Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2327 ความรุ่งโรจน์แต่เก่าก่อน!
“โอ้? เจ้าดูมั่นใจมาก เช่นนั้นบรรพกาลผู้นี้จะขอดูเสียหน่อยเถอะว่าเจ้าจะมีปัญญาสักแค่ไหน!”
ชาวเผ่าเทวานั้นย่อมจะมั่นใจในฝีมือของตนอย่างมากล้น ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลังจากเรื่องราวครั้งนี้แล้วเขาย่อมจะไม่คิดปล่อยเย่หยวนให้หลุดพ้นมือไป ไม่มีทางใดที่จะถอยไปทั้งๆ แบบนี้แน่นอน
วินาทีนั้นคนทั้งสองจึงเข้าปะทะกับอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่จะไปทางเจียนหยุนซินก็ได้ส่งคลื่นพลังสายหนึ่งออกมาผลักตัวเย่หยวนออกไปไกลลิบ
จากนั้นพื้นที่ปะทะของทั้งสองนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดดังลั่นพร้อมด้วยคลื่นมิติที่บิดเบี้ยวราวกับว่าฟ้าดินจะถล่มพังลงมา
การต่อสู้ในระดับนี้มันเหนือล้ำกว่าการต่อสู้ของพวกโอสถบรรพกาลและหยวนเว่ยทั้งสามก่อนหน้า
เย่หยวนนั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย เป็นตอนนี้เองที่เขาได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วหยวนเว่ยนั้นยังเก็บซ่อนพลังฝีมือไว้!
เผ่าเทวาทั้งหลายนั้นมันแข็งแกร่งจนทำให้คนทั้งหลายต้องสิ้นหวังจริงๆ!
เย่หยวนนั้นได้เข้าใจว่าหยวนเว่ยนั้นต้องเก็บซ่อนพลังไว้เพื่อที่จะจัดการสังหารนักหลอมโอสถทั้งหมดลง
เพราะหากเขาปล่อยพลังที่มีออกมาอย่างสุดตัวแล้วมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นั้นมันก็คงต้องแตกสลายลงแน่
หากเป็นเช่นนั้นเรื่องของโอสถบรรพกาลหรือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็อาจจะยังพอจัดการได้ แต่เขาย่อมจะไม่มีทางใดที่จะล้างบางเหล่านักหลอมโอสถทั้งหมดลงได้
แต่เวลานี้ตัวหยวนเว่ยนั้นไม่ได้มีข้อจำกัดที่ต้องระวังใดๆ อีก เขานั้นใช้พลังฝีมือทั้งหมดที่มีออกมาจนทำให้ฟ้าดินต้องเปลี่ยนสี
แต่สิ่งที่เย่หยวนตกตะลึงมากกว่าก็คือฝีมือของเจียนหยุนซินที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวหยวนเว่ยเลย
คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันจนฟ้าดินแตกสลายเกิดคลื่นกระแสมิติพัดรุนแรงไปทั่วบริเวณ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแต่สุดท้ายเจียนหยุนซินก็กลับมาหาเย่หยวนอีกครั้งด้วยสภาพรุ่งริ่ง
ดูท่าแล้วการต่อสู้ครั้งนี้เขาคงไม่ได้เปรียบมากมาย
แต่แน่นอนว่าทางหยวนเว่ยเองก็ต้องถอยกลับไปเช่นกัน ตัวเขานั้นก็ไม่อาจจะสังหารเจียนหยุนซินลงได้เช่นกัน
หยวนเว่ยนั้นกลับไปจึงทำให้เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายถอยกลับไปตาม ไม่มีใครกล้าจะยังอยู่ฆ่าสังหารเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย
ทำให้การโจมตีอันดุเดือดนี้ได้ปิดฉากจบลง
ในศึกครั้งนี้แม้ฝั่งมนุษย์จะรอดตัวออกมาได้แต่ก็ต้องสูญเสียไปไม่น้อย
ฝ่ายมนุษย์นั้นมียอดนักหลอมโอสถต้องตายลงไปมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์!
