Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2450 ทำร้ายข้าแล้วยังมีหน้าหัวเราะ
เมื่อก้าวมาถึงหุบเขานี้แล้วเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังกดดันหนักหน่วง
แรงกดดันในระดับนี้ต่อให้เป็นตอนที่เจอเก้าเต๋าบรรพกาลรุมโจมตีมันก็ยังไม่อาจจะเทียบได้
สองข้างทางของหุบเขานั้นมันมีรูปปั้นมากมายหลายแบบตั้งเรียงราย
และแรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากรูปปั้นทั้งหลายนั้นมันไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าพลังของอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นปลายเลย!
เย่หยวนนั้นเคยได้พบเห็นรูปปั้นลักษณะนี้มาก่อน เพราะมันคือเหล่ารูปปั้นประเภทเดียวกับที่เขาได้เห็นในตระกูลสายเลือดเร้น
เพียงแค่ว่ารูปปั้นในที่แห่งนี้มันจะดูมีหลากหลายรูปแบบมากกว่าและยังดูซับซ้อนมากกว่าที่มีในตระกูลสายเลือดเร้นไปมาก
เมื่อผ่านทางเดินที่เต็มไปด้วยรูปปั้นนั้นมาแล้วเย่หยวนก็มาถึงยังปากทางเข้าโถงถ้ำใหญ่
และคลื่นพลังรุนแรงที่เขาสัมผัสได้นั้นมันก็มาจากที่แห่งนี้นี่เอง
เย่หยวนนั้นรู้ว่าที่นี่คือที่ที่เก็บความลับของเผ่าเทวาไว้อย่างแท้จริง!
เวลานี้มีสองเงาร่างเดินออกมารับเขาที่หน้าถ้ำทำให้เย่หยวนถึงกับต้องผงะไปไม่น้อย
“เจ้ามาแล้ว?” เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้นมาทักด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะเย็นชา
เย่หยวนพยักหน้ารับ “อ่า ข้ามาดูว่าอะไรมันทำให้เจ้ากลายเป็นแบบนี้ไป”
เยวี่ยเมิ่งลี่ตอบกลับมา “ข้านั้นก็เป็นเช่นนี้มาตลอด แค่ว่าก่อนหน้านี้ข้ายังไม่ตื่นเต็มที่เท่านั้น”
เย่หยวนรู้สึกปวดลึกกลางใจอย่างไม่อาจห้ามก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ข้าจะพาเจ้ากลับบ้านเอง”
เยวี่ยเมิ่งลี่ไม่ตอบใดๆ กลับมา นางนั้นแค่ทำสีหน้าดูถูกออกมา
ในเวลานี้มันปรากฏร่างชายแก่อีกคนเดินออกมายิ้มข้างๆ ตัวนาง “เจ้าคือเย่หยวน? โฮ่ๆ เฒ่าคนนี้รอมานานนับหมื่นๆ ล้านปีเพื่อจะได้เจอเจ้า!”
เฒ่าคนนี้มีรอยยิ้มที่สุดแสนบิดเบี้ยวสภาพร่างนั้นดูไม่ได้
มันดู… ทุเรศจนเกินกว่าที่จะมองตรงๆ
เขานั้นมีสภาพเหมือนคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหน่วง
แต่ว่าเย่หยวนนั้นไม่เคยรู้จักหน้าของเขาคนนี้มาก่อนเลย
“อ่า? ทำไมจึงอยากเจอข้าอย่างนั้นหรือ?” เย่หยวนถามขึ้น
ชายแก่จึงตอบกลับมาด้วยใบหน้าดุร้ายแต่ยังรักษารอยยิ้มบิดเบี้ยวนั้นไว้ “ทำไมข้าอยากเจอเจ้า? หึ… เจ้าเป็นคนที่ทำให้เฒ่าคนนี้ต้องมาทนทุกข์ทรมานในดินแดนบรรพบุรุษนี้นานนับหมื่นๆ ล้านปี! มันเป็นเจ้าที่ทำให้ข้านั้นไม่อาจจะเป็นผีหรือเป็นคนได้เช่นนี้! เจ้าคิดว่าเฒ่าคนนี้จะอยากเจอเจ้าเพราะอะไรกันเล่า?!”
คลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมาพุ่งใส่ตัวเย่หยวน
คลื่นพลังของเขานั้นมันแทบจะไม่อ่อนแอกว่าหยวนเซี่ยวเลยเสียด้วยซ้ำ!
ชายแก่คนนี้เป็นตัวตนในระดับเดียวกับเหล่าบรรพบุรุษของแต่ละตระกูลหรือไม่ก็ต้องใกล้เคียง
แต่ว่าตัวเย่หยวนที่ทำหน้าตาเฉยได้แม้ถูกเก้าเต๋าบรรพกาลรุมโจมตี มีหรือที่จะมาเกรงกลัวใดๆ ชายแก่คนนี้?
เขาจึงยักไหล่ตอบกลับไป “ข้าจะไปรู้ด้วยเรอะ? ความทุกข์ทรมานใดๆ ของเจ้ามันมาเกี่ยวอะไรกับข้าเล่า?”
