Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2364 ค่ายกลดาบนิพพานแท้ขนาดใหญ่ล้ำ!
ภายในกรงขังนั้นมันมีดาบมากมายปกคลุมท้องฟ้า
คลื่นพลังจากต้นกำเนิดเต๋าดาบนั้นมันทำให้สีหน้าของยอดฝีมือทั้งสิบเจ็ดต้องซีดขาว
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบจะอยากสิ้นลมลง
แต่จู่ๆ ตัวยูถันจื่อก็ยิ้มขึ้นมา “หึๆ เรียกดาบมากมายปานนี้ออกมาคิดหลอกผู้คนแล้ว? พลังต้นกำเนิดดาบระดับสองมันน่ากลัวจริง! แต่… เต๋าดาบเจ้าพัฒนามันคงทำลายสมดุลของค่ายกลดาบลงแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวผางเจิ้นและคนทั้งหลายก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมา!
แน่นอนด้วยจำนวนดาบมากมายมหาศาลเช่นนี้ สมดุลของค่ายกลดาบนิพพานแท้มันย่อมจะพังทลายลง
เหมือนอย่างพลังห้าธาตุของว่านเจิ้นที่หากมันมีพลังใดสูงล้ำกว่าพลังอื่นไปแล้วมันย่อมจะทำให้เกิดความไม่สมดุลในธาตุทั้งห้าและพลังที่ออกมาจะต่ำกว่าเก่าแทน
เย่หยวนเรียกดาบมากมายออกมาเช่นนี้มันอาจจะดูน่ากลัวจริง แต่แท้จริงแล้วพลังของมันอาจจะไม่ได้เหนือล้ำไปกว่าเก่า
หากไม่มีพลังของค่ายกลดาบที่สมบูรณ์นั้นแล้วมีหรือที่เย่หยวนจะยังจัดการคนทั้งสิบเจ็ดพร้อมกันได้?
เพราะจะอย่างไรเสียมันก็มิใช่ว่าในหมู่คนทั้งสิบเจ็ดนั้นมันไม่มีมีพลังต้นกำเนิดจนถึงระดับสอง เพราะว่าผางเจิ้นนั้นเป็นเองก็มีพลังต้นกำเนิดสายฟ้าระดับสองเช่นกัน!
แค่ใช้พลังดาบที่ไม่มีระเบียบนั้นมันจะเทียบเคียงกับพลังของสุดยอดฝีมือทั้งสิบเจ็ดได้หรือ?
“ฮ่าๆๆ เกือบโดนเจ้าหลอกไปแล้ว เจ้าเด็กคนนี้! ก็แค่พลังของต้นกำเนิดดาบระดับสอง? หากวัดกันแค่นั้นต้นกำเนิดสายฟ้าของข้าเองก็ไม่แพ้เจ้าหรอก! ไหนจะยังเรื่องที่ว่ามียอดคนอีกมากมายด้วย!” ผางเจิ้นหัวเราะขึ้น
“ยังคงเป็นยูถันจื่อที่หัวเร็ว มองทะลุการข่มขู่ของเจ้าเด็กคนนี้ในพริบตา” เสียงชื่นชมดังขึ้นมา
พวกเขานั้นกลัวเกรงกับค่ายกลดาบของเย่หยวนไปมากจนแทบสิ้นแรงยืน
เพราะดาบมากมายที่ปกปิดท้องฟ้าไว้นี้ จะมองอย่างไรมันก็น่ากลัวจริงๆ
เวลานี้เมื่อได้ยินยูถันจื่อกล่าว คนทั้งหลายจึงได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นแค่เสือในกระดาษ
ผางเจิ้นกล่าวขึ้นมาด้วยจิตใจหนักแน่น “อย่าได้ถูกเจ้าเด็กคนนี้มันหลอกเอา! ทุกคนใช้พลังฝีมือที่แท้ของพวกเจ้าออกมา! ครั้งนี้เราต้องจัดการมันลงให้ได้!”
พูดไปเขาก็ยื่นมือออกมาด้วยพลังสายฟ้ารุนแรงที่ไม่แพ้คลื่นพลังดาบของเย่หยวน
เวลานี้งูสายฟ้ารุนแรงมันได้วิ่งกระจายไปทั่วทั้งกรง
หากวัดกันแค่ที่แรงสั่นสะท้านแล้ว มันคงไม่นับว่าด้อยกว่าเย่หยวนเลย!
ครั้งนี้พลังสายฟ้าของเขามันเหนือล้ำกว่าตอนแรกมาก
เป็นเวลานั้นเองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเขาคนนี้ยังเก็บงำไม้ตายไว้
แต่ใครเล่าที่จะไม่ออมมือไว้บ้าง?
มีหรือที่พวกเขาทั้งหลายจะกล้าใช้ไม้ตายสุดตัวออกมาอย่างที่ไม่เหลือพลังใดๆ เก็บไว้?
เพราะแม้จะจบศึกนี้ไปแล้วมันก็ยังมีศึกอื่นรออยู่!