อาณาจักรทหัยเมฆาทั้งหมดนั้นแตกสลายลงทำให้ศิษย์กว่าครึ่งของโอสถบรรพกาลต้องตกตายลง
ทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเองก็บาดเจ็บหนักทั้งยังเสียศิษย์ไปถึงสามคนด้วยกัน
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายเองก็บาดเจ็บกันไปถ้วนหน้า
ส่วนยอดคนอันดับหนึ่งแห่งการโอสถ โอสถบรรพกาลนั้นหายตัวไปอย่างที่ไม่มีใครทราบได้ว่าเขาหนีไปที่ใด
เรียกได้ว่าโลกการโอสถนั้นเสียหายไปอย่างหนักหน่วง
คงพูดได้ว่าแผนของหยวนเว่ยนั้นสำเร็จไปถึงครึ่งทาง
และหลังจบเรื่องราวนี้ผู้คนทั้งโลกก็ต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน!
เพราะเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่าเผ่าเทวานั้นได้ปรากฏขึ้นมาจากขุมนรกและเข้ายึดครองหลายพื้นที่ในมหาพิภพถงเทียนไว้สิน
ไม่นานนักมันก็มีอีกข่าวร้ายหนึ่งเกิดขึ้น
เพราะแปดตระกูลสายเลือดของเผ่าเทวานั้นได้ออกมาสู่โลกหล้าพร้อมๆ กันเข้าทำลายผนึกนรกและปลดปล่อยกองกำลังออกมาจากการกักขังของแปดเผ่าศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าอสูร
เมืองนรกแปดอาณาจักรนั้นต้องตกสู่สภาพน่าสังเวช
ยอดฝีมือมากมายของทั้งแปดเผ่าศักดิ์สิทธิ์นั้นตายตกไปตามๆ กัน เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
แต่จากนั้นมันก็เกิดเสียงร้องไห้ของเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้น
จากนั้นมันก็เกิดฟ้าร้องผ่าแม่น้ำไหลย้อนแผ่นดินแตกแยกราวกับว่าวันสิ้นโลกได้ใกล้เข้ามาถึง
พริบตาที่เสียงร้องไห้นั้นดังขึ้นเหล่ายอดฝีมือของเผ่าเทวาและมารนรกทั้งหลายต่างถูกฆ่าสังหารลงไปมากมายทำให้ฝ่ายเผ่าเทวาต้องถอยร่นไป
เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาคนทั้งมหาพิภพถงเทียนก็ต้องตื่นตะลึงไปตามๆ กัน
เพราะจะอย่างไรเสียแปดเผ่าศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มีประวัติรากฐานยาวนานเป็นตัวตนที่อยู่บนจุดสุดยอดของมหาพิภพถงเทียนสิ้น มิใช่แค่ตัวตนบนยอดของเผ่าอสูร
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นกลับไม่อาจจะต้านทานการจู่โจมของทัพเผ่าเทวาได้!
จนสุดท้ายเมื่อเมืองนรกแปดอาณาจักรแตกสลายมันก็ได้เปลี่ยนกระแสของสงครามไป
เผ่าเทวานั้นนำทัพนรกนี้เข้ามาตั้งกองทัพบนมหาพิภพถงเทียนในที่สุด
ในที่สุดม่านของสงครามสิ้นโลกครั้งใหม่ก็ได้ถูกเปิดขึ้น!
ในที่ต่างๆ บนมหาพิภพถงเทียนนั้นมันต่างมีเผ่าเทวาปรากฏตัวขึ้นมากมาย
เวลานี้ผนึกกั้นโลกทั้งสองนั้นมันเบาบางลงไปมาก มีแต่ช่องโหว่ว่าง
หรือจะบอกว่าทางเผ่าเทวานั้นได้วิธีการที่จะเดินทางผ่านผนึกนั้นเข้าออกมหาพิภพถงเทียนอย่างไม่สนใจใคร
ในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์นั้น เย่หยวนกำลังนั่งคุยกับเจียนหยุนซินอย่างจริงจัง
“ในศึกครั้งนี้สหายหนุ่มเย่ได้สร้างคุณให้มนุษย์เรามาก!” เจียนหยุนซินกล่าว
“ทำไมผู้อาวุโสท่านกล่าวเช่นนั้นเล่า?” เย่หยวนถาม
“เพราะในสงครามครั้งนี้แค่จุดเล็กๆ มันก็จะเปลี่ยนกระแสของสงครามทั้งหมดไปได้ เผ่าเทวานั้นอยู่นิ่งเงียบมานานนับล้านๆ ปี ครั้งนี้พวกมันได้เตรียมการทั้งหลายไว้อย่างแนบเนียน สหายหนุ่มเย่นั้นขัดขวางแผนการของพวกมันไว้เปลี่ยนความลับสวรรค์ทำให้แผนของเผ่าเทวาทั้งหมดต้องรวน เพราะฉะนั้นข้าจึงกล่าวบอกว่าสหายหนุ่มเย่สร้างคุณให้มนุษย์อย่างมาก!”
