Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2253 ราคาของความโลภคือความตาย!
เมื่อมายืนอยู่ถึงตีนเขาแปดโมฆะเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่หนักหน่วงในจิตใจ
ภาพตรงหน้าของเขานี้มันทำให้จิตใจของเขารู้สึกปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก
การว่างค่ายกลพลังปิดกั้นที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ได้ถึงปานนี้มันย่อมจะแสดงถึงฝีมือของผู้สร้างมันขึ้นได้อย่างดี
เวลานี้ทั้งเทือกเขาแปดโมฆะมันโอบล้อมไปด้วยค่ายกลปิดกั้นอย่างต่อเนื่องไม่มีค่ายกลใดขาดจากกัน!
ที่แห่งนี้มันเหมือนเส้นแบ่งเขตโลกตามธรรมชาติกั้นระหว่างแดนกลางและแดนตะวันตกไว้ด้วยแม่น้ำและหุบเขายิ่งใหญ่
พื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้มันกลับถูกสร้างค่ายกลปิดทับไว้ด้วยฝีมือของคนเพียงผู้เดียว!
คนผู้นั้นจะต้องมีเต๋าค่ายกลที่ลึกล้ำถึงขั้นใดกัน?
เย่หยวนไม่อาจคาดเดาได้เลย!
เวลาหกสิบปีที่เรียนรู้ค่ายกลต่างๆ นาๆ มานี้เย่หยวนเคยคิดว่าตัวเองเข้าใจถึงแก่นแท้ของเต๋าค่ายกลไปไม่น้อย
แต่ค่ายกลปิดกั้นของเทือกเขาแปดโมฆะนี้มันเหนือล้ำจนเขาไม่อาจจะบรรยายได้!
มหาค่ายกลที่ปิดล้อมเขาแปดโมฆะนี้ไว้มันกินพื้นที่กว่าแปดสิบล้านกิโลเมตรและยังหลอมรวมเข้ากับตัวเทือกเขาแปดโมฆะจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
การคิดทำลายค่ายกลปิดกั้นนี้ด้วยพลังตรงๆ มันก็เหมือนกับการเอากำปั้นทุบแผ่นดิน แถมยังจะตายลงได้ง่ายๆ!
เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายจึงต้องศึกษารูปแบบค่ายกลในแต่ละจุดก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นเขาไปได้
การรีบร้อนเดินขึ้นเขาไปนั้นมันก็เหมือนดั่งการรนหาที่ตาย
มหาค่ายกลที่กินพื้นที่กว่าแปดสิบล้านกิโลเมตรนี้ แค่คิดว่าต้องใช้เวลาเท่าใดกว่าจะศึกษาได้หมดก็หมดแรงทำการใดๆ แล้ว
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้จากก้นบึ้งของหัวใจว่านี่มันมิใช่สิ่งที่ผู้คนจะสร้างขึ้นได้เลย!
เมื่อลองมองดูดีๆ แล้วเขาก็ได้เห็นว่าค่ายกลนี้เองมันก็ถูกสร้างขึ้นตามหลักการ ก่อร่างขึ้นมาจากค่ายกลน้อยๆ หลายต่อหลายค่ายกลซ้อนกันไป
แต่ค่ายกลน้อยทั้งหลายนี้มันเชื่อมต่อกันสิ้นจนทำให้ค่ายกลนี้เหมือนเป็นตัวตนแค่ตัวตนเดียว ยิ่งใหญ่มหาศาล
วิธีการเช่นนี้มันเหนือล้ำกว่าที่เย่หยวนเคยใช้ไปอย่างมากมายมหาศาลอย่างไม่อาจเอามาเทียบกันได้!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียการตั้งค่ายกลเชื่อมต่อขนาดเล็กๆ มันก็มิใช่เรื่องยากเย็นใดๆ การคำนวณที่ต้องคิดเองก็มีแต่ไม่กี่จุด
แต่หากขนาดของค่ายกลเชื่อมต่อมันใหญ่ขึ้นมาความยากและจุดที่ต้องคำนวณมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณจนไม่อาจบอกได้ด้วยซ้ำว่ามันยากกว่ากันกี่เท่า
หากให้พูดถึงค่ายกลเชื่อมต่อขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่าแปดสิบล้านกิโลเมตรนี้แล้ว มันย่อมจะมีความยากซับซ้อนจนเกินกว่าที่สมองของผู้คนจะคิดคำนวณได้
ระดับที่ได้เห็นตรงหน้านี้เย่หยวนไม่อาจจะจินตนาการถึงมันได้เลย!
ในวินาทีนี้เย่หยวนได้เข้าใจถึงคำว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้าอย่างลึกซึ้งสุดใจ
เย่หยวนนั้นรู้สึกว่าผลงานของเทือกเขาแปดโมฆะนี้มันคงเป็นสุดยอดค่ายกลที่อยู่ในจุดสูงที่สุดของมหาพิภพถงเทียนแล้ว!
