Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2309 จิตเต๋าแตกสลาย!
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? โลกที่ล่มสลายไปแล้วนั้นกลับกำลังเกิดขึ้นมาใหม่!”
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างผุดลุกขึ้นตามๆ กันพร้อมจ้องมองดูโอสถบนท้องฟ้านั้นอย่างตื่นตะลึง
โอสถที่เดิมทีได้ถูกจัดการหลอมจนใกล้เสร็จแล้วกลับกำลังปะทุพลังใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
นี่มันคือพลังที่เกิดขึ้นมาจากซากปรักหักพัง มันคือพลังชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่
การทำเช่นนี้มันน่าตกตะลึงไม่แพ้การที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูเอาชนะได้อย่างขาดลอยไปก่อนหน้า
แต่แท้จริงแล้วมันยากเย็นซับซ้อนกว่ากันไปมากล้น!
นี่มันคือการรักษาโลกที่ล่มสลายให้กลับมามีชีวิตใหม่
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูสั่นสะท้านไปทั้งกายมองดูโอสถตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
โอสถนี้มันแตกสลายจากภายในและสร้างถูกขึ้นมาใหม่ก่อนจะแตกสลายลงอีกครั้งและถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครา
จนสุดท้ายโลกที่สมบูรณ์มันก็ได้เกิดขึ้น
ท้ายที่สุดโอสถเม็ดกลมใสมันก็ได้ปรากฏแก่สายตาของผู้คนทั้งโลกหล้าอีกครั้ง
โอสถนี้มันมิใช่โอสถที่เหนือล้ำฟ้าดิน แต่มันเป็นโอสถที่อยู่ต่ำติดดินปล่อยพลังโลกออกมาอย่างที่ทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้าง
เวลานี้ไม่มีใครกล้าจะกล่าวพูดใดๆ อีก!
เพราะวิธีการเช่นนี้มันเหนือล้ำจินตนาการไปมาก!
“เป็นไปได้อย่างไร? จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นได้เปรียบมาตลอดแท้ๆ! เหตุใดมันกลับกลายเป็นเช่นนี้ไป?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินนั้นไม่อาจจะเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้
อีกด้านทางจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นกำลังยืนตัวสั่นมองดูเย่หยวนพร้อมกล่าวขึ้น “เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมนัก! เป็นวิธีที่แยบยลจริง! เจ้านั้นไม่คิดปะทะพลังกับข้าตรงๆ และใช้ยอดเต๋าของตนเองฝังลงลึกภายในโอสถเต่านี้ต่อหน้าต่อหน้าจักรพรรดิผู้นี้! เจ้าฝังเมล็ดแห่งยอดเต๋าลงไป หลังจากที่โอสถมันใกล้จะเสร็จสิ้นเมล็ดนั้นมันก็งอกเงยขึ้นมาใหม่! ระหว่างการประลองนี้เจ้ากลับทำการวางแผนได้อย่างแยบยล จักรพรรดิผู้นี้… ขอนับถือ!”
ระดับของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบเคียง
เมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นต่อหน้า เขาก็ได้รู้ถึงวิธีการของเย่หยวนในทันที
แต่สิ่งที่เขาเข้าใจนั้นมันก็เข้าใจไป หากจะให้เอาชนะเย่หยวนในเวลานี้มันคงไม่มีทางใดแล้ว
ด้วยกำลังของเขานั้นหากเขาสัมผัสถึงแผนการนี้ของเย่หยวนระหว่างที่หลอมกัน มันคงไม่ยากเย็นที่จะจัดการเมล็ดยอดเต๋านั้น
แต่โลกใบนี้มันไม่มีคำว่าหาก
เวลาที่เขาชนะนั้น มันคือเวลาที่เขาพ่ายแพ้ลง!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือแม้มันจะฟังดูทำง่าย แต่จริงๆ แล้วมันย่อมยากล้ำ
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นรู้ดีว่าการวางแผนการน่าขนลุกเช่นนี้ต่อหน้าต่อตาเขานั้นมันคงไม่มีใครในโลกหล้าที่ได้ทำได้อีก!
สมชื่อรองมหาปราชญ์อย่างแท้จริง!
เมื่อได้ยินคำของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นเหล่าบรรพกาลทั้งหลายก็ต้องขนลุกสะท้าน
มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ได้?
