Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2379 มาอย่างสง่า กลับอย่างผ่าเผย!
“ท่านเจ้าวัง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! มันมีคนบุกเข้ามาในวังสวรรค์เฝ้าเรา!”
“จะตื่นตระหนกใด? ไหนลองพูดมาสิว่าใครกันที่มันมา กำลังของมันเล่า?”
“ผ-ผู้มาถึงนั้นมันเป็นชายหนุ่มไม่ทราบอายุได้แต่มันมีกำลังบ่มเพาะอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์… ห-ห้าดาว!”
“เหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นมันเอาแต่เงินไม่คิดทำงานกันหรืออย่างไร? แค่จักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวมันก็ไม่มีปัญญาจัดการหรือ? แล้วเจ้าก็ไม่ต้องมารายงานข้าทุกสิ่งอย่างไป คิดอะไรของเจ้า? ไปบอกพวกหยวนเจิ้นนู่นไป!”
“ท-ท่านหยวนเจิ้นถูกมันสังหารไปแล้ว!”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
“ท่านหยวนเจิ้นนั้นถูกเจ้าหนุ่มคนนั้นสังหารไปแล้ว มิใช่แค่เขาเท่านั้น ทั้งหยวนเจี๋ยและหลู่เฟิงทั้งหลายต่างก็ตายสิ้น! ที่สำคัญไปกว่านั้น… คือเขายังเรียกท่านด้วยนามบอกว่ามาเพื่อจะมาหาเจ้าวัง! มันบอกว่ามันนั้นคือคนร้ายที่ไล่ทำลายล้างวังสวรรค์เฝ้าต่างๆ มากมายในดินแดนเรา!”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ? มันคนเดียวนี้กลับทำลายวังสวรรค์เฝ้าทั้งหลายลง? บ้าไปแล้ว!”
หยวนฮุ่ยย่อมตกตะลึงไม่น้อย
เขานั้นได้แต่นั่งคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้ววังสวรรค์เฝ้าทั้งหลายนั้นกลับจะถูกจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งทำลายลง!
เผ่ามนุษย์มันมียอดอัจฉริยะเช่นนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด?
หยวนฮุ่ยนั้นย่อมจะไม่กล้าจะเชื่อสักเท่าใด แต่เขาก็คิดว่าลูกน้องของตนคงไม่เอาข่าวมั่วๆ เข้ามารายงานด้วยสีหน้าเช่นนี้แน่
เพราะแม้แต่หยวนเจิ้นยังตาย มันย่อมเป็นไปได้มากที่วังสวรรค์เฝ้าทั้งหลายจะถูกกวาดล้าง
“ไป! รีบออกไปดู!” พูดจบเขาก็พุ่งตัวหายไปทันที
…
กลางอากาศนั้นมันมีชายหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งกำลังยืนมือไพล่หลังไว้พร้อมดาบที่หมุนวนรอบกายอย่างน่าหวาดกลัว!
ทั้งยอดฝีมือชาวมนุษย์และเผ่าเทวาต่างกลัวไม่กล้าจะเข้าไปใกล้ ได้แต่ยืนล้อมอยู่รอบๆ
ได้เห็นเช่นนั้นหยวนฮุ่ยก็เชื่อทันที
เขานั้นจ้องมองดูเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เจ้าหรือคือคนที่ทำลายวังสวรรค์เฝ้าทั้งสิบแปดของเผ่าเทวาข้า?”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยเสียงเรียบๆ “ข้าเอง”
หยวนฮุ่ยนั้นหัวเราะขึ้นมา “ดูท่าเรื่องในฟ้าใต้มันจะทำให้เจ้าไม่อาจอยู่เฉยได้อีกแล้ว! ในเมื่อเจ้ากล้าทำ เจ้าก็คงพอรู้ตัวใช่หรือไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?”
หยวนฮุ่ยนั้นไม่ได้โง่ การที่เย่หยวนปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ในสายตาของเขามันย่อมจะคิดว่าเพราะเรื่องของคนในฟ้าใต้
มนุษย์ที่คิดต่อต้านเผ่าเทวาเช่นนี้เขาได้เห็นมานักต่อนัก
เพียงแค่ว่าตัวเย่หยวนนี้มันจะดูมากปัญหากว่าคนพวกนั้นเสียหน่อย
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรในเมื่อเย่หยวนโผล่หน้าออกมาเช่นนี้แล้ว เรื่องราวมันก็จะได้จบกันลงเสียที
แม้ว่าฝ่ายเผ่าเทวาจะสูญเสียไปมากมายแต่การล่อยอดอัจฉริยะขนาดนี้ออกมาจัดการได้มันก็ถือว่าคุ้มค่า!
