Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2184 พลังของมารนรก!
“เจ้า… เจ้าหมอนี่มันกลับดูดกลืนพลังชั่วร้ายไป!”
“เขากลืนมันลงไปมากมายปานนั้นแต่กลับไม่ตัวแตกตายไป!”
“หรือว่าร่างกายของเขานี้จะถูกหลอมสร้างมาจากเหล็กกล้า?”
…
ภายใต้สายตาของทุกผู้คนเย่หยวนได้นำพาหลินฉางชิงเดินเข้าไปภายในถ้ำนิลเพลิง
ที่สำคัญคือท่าทางนั้นมันดั่งกับเขากำลังเข้าไปเดินเล่น
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยตาแทบถลนออกจาเบ้า
คลื่นพลังชั่วร้ายนั้นดุร้ายรุนแรงเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพูดถึงการดูดกลืนลงไปตรงๆ อย่างเย่หยวนนี้ หากเป็นคนปกติธรรมดาแล้วแค่ถูกเศษเสี้ยวของพลังนี้เข้ามาแฝงในกายมันก็มากพอจะทำให้เสียสติ
เมื่อเจิ้งหยูเฟิงเห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เขานั้นหันไปมองที่หลี่เยว่อีกครั้งพร้อมหัวเราะขึ้นเบาๆ “พี่หลี่เยว่ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?”
หลี่เยว่สะดุ้งตัวขึ้นทันทีก่อนจะรีบหันหน้าหนีอย่างอับอาย “หา? อ่า ป-เปล่า! ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย!”
เขานั้นกล่าวออกมาอย่างหนักแน่นราวกับกลัวว่าคนทั้งหลายจะไม่ปล่อยมันผ่านไปง่ายๆ
และในตอนนั้นเองที่มีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นมา “เรื่องราวครั้งนี้จะชักช้าไม่ได้ เรารีบมาวางแผนหาวิธีรับมือคลื่นพลังชั่วร้ายและเข้าไปในถ้ำนิลเพลิงเถอะ!”
ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างพยักหน้ารับอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ด้วยพลังของเจ็ดค่ายสำนักนี้แน่นอนว่าเทพสวรรค์ที่มามันย่อมจะมีมากกว่าสี่สิบคน
กองกำลังเช่นนี้มันจะเหนือล้ำฟ้าดินปานใด?
ทุกผู้คนนั้นต่างร่วมมือกันวางค่ายกลเพื่อป้องกันคลื่นพลั่งชั่วร้าย
หลังจากตกลงพูดคุยจัดตำแหน่งกันอยู่อีกเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดการวางค่ายกลมันก็เสร็จสมบูรณ์
จากนั้นเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็เริ่มเดินทางเข้าไปยังถ้ำนิลเพลิง
เมื่อเข้ามาถึงภายในถ้ำนิลเพลิงภาพที่แตกต่างจากภายนอกราวกับเป็นคนละภพภูมิก็ปรากฏต่อสายตาคนทั้งหลาย
เพราะที่แห่งนี้มันมีหมอกดำสนิทลอยปนในอากาศพร้อมด้วยความมืดมิดไร้แสงใดๆ เป็นภาพที่สุดแสนน่าหวาดกลัว
หลี่เยว่และคนทั้งหลายย่อมจะไม่เคยพบเจอสถานที่เช่นนี้มาก่อน
“ที่นี่มันคือที่แห่งใดกันแน่?” หลี่เยว่ร้องกล่าวขึ้น
เจิ้งหยูเฟิงเองก็กล่าวขึ้นตาม “เรื่องนั้นข้าก็ไม่ทราบได้ แต่… มันย่อมจะมิใช่ที่ดีงามใดๆ แน่ ทุกคนระวังด้วย!”
“ที่แห่งนี้มันคือโลกของมารนรก!”
ในเวลานั้นเองที่เกิดเสียงหนึ่งดังตอบขึ้นมาจากภายนอกค่ายกล ก่อนจะปรากฏสองเงาร่างเดินมา แน่นอนว่ามันคือพวกเย่หยวนทั้งสองที่เข้ามาก่อน
ที่ด้านหลังของเย่หยวนนั้นมีหลินฉางชิงที่จ้องมองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
“มารนรก? มันคือสิ่งใดกัน?” หลี่เยว่ถามขึ้น
เทพสวรรค์คนอื่นๆ เองก็ย่อมจะไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ดูท่าพวกเขาเองก็คงไม่รู้จักมารนรกใดๆ
เย่หยวนจึงตอบกลับไปอย่างสั้นๆ “มันเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งดุร้าย อย่างไรเสียพวกเจ้าทุกคนก็อย่างได้ประมาท”
หลี่เยว่จึงตอบกลับมาอย่างไม่คิดสนใจ “เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งดุร้าย? หึๆ มันจะเก่งกาจสักเท่าใด? มหาพิภพถงเทียนนี้มีมนุษย์เราเป็นผู้ครอบครอง! ต่อให้จะเป็นเผ่าอสูรหรือเผ่าปีศาจเองก็ไม่อาจจะเทียบเคียงเราได้!”