คำพูดนี้ของเย่หยวนมันทำให้ชายแก่ยิ่งระเบิดอารมณ์ขึ้น
เขานั้นเหมือนกลายเป็นคนคลั่งร้องลั่นขึ้นมา “เจ้าทำให้เฒ่าคนนี้เจ็บปางตายเช่นนี้แล้วยังจะมีหน้ามาหัวเราะบอกว่าไม่เกี่ยว? มันเป็นเพราะเจ้าและจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้มันนั้นที่ซ่อนตัวจากหูตาของเฒ่าผู้นี้จนทำให้เฒ่าผู้นี้ต้องเจ็บแค้นใจแทบอกแตกตายมานานนับหมื่นๆ ล้านปี! เจ้ากลับกล้ามาบอกว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
ชายแก่นั้นมีดวงตาแดงก่ำเหมือนสัตว์ร้ายที่ใกล้จะคลุ้มคลั่งเต็มที
แน่นอนเลยว่าเขาต้องเกลียดชังเย่หยวนอย่างมาก!
และเวลานี้เย่หยวนก็เริ่มพอจะเดาได้
เขาเบิกตากว้างเหมือนนึกอะไรออก “อ่อ เจ้าคือเจ้าสวรรค์หมี่ลั่ว?”
เย่หยวนนั้นย่อมจะเคยได้ยินนามของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วมาจากปากของเจียนหรูเฟิง
ก่อนนั้นเจียนหรูเฟิงและเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นไม่ได้เข้าปะทะตรงๆ กันแต่พวกเขานั้นก็ได้แข่งขันกันมานานแสนนานจนเกินกว่าจะนับได้
เพียงแค่ว่าเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังปะทะวิชากับคนอื่น
แต่ตัวเจียนหรูเฟิงนั้นก็ชื่นชมในวิชาของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วไม่น้อย กล่าวชมการใช้วิชาทำนายของอีกฝ่ายอย่างไม่ขาดปาก
แม้ว่าเจียนหรูเฟิงจะเหนือกว่าเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วไป แต่มันก็ห่างกันแค่เส้นผม
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่ต้องยืมพลังสละชีวิตของคนตระกูลเจียนร้อยคนเพื่อปิดปังความลับสวรรค์!
หมื่นล้านปีก่อนการปรากฏตัวของเย่หยวนมันย่อมทำให้เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วสนใจ
น่าเสียดายแค่ว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่เดินทางข้ามมิติเวลาจึงไม่ถูกบันทึกอยู่ในความลับสวรรค์ของยุคนั้น
กอปรกับความที่เย่หยวนเองก็เป็นคนมีชะตาไร้คาดเดาเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วจึงไม่อาจจะตามหาตัวเขาได้เลย
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเวลาที่เย่หยวนปรากฏมันแสนสั้นจากนั้นก็หายลับไปจนเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วไม่อาจตามตัวเย่หยวนได้อีก
แต่เพราะคนทั้งสองที่เขาไม่เคยได้พบเจอนี้ที่ทำให้เขาต้องพบเจอความทุกข์ทรมานอับอายอย่างไร้สิ้นสุด ทำให้เขาถูกจิตของตัวเองนี้ทำร้ายอยู่ในดินแดนบรรพบุรุษนับหมื่นๆ ล้านปี!
ความทุกข์ของเขานี้มันมีแค่ตัวเขาที่จะเข้าใจได้
แต่สิ่งที่น่าเจ็บแค้นที่สุดก็คือเขานั้นกลับพ่ายแพ้อย่างไม่ทันได้ต่อสู้ใดๆ!
เขานั้นไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตนเองแพ้ได้อย่างไรและศัตรูของตนนั้นเป็นใคร!
จนมาถึงช่วงหลังๆ นี้ที่ตำนานของสองนักบุญฟ้าครามและมายาล้ำปรากฏขึ้นมาอีกครั้งในเผ่ามนุษย์ มันจึงทำให้เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วได้รู้แจ้งถึงเรื่องที่เกิด!
กอปรกับสภาพเต๋าสวรรค์ที่เขาเคยทำนายในตอนนั้นมันจึงทำให้เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนคนนี้เองที่เป็นคนที่เขาพยายามตามหาแต่กลับไม่พบร่องรอยใดๆ!
วันนี้เมื่อได้เห็นเย่หยวนกับตาแล้วมีหรือที่เขาจะยังตั้งสติใดๆ ได้?
“เฮ่ๆ… เด็กน้อย ที่แท้เจ้าก็เคยได้ยินเรื่องของเฒ่าคนนี้! เจ้าทำให้เฒ่าคนนี้เจ็บปวดแสนสาหัสมานานนับหมื่นๆ ล้านปี วันนี้เจ้ากลับมามอบตัวถึงหน้าประตูบ้าน เจ้าจะไม่มีวันได้ตายดี!” เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วหัวเราะขึ้นด้วยเสียงแปลกๆ
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยสีหน้าเศร้าใจ “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ไป ข้าโทษตัวเองอยู่ในใจจนถึงวันนี้”
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วตอบกลับมาด้วยเสียงเย้ยหยัน “โทษตัวเองตอนนี้ไปมันก็สายเกินแก้แล้ว!”
แต่เย่หยวนกลับยกมือขึ้นมาโบกปัด “ไม่สายๆ ข้านั้นโทษตัวเองที่ยังปล่อยให้เจ้ามีปัญญาพูดเป็