Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2422 ทัพไร้คาดเดาออกศึก!
“ท่านเยว่เฟิงกลับก้มลงคุกเข่าเช่นกัน!”
“นักบุญฟ้าครามนี่เป็นใครกัน?”
“ซิ่วหยุน เจ้าว่าเขานั้นมาจากเมืองจักรพรรดิมิใช่หรือ? แต่คนทั้งหลายนั้นมันมีแต่ยอดคนที่มีชีวิตอยู่มานานนับล้านๆ ปีกันสิ้น!”
…
ในเวลานี้แม้แต่ตัวซิ่วหยุนเองก็เริ่มสงสัยในข่าวที่ตัวเองได้รับมา
หรือว่าสิ่งที่เขาสืบมาก่อนหน้านี้มันจะเป็นการเข้าใจผิดกัน?
ภาพตรงหน้านี้มันทั้งเจิดจ้าและน่าตกตะลึงอย่างมาก
เย่หยวนหันไปก้มลงมองเยว่เฟิงแต่เวลานี้ตัวเยว่เฟิงนั้นกำลังก้มหน้าลงพร้อมคุกเข่าอย่างเคร่งครัดราวกับอยู่ในพิธีใดสักอย่าง
มันเหมือนว่าเย่หยวนนั้นมิใช่คนแต่เป็นเทพ!
เทพเจ้าตัวจริง!
แต่เย่หยวนนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ยังเป็นแค่ยอดฝีมืออาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่ง
เย่หยวนที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นมองดูเยว่เฟิงก่อนจะกล่าวขึ้น “ในเมื่อบรรพบุรุษของเจ้ารู้จักยุคสมัยก่อนแล้ว เจ้าก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่ากว่าที่หลากเผ่าพันธุ์จะมีวันนี้ได้มันยากเย็นแค่ไหน! เจ้านั้นคิดไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องราว มันย่อมไม่มีปัญหา แต่เจ้าคิดหรือว่าชีวิตของเจ้านี้จะรอดจากเงื้อมมือของเผ่าเทวามันได้?”
เยว่เฟิงก้มหน้าลงต่ำด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดๆ กลับมา
เมื่อเย่หยวนได้เห็นสภาพเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะทั้งรู้สึกเกลียดชังและสมเพช “ช่างเถอะ เจ้ายังจำคำของบรรพบุรุษตนได้ ยังถึงว่ารู้จักผิดชอบบ้าง วันนี้ข้าจะเว้นชีวิตเจ้าให้! เรื่องที่ว่าเจ้าจะขัดขืนเผ่าเทวาหรือไม่นั้น เจ้าลองใช้สมองคิดดูเอาด้วยตัวเองเถอะ หากเจ้าคิดว่าตนเองจะรอดพ้นจากเรื่องราวทางโลกได้จริง ก็ทำตามใจของเจ้าเถอะ”
พูดจบเย่หยวนก็เดินผ่านลงเขาไป
เยว่เฟิงนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกาย ไม่กล้าพูดแม้สักคำ
เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะเป็นนักบุญฟ้าครามในตำนาน!
ตระกูลของเขานั้นสั่งสอนกันมาตั้งแต่บรรพกาลว่านักบุญฟ้าครามและมายาล้ำนั้นมันคือสองนักบุญที่สร้างคุณให้แก่มนุษยชาติ
เพียงแค่ว่ายุคสมัยนั้นมันผ่านไปแสนนาน เขาจึงคิดว่ามันเป็นแค่ตำนาน
เขาไม่นึกฝันว่ามันกลับจะยังมีอยู่จริง!
และสิ่งที่เขาไม่คาดฝันที่สุดก็คือนักบุญฟ้าครามนั้นกลับเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง!
แม้ว่ามันจะดูเหนือความเข้าใจแต่เขาก็รู้ดีว่ามันคงไม่มีทางผิดพลาดไปได้
การทำให้ยอดฝีมือระดับกฎแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมาได้ เย่หยวนย่อมจะเป็นนักบุญฟ้าครามอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว!
