว่างนั้นไปได้!
ยังไม่ต้องพูดถึงพลังที่อ่าวหยูนั้นใช้ออกมาต่อสายตาของคนทั้งหลายเมื่อก่อนหน้า
หลงฉีนั้นใช้ทักษะเทวะภายในที่สองของตนออกมาแต่สุดท้ายก็ยังแพ้ให้อ่าวหยู
เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายนี้จึงไม่ได้คิดว่าเย่หยวนจะชนะใดๆ ได้
“หึ! เจ้าโง่ ไม่ได้เข้าใจเลยสินะว่าเรื่องที่ข้าจัดการหลงฉีลงมันยิ่งใหญ่ปานใด! ข้านั้นตื่นครั้งที่สองขึ้นได้และยังปลุกทักษะเทวะภายในที่สองขึ้นได้ด้วย ต่อให้เจ้าจะมีฝีมือเก่งกาจปานใดเจ้าก็ไม่อาจรอดชีวิตไปได้!” อ่าวหยูร้องตะโกนลั่น
เย่หยวนจึงยิ้มน้อยๆ ตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็แสดงฝีมืออันสุดแสนวิเศษของเจ้าออกมาเถอะ อย่าให้ข้าผิดหวังนักเล่า”
อ่าวหยูหรี่ตาลองมองพร้อมปล่อยคลื่นพลังกายออกมาอย่างร้อนแรง
เวลานี้เงาร่างมังกรยักษ์ใหญ่มันได้ก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา!
พิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย!
แต่ทว่าพิฆาตมังกรทรราชเลือนหายที่อ่าวหยูใช้ออกมานี้มันกลับดูเหนือล้ำกว่าของหลงเจิงไประดับหนึ่ง
เพราะภาพร่างของมังกรฟ้านั้นมันแสดงออกมาได้ชัดเจนกว่า
นี่คือพลังของการตื่นที่สอง!
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังหนักหน่วงรุนแรงนั้นมุมปากของเย่หยวนก็ต้องเผยอมยิ้ม “น่าสนใจ! คงทำให้ข้าแสดงฝีมือออกมาได้บ้าง!”
จากนั้นเย่หยวนก็วาดสองฝ่ามือขึ้นเป็นวงส่งร่างมังกรยักษ์ใหญ่ออกมาบ้าง
กรงเล็บมังกรเอกภพกระบวนที่สาม ฝ่ามือล้ำจักรวาล!
ปัง!
มิติสั่นไหวขึ้นพร้อมการแตกสลายของพิฆาตมังกรทรราชเลือนหาย แต่พลังของฝ่ามือล้ำจักรวาลนั้นไม่ได้หยุดลงใดๆ และพุ่งเข้าใส่ร่างของอ่าวหยูอย่างรุนแรง
……………….