Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2428 นามลือ ลั่นโลกา!
“นักบุญฟ้าครามนี้คือใครกัน? ข้าไม่เห็นจะเคยได้ยินได้ฟังนามนี้ที่ไหนมาก่อนเลย!”
“หึๆ เจ้ามันโอหังไม่สนใจข่าวสารบ้านเมืองสินะ? คนผู้นี้โด่งดังไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียน! แม้ว่าเขานั้นจะเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์แต่ตำแหน่งของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าใครๆ ไปแล้ว!”
“หืม? เลิกปล่อยให้เรางงได้แล้ว มันเป็นใครกันแน่เล่า?”
“หลายปีก่อนนั้นมันมีข่าวใหญ่หนึ่งเกิดขึ้นมาในโลกการโอสถ เรื่องที่ว่าโอสถบรรพกาลนั้นกลับพ่ายลงและกำเนิดบรรพกาลคนใหม่ขึ้นมา! ชายหนุ่มอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งนั้นกลับถูกจอมเทพโอสถทั่วฟ้าดินเรียกขานว่าเป็นปฐมาจารย์! เจ้าคิดว่ามันจะยังเป็นใครได้เล่า?”
คนข้างๆ เขานั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อ
ไม่มีใครคิดฝันว่านักบุญฟ้าครามผู้มีนามลือลั่นมหาพิภพถงเทียนนี้จะกลับกลายเป็นปฐมาจารย์เย่ เย่หยวนคนนั้น!
จักรพรรดิเทพสวรรค์หนุ่มคนหนึ่งกลับกลายเป็นสุดยอดตัวแปรสำคัญของสงครามสิ้นโลกนี้ มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื่นตะลึง?
ในเวลานี้มันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์นับร้อยกำลังนั่งล้อมชายวัยกลางคนผู้หนึ่งอยู่
ชายวัยกลางคนท่าทางยากจนผู้นี้มีนามว่าเป่าเทียนเต๋อ เขาเองก็เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งเช่นกันแต่งานหลักของเขานั้นคือการขายข่าวข้อมูล
ข่าวแต่ละอย่างที่ได้มาจากตัวเขานี้มันไม่เคยจะผิดพลาด คนทั้งหลายจึงได้ตั้งฉายาเขาไว้ว่า ‘ยอดนักสืบเป่า’
ยอดนักสืบเป่านี้มักจะเก็บค่าข่าวอย่างมากมายแต่ครั้งนี้ตัวเขานั้นกลับได้มาเปิดกระจายข่าวฟรีๆ ทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายในบริเวณต่างหันมาสนใจ
แม้ว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้จะไม่ได้ไปร่วมทัพหน้าแต่พวกเขาก็ยังให้ความสนใจต่อข่าวการปะทะของทัพหน้าอย่างมาก
จะอย่างไรเสียนี่มันก็เป็นข่าวที่ส่งผลถึงอนาคตวันหน้าของตัวพวกเขาเอง
จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดเชื่อ “บ้าน่า! ข้านั้นเคารพนับถือปฐมาจารย์เย่ว่าเขานั้นเก่งกาจในการโอสถอย่างหาใครเปรียบไม่ได้ แต่เขานั้นจะมีพลังฝีมือใดไปต้านทานถึงขั้นเปลี่ยนกระแสสงครามสิ้นโลก? เรื่องนี้มันย่อมจะมีการใส่สีตีไข่มาแล้วใช่หรือไม่?”
ที่ด้านข้างนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกคนก็พยักหน้ารับ “ข้าก็คิดเช่นนั้น! จะบอกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้เป็นคนขับไล่เผ่าเทวาไปด้วยตัวคนเดียวมันยังพอเข้าใจ! แต่เขานี้กลับเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่ง จะใช้อะไรมาสู้? ดูแล้วข่าวนี้มันคงมีการใส่สีตีไข่เพิ่มเข้ามาหลายต่อหลายครั้งทีเดียว!”
“แน่นอน! หากบอกว่าเป็นเจ้าฟ้าดินห้าทลายยังพอว่า ตัวตนของจักรพรรดิเทพสวรรค์ในสงครามใหญ่เช่นนั้นมันเล็กน้อยจนเกินไป มันย่อมจะไม่มีทางเป็นไปได้แน่!”
…
ข่าวนี้คนทั้งหลายต่างได้ยินกันไปมากมายแต่คนที่เชื่อนั้นมันเรียกได้ว่าแทบไม่มีอยู่เลย
จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งกลับเปลี่ยนกระแสสงครามได้มันย่อมจะเป็นแค่เรื่องตลก
แต่ว่าตัวยอดนักสืบเป่านั้นกลับหัวเราะสวนกลับมา “พวกเจ้ามันไม่รู้อะไร! ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นวางแผนการยิ่งใหญ่อย่างแยบยลล่อทัพเผ่าเทวาเข้าไปยังเขาแปดโมฆะ! จากนั้นท่านก็เปิดใช้พลังของมหาค่ายกลระดับกฎของเขาแปดโมฆะสังหารเผ่าเทวาที่ต่ำกว่าอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายลงได้สิ้น แม่ทัพใหญ่ของเผ่าเทวาอย่างเทียนเหอนั้นเองก็ถูกทำร้ายจนแทบเอาชีวิตกลับไปไม่รอด ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นมิใช่แค่จะเป็นจอมเทพโอสถ ท่านนั้นยังเป็นจอมเทพค่ายกลอีกด้วย! ที่สำคัญข้ายังได้ยินข่าวอีกเรื่องมา เพียงแค่ว่า…”
คำพูดของยอดนักสืบเป่านั้นทำให้คนทั้งหลายต้องแทบหงายหลัง
พวกเขานั้นรู้ว่าข่าวที่ออกมาจากปากของยอดนักสืบเป่านี้ย่อมจะเป็นความจริงสิ้น
แต่จะอย่างไรมันก็เหลือเชื่อจนเกินไป
มหาค่ายกลบนเขาแปดโมฆะนั้นมันเป็นสิ่งที่คนทั้งหลายเคยได้ยินได้ฟังมาสิ้น
ตั้งแต่อดีตกาลมาแล้วไม่ว่าจะเป็นจอมเทพค่ายกลที่เก่งกาจสักแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะเข้าใจมหาค่ายกลนั้นได้หมดจด
แต่เย่หยวนกลับเปิดใช้งานค่ายกลขึ้นมาอีกครั้ง!
ข่าวนี้มันเหนือล้ำจนเกินบรรยาย
การใช้พลังแห่งกฎจัดการกับทัพเผ่าเทวานั้นมันย่อมจะฟังดูสมเหตุสมผลอย่างมาก
เพียงแค่ว่าการจะทำให้ได้มันยากเกินกว่าคำว่ายาก!
แต่ตัวยอดนักสืบเป่านั้นกลับทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่เหมือนยังมีข่าวอื่น
“มีอะไรอีก? รีบๆ ว่ามาสิ!”
“ใช่แล้ว พูดแล้วมาหยุดกลางคันเช่นนี้! หรือว่ามันจะยังมีข่าวใดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้?”
…
คนทั้งหลายนั้นย่อมกล่าวถามยอดนักสืบเป่าขึ้นมาตามๆ กันแต่ตัวยอดนักสืบเป่านั้นกลับส่ายหัวออกมา “ช่างเถอะๆ เรื่องนี้มันยังไม่มีการยืนยัน ข้าไม่กล้าเอาข่าวที่ยังไม่แน่มาพูดกล่าว”
คนทั้งหลายแทบจะต้องกระอักเลือดเมื่อได้ยิน เวลานี้ความอยากรู้อยากเห็นมันทำงานไปแล้วมีหรือที่จะปล่อยผ่านไปได้?
“เจ้านี่มันเกินไปจริง! จะไม่พูดก็ไม่ต้องพูดแต่แรกสิ! พูดแล้วก็อย่าได้มาหยุดกลางคันเช่นนี้! ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ต่อให้มันจะยังไม่ยืนยันใดๆ แต่เราก็จะฟังแล้วหัวเราะไปกับเจ้านั่นแหละ แค่นั้นมันก็ไม่มีปัญหาแล้วมิใช่หรือ?”
“ใช่แล้วยอดนักสืบเป่า หากวันนี้เจ้าไม่กล่าวให้จบข้าไม่ปล่อยเจ้ากลับบ้านจริงด้วย!”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างอยากรู้อยากเห็นจนเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมา
ยอดนักสืบเป่าหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “เอาล่ะๆ ในเมื่อพูดกันถึงขนาดนั้นแล้วข้าก็จะบอกเรื่องราวนี้ของท่านนักบุญฟ้าครามอีกอย่าง! ข้าได้ยินมานะ แค่ได้ยินมาเท่านั้นไม่มีการยืนยันใด!”
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างเงี่ยหูตั้งใจฟังไม่อยากพลาดแม้แต่รายละเอียดเดียว
ท่านนักบุญฟ้าครามนี้เป็นยอดคนที่นามลือลั่นทั่วมหาพิภพถงเทียน
ข่าวของเขานั้นมันย่อมจะกลายเป็นที่สนใจของทุกผู้คน
แม้ว่าคำพูดนี้มันจะเป็นแค่ข่าวลือแต่เมื่อออกมาจากปากของยอดนักสืบเป่าแล้วมันย่อมจะมีความน่าเชื่อถือขึ้นมาก
พูดไปตัวยอดนักสืบเป่าก็เริ่มเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นเคร่งเครียด
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยิ่งตั้งใจฟังไปกว่าเก่า
“ข้าได้ยินมาว่าท่านนักบุญฟ้าครามนั้นปลุกยอดฝีมือระดับกฎของเขาแปดโมฆะขึ้นมา! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือยอดฝีมือระดับกฎผู้นี้กลับเหมือนจะรู้จักท่านนักบุญฟ้าครามมาก่อน วินาทีที่ได้พบหน้ากันนั้นเขากลับคุกเข่าลงคารวะ! แน่นอนว่าเรื่องนี้มันก็แค่การเล่าจากปากไม่มีใครพิสูจน์ความจริงได้!” ยอดนักสืบเป่ากล่าวขึ้นมา
แท้จริงแล้วข่าวนี้เขาต้องเสียเงินไปมหาศาลเพื่อจะถามไถ่จากจอมเทพค่ายกลที่อยู่บนเขาแปดโมฆะในเวลานั้น
เพราะฉะนั้นข่าวนี้มันจึงเรียกได้ว่ามีความน่าเชื่อถือไม่น้อย
เพียงแค่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นมันเหนือล้ำจนเกินกว่าที่จะทำใจเชื่อลง
แน่นอนว่าเมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ต่างก็แตกตื่นกันขึ้นมา
“หะ?! ยอดฝีมือระดับกฎนั้นกลับก้มหัวให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้หนึ่ง?”
“ยอดนักสืบเป่า เจ้าล้อกันเล่นแล้ว!”
“ฮ่าๆๆ… ตลกเสียจริงๆ! ยอดนักสืบเป่าเจ้าเล่นมุขเสียยิ่งใหญ่ทีเดียว!”
…
มันเริ่มเกิดเสียงหัวเราะขึ้นมารอบๆ ตัวยอดนักสืบเป่า แต่ตัวเขานั้นกลับไม่ได้หัวเราะตาม
นั่นทำให้เสียงหัวเราะของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจางหายลงไปในที่สุด แทนที่มาด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆ แทน
พวกเขานั้นรู้ได้จากสีหน้าของยอดนักสืบเป่าว่าเขานั้นจริงจังแค่ไหน
มันชัดเจนว่าเขานั้นไม่ได้คิดเล่นมุขใด!
จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งถามขึ้นมา “อ่า ยอดนักสืบเป่า เรื่องนี้มันไม่จริงใช่ไหม? ม-มันฟังดูเหลือเชื่อปานนี้!”
ยอดนักสืบเป่าส่ายหัวออกมา “ไม่แน่ใจ แต่ย่อมจะมิใช่ข่าวลือไร้ที่มาแน่! แม้ว่าเขาแปดโมฆะนั้นมันจะไม่เหมือนก่อนๆ แล้วแต่มันก็ยังมียอดคนมากมายที่ขึ้นไปบ่มเพาะบนเขาอยู่ เรื่องวันนี้ข้าได้เสียเวลาถามไถ่อย่างมากมายแต่สุดท้ายเหล่ายอดคนที่ลงมาจากเขาแปดโมฆะนั้นกลับปิดปากเงียบไม่พูดกล่าวใดๆ หากมันเป็นเรื่องตลกแล้วสีหน้าของพวกเขามันคงไม่เป็นเช่นนั้นแน่! ที่สำคัญมันยังมีอีกเรื่องหนึ่ง!”
คราวนี้มันไม่มีใครจะหัวเราะได้อีกแล้ว
หากมันเป็นแค่เรื่องตลกจริงคนที่ลงมาจากเขาเมื่อได้ยินย่อมจะต้องหัวเราะขึ้น
สีหน้าของพวกเขานั้นมันย่อมจะไม่ดูหนักหน่วงใดๆ
อย่างน้อยๆ พวกเขาทั้งหลายนั้นก็คงแสดงอาการไม่ต่างจากพวกเขาทั้งหลายนี้เมื่อได้ยิน
คนทั้งหลายในเวลานี้จึงแทบลืมหายใจตั้งตาฟังยอดนักสืบเป่า
“เจ้าฟ้าดินห้าทลาย จักรพรรดิเทพสวรรค์เยว่เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าค่ายของท่านนักบุญฟ้าครามและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า! จากที่ข้าได้ยินมานั้น ในเวลานั้นเขาได้ขึ้นไปบ่มเพาะอยู่บนเขาแปดโมฆะ! และเขาก็ยังเป็นเจ้าฟ้าดินห้าทลายเพียงคนเดียวที่อยู่บนเขาด้วย! เจ้าฟ้าดินห้าทลายคนหนึ่งคุกเข่าไม่กล้าลุก พวกเจ้ารู้กันหรือไม่เล่าว่ามันมีความหมายว่าอย่างไร?” ยอดนักสืบเป่ากล่าว
“ซี๊ด…”
เกิดเสียงสูดหายใจยาวขึ้นรอบด้าน
ข่าวของยอดนักสืบเป่านี้มันเหลือเกินกว่าจะเชื่อได้
นามของจักรพรรดิเทพสวรรค์เยว่เฟิงนั้นมีใครไม่รู้จักบ้าง?
ในเต๋าค่ายกลเขานั้นเป็นหนึ่งในยอดคนสิบอันดับแรกของโลกหล้า!
แต่ยอดคนระดับนั้นกลับคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น!
…………………………