แต่ทำไมนักบุญฟ้าครามจึงได้มาปรากฏตัวในยุคสมัยนี้?
เรื่องราวนี้เขาย่อมจะไม่อาจเข้าใจมันได้ไม่ว่าจะคิดอย่างไร
…
ระหว่างที่เย่หยวนขึ้นไปเอามหาค่ายกลบนเขาแปดโมฆะนั้นทางฝ่ายทัพผสมหลากเผ่าพันธุ์เองก็กำลังเจอศึกหนัก
ทุ่งกว้างของแดนตะวันตกเวลานี้มันถูกกลบไปด้วยกลิ่นของเลือดและความตาย
เจ้าฟ้าดินมากมายนั้นพุ่งตัวออกไปสู้รบจนทำให้ภูเขาแตกสลายแม่น้ำแห้งเหือด
เวลานี้ดินแดนวิญญาณและสัตว์สิ่งมีชีวิตมากมายต้องตายลงไปเพราะศึกนี้
แต่ว่าทัพผสมนั้นก็ยังคงสู้รบพร้อมๆ กับถอยทัพไปด้วย
ทำให้แม้ว่าจะเสียหายไปแต่มันก็ไม่ถือว่าหนักหน่วงนัก
ที่สำคัญที่สุดคือเวลานี้เผ่ามนุษย์จะเป็นหน้าทัพส่วนมาก ทำให้เผ่าอื่นๆ ไม่อาจจะปริปากบ่นได้
ในเวลานี้มันมีเจ้าฟ้าดินนับร้อยๆ กำลังปะทะกับเหล่ายอดแม่ทัพนายกองของเผ่าเทวา
การต่อสู้นี้มันทำให้มิติถล่มฟ้าดินทลาย
“ฮ่าๆๆ มนุษย์ในทุกวันนี้มันอ่อนแอจริงๆ! เจ้าฟ้าดินห้าทลายมากมายขนาดนี้ร่วมมือกันก็ยังไม่อาจเอาชนะข้าลงได้! ยุคก่อนนั้นแม้จะมิใช่มหาบรรพกาลทั้งสิบแปดเองมันก็ยังมียอดฝีมือมากมายล้นฟ้า! มันมีหลายต่อหลายคนที่เก่งกาจพอจะสู้กับบรรพกาลผู้นี้แบบตัวต่อตัวได้! แต่วันนี้พวกเจ้ากลับอ่อนแอเสียเหลือเกิน!”
ในการศึกอันดุเดือดนั้นเทียนเหอได้หัวเราะลั่นขึ้นมาพร้อมด้วยคำพูดดูถูกทัพหลากเผ่าพันธุ์
เพราะตัวเขาคนเดียวนี้กลับกำลังรับมือเจ้าฟ้าดินห้าทลายอยู่ถึงสิบสี่คน
ต่อให้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังไม่ได้เหนือยากใดๆ
กำลังของเขาในเวลานี้มันย่อมจะทำให้ยอดฝีมือหลากเผ่าพันธุ์รู้สึกสิ้นหวัง
เมื่อมาถึงระดับของเจ้าฟ้าดินและเต๋าสวรรค์เก้าลาย พลังของเผ่าเทวามันจึงได้ปรากฏชัดขึ้นมา
การปะทะที่ผ่านๆ มานี้เผ่ามนุษย์ทั้งหลายไม่อาจจะตอบกลับใดๆ ไปได้เลย
มันมีเจ้าฟ้าดินมากมายตายตกลง
เทียบกันแล้วความสูญเสียของเผ่าเทวานั้นมันน้อยกว่ามาก
ที่พวกเขายังคงต้านทานเทียนเหอไว้ได้จนตอนนี้มันก็เพียงเพราะว่าทัพผสมหลากเผ่าพันธุ์นั้นมันมีจำนวนยอดฝีมือมากมาย
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยกำลังของเทียนเหอนี้เขาคงไล่ฆ่าสังหารเจ้าฟ้าดินทีละคนไปได้มากมาย
เหล่ายอดฝีมือเจ้าฟ้าดินห้าทลายของทัพผสมนั้นต่อสู้อย่างสุดตัวแต่กลับไม่อาจจะต่อต้านใดๆ ได้
แม้ว่ามันจะมีแผนใหญ่ที่เย่หยวนวางไว้รับมือแต่พลังของเผ่าเทวามันก็ทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นต้องสิ้นหวังไปตามๆ กัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์นั้นที่หากถูกใช้ออกมาแล้วต่อให้จะเป็นเทพเจ้าจากที่ใดมามันก็จะถูกฆ่าสังหารลงสิ้น
นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่ากำลังของเผ่าเทวานั้นมันเหนือล้ำปานใด!