เทพสวรรค์อีกคนจึงได้กล่าวเสริมขึ้น “หึๆ น้องชาย เจ้าเองก็พูดให้เราตื่นตกใจเล่นแล้ว! วันนี้มีเทพสวรรค์ขั้นกลางมาตั้งมากมายปานใด ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ขั้นปลายเองพวกเราก็คงพอรับมือได้ จะมีสิ่งใดให้กลัว?”
ในฐานะเทพสวรรค์แล้วพวกเขาทุกคนต่างภาคภูมิในพลังของตน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพวกเขาทั้งหลายนี้ต่างเป็นยอดคนจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ ต่างมีไม้ตายไม่ซ้ำกันมากมาย มีหรือที่จะเกรงกลัวมารนรกใด?
คำพูดของเย่หยวนนี้คนทั้งหลายไม่ได้คิดสนใจแม้แต่น้อย
คำพูดของหลี่เยว่นี้มันแสดงความคิดของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้อย่างชัดเจน
มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าที่แห่งนี้อันตราย เพียงแค่ว่าพวกเขานั้นมั่นใจในพลังของตนเองจนเหลือล้น
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียคนที่เคยมาถึงก่อนหน้ามันก็ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ระดับเทพสวรรค์ขั้นต้น ที่สำคัญยังมีจำนวนกันแค่ไม่กี่คน
“เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ!” เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดต่อว่าหรือยอมรับใดๆ แค่เดินนำคนทั้งหลายเข้าไปภายใน
หลี่เยว่นั้นได้แต่ยิ้มขึ้นมา “เป็นเด็กที่โอหังจริงๆ!”
เหล่าคนทั้งหลายนั้นก้าวเดินเข้าไปจนถึงด้านใน แต่ระหว่างทางนั้นสีหน้าของคนทั้งหลายมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีไป
เพราะระหว่างทางมามันมีศพของสัตว์ประหลาดสีดำสนิทนอนตายอยู่ตามพื้นมากมาย
คลื่นพลังของเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหลายนี้ต่างสุดจะแข็งแกร่ง แม้ว่าส่วนมากจะเป็นเทพถ่องแท้แต่มันก็มีหลายตัวที่มีพลังระดับเทพสวรรค์
และดูจากสภาพของศพแล้วมันคงเพิ่งตายได้ไม่นาน แต่พวกมันทั้งหลายกลับมีสภาพคล้ายคลึงกัน
เพราะทุกตัวนั้นจะมีรูใหญ่เปิดขึ้นที่กลางหัว!
เช่นนั้นแล้วใครกันเล่าจะสังหารพวกมันลง?
ไม่ต้องถาม!
ทุกผู้คนต่างหันไปมองดูเย่หยวนตามๆ กัน
นอกจากเจ้าหมอนี่แล้วจะยังมีใคร?
แต่เรื่องนี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายตื่นตะลึงไม่น้อย ในเวลาแค่สองชั่วโมงนี้เจ้าเด็กคนนี้มันกลับฆ่าสังหารมารนรกลงไปได้มากมายปานนี้?
แต่หลี่เยว่นั้นก็ยิ้มกล่าวขึ้นมา “เทพสวรรค์สองดาวก็ฆ่าพวกมันได้มากมายปานนี้ มีหรือที่เจ้าสัตว์ประหลาดทั้งหลายนี้มันจะแข็งแกร่งใดๆ? หึๆ เจ้าเด็กคนนี้มันคงคิดอวดอ้างฝีมือตนเองจึงได้กล่าวบอกว่าพวกมันนั้นเก่งกาจล้ำ! ที่แท้มันก็เท่านั้นแหละ!”