แต่ทว่าพรสวรรค์ทะลวงฟ้าดินของเย่หยวนนี้มันทำให้ยอดฝีมือทั้งสิบเจ็ดนั้นต้องเอาจริงขึ้นมาในที่สุด
“แช่งนิรันดร์!”
“ดาบสวรรค์สัจธรรมยุทธ!”
“หอกนักบุญแปดร้าง!”
…
คลื่นพลังต้นกำเนิดมากมายปะทุขึ้นมาพร้อมๆ กันจนกลบพลังรุนแรงของเย่หยวนลงได้ชั่วขณะ
เวลานี้ยอดฝีมือทั้งสิบเจ็ดได้เอาจริงแล้ว
ภายในกรงนั้นมันเกิดคลื่นพลังหนักหน่วงกระจายไปทั่วอย่างรุนแรงกว่าเก่าหลายเท่าตัว!
“มันจบแล้ว! มันจะจบแล้วจริงๆ! สุดท้ายเขาก็ไม่อาจจะปะทะกับยอดคนทั้งสิบเจ็ดได้!”
“น่าเสียดาย! แต่อย่างไรเย่หยวนก็ได้ตายอย่างสมเกียรติ เขานั้นมีปัญญาพอจะท้าทายยอดคนทั้งสิบเจ็ดจริง!”
“พาตัวเองฉิบหายแท้! หากไม่เพราะไปหาเรื่องยอดคนทั้งสิบเจ็ดนั้นเขาอาจจะขึ้นไปติดหนึ่งในสิบก็ได้ เวลานี้เขานั้นไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้แล้วเสียด้วยซ้ำ”
…
เสียงโห่ร้องอย่างเสียดายดังขึ้นมาจากเมืองต่างๆ
เพราะพรสวรรค์ล้ำฟ้าของเย่หยวนนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องถอนหายใจยาวอย่างตกตะลึง
เพียงแค่ว่าเขานั้นไม่รู้จักกลัวตาย คิดท้าทายยอดคนทั้งสิบเจ็ดพร้อมๆ กัน
ส่วนอีกด้านตัวเย่หยวนที่เงียบปากมาตลอดก็ยิ้มกว้างขึ้นมา “พวกเจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ข้าไปบอกตอนไหนว่าข้าแค่บรรลุต้นกำเนิดดาบ?”
คำพูดเดียวนี้ทำให้สีหน้าของเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายต้องถอดสีไปตามๆ กัน
จากนั้นเย่หยวนก็ยกมือทั้งสองขึ้นมา “ค่ายกล ทำงาน!”
จากนั้นดาบที่บินว่อนอย่างไร้ทิศทางมันก็ได้ผสานเข้าและทำงานพร้อมๆ กันเป็นหนึ่ง
ต้นกำเนิดเต๋าค่ายกลระดับสอง!
ได้เห็นเช่นนั้นเด็กชะตาไร้คาดนับล้านๆ นั้นก็ต้องแตกตื่นขึ้นมาจนมิติสงครามดึกดำบรรพ์สั่นสะเทือน
“บ้าน่า! บ้าไปแล้ว! เต๋าดาบและเต๋าค่ายกลบรรลุขึ้นมาพร้อมกัน นี่มันยังเป็นคนอยู่หรือ?”
“สัตว์ประหลาด! ปีศาจ! ผีร้าย! ตัวตนเช่นนี้มันมีในโลกหล้าได้อย่างไร? เช่นนี้แล้วเราจะอยู่กันไปเพื่อ?”
“พลังของต้นกำเนิด ยิ่งขึ้นไปมันยิ่งยากเย็น แต่เขานั้นกลับบรรลุสองพลังต้นกำเนิดได้พร้อมๆ กัน ข้า… ข้าขอตัวไปเอาหัวโขกเต้าหู้ตายก่อนแล้ว!”
…
อิจฉา ริษยา เกลียดชัง!
ทุกความรู้สึกมันได้ปะทุขึ้นในจิตใจของเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลาย
พวกเขานั้นคือใคร?
พวกเขานั้นคือหนึ่งในล้านยอดอัจฉริยะที่ทุกผู้คนบนโลกหล้าต่างอิจฉา
แต่พวกเขานั้น เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายกลับไร้ค่าใดๆ ต่อหน้าเย่หยวน!
ไม่มีค่าใด!
เจ้านั้นมีความสามารถแต่เจ้านั้นทำอย่างเขาได้หรือไม่? เจ้าสามารถบรรลุพลังต้นกำเนิดได้ง่ายเหมือนหายใจเช่นนี้ไหม?
เจ้านั้นมีพรสวรรค์ แต่เจ้าทำอย่างเขาได้หรือไม่? ทำการต่อสู้กับยอดคนสิบเจ็ดคนด้วยพลังบ่มเพาะที่ต่ำต้อยเพียงแค่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาว?
ทำไม่ได้!