ไม่เช่นนั้นแล้วหากคนผู้นี้ก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดินห้าทลายขึ้นมา ความฉิบหายมันคงบังเกิด
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “รู้ตัวเรื่องใด? ข้าว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้านั้นแค่มาบอกว่าเรื่องของฟ้าใต้ให้มันจบเท่านี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะทำลายวังสวรรค์เฝ้าของทั้งแดนใต้นี้ลงเสีย แน่นอนว่าหากเจ้ามียอดฝีมือเต๋าสวรรค์เก้าลายมากพอ จะส่งไปรักษาการวังสวรรค์เฝ้าแห่งละคนก็ไม่ว่ากัน”
โอหัง!
ดูถูกทุกสิ่งอย่าง!
แม้ต้องเจอเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลางอยู่ตรงหน้าเช่นนี้แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจ!
เขานั้นไม่ได้มาเพื่อมอบตัว แต่มาเพื่อหาเรื่อง!
เหล่าคนเผ่าเทวาทั้งหลายต่างอ้าปากค้างอย่างไม่คิดอยากเชื่อคำของเย่หยวน
เจ้าเด็กคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือ?
เขานั้นคิดจะหนีรอดจากมือของท่านหยวนฮุ่ยไปได้?
เย่หยวนนั้นฆ่าสังหารมากมายก่อนหน้า คนทั้งหลายยังคิดว่ามันเป็นการขัดขืนครั้งสุดท้าย
ไม่นึกไม่ฝันว่าแม้จะเจอหน้าท่านหยวนฮุ่ยแล้วตัวเย่หยวนก็จะยังไม่คิดสนใจ!
“ฮ่าๆๆ…”
เมื่อหยวนฮุ่ยได้ยินเขาก็เหมือนจะได้ยินมุกสุดตลกขบขันหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่อาจหยุด
“เด็กน้อย เจ้ามันกล้า! การที่สามารถทำลายวังสวรรค์เฝ้าได้ถึงสิบแปดแห่งนั้นมันย่อมจะหมายความว่าเจ้าเก่งกาจ! แต่เจ้านั้นจะดูถูกเต่าสวรรค์เก้าลายจนเกินไปแล้ว! จากแปดลายสู่เก้าลายนั้นมันมิได้เหมือนจากจักรพรรดิเทพสวรรค์สู่เจ้าฟ้าดินของพวกเจ้า!” หยวนฮุ่ยหัวเราะลั่นขึ้น
เย่หยวนตอบกลับไป “ไม่ต่างกันหรอกสำหรับข้า เอาล่ะ ข้าบอกเรื่องที่จะบอกแล้ว! หากเจ้ายังกล้าลงมือกับเผ่ามนุษย์อีก ก็อย่าได้หาว่าข้านั้นโหดเหี้ยมฆ่าสังหารไม่เว้นหน้า!”
พูดจบเย่หยวนนั้นก็ก้าวเท้าหันเดินจากไปเหมือนจบธุระแล้ว
ได้เห็นเช่นนั้นมันกลับไม่มีใครสักคนกล้าขวางทาง!
เพราะคนทั้งหลายนั้นกลัวในจิตสังหารของเย่หยวนจนหัวหด
“มีหรือที่วังสวรรค์เฝ้าของข้าจะเป็นที่ที่เจ้าไปมาได้ตามใจชอบ? หยุดลงเดี๋ยวนี้!”
หยวนฮุ่ยร้องลั่นพร้อมด้วยคลื่นพลังกดดันของเต๋าสวรรค์เก้าลายที่ปล่อยออกมาหนักหน่วง
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันปกคลุมรอบพื้นที่กว่าแสนกิโลเมตรรอบๆ!
การที่หยวนฮุ่ยสามารถปกครองแดนใต้ด้วยตัวคนเดียว แน่นอนว่ากำลังของเขานั้นมันย่อมเหนือล้ำใคร
ต่อให้จะเป็นในสายเลือดลึกทั้งหลายตัวเขาเองก็นับได้ว่าเป็นแนวหน้า!
เมื่อเขาก้าวออกมานั้นมันก็แทบกลายเป็นวันสิ้นโลกทันที
เหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นแทบจะไม่อาจหายใจได้หลังสัมผัสถึงแรงกดดันนี้
คลื่นพลังกดดันนี้มันออกมาจากเต๋าสวรรค์ มันน่ากลัวจนเกินไป!
เผ่าเทวานั้นสามารถกดหัวทุกเผ่าพันธุ์และเรียกตัวเองว่าเป็นทูตเต๋าสวรรค์ แน่นอนว่ามันย่อมจะเกิดขึ้นได้เพราะพลังเช่นนี้
แต่ว่าต่อหน้าคลื่นพลังกดดันจากเต๋าสวรรค์อันหนักหน่วงนี้ เย่หยวนกลับไม่ได้คิดสนใจและเดินหันหน้าต่อไป
หยวนฮุ่ยนั้นหัวเราะขึ้นมาก่อนจะพุ่งตัวผ่านมิติไป
ความเร็วของเขานั้นมันมากล้น!
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ในเวลานั้นเองมันก็มีดาบลอยพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างต่อเนื่อง
พลังของค่ายกลดาบนิพพานแท้!