“ส-สมองเจ้าหมอนี่มันเป็นทำมาจากอะไรกัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนร้องขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
“หึ มันมิใช่แค่สมอง! หากเป็นข้าหรือเจ้า แม้เราจะคิดทำมันได้แต่เจ้าคิดว่าจะลงมืออย่างไม่ให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูรู้ได้? ต่อให้จะหลบสายตาของเขาไปได้เจ้าจะมีปัญญาทำการลับระดับนั้นได้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินกล่าว
จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนพยายามเปิดปากขึ้นกล่าวแต่มันกลับไม่มีเสียงใดๆ ออกมา
เพราะสิ่งที่เฒ่าเฟิงหลินกล่าวมานั้นเขาไม่อาจจะเถียงได้เลย!
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจว่าแม้เย่หยวนจะอยู่ในอาณาจักรโอสถเต๋าที่ไม่ได้แตกต่างไปจากพวกเขามากมายแต่พวกเขาทั้งหลายก็คงไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้
เจ้าหมอนี่มันเก่งกาจจนเกินไป!
ไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะเอาชนะผู้แข็งแกร่งได้ด้วยกำลังของผู้อ่อนแอ โค่นลงได้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชู
ยอดฝีมือของอาณาจักรทหัยเมฆานั้นต่างต้องเงียบปากไปตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายนั้นยังว่ากล่าวออกมาด้วยท่าทางเย้ยหยัน ใครจะไปคิดว่าวินาทีต่อมากลับถูกตบจนหน้าหัน
ในฝูงชนนั้นโซวรุยได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
ก่อนหน้าเขายังไปว่าพวกหยุนยี่ว่าติดตามคนไร้ฝีมือ
การวางท่าของเขานี้มันโอหังจนเกิดกว่าจะกลับตัวได้
พริบตาเดียวเรื่องราวมันกลับพลิกผันสิ้นเชิง
อาจารย์ปู่ของเขานั้นพ่ายลง!
การพลิกผันนี้มันมาอย่างรวดเร็วจนเขาไม่อาจจะรับมือมันได้
ในฐานะยอดคนอันดับหนึ่งของคนรุ่นเยาว์ เขานั้นย่อมจะอยากวางท่าเหนือคนไปบ้าง
คำพูดของเขานั้นมันเหมือนน้ำเย็นที่สาดลงกลางหัวตนเองในเวลานี้
อึดอัด!
โซวรุยนั้นอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองพวกหยุนยี่และได้พบว่าอีกฝ่ายนั้นก็กำลังมองมาด้วยใบหน้าประหลาด
ได้เห็นเช่นนั้นใบหน้าของเขาจึงแดงก่ำขึ้นมา
พวกหยุนยี่นั้นไม่ได้ถากถางใดๆ กลับมา พวกเขาเพียงแค่ยิ้มอ่อนๆ ขึ้นมาที่มุมปากแต่มันกลับรุนแรงกว่าคำด่าว่าใด
“จะยิ้มหาอะไร? ใช้วิธีการเช่นนี้เอาชนะมันจะนับใดเล่า!” โซวรุยพยายามทำเป็นโกรธขึ้นมากลบเกลื่อนความอับอาย
“โอ้…” พวกหยุนยี่ทั้งสองนั้นประสานเสียงร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันด้วยเสียงยานๆ จนทำให้โซวรุยแทบขาดใจตาย
โซวรุยนั้นอับอายอย่างหนักหน่วง หากอีกฝ่ายว่ากล่าวใส่เขานั้นเขายังจะพอทนแต่ท่าทางเหยียดหยามนี้มันทำให้เขาแทบจะบ้าตายลงให้ได้!
“พากเจ้า… พวกเจ้า! หึ! รอดูไปเถอะ!”
“โอ้…”
“…”
โซวรุยนั้นแพ้พ่ายย่อยยับเขานั้นได้แต่สาบานในใจว่าหากไปเจอกันในงานเขาจะต้องบดขยี้คนทั้งสองนี้ลงสั่งสอนพวกมันให้ได้
เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าเหยเกของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าในใจของเจ้าคงไม่คิดยอมรับและคิดว่าหากได้ประลองกันอีกคราเจ้าคงไม่มีทางแพ้ ใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นหันหน้าหนีไม่คิดตอบกลับใดๆ มา
เพราะตัวเขานั้นกำลังคิดอยู่จริงๆ แต่เขานั้นอับอายเกินกว่าที่จะกล่าวมันออกมา
แพ้ก็คือแพ้ การบอกว่าให้มาสู้กันอีกครั้งนั้นมันคือท่าทางของหมาขี้แพ้อย่างแท้จริง
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาต่อ “เจ้านั้นเก่งกาจกว่าข้าจริง เรื่องนี้ใครๆ ก็คงเข้าใจ เย่ผู้นี้ขอยอมรับเลยว่าหากได้ประลองกันอีกข้าคงไม่อาจเอาชนะเจ้าได้ แต่ทำไมเล่า? เต๋าของเจ้านั้นพ่ายแพ้ต่อเต๋าของข้าแล้วมิใช่หรือ?”