เพราะหากเผ่าเทวาสามารถสังหารนักหลอมโอสถทั้งหลายลงได้แล้วผลที่ตามมามันคงเหนือล้ำกว่าที่จะจินตนาการ
หากถึงตอนนั้นพวกมันทั้งหลายเข้าจู่โจมมนุษย์อย่างไม่ทันให้ตั้งตัวไฟของสงครามนี้มันคงเผาผลาญมหาพิภพถงเทียนไปอย่างรวดเร็ว
เช่นนั้นความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมามันก็คงน่ากลัวเกินกว่าที่เป็นตอนนี้
เวลานี้แผนของหวนเว่ยถูกเปิดเผยและมีเวลาให้มนุษย์ทั้งหลายได้เตรียมตัว ความเสียหายนั้นถึงจะมากแต่มันก็ยังไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น
เย่หยวนนั้นไม่ได้กล่าวรับคำชมใดๆ แต่เขากลับขมวดคิ้วแน่นถามกลับไป “จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นคำนวณเรื่องราวบนโลกหล้าเข้าถึงความลับสวรรค์ ที่สำคัญเหล่ายอดคนที่แท้ทั้งหลายนั้นก็น่าจะรู้ถึงตัวตนของเผ่าเทวามาก่อนทำไมถึงไม่คิดเตรียมการรับมือพวกมันไว้ก่อนหน้าเล่า?”
เจียนหยุนซินที่ได้ฟังคำบ่นของเย่หยวนก็ต้องหัวเราะขึ้นมาอย่างขมขื่น “สหายหนุ่มเย่ เจ้าจะประเมินเผ่าเทวาต่ำเกินไปแล้ว! จักรพรรดิผู้นี้รู้ว่าเจ้านั้นมีฝีมือทุกด้านเลิศล้ำผู้คน แต่ทั้งเผ่ามนุษย์นั้นมันมีเพียงแค่เจ้าคนเดียวกำเนิดขึ้นมา! เจ้าไม่รู้หรอกว่าเผ่ามนุษย์และเผ่าอสูรนั้นต้องจ่ายอะไรไปบ้างเพื่อที่จะได้มหาพิภพถงเทียนอย่างที่มีในทุกวันนี้! ในสงครามสิ้นโลกครั้งก่อนนั้นแม้ว่าฝ่ายมนุษย์เราจะกักขังเผ่าเทวาลงนรกไปได้แต่พวกเราก็ต้องสูญเสียไปอย่างมหาศาล ยอดฝีมือที่รอดเหลือมาถึงทุกวันนี้มันมีเพียงแค่หนึ่งในสิบจากยุคก่อน! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในสงครามครานั้นวิชาเต๋าต่างๆ ได้สาบสูญทำให้เผ่ามนุษย์เราแทบไม่อาจจะพัฒนาไปข้างหน้าได้ จนถึงวันนี้พวกเราก็ยังไม่อาจจะฟื้นฟูกลับมาได้สมบูรณ์”
“ทุกผู้คนนั้นต่างกล่าวบอกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นเข้าใจรู้ทุกสิ่งอย่าง แต่คนทั้งหลายนั้นไม่ได้รู้เลยว่าความลับของสวรรค์มันลึกล้ำปานใด! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับสงครามสิ้นโลกนี้มันยิ่งลึกลับซับซ้อน มีหรือที่จะคาดคำนวณมันได้แม่นยำ? ท่านพ่อนั้นได้เตรียมการเพื่อวันนี้มามากมายเพียงแค่ว่าตัวเขาเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าเผ่าเทวาจะปรากฏออกมารวดเร็วปานใด เร็วกว่าที่คาดไปนับพันๆ ปี เท่านี้แผนการใดๆ ที่เคยมีวางไว้มันก็ย่อมจะพังทลายไม่เป็นท่าแล้ว”
เรื่องราวความลับระดับนั้นคนอย่างเย่หยวนย่อมไม่มีทางรู้ถึงมัน
เพียงแค่ว่าในสายตาของเขานั้น เผ่าเทวามันมิใช่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ล้ำใดๆ
เขานั้นคิดว่าตราบเท่าที่มนุษย์รับมืออย่างระวัง พวกเขาก็ย่อมจะเอาชนะได้
แต่ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนก็รู้ตัวทันทีว่าตัวเองคิดง่ายเกินไป
แต่เมื่อได้ยินคำของเจียนหยุนซินนั้นเย่หยวนก็จำคำของหยวนเว่ยขึ้นมาได้
เต๋าโอสถของมนุษย์ในยุคก่อนนั้นมันรุ่งเรืองอย่างมาก
แต่ในวันนี้มันกลับตกต่ำลง
แม้แต่โอสถบรรพกาลนั้นเองก็ยังเป็นได้แค่มือใหม่หากเอาไปเทียบกับยอดคนจากยุคก่อน
เมื่อลองได้คิดย้อนกลับไปแล้ว เผ่ามนุษย์ในยุคก่อนคงจะเจริญรุ่งเรืองไปกว่านี้อย่างมากมาย
ดูท่าแล้วยอดฝีมือที่ก้าวขึ้นถึงระดับต้นกำเนิดของพลังมันคงไม่มีแค่หนึ่งหรือสองคน!
ที่สำคัญตอนที่เย่หยวนไปยังสนามรบเทพโบราณนั้นเทพสวรรค์ห่าวหยูผู้มอบดาบให้แก่เขาได้กล่าวบอกว่ายอดอัจฉริยะของยุคก่อนนั้นเก่งกาจกว่าคนในยุคนี้ไปอย่างมากล้น
เมื่อได้ฟังย้ำเรื่องนี้อีกครั้ง เย่หยวนก็รู้สึกได้ว่ามนุษย์ในยุคนี้คงตกต่ำลงอย่างมากแล้ว
เขานั้นเข้าใจและเชื่อคำของเจียนหยุนซินขึ้นมาทันที
มันมิใช่ว่ามนุษย์ไม่คิดวางแผนต่อต้าน แต่พวกเขานั้นไม่มีกำลังพอจะทำ!
“เช่นนั้นแล้ว… เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายเล่า? พวกเขานั้นเป็นตัวตนที่ไร้ต้านมิใช่หรือ? หรือว่าแม้แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นก็ไม่อาจจะเอาชนะเผ่าเทวาลงได้?” เย่หยวนถามขึ้น
เจียนหยุนซินที่ได้ยินก็หัวเราะแห้งๆ ออกมา “เต๋าบรรพกาล? นั่นสินะ เต๋าบรรพกาลนั้นเป็นตัวตนผู้ปกครองกฎในฟ้าดิน น่าเสียดายแค่ว่า… มันไม่มีเต๋าบรรพกาลเผ่ามนุษย์อยู่!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่น “หมายความว่า?”
เจียนหยุนซินพยักหน้ารับ “เจ้ารู้หรือไม่เล่าว่าในยุคก่อนใครที่รับหน้าที่เต๋าบรรพกาลไว้?”
เย่หยวนต้องหรี่ตาลงอย่างตกตะลึง “หรือว่า… จะเป็นเผ่าเทวา?”
เจียนหยุนซินพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว มันเป็นเผ่าเทวาทั้งหลายนั้น! เผ่าเทวานั้นเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีเผ่าอื่นใดต้านได้ กอปรกับพลังแนวคิดที่เหนือล้ำของพวกเขามันจึงได้ทำให้พวกเขานั้นเป็นตัวตนที่ไม่อาจต้านทานได้!”
……………