Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2446 เปิดเผยความลับนิรันดร
“ท่านหยวนเซี่ยว! มันมาตบหน้าเราถึงบ้านเช่นนี้แล้วท่านกลับยังจะเอาแต่นั่งมองมันไปเช่นนี้หรือ?” หยวนเว่ยได้แต่ร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ
เขานั้นไม่อาจจะเข้าใจเหตุผลและการกระทำนี้ของหยวนเซี่ยวได้เลย
สิ่งที่หากท่านบรรพบุรุษต้นตระกูลออกไปลงมือจัดการเองมันย่อมจบลงง่ายดาย แต่ทำไมเขาจึงกลับจะเอาแต่นั่งเฉย?
แต่หยวนเซี่ยวนั้นกลับค่อยๆ พิงหลังเอนตัวลงกับที่นั่ง “หากเจ้ารู้ว่ามันผู้นี้คือใครเจ้าคงไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่!”
หยวนเว่ยนั้นผงะไปไม่น้อยด้วยสีหน้าไม่อาจเข้าใจ
เย่หยวนคือใคร? มีหรือที่เขาจะไม่รู้?
ก่อนนั้นเป็นตัวเขานี้ที่เกือบสังหารเย่หยวนลงได้!
“ใคร… มันเป็นใครเล่า? แม้ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันอาจเก่งกาจมากล้ำแต่มันก็เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินขึ้นมา! หากนายท่านลงมือจริงๆ แล้วมีหรือที่มันจะยังรอดชีวิต?” หยวนเว่ยนั้นถามขึ้นอย่างสงสัยสุดใจ
หยวนเซี่ยวยิ้มขึ้นมาก่อนจะกล่าวเปลี่ยนเรื่อง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในสมัยก่อนนั้นเผ่าเทวาเราพ่ายแพ้เพราะน้ำมือใคร?”
หยวนเว่ยนั้นนิ่งลงไปอีกครั้ง เขาย่อมจะไม่เข้าใจถึงความหมายของหยวนเซี่ยวแต่ก็ยังถามกลับไป “ก่อนนั้นมันเป็นมหาบรรพกาลทั้งสิบแปดที่แลกชีวิตกดหัวเผ่าเทวาเราไว้ โดยเฉพาะตัวมหาบรรพกาลมิติเวลาที่มันขับไล่ท่านเทียนชิงลงไปในห้วงกระแสมิติเวลาจึงทำให้เผ่าเทวาเราพ่ายแพ้! แต่เอาจริงๆ มันนับว่าแพ้ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
หยวนเซี่ยวยิ้มตอบกลับมาพร้อมส่ายหัว “เจ้าเข้าใจไม่ผิดเสียทีเดียว แต่ก็ไม่ถูก! ในสงครามสิ้นโลกครั้งก่อนนั้นพวกเราพ่ายแพ้ลงด้วยน้ำมือของสองนักบุญแห่งเผ่ามนุษย์! เพียงแค่ว่าคนทั้งสองนี้มันไม่ปรากฏหน้าออกมาในโลกหล้าทำให้พวกเราไม่เคยรับรู้ถึงตัวตนของพวกมัน! เรื่องนี้ทางฝ่ายเราก็เพิ่งจะได้มารับรู้ในช่วงหลังๆ นี้เอง”
หยวนเว่ยเบิกตากว้างขึ้นอย่างไม่อาจเข้าใจ
เรื่องพวกนี้มันมาเกี่ยวอะไรกับเย่หยวน?
แพ้ด้วยน้ำมือใครมันก็เป็นเรื่องของเมื่อหลายหมื่นล้านปีก่อน มิใช่เรื่องที่จะเกี่ยวข้องกับวันนี้แล้วมิใช่หรือ?