หากไม่มีมหาค่ายกลของเขาแปดโมฆะนี้แล้วพวกเขาคงถูกล้อมจนพ่ายแพ้ราบ
“ท่านแม่ทัพ เราแทบไม่อาจทนได้แล้ว!”
“ท่านผู้นำ เราจะพ่ายแล้ว!”
…
เวลานี้เหล่านายกองของหลากเผ่าต่างกำลังร่ำร้องขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง
คนที่รู้แผนการใหญ่นั้นมันมีแต่ระดับแม่ทัพทั้งหลายเท่านั้น
เพราะฉะนั้นความสิ้นหวังนี้มันจึงมิใช่ของปลอมแปลงใด!
หนี่ซวนเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลายครั้งก่อนจะสั่งออกมาด้วยเสียงเย็นเยือก “ถอยต่อไป!”
แต่นายกองคนหนึ่งกลับร้องขึ้นมา “แต่ท่านแม่ทัพใหญ่ ด้านหลังเรามันเป็นเขาแปดโมฆะแล้ว! ถอยไปมากกว่านี้เราคงเข้าตาจนแน่!”
หนี่ซวนกัดฟันแน่น “แค่ถอยตามที่สั่งก็พอแล้ว! จะมาพูดมากปากเหม็นทำไม? ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าก็สู้จนตัวตายกับเผ่าเทวาไปไหมเล่า!”
นายกองผู้นั้นไม่อาจจะเถียงใดๆ ได้แต่ต้องถอยตามที่ได้รับสั่ง
เมื่อเทียนเหอได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเขาก็หัวเราะขึ้น “อ่อนแอ! อ่อนแอเสียจริง! มนุษย์มันไม่มีทัพใดแข็งแกร่งเลยหรือ?”
หนี่ซวนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกถอยหลังกลับมาเรื่อยๆ
กองทัพนั้นผลัดรับผลัดถอยมาเรื่อยจนถึงตีนเขาแปดโมฆะในที่สุด
เวลานี้ทัพเผ่าเทวานั้นมันล้อมทัพผสมไว้รอบด้านอย่างไร้ทางออก ไม่มีที่ให้ถอยหนีได้อีก
มีทางเลือกแค่ว่าจะขึ้นเขาไปตายกับมหาค่ายกล
หรือสู้สุดตัวตายไปกับเผ่าเทวา!
แน่นอนว่าไม่ว่าเป็นทางไหน มันก็ต้องพบเจอความตาย!
ลูกน้องคนหนึ่งหันมาถามหนี่ซวน “ท่านแม่ทัพใหญ่ เราจะทำอย่างไรต่อไปกัน?”
หนี่ซวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด “ทำอะไรได้อีกเล่า? ต้องทะลวงเข้าไป!”
“แต่เราถูกล้อมไว้แล้ว! มันไม่มีจุดไหนจะทะลวงออกได้เลย!”
หนี่ซวนกัดฟันแน่น “หาสิ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าตลอดแนวเขาแปดโมฆะอันยิ่งใหญ่นี้พวกมันจะปิดทางได้หมดสิ้น!”
ลูกน้องคนนั้นรีบพุ่งตัวออกไปและไม่นานมันก็ได้มีข่าวส่งกลับมา
ลูกน้องคนนั้นรีบก้มลงรายงานหนี่ซวนอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพใหญ่อย่างมีความคิดกว้างไกล! เผ่าเทวามันปิดได้ไม่หมดจริง! เราสามารถบุกออกไปจากตรงนั้นได้!”
หนี่ซวนถอนหายใจยาวออกมาเมื่อได้ยิน มีหรือที่ตัวเขาจะมีความคิดกว้างไกลใด? มันเป็นท่านนักบุญฟ้าครามต่างหากที่วางแผนไว้ได้อย่างแม่นยำ!
เพื่อที่จะล่อนักบุญฟ้าครามออกไปนั้นเผ่าเทวาได้เบิกช่องว่างทำตามแผนที่นักบุญฟ้าครามบอกไว้
แต่แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่แสดงมันออกมาบนใบหน้า “สั่งการออกไป! ให้ทัพไร้คาดเดาบุกทะลวงเปิดทางนี้! เราจะบุกตามออกไป!”
ทัพไร้คาดเดานั้นมันคือไม้ตายของพวกเขา!
เมื่อลูกน้องผู้นั้นได้ยินเขาก็รู้ทันทีว่ามันถึงเวลาของศึกตัดสิน พวกเขาทั้งหลายย่อมจะรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
แท้จริงก่อนหน้านี้ลูกน้องนายกองของเขาหลายต่อหลายคนก็ได้มาเสนอให้ส่งทัพไร้คาดเดาออกไป แต่หนี่ซวนกลับปฏิเสธทุกครั้งไป
เวลานี้มันถึงเวลาปล่อยไม้เด็ด!
เพียงแค่ว่าพวกเขาเหล่าทหารทั้งหลายไม่ได้เข้าใจถึงความสำคัญของทัพไร้คาดเดานี้เลย!
“ฆ่ามัน!”
ผางเจิ้นนำทัพไปคู่กับว่านเจิ้น ที่ใดที่ทัพไร้คาดเดาเคลื่อนผ่านนั้นกองทัพของเผ่าเทวาจะแตกสลายลงแทบทันที
เมื่อพวกเขาลงสนามรบอีกครั้งนี้ กำลังของทัพไร้คาดเดามันก็พุ่งทะยานจนเกินกว่าเก่าไปหลายเท่านัก
ทั้งพลังฝีมือรายคนและการประสานกำลังกันนั้นมันเหนือล้ำขึ้นกว่าก่อนหน้าอย่างเทียบไม่ติด มันมีหลายต่อหลายคนที่ก้าวผ่านทุกข์ทลายขึ้นมาเป็นเจ้าฟ้าดินกันได้!
ผางเจิ้นและว่านเจิ้นเองก็เป็นหนึ่งในเจ้าฟ้าดินเกิดใหม่นี้!
กำลังของพวกเขาทั้งสองนี้เมื่อก้าวมาถึงระดับเจ้าฟ้าดิน มันย่อมจะพุ่งทะยานไร้จำกัด
อีกด้านเมื่อเทียนเหอได้ยินการออกศึกของทัพไร้คาดเดาเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างขึ้น
“ฮ่าๆๆ… หนี่ซวนมันไม่อาจจะเก็บความกังวลไว้ได้แล้ว! บรรพกาลผู้นี้อยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าเย่หยวนนั้นมันจะมีพลังเหนือฟ้าดินจริงหรือไม่! พวกเจ้าทั้งหลายจงฟัง! เลิกปิดล้อมโจมตีทัพหลักของทัพผสมหลากเผ่าพันธุ์ มุ่งหน้าใช้กำลังที่มีทั้งหมดปิดล้อมโจมตีทัพไร้คาดเดาแทน! เหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายทั้งหลาย ออกศึกได้! สังหารเย่หยวนให้ข้าให้จงได้!” เทียนเหอสั่งการออกมาอย่างชัดเจน
………………