เทพสวรรค์อีกคนจึงได้พยักหน้ารับ “ฆ่าสังหารไปตั้งมากมายปานนี้ พลังของเหล่าสัตว์ประหลาดทั้งหลายนี้มันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกับมนุษย์ในระดับเดียวกันได้ด้วยซ้ำ แต่จะอย่างไรพวกมันก็มีจำนวนมาก เราควรระวังตัวไว้ก่อน”
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายพยักหน้ารับเพราะจำนวนแค่ที่ดูจากศพนั้นมันก็มีมากมายจริงๆ
แค่เห็นเท่านี้พวกเขาก็รู้ว่าเย่หยวนมีฝีมือไม่น้อย เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครคิดจะยอมรับออกมาจากปากก็เท่านั้น
หลินฉางชิงนั้นได้แต่พยายามจะเปิดปากขึ้นพูดแต่สุดท้ายก็ไม่กล้าจะกล่าวออก
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดสนใจความคิดใดๆ ของคนทั้งหลายนี้ เวลานี้สมาธิทั้งหมดของเขามันอยู่ที่สภาพแวดล้อมทั้งหลาย
เพราะตัวเขานั้นกำลังตามหาสถานที่ที่จั่วหยวนจือพลัดจากกับลี่เอ๋อ
หลังจากเดินทางเข้ามาได้ราวหนึ่งชั่วโมง ศพที่นอนตายอยู่ตามพื้นมันก็ค่อยๆ มีให้เห็นน้อยลง
ดูท่าแล้วที่นี่คงเป็นสุดทางที่เย่หยวนมาดูลาดเลาให้ก่อนได้
เย่หยวนนั้นเริ่มตั้งสติเตรียมรับมือการต่อสู้ เพราะแม้เหล่ามารนรกจากชั้นนอกๆ จะไม่ได้เก่งกาจมากมายแต่ยิ่งเข้ามาลึกพวกมันก็จะยิ่งเก่งกาจแข็งแกร่งขึ้น
“โฮ่ก!”
จนในที่สุดมันก็เกิดเสียงร้องดังขึ้นพร้อมเงาร่างที่พุ่งเข้ามาหาเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลาย
เหล่ามารนรกทั้งหลายนี้มันสุดแสนดุดัน พลังสุดแข็งแกร่ง ทั้งยังมีระดับเทพสวรรค์สามดาวอยู่ในฝูงไม่น้อย
หลี่เยว่ที่ได้เห็นก็หัวเราะขึ้นอย่างไม่คิดสนใจ “ขยะ! กำลังแค่นี้ก็คิดจะมาท้าทายพวกเราหรือ? รนหาที่ตายจริงๆ! เจ้าสัตว์โง่!”
พูดจบเขาก็ชี้นิ้วออกมาปล่อยกระแสลมรุนแรงหนักหน่วงพุ่งเข้าใส่เจ้ามารนรกรูปร่างเหมือนเสือ
ปัง!
เจ้ามารนรกนั้นต้องร้องออกมาด้วยเสียงแปลกๆ ก่อนจะกลิ้งตัวไปบนพื้นอีกหลายทีก่อนจะวิ่งหนีหายไป
ดูท่าแล้วมันคงเข้าใจความแตกต่างของพลังระหว่างตัวมันกับหลี่เยว่
แต่ทางหลี่เยว่นั้นกลับต้องอ้าปากค้าง
เพราะตัวเขานั้นเป็นถึงเทพสวรรค์หกดาว ดัชนีที่ปล่อยออกไปนี้ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์สี่ดาวก็คงไม่อาจรอดไปได้ง่ายๆ!
แต่เจ้ามารนรกตัวนี้มันกลับกลิ้งตัววิ่งหลบหนีไปได้เสียอย่างนั้น
เจ้ามารนรกทั้งหลายมันเก่งกาจปานนั้น?
เมื่อเขาหันไปมองเหล่าเทพสวรรค์คนอื่นๆ อีกครั้งพวกเขาก็ได้เห็นว่าเวลานี้เหล่าเทพสวรรค์สี่ดาวทั้งหลายกำลังรับมือเหล่ามารนรกระดับเทพสวรรค์สามดาวอย่างยากลำบาก!
เรื่องนี้ทำให้ใจของหลี่เยว่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
พร้อมๆ กับนั้นความหวาดกลัวมันก็เริ่มเข้าครอบงำจิตใจคนทั้งหลาย
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รับรู้ถึงพลังที่แท้ของเหล่ามารนรก!
มีหรือที่เทพสวรรค์สามดาวจะรับมือกับเทพสวรรค์สี่ดาวได้?
แต่เหล่ามารนรกทั้งหลายนี้มันกลับต่อสู้ข้ามระดับได้!
พวกมันสามารถต่อสู้ข้ามระดับในอาณาจักรเทพสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าคนทั้งหลายในที่นี้เองต่างล้วนเป็นหัวกะทิทั้งสิ้น
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องใจหาย!
“ตาย!” เมื่อเหล่าผู้นำกลุ่มทั้งหลายได้เห็นพวกเขาก็รีบเข้าไปลงมือช่วยเหลือทันที
ด้วยพลังของเทพสวรรค์ห้าดาวและเทพสวรรค์หกดาว เหล่ามารนรกทั้งหลายมันย่อมจะไม่อาจต้านทานได้อีก
พริบตาเดียวเหล่ามารนรกทั้งหลายก็เริ่มล้มตายลงตามๆ กัน
แต่สีหน้าของเหล่าเทพสวรรค์ผู้เอาชนะศึกมาได้นี้กลับขาวซีดลง
ในเวลานี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องหันไปมองที่เย่หยวนอีกครั้งพร้อมสูดหายใจเข้าลึก!
…………………