เพียงแค่ว่าเวลานี้พลังใดๆ ของค่ายกลดาบนิพพานแท้มันไม่อาจจะหยุดยั้งตัวหยวนฮุ่ยผู้บ้าคลั่งได้เลย
หยวนฮุ่ยนั้นพุ่งตัวมาอย่างหนักหน่วงเมื่อใดที่มีดาบพุ่งมาถูกตัวเขานั้นมันก็จะแตกสลายลงไปทันที
ดาบทั้งหลายนั้นมันไม่อาจจะหยุดร่างของหยวนฮุ่ยได้เลย
พริบตาเดียวนี้เขาก็เข้ามาถึงระยะประมาณหมื่นก้าวห่างจากเย่หยวน
“ฮ่าๆ เด็กน้อย! ทำเช่นนี้มันยังพอจะจัดการเต๋าสวรรค์แปดลายได้ แต่กับข้าผู้นี้แล้วมันย่อมอ่อนแอเกินไป! จงหยุดลงเสีย!”
แต่ระหว่างที่หัวเราะไปนั้นตัวหยวนฮุ่ยกลับรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาจับใจ
เขานั้นอยู่ห่างจากเย่หยวนไปแค่ประมาณหมื่นก้าว
แต่ความเร็วของเขามันกลับช้าลง!
ใกล้แค่เอื้อมนี้ แต่มันกลับเหมือนอยู่แสนไกล!
“น่ากลัวเสียจริง! แนวคิดแห่งกาลเวลา! ไม่สิ มันยังมีพลังต้นกำเนิดของมิติ! พลังผสานมิติเวลา แม้แต่ข้าก็คงไม่อาจจะผ่านไปได้ง่ายๆ! เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นใครกันแน่? เผ่ามนุษย์มันให้กำเนิดสัตว์ประหลาดเช่นนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อใด?”
มันมิใช่ว่าหยวนฮุ่ยนั้นไม่อาจผ่านไปได้ แต่หากเขาอยากจะผ่านไปในทันทีนั้นมันเป็นไปไม่ได้
แต่ตัวเย่หยวนก็ย่อมไม่คิดหยุดรอเขาแน่นอน
หากเขาอยากจะไป จะมีใครคิดห้ามได้!
จากนั้นเย่กยวนก็เดินก้าวหายไปลิบจากขอบฟ้าของวังสวรรค์เฝ้าราวกับมาเดินเล่นในสวนหลังบ้าน!
เมื่อคลื่นพลังของเขาหายไปสิ้นแล้วทุกผู้คนต่างก็เริ่มจะสะดุ้งตัวขึ้นมาเหมือนได้ตื่นจากฝันร้าย!
“จ-เจ้าหนุ่มนี่มันน่ากลัวจริงๆ! มันกลับบรรลุแนวคิดแห่งมิติเวลา! ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่ขั้นถึงระดับต้นกำเนิด!”
“พระเจ้าช่วย แม้แต่ท่านหยวนฮุ่ยเองก็ยังไม่อาจจะจับตัวเขาไว้ได้!”
“ตอนแรกข้ายังนึกว่าเป็นเรื่องตลกที่มันมาข่มขู่ท่านหยวนฮุ่ย แต่ตอนนี้ข้าไม่อาจจะหัวเราะใดๆ ได้อีกแล้ว!”
…
ก่อนหน้านี้คำขู่ใดๆ มันย่อมไม่มีใครสน
แต่เวลานี้พวกเขาต่างไม่อาจหัวเราะได้อีกต่อไป
เขานั้นกล้าอย่างมาก คิดขู่บอกว่าจะล้างวังสวรรค์เฝ้าออกไปจากแดนใต้
ให้ส่งเต๋าสวรรค์เก้าลายไปดูแลในทุกๆ วัง?
บ้าแล้ว!
เต๋าสวรรค์เก้าลายนั้นมิใช่ผักปลา!
มหาพิภพถงเทียนนั้นมันยิ่งใหญ่อย่างที่แทบไม่มีสิ้นสุด
ต่อให้เผ่าเทวาจะส่งเต๋าสวรรค์เก้าลายที่มีทั้งหมดออกมา มันก็ไม่มีทางใดที่จะมาดูแลควบคุมวังสวรรค์เฝ้าได้ทั้งหมด
ลูกน้องของหยวนฮุ่ยคนหนึ่งร้องถามขึ้นมา “ท-ท่านเจ้าวัง เราจะทำอย่างไรกันดี?”
หยวนฮุ่ยนั้นมีสีหน้าหนักใจเหมือนเพิ่งได้แช่น้ำแข็งมา
จากนั้นเขาจึงกล่าวสั่งไป “เรียกทุกคนกลับมา! ส่งข่าวออกไป! หากมีใครคิดทำอันตรายต่อวังสวรรค์เฝ้าอีกแล้วเราจะไม่ไว้ชีวิตนิกายในพื้นนั้นอย่างเด็ดขาด!”
……………….