หยวนเซี่ยวยิ้มก่อนจะเรียกให้หยวนเว่ยนั่งลงและกล่าว “ในยุคก่อนนั้นเผ่ามนุษย์มันสุดแสนอ่อนแอ แล้วเหตุใดพวกมันจึงได้ถือกำเนิดสุดยอดฝีมือขึ้นมาถึงสิบแปดคนได้? เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”
หยวนเว่ยขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อาจเข้าใจ
นี่มันคือความลับที่คาใจเผ่าเทวามาตลอด พวกเขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมวันหนึ่งมันถึงปรากฏยอดฝีมือมากมายขึ้นในฝ่ายมนุษย์
เพราะเผ่ามนุษย์ก่อนนั้นมันสุดแสนจะอ่อนแอเสียยิ่งกว่ามดปลวก
แต่มหาบรรพกาลมิติเวลานั้นกลับเหมือนปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
“เรื่องนี้… พวกมันคงหลบซ่อนฝึกฝนกันอยู่ในโลกใบน้อยเหมือนเราเวลานี้ จึงมีปัญญาจะฝึกฝนบ่มเพาะเหล่ายอดฝีมือของยุคสมัยมาได้!” หยวนเว่ยเดาขึ้น
หยวนเซี่ยวพยักหน้ารับ “เป็นเช่นนั้น! เพียงแค่ว่าเผ่าเทวาเรานั้นมีเจ้าสวรรค์หมี่ลั่ว ยอดฝีมือมากมายปานนั้นถือกำเนิดขึ้นมามันย่อมจะไม่มีทางใดที่เขาจะสัมผัสไม่ถึงมัน แต่ตัวเขานั้นกลับไม่รับรู้ใดๆ ได้เจ้าไม่คิดว่ามันแปลก?”
หยวนเว่ยหรี่ตาลงก่อนจะกล่าว “ป-แปลกจริง!”
หยวนเซี่ยวกล่าวต่อ “ในประวัติศาสตร์ที่สืบต่อกันมาของเผ่ามนุษย์มันมีสองผู้นำสำคัญอยู่! คนทั้งสองนี้ถูกหลากเผ่าพันธุ์ยกย่องบูชาเป็นสองนักบุญฟ้าครามและมายาล้ำจนมาถึงยุคสมัยนี้! และมันก็เป็นสองคนนี้เองที่ได้เปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของมหาพิภพถงเทียนไป…”
หยวนเซี่ยวกล่าวขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้งส่วนตัวหยวนเว่ยนั้นก็ได้แต่นั่งนิ่งฟัง
เขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าประวัติศาสตร์มันกลับยังมีเรื่องราวเช่นนี้อยู่!
หลังจากหายตกตะลึงไปหยวนเว่ยก็กลับมาคิดว่ามันแปลกๆ อีกครั้ง
เขานั้นมาหาท่านหยวนเซี่ยวเพื่อคุยเรื่องเย่หยวนแท้ๆ ทำไมท่านถึงได้ไปพูดกล่าวเล่าเรื่องนักบุญฟ้าครามและมายาล้ำใดๆ นี้?
“เย่หยวน แต่… แต่มันเกี่ยวอะไรกับเย่หยวนเล่าท่าน?” หยวนเว่ยนั้นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาเพราะความไม่เข้าใจ
หยวนเซี่ยวยิ้มขึ้นก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาเคาะบนโต๊ะราวกับพยายามบอกให้ตัวหยวนเว่ยสงบจิตใจลงและกล่าวบอก “เย่หยวนนั้น… คือนักบุญฟ้าครามจากตำนานของสองนักบุญฟ้าครามและมายาล้ำ!”
หยวนเว่ยนั้นหรี่ตาลงด้วยร่างกายสั่นสะท้าน เขาถึงขั้นผุดลุกขึ้นมาร้องลั่น “หะ?! น-นายท่าน เรื่องนี้มันจะมาล้อเล่นไม่ได้นะ! หากมันเป็นนักบุญฟ้าครามนั้นแล้วมันก็ย่อมจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าอายุนับหมื่นๆ ล้านปีสิ! มีหรือที่จะเป็นแค่เด็กน้อยไร้ฝีมือเช่นนี้?”