“เย่หยวน เจ้ามั่นใจหรือไม่?” เมื่อได้เห็นคลื่นพลังซับซ้อนตรงหน้านี้แม้แต่ตัวเจียนซือก็ไม่อาจควบคุมความกังวลไว้ได้
เพราะที่แห่งนี้มันได้ทำให้ยอดฝีมือมากมายหลายต่อหลายคนตายไปลงในอดีต
ต่อให้จะเป็นปรมาจารย์เต๋าค่ายกลทั้งหลายเอง แต่หากประมาทเพียงนิดชีวิตก็คงหาไม่
“มันยังมีทางอื่นให้เราไปอีกหรือ?” เย่หยวนตอบกลับถามมาด้วยคำถาม
เจียงซือได้แต่ต้องส่ายหัวออกมาอย่างสิ้นแรง
“เด็กน้อย ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะหนีไปได้ถึงที่ใด!”
ตอนนั้นเองที่เกิดคลื่นพลังสามสายพร้อมด้วยเสียงดังสนั่นฟ้าดิน เวลานี้พวกซุ่ยหยวนทั้งสามตามมาใกล้ถึงเต็มทีแล้ว
“ไปกัน!”
เย่หยวนไม่คิดลังเลใดๆ รีบมุ่งหน้าขึ้นเขาไปทันที
ซุ่ยหยวนทั้งสามคนนั้นต่างดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือทั้งหลายในที่นี้พร้อมๆ กัน
หากไม่พูดถึงค่ายกลปิดกั้นที่รุนแรงล้ำฟ้าดินนี้แล้วสภาพของเทือกเขาแปดโมฆะนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างจากเทือกเขาทั่วๆ ที่ไปมีหญ้าทึบป่าเขียวตามธรรมชาติ
แน่นอนว่าภายในนี้เองมันก็มีสมบัติล้ำค่ามากมายด้วย
เพราะตำนานว่ากันไว้ว่ามียอดฝีมือมากมายถูกสังหารลงในที่แห่งนี้ทำให้สมบัติติดตัวของพวกเขาเองก็จมฝังอยู่ในเขา
เพราะฉะนั้นมันจึงมีคนมากมายคิดปีนขึ้นเทือกเขานี้
“สองเทพสวรรค์พร้อมคนพิการอีกคนกลับไปหาเรื่องเจ้าฟ้าดินมา? นี่พวกมันบ้าไปแล้วหรือ?”
“ดูเหมือนว่าพวกมันนั้นจะคิดหลบซ่อนจากเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลาย จึงได้หนีมายังที่แห่งนี้”
“หึๆ ถ้าเราช่วยจัดการมันให้เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายจะตกรางวัลให้หรือไม่กันนะ?”
…
ขณะที่ผู้คนทั้งหลายกำลังพูดคุยกันไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานก็กล่าวขึ้นมาจากระยะไกล “ใครก็ตามที่ถ่วงเวลาเจ้าเด็กนั่นไว้ได้เจ้าฟ้าดินผู้นี้จะมอบสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดให้! เป็นหรือตายก็ได้!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายก็ย่อมจะเบิกตากว้างด้วยความโลภ
“ฮ่าๆๆ เจ้าหนุ่ม อยากคิดโทษใครก็ไปโทษตัวเองที่ไปหาเรื่องเหล่าเจ้าฟ้าดินเถอะ!”
ในเวลานั้นเองมันก็มีจอมเทพค่ายกลผู้หนึ่งหัวเราะลั่นพุ่งตัวเข้ามาใส่เย่หยวน!
เขาคนนี้เป็นถึงเทพสวรรค์ขั้นสุดและยังเป็นจอมเทพค่ายกลเจ็ดดาวด้วย
ค่ายกลทั้งหลายที่ตีนเขานี้เขาได้ศึกษามันจนสิ้นแล้ว จึงไม่ได้กลัวว่าจะถูกพลังของค่ายกลปิดกั้นโจมตีใดๆ
เย่หยวนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินก่อนจะดีดนิ้วขึ้น พร้อมส่งลำแสงปราณเทวะพุ่งทะลวงร่างของคนผู้นั้นลง
วินาทีต่อมาร่างของเขาก็ลุกเป็นไฟเผาไหม้จนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
ทุกผู้คนต่างหน้าถอดสีไปตามๆ กันหลังได้เห็นเช่นนั้น
แต่ไม่ว่าอย่างไรความเย้ายวนของสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดมันก็ยังทำให้พวกเขาลืมความกลัวตายไปได้ไม่ยาก ไม่นานก็มีคนมากมายพุ่งเข้ามาคิดโจมตีเย่หยวน
เย่หยวนนั้นมีใบหน้านิ่งเฉยดีดนิ้วขึ้นมาต่อเนื่องกันเปิดใช้พลังของค่ายกลทำลายคนราวเจ็ดถึงแปดคนในพริบตา
ที่สำคัญเวลานี้เท้าของเขาก็ยังก้าวเดินไม่ช้าลงแม้แต่น้อย
เมื่อพวกซุ่ยหยวนเห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องร้องด่าขึ้นในใจ
“พี่เทียนหยาน แบบนี้ไม่ได้การแน่!” ซุ่ยหยวนกล่าว
เทียนหยานจึงยิ้มตอบกลับมา “เจ้าเด็กคนนี้มันมีเต๋าค่ายกลที่เหนือล้ำ รากฐานวิชาของมันนี้หนักแน่นไม่น้อยไปกว่าข้า! เดิมทีข้าเองก็ไม่ได้คิดว่าพวกโง่ทั้งหลายนั้นจะหยุดมันลงได้แต่อย่างน้อยๆ ก็น่าจะพอถ่วงเวลาไว้ได้! พวกเจ้าทั้งสอง ตามข้ามาดีๆ อย่าได้ออกเส้นทาง! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้จะเป็นเทพที่ไหนก็มาช่วยเจ้าไม่ได้!”
เมื่อคนทั้งสองได้ยินพวกเขาต่างก็ยิ้มรับ
แต่ในวินาทีต่อมาเทียนหยานก็หันมากล่าว “การลงมือครั้งนี้มันเกินกว่าที่ข้าคาดไปมาก ราคามันคงไม่ได้เท่าที่เคยตกลงกันไว้แล้ว!”
คนทั้งสองได้แต่ลอบด่าขึ้นมาในใจที่เจ้าเฒ่าคนนี้ใช้เรื่องเช่นนั้นมาขู่ในเวลานี้
แต่เวลานี้หากไม่มีเขาแล้วมันก็คงไม่ได้ พวกเขาทั้งสองจึงได้แต่ต้องสาบานต่อเต๋าสวรรค์ไป
เมื่อจบเรื่องเทียนหยานก็เดินนำขึ้นเขาไป
จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นสมชื่อว่าเป็นจอมเทพค่ายกลแปดดาว ความเร็วในการเดินของเขานี้มันไม่ได้ช้ากว่าเย่หยวนแม้แต่น้อย
แต่เวลานี้เย่หยวนได้สังหารจอมเทพค่ายกลเจ็ดดาวไปมากมายแล้วทำให้เขาเดินนำไปได้นับหมื่นเมตร
หลังจากที่เย่หยวนสังหารไปยั้งไประหว่างทาง เวลานี้คนทั้งหลายเองก็เริ่มจะไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องแล้ว
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมียอดฝีมือเดินย้อนกลับลงมาจากด้านบน
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นตัวเจียงซือก็ต้องกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว “ให้ตายสิ! สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดมันเป็นอะไรที่น่าดึงดูดเกินไป แม้แต่เหล่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวเองก็ยังสนใจมัน! เท่านี้เราคงไม่รอดไปได้แล้ว!”
แน่นอนว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจแต่เขาก็ยังมีพลังบ่มเพาะที่ต่ำเกินไป เกินกว่าที่จะรับมือจอมเทพค่ายกลแปดดาวได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวนี้ยังศึกษาค่ายกลปิดกั้นนี้มานานหลายต่อหลายปี คุ้นชินกับพลังของมันอย่างมาก
เย่หยวนเข้าตาจนแล้ว!
แต่เย่หยวนกลับยิ้มเย้ยออกมา “ก็ได้ ราคาของความโลภนั้นคือความตาย ในเมื่อเจ้าอยากจ่ายมันนักข้าก็จะส่งพวกเจ้าไปเอง!”
พูดจบเย่หยวนก็ดีดนิ้วขึ้นอีกครั้งสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่เดินกลับลงมาโจมตีผู้นั้นลง
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นดวงตาของเทียนหยานก็ต้องเบิกกว้าง “หรือเจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่ต้องศึกษาใดๆ เลย? นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่มันมายังเทือกเขานี้มิใช่หรือ ทำไมจึงได้ดูคุ้นเคยกับค่ายกลปิดกั้นปานนี้? เจ้าฟ้าดินผู้นี้ใช้เวลาหมื่นๆ ปีกว่าที่จะศึกษาค่ายกลนี้ไปได้แค่ราวสิบกิโลเมตร!”
เทียนหยานนั้นตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด
เพราะในเขาแปดโมฆะนี้ค่ายกลปิดกั้นมันสุดแสนที่จะซับซ้อน
ปรมาจารย์เต๋าค่ายกลทั้งหลายต่างต้องระวังตัวค่อยศึกษาเหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เพิ่งเคยมาและไม่คุ้นชินกับสภาพของค่ายกลแล้วด้วย มันยิ่งจะเป็นอันตรายมากกว่าจนไม่กล้าเดินสุ่มเสี่ยงใดๆ
เพราะแค่ประมาทนิดชีวิตก็อาจดับสูญลงได้ง่ายๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งขึ้นไปสูงบนเขาค่ายกลทั้งหลายมันก็จะยิ่งซับซ้อนลึกลับ
ค่ายกลปิดกั้นที่อยู่เหนือหัวเย่หยวนขึ้นไปนั้นมันล้วนเป็นค่ายกลระดับแปดสิ้น พลังของมันนั้นรุนแรงมากพอจะสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงได้ง่ายๆ
แต่เย่หยวนนั้นยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น แต่กลับสามารถควบคุมค่ายกลให้ปล่อยพลังออกมาได้ มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานจะไม่ตื่นตะลึง?
…………………….