Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2344 แปดยอดฝีมือพลังต้นกำเนิด!
เมื่อได้ประมือกันแล้วเทียนหยวนนั้นก็ร้องออกมาด้วยเสียงแปลกประหลาดมากหลายทำให้ขนของเย่หยวนลุกไปทั้งกาย
แต่เสียงร้องนั้นมันกลับสุดแสนทรงพลังมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยพลังการโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่คล้ายกับพลังของเสียงเทพมังกร
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือคลื่นเสียงโจมตีของเทียนหยวนนั้นมันใกล้เคียงกับระดับของพลังต้นกำเนิดอย่างมาก
เมื่อกอปรกับพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวด้วยแล้ว เย่หยวนจึงไม่อาจจะใช้แค่พลังของกายเนื้อต่อสู้เพียงอย่างเดียวได้
“ฮ่าๆๆ เป็นอย่างไรเล่า รู้ถึงพลังของข้าหรือยัง?” เทียนหยวนยิ้มกว้าง
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นมันก็เกิดเสียงร้องลั่นของดาบขึ้นมา เย่หยวนเปิดใช้งานค่ายกลดาบขึ้น
เมื่อค่ายกลดาบนั้นทำงานสีหน้าของเทียนหยวนก็เปลี่ยนไปทันที “เจ้าหนุ่ม ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยังมีปัญญาทำได้ถึงขั้นนี้! เมียข้า มาช่วยข้าหน่อยเร็ว!”
ตี้หยางนั้นเองก็ตื่นตะลึงไม่แพ้กัน ดูท่าแล้วตัวนางนั้นก็คงไม่นึกฝันว่าเจ้าหนุ่มน้อยคนนี้จะบรรลุพลังแห่งต้นกำเนิดถึงสองอย่างด้วยกัน
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของสามี ตี้หยางก็รีบเข้ามาร่วมวงต่อสู้อย่างไม่ลังเล
และตัวนางนั้นก็ทำเรื่องคล้ายกับเทียนหยวน ตี้หยางที่เข้ามาถึงนั้นได้ส่งเสียงร้องขึ้นมาทันทีที่เข้าร่วม
แต่พลังของมันนั้นกลับแตกต่างกันสิ้นเชิง
เมื่อพลังเสียงของคนทั้งสองผสานเข้าด้วยกันแล้วมันกลับพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับของพลังต้นกำเนิดได้
กอปรกับการบ่มเพาะที่อยู่ถึงระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวของคนทั้งสองมันจึงทำให้เย่หยวนไม่อาจจะชิงเอาเปรียบมาได้
เย่หยวนเองก็ตื่นตะลึงอย่างมากล้น เขานั้นแทบจะไม่เคยได้เจอใครที่ใช้พลังแห่งแนวคิดมาปะทะกับเขาได้จนสูสีขนาดนี้
คนที่คิดร้ายต่อเย่หยวนทั้งหลายนั้นส่วนมากจะใช้พลังบ่มเพาะที่เหนือล้ำกดหัวอย่างไร้เหตุผล
เพราะการปะทะด้วยพลังแห่งแนวคิดนั้นมันคือการรนหาที่ตายดีๆ นี่เอง
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่ได้รู้เลยว่าฝ่ายเทียนหยวนตี้หยางนั้นยิ่งตื่นตกใจมากกว่าเขาไปนับร้อยเท่า!
เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายยังอวดอ้างตัวว่าคิดอยากให้เย่หยวนติดตามตนเองไปเพื่อปกป้อง
พริบตาเดียวนั้นเย่หยวนกลับสู้เสมอพวกเขาทั้งสองจนไม่อาจจะมีใครได้เปรียบขึ้นมาได้
“ที่รัก เด็กหนุ่มคนนี้ช่างเก่งกาจนัก ถึงกับสามารถบรรลุสองพลังแห่งต้นกำเนิดได้!”
“เมียข้า หากลูกเราไม่ตายไปเขาเองก็คงเก่งกาจได้ไม่แพ้กันแน่!”
“เรื่องนั้นย่อมแน่นอน!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้นมา “พวกท่านทั้งสอง เราหยุดมือกันตรงนี้จะว่าอย่างไร?”
“ได้ๆ ไม่สู้ด้วยแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้เก่งกาจเสียจริงๆ เราหยุดสู้กันเถอะ มาคุยกันเสียหน่อยดีหรือไม่?” ตี้หยางกล่าว
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ย่อมได้”
ตี้หยางนั้นตื่นเต้นดีใจรีบเดินมาดึงตัวเย่หยวนไปพูดคุยด้วยทันที
จะดูอย่างไรนางก็คงชื่นชอบในตัวเย่หยวนมาก
ตี้หยางนั้นเป็นเหมือนดั่งป้าข้างบ้านโดยแท้ นางนั้นเล่าเรื่องราวของตนเองสองผัวเมียให้เย่หยวนฟังทั้งๆ ที่ไม่ได้ถาม
แท้จริงแล้วในอดีตนั้นสองคู่รักนี้เคยเป็นแค่สองผัวเมียเทพสวรรค์ธรรมดาๆ ไม่ได้เก่งกาจมากมายใด
พวกเขาทั้งสองนั้นได้ให้กำเนิดลูกชายมาคนหนึ่งและเอ็นดูรักลูกอย่างมาก
ลูกของพวกเขาทั้งสองเองก็เปี่ยมล้นพรสวรรค์เป็นถึงเทพถ่องแท้ตั้งแต่เกิดและยังบ่มเพาะได้รวดเร็วภายในเวลาแค่หมื่นปีนั้นเขากลับบ่มเพาะขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นสุดได้ อีกเพียงแค่ก้าวเดียวเขาก็จะก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้
แต่เรื่องไม่คาดฝันมันกลับเกิดขึ้นมาเพราะว่าลูกชายของพวกเขาทั้งสองนี้กลับไปลบหลู่จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งเข้าทำให้ถูกอีกฝ่ายฆ่าสังหารตายลง
สองสามีภรรยานี้เจ็บปวดจนถึงขั้นคิดอยากตายตามลูกไปเสียจึงทำให้นิสัยท่าทางของคนทั้งสองนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากล้ำ
อย่างที่เขาว่ากันว่าเรื่องราวในโลกหล้านั้นล้วนยากคาดเดา เรื่องราวในครั้งนั้นมันได้เปิดหนทางสู่สวรรค์ของคนทั้งสองขึ้น
ลูกชายได้ตายลงทำให้ความหวังใดๆ ในชีวิตของพวกเขาแตกสลาย สิ่งเดียวที่ฝังลงในจิตใจของคนทั้งสองคือคำว่าแก้แค้น
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเก่งกาจกว่าที่พวกเขาจะทำอะไรได้!
นั่นทำให้สองสามีภรรยานี้ได้ช่วยกับประคับประคองและก้าวเดินขึ้นมาในเต๋าแนวคิดแห่งเสียง
จากนั้นคนทั้งสองก็ได้บรรลุขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์และบรรลุขึ้นถึงพลังของต้นกำเนิด!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ที่เดิมทีพวกเขาทั้งสองคิดว่าไร้ต้านทานนั้นกลับกลายเป็นตัวตนสุดแสนอ่อนแอในสายตาของคนทั้งสอง
คนทั้งสองฆ่าสังหารล้างแค้นลงได้และเริ่มออกเดินทางท่องโลกกว้างตั้งแต่นั้นมา
เพราะว่าสองสามีภรรยานี้มีนิสัยแปลกประหลาดทำให้เดินทางไปที่ใดก็มักจะมีเรื่องกับยอดฝีมืออยู่เสมอๆ
แต่เพราะทั้งสองนั้นมากฝีมือทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะยอดคนมากมายมาได้ด้วยพลังแห่งต้นกำเนิดนั้น
จนสุดท้ายคนทั้งสองก็ได้รับฉายานามว่าเป็นเทียนหยวนตี้หยาง
เมื่อได้ยินเรื่องราวของคนทั้งสองนี้เย่หยวนก็ได้แต่ก้มลงคิดอย่างสงสัยในใจ จิตใจของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความลับของสวรรค์ที่ไม่มีใครรับรู้
ภายใต้สถานการณ์ปกตินั้นคนทั้งสองคงไม่อาจจะกลายเป็นยอดคนใดๆ ได้
แต่ด้วยความตายของลูกชายนั้น คนทั้งสองจึงก้าวมาจนถึงจุดนี้ได้
“เจ้าหนุ่ม ข้านั้นชื่นชอบเจ้าตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นหน้า ข้านั้นชื่นชอบเจ้าเหมือนเป็นลูกเรา ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้ายังแตกต่างจากผู้คน คนอื่นๆ เมื่อได้เห็นเราพูดกล่าวเรื่องเช่นนี้ออกมาพวกเขาล้วนคิดจะฆ่าสังหารพวกเราลงทันทีแต่เจ้ากลับไม่ได้ทำเช่นนั้นเลย” ตี้หยางยิ้ม
เย่หยวนยิ้ม “ข้านั้นไม่คิดลบหลู่ผู้คนเว้นแต่ข้าจะถูกลบหลู่ก่อน ท่านสองสามีภรรยานั้นไม่ได้คิดร้ายต่อข้า เย่ผู้นี้ย่อมจะไม่คิดถึงขั้นลงมือสังหารผู้คน เอาล่ะ ขอบคุณพวกท่านทั้งสองมากที่อยู่เป็นเพื่อนคุยแต่ตอนนี้ข้าต้องไปบ่มเพาะฝึกฝนต่อแล้ว ลาก่อน”
ตี้หยางนั้นแสดงสีหน้าหม่นหมองออกมาแต่นางก็รู้ดีว่าคงไม่อาจห้ามเย่หยวนไว้ได้ ต้องปล่อยให้เย่หยวนจากไป
แต่ก่อนที่เย่หยวนจะได้ไปไหนสีหน้าของเขากลับต้องเปลี่ยนสี
เพราะเวลานี้มันเกิดแรงสั่นสะเทือนในมิติขึ้นมารอบด้านพร้อมด้วยคลื่นพลังหนักหน่วงหลายสายพุ่งตัวออกมาจากห้วงมิติ
“เทียนหยวนตี้หยาง ข้านั้นตามหาพวกเจ้ามาแสนนาน! ครานี้แหละข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้าจะยังรอดไปได้หรือไม่!”
ชายชุดดำผู้เดินก้าวออกมานั้นมองดูเทียนหยวนตี้หยางด้วยสีหน้าคับแค้น
พร้อมๆ กันนั้นในเจ็ดทิศที่เหลือมันก็ปรากฏเงาร่างของผู้คนก้าวออกมา
คนทั้งแปดนี้มีคลื่นพลังหนักหน่วงรุนแรงไม่ได้อ่อนแอกว่าตัวเทียนหยวนตี้หยางทั้งสองเลย
เทียนหยวนที่ได้เห็นก็ต้องขมวดคิ้วแน่น “เจียงเจ๋อ เจ้ามันช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเสียจริง! แล้วก็พวกเจ้าทั้งหลายที่มากับมันด้วย!”
“หึ เจ้าสองตัวประหลาด เจ้าไม่ได้รู้ตัวหรอกว่าเจ้าไปหาเรื่องยอดคนไว้มากมายแค่ไหน! วันนี้เราทั้งแปดยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดเดินทางออกมาพร้อมกัน อยากรู้เสียจริงว่าพวกเจ้าจะยังหนีไปไหนได้! ในวันหน้าหากข้าได้พบเจอพวกเจ้าอีก ข้าก็จะฆ่าสังหารพวกเจ้าลงอีก!” เจียงเจ๋อร้องบอก
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปไม่น้อยเพราะคนทั้งหลายนี้กลับเป็นผู้บรรลุพลังแห่งต้นกำเนิด!
สองสามีภรรยานี้จะมีความสามารถในการหาเรื่องผู้คนเกินไปหรือไม่ ถึงกับสามารถหาเรื่องยอดคนในระดับนี้พร้อมๆ กันได้ถึงแปดคน
แต่เมื่อลองคิดย้อนถึงนิสัยประหลาดนั้น มันก็มีความเป็นไปได้สูงมาก
เวลานี้คนทั้งแปดจึงได้ออกมาเพื่อจัดการพวกเขาลง
ตี้หยางนั้นขมวดคิ้วบอกออกไป “ได้ เจ้าปล่อยสหายหนุ่มเย่นี้ไปก่อนแล้วเราค่อยมาจัดการเรื่องราวต่อ!”
เจียนเจ๋อนั้นหันไปมองเย่หยวนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เจ้าเด็กน้อยนี้มันมากับเจ้าสองตัวประหลาด มีหรือที่มันจะเป็นคนดีงามไปได้? มันย่อมต้อง… ตายไปด้วยกัน!”
ซู่ว…
พูดไปเจียงเจ๋อก็ยกนิ้วขึ้นมายิงลูกบอลแสงพุ่งออกมารอบทิศเข้าใส่ตัวเย่หยวนอย่างรวดเร็วล้ำ
พลังแห่งต้นกำเนิดแสง!
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นยกมือขึ้นมาใช้หัตถ์อนิจจังมังกรสวรรค์
ตูม!
ลูกบอลแสงทั้งหลายนั้นถูกเย่หยวนต่อยทำลายลงสิ้น
เจียงเจ๋อนั้นประเมินเย่หยวนต่ำตมการโจมตีนี้จึงไม่ได้แฝงพลังมากมายไว้ เย่หยวนเองจึงสามารถรับมันไว้ได้อย่างง่ายดาย
แต่เมื่อฝ่ายเจียงเจ๋อได้เห็นเขาก็ต้องตื่นตะลึง
“อ่า น่าสนใจ! เจ้าเด็กคนนี้มันกลับเป็นคนเผ่ามังกรที่มีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปด! เวลานี้คนที่บ่มเพาะกายทองคำสัมบูรณ์ได้ถึงระดับแปดในมหาพิภพงถงเทียนนี้มันคงมีแต่หยิบมือ เจ้าหนู เจ้ามีนามว่า?”
ดูท่าแล้วเจียงเจ๋อคงสนใจในตัวเย่หยวนไม่น้อย
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!” เย่หยวนตอบกลับไป
เพราะสิ่งที่เขารำคาญใจที่สุดก็คือการที่เจียงเจ๋อนั้นลงมือก่อนค่อยพูดถามนี้ ไม่คิดสนใจชีวิตคนอื่นใดๆ
ดูอย่างไรก็มาหาเรื่องเทียนหยวนตี้หยางแต่กลับลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวอย่างไม่สนใจ
ยังไม่ทันได้พูดกล่าวใดๆ กันก็คิดสังหารเสียแล้ว
เพราะฉะนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะไม่คิดแสดงท่าทางเป็นมิตรต่อเจียงเจ๋อใดๆ
เจียงเจ๋อที่ได้ยินนั้นผงะไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมาด้วยใบหน้าดำมืด “เด็กน้อย ทีแรกข้าก็คิดจะไว้ชีวิตเจ้าแต่ดูท่าแล้วมันเป็นเจ้าเองที่รนหาที่ตาย!”
………………..