หยวนเซี่ยวยิ้มขึ้นก่อนจะถอนหายใจยาว “ตอนที่บรรพกาลผู้นี้ได้ยินข้าเองก็มีสภาพไม่ต่างจากเจ้าหรอก เรื่องนี้มันฟังดูเหลือจะเชื่อได้แต่… มันคือความจริง! เวลากว่าหมื่นๆ ล้านปีที่ผ่านมานี้ห้วงมิติเวลามันได้เกิดความโกลาหลอย่างไม่อาจจับต้นหรือปลายได้ถูก! พวกเรานั้นได้อยู่อาศัยมาในยุคสมัยแห่งความโกลาหลของมิติเวลา! แต่ข้านั้นก็ไม่ได้รู้หรอกว่าเย่หยวนมันใช้วิธีการใดแต่มันนั้นได้เดินทางย้อนผ่านเวลากลับไปเมื่อหลายหมื่นล้านปีก่อนทิ้งสิบแปดมหาค่ายกลสืบทอดให้เผ่ามนุษย์! นั่นเป็นจุดกำเนิดของมหาบรรพกาลทั้งสิบแปด!”
หยวนเซี่ยวหยุดลงนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้นต่อ “เผ่าเทวาของเรานั้นพ่ายแพ้ลงด้วยน้ำมือของมันนี้!”
หยวนเว่ยนั้นไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกในจิตใจของตนนี้ได้ เพราะเรื่องที่หยวนเซี่ยวเล่าออกมามันเหมือนนิทานหลอกเด็กก็ไม่ปาน
มันเหนือล้ำเกินกว่าจะเชื่อได้!
แต่เขาก็เข้าใจดีว่าหยวนเซี่ยวคงไม่มาล้อเล่นใด
เรื่องราวนี้มันต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน!
เพียงแค่ว่าเรื่องนี้มันได้ถูกเก็บซ่อนมาไว้อย่างยาวนานในหน้าประวัติศาสตร์นับหมื่นๆ ล้านปี
วิธีการของเขานี้มันเหนือล้ำกว่ายอดคนของทุกยุคทุกสมัย!
หยวนเว่ยนั้นยังรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจเข้าใจมันได้อย่างเต็มที่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดในที่สุดตัวหยวนเว่ยก็กลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง
เวลานี้เขาหรี่ลงอย่างหนักแน่น “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเรายิ่งต้องจัดการเย่หยวนมันลงเสียให้ได้! หากมันเติบโตขึ้นมาแล้ววันหน้ามันคงได้กลายเป็นฝันร้ายแห่งเผ่าเทวาแน่!”
หยวนเซี่ยวยิ้มออกมาอย่างขื่นขมเมื่อได้ยิน “สายไปแล้ว! มันนั้นได้เติบโตขึ้นมาแล้ว!”
หยวนเว่ยนั้นผงะไปเล็กน้อย “นายท่าน ท่านนั้นคือหนึ่งในบรรพบุรุษทั้งแปด ด้วยกำลังของท่านแล้วนั้นมีหรือที่จะจัดการกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินมาไม่ได้?”
หยวนเซี่ยวส่ายหัวอย่างหนักแน่น “จะฆ่ามันคงไม่ยาก! เพียงแค่ข้าไม่อาจจะเข้าถึงตัวมันได้เลย! เจ้าเองก็น่าจะสัมผัสได้แล้วมิใช่หรือ?”
หยวนเว่ยสั่นสะท้านไปทั้งกายอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “มันเป็นไปไม่ได้! ด้วยกำลังของนายท่านแล้วต่อให้จะเป็นแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหลือล้ำปานใดมันก็ไร้ค่า!”
หยวนเซี่ยวยิ้มตอบกลับมาพร้อมถอนใจยาว “มันเพิ่งมีข่าวรายงานจากสายของเราบนมหาพิภพถงเทียน เนื้อหาได้บอกว่าเย่หยวนนั้นหลบรอดจากน้ำมือของเต๋าบรรพกาลทั้งเก้า! เก้าเต๋าบรรพกาลนั้นได้ใช้พลังของกฎออกมาปิดกั้นมิติลงพร้อมๆ กันแต่มันคนนี้ก็ยังเดินออกมาได้หน้าตาเฉย! ไม่ว่าบรรพกาลผู้นี้จะเก่งกาจปานใดข้าก็ไม่ได้เก่งกาจไปกว่าเต๋าบรรพกาลผู้มีพลังของกฎรวมมือกันเก้าคนหรอก!”
หยวนเว่ยแทบจะลืมหายใจ
เก้าเต๋าบรรพกาลร่วมมือกันแต่กลับปล่อยให้เย่หยวนเดินหนีออกมาได้?
นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?
ต่อให้เย่หยวนจะมีพลังกฎแห่งห้วงมิติมันก็คงไม่มีทางใดที่จะทำเช่นนี้ได้ใช่หรือไม่?
กำลังของเก้าเต๋าบรรพกาลนั้นต่อให้จะเป็นเหล่าบรรพบุรุษของเผ่าเทวาเองก็คงไม่อาจจะหลบรอดมาได้ง่ายๆ
แล้วเย่หยวนนั้นทำได้อย่างไร?
เขานั้นคิดไปเสียว่าที่เย่หยวนหลบท่าสังหารก่อนหน้าของเขาได้มันเป็นเพราะแนวคิดแห่งห้วงมิติ
แต่ดูท่าแล้วมันคงมิใช่เช่นนั้น!
หยวนเซี่ยวหันมามองและกล่าวขึ้นอีก “ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ว่าทำไมมันถึงได้กล้าบุกมาในมิตินรกคนเดียว? ทำตามที่ข้าบอกเถอะ อย่าได้ไปท้าทายหาเรื่องมันอีก หากมันไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ คนอย่างพวกเราอาจจะยังอยู่ได้สบายๆ แต่พวกที่ต่ำกว่าอาณาจักรเต๋าบรรพกาลเก้าลายขั้นกลางนั้นคงได้ตายลงแทบสิ้นแน่ ให้มันได้ทำตามที่มันอยากเถอะ ตราบเท่าที่มันยังไม่เกินเหตุผลไปก็ปล่อยมันไป”
…
เหล่าเบื้องบนของเผ่าเทวานั้นพร้อมใจกันถอนกำลังอย่างไม่ต้องนัดหมาย
คนที่เคยเฝ้าดูเย่หยวนอยู่ไม่ห่างนั้นต่างจางหายไปสิ้น ทำให้พื้นที่รอบๆ กายเขามันเงียบงันและสงบลงอย่างมาก
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าทางเบื้องบนของเผ่าเทวาเองก็คงได้ยินข่าวจากมหาพิภพถงเทียนมาบ้าง
แม้ว่าเผ่าเทวาจะพ่ายลงแต่พวกเขาก็ย่อมจะยังมีสายข่าวทิ้งไว้บนมหาพิภพถงเทียนไม่น้อย
เรื่องใหญ่อย่างการที่เก้าเต๋าบรรพกาลร่วมมือกันนั้นมันย่อมจะใหญ่สะท้านมหาพิภพถงเทียน ไม่มีทางใดเลยที่สายข่าวของเผ่าเทวาจะไม่รับรู้ถึงมัน
หลายวันมานี้เย่หยวนได้เดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ของตระกูลสายเลือดลึกไปเรื่อย
จนวันนี้สุดท้ายเขาก็เข้ามาถึงส่วนกลางของดินแดนตระกูลสายเลือดลึก พื้นที่ล่าศึกสวรรค์!
ที่แห่งนี้มันคือที่ที่เหล่าบุตรและบุตรีเทวะได้ถูกเลือกสรรค์!
………………………..