“เต๋าของเจ้านั้นมันเหนือล้ำฟ้าดินไม่สนใจทุกสิ่งและทุกอย่าง! เพราะฉะนั้นมันจึงมิใช่ว่าเพราะเจ้าประมาท แต่มันเป็นเพราะว่าเต๋าของเจ้าไม่ยอมให้เจ้ารับรู้ถึงแผนการนี้! เพราะว่าเจ้าไม่ได้สนใจต้นอ่อนน้อยๆ ของสมุนไพรวิญญาณ เพราะว่ามันทั้งหลายแล้วล้วนเป็นแค่เครื่องมือสำหรับเจ้า เครื่องมือที่คิดเอาชนะข้า เครื่องมือที่เจ้าสร้างมาเองกับมือ!”
“แต่ข้านั้นกลับสามารถมอบชีวิตให้แก่เครื่องมือนั้นได้ มอบสิ่งที่มันต้องการ! เจ้าไม่คิดหรือว่าบางทีอาจจะเป็นมันที่ช่วยปิดบังแผนการข้าจากสายตาของเจ้า? ต่อให้เป็นผืนดินแข็งแกร่งก็ยังถล่มลงได้เพราะหลุมของรังมด สิ่งที่เจ้าไม่ได้คิดให้ความสนใจนั้นมันอาจจะทำให้เจ้าต้องพ่ายแพ้ลง เวลา ภูมิศาสตร์ ผู้คน สิ่งเหล่านี้เจ้าไม่ได้คิดสนใจแม้แต่น้อย มีหรือที่จะเอาชนะข้าลงได้?”
คำพูดของเย่หยวนนี้มันดังชัดหนักแน่นทำลายศักดิ์ศรีและความเชื่อของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูลงสิ้นอย่างไม่มีปรานี
แต่ไม่มีใครจะเถียงคำของเขาได้
เพราะแพ้ก็คือแพ้!
จะประลองกันอีกครั้งอย่างไรมันก็ไร้ค่า
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นแข็งแกร่งมากล้นเพราะว่าเขานั้นมีประสบการณ์ชีวิตที่ยาวนานกว่าเย่หยวน มันก็เพียงเท่านั้น
แต่เต๋าของเย่หยวนนี้มันกลับอยู่เหนือล้ำกว่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูไป
ตราบเท่าที่เขามีเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์บ่มเพาะความรู้แล้วสักวันการจะก้าวล้ำจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูไปมันก็คงมิใช่เรื่องยากเย็น
ไม่สิ มันต้องเกิดขึ้นได้แน่!
เพราะยิ่งเต๋าสูงส่งมันก็ยิ่งจะทำให้ความสำเร็จสูงตาม
เย่หยวนนั้นมีเต๋าที่แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชู การจะเอาชนะเขาได้ในวันหน้าย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นได้แต่ยืนหน้าสั่นมองดูเย่หยวนอย่างโกรธแค้นเปี่ยมจิตสังหาร
เพราะเย่หยวนได้ทำลายจิตเต๋าของเขา!
เขานั้นเข้าใจ แต่ไม่มีทางใดที่จะหยุดยั้ง!
เพราะยิ่งเข้าใจเขาก็จะยิ่งรู้ว่าเต๋าของตนเองมันบกพร่องอย่างไร
ทุกผู้คนนั้นต่างล้วนเดินตามเส้นทางวิถีเต๋าของตนมาตลอด
หากสงสัยในวิถีชีวิตของตนขึ้นมา มันก็คือเวลาที่จิตเต๋าจะแตกสลาย
คนทั้งหลายนั้นแทบลืมหายใจ รวมไปถึงเหล่าบรรพกาลทั้งหลาย
เพราะความกล้าของเย่หยวนนี้มันมากล้น เขานั้นกลับทำลายหนึ่งในสามยอดคนแห่งอาณาจักรทหัยเมฆาต่อหน้าทุกผู้คน
แต่พวกเขาทั้งหลายก็เข้าใจว่าเย่หยวนนั้นทำได้อย่างไม่มีใครว่า
เพราะตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูเองก็คิดจะลงมือจัดการทำลายจิตเต๋าของเย่หยวนลงเช่นกัน!
เวลานี้เมื่อเย่หยวนเอาชนะมาได้มันย่อมไร้ซึ่งความปรานีใด
แต่ถึงจะอย่างไรที่นี่มันก็คืออาณาจักรทหัยเมฆา วังพำนักของโอสถบรรพกาล!
……………