นี่มันคือตัวตนที่ทำให้คนสิ้นหวัง
บนท้องฟ้ากว้างนั้นเหล่าบรรพกาลทั้งหลายต่างต้องอ้าปากค้าง!
“เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“เต๋าดาบและเต๋าค่ายกลนั้นมันต่างเป็นแนวคิดที่เหนือล้ำเป็นรองแค่สุดยอดแนวคิด! การที่บ่มเพาะมันจนบรรลุขึ้นพลังต้นกำเนิดระดับสองได้เช่นนี้มันคงยากเกินคำว่ายากไปแล้ว แต่เขานั้นกลับบรรลุขึ้นได้พร้อมๆ กันอีกด้วย!”
“น่ากลัว! หรือว่านี่เขาจะท้าทายยอดคนทั้งสิบเจ็ดได้จริง?”
…
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม “ฮ่าๆ เจ้าเด็กคนนี้มันทำให้ผู้คนตื่นตะลึงเสมอ! สายฟ้า เวลานี้เจ้ายังคิดว่าผางเจิ้นจะได้อันดับหนึ่งมาหรือไม่เล่า?”
แน่นอนว่าตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้านั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก
เพราะพรสวรรค์ของเย่หยวนนี้มันเหนือกว่าที่เขาคาดไปมากล้น
สัตว์ประหลาดเช่นไหนเขาก็เคยเห็นมาก่อน แต่ไม่เคยจะเจอใครที่เป็นสัตว์ประหลาดได้ถึงขั้นนี้
เมื่อได้ยินคำว่าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้าก็ได้แต่ต้องปิดปากเงียบไป
แต่เขานั้นก็ยังภาวนาอยู่ในใจ ภาวนาว่าเต๋าดาบและเต๋าค่ายกลของเย่หยวนมันจะยังต้องปรับความเข้ากันได้
หากเป็นเช่นนั้นแล้วเด็กๆ ทั้งสิบเจ็ดคนก็จะยังพอมีหวังชนะ!
แน่นอนว่าหากมันเข้ากันได้สมบูรณ์…
และราวกับว่าเขารอจะตบหน้าผู้ที่ดูถูกเขานั้น เย่หยวนได้สร้างค่ายกลดาบนิพพานแท้ขนาดใหญ่ล้ำขึ้นมาสำเร็จในวินาทีนี้!
“มาสิ ให้ข้าได้เห็นหน่อยว่าพวกเจ้าทั้งสิบเจ็ดนั้นจะเก่งอย่างที่ว่าไหม!” เย่หยวนกล่าว
เขานั้นเพิ่งบรรลุขึ้นมาได้แน่นอนว่าทั้งปราณเทวะพลังงานใดๆ มันย่อมจะเหนือล้ำกว่าเก่า ความมั่นใจของเขานั้นเปี่ยมล้น
แม้ว่าศัตรูของเขานั่นจะเก่งกาจและใช้ฝีมือที่มีออกมาทั้งหมด เขาก็ไม่คิดจะเกรงกลัว
ผางเจิ้นกัดฟันแน่น “ทุกคน โจมตีพร้อมกัน! อย่าให้มันได้มีโอกาส!”
เหล่ายอดฝีมือทั้งสิบเจ็ดนั้นเองก็เข้าใจแล้วว่ามันไม่ทางใดจะออมมือได้อีก พวกเขาทั้งหลายนั้นจึงได้ปล่อยพลังที่มีออกมาทั้งหมดอย่างสุดตัว
ปัง! ปัง! ปัง!
ภายในกรงยักษ์นั้นมันเกิดคลื่นพลังลั่นฟ้าขึ้นมา
คลื่นพลังนั้นมันแทบจะทำลายตัวกรงลง
แต่ภายใต้คลื่นพลังแนวคิดมากมายนั้น ดาบที่บินว่อนมันกลับยังคงเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างเป็นระบบ
การป้องกันของมันนี้แข็งแกร่งล้ำกว่าตัวกรงเสียอีก!
คนทั้งโลกหล้าต้องอ้าปากค้าง!
ในวินาทีนี้พวกเขาได้เข้าใจถึงคำว่าไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!
ด้วยการโจมตีสุดตัวของยอดคนทั้งสิบเจ็ด มันต้องรุนแรงเหนือล้ำปานใด?
แต่เย่หยวนกลับยืนมั่นอยู่ตรงนั้นไม่ว่าคลื่นพลังนั้นมันจะรุนแรงปานใดเขาก็ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไหว!
พลังต้นกำเนิดดาบระดับสองและพลังต้นกำเนิดค่ายกลระดับสองผสานกับแนวคิดแห่งห้วงมิติเวลา นี่มันคือค่ายกลดาบใหญ่ยักษ์ที่ไม่มีช่องโหว่
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือดาบนับแสนเล่มที่เย่หยวนเรียกขึ้นมานั้นมันเป็นสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น!
พลังของมันนั้นไม่อาจจะประเมินวัดค่าได้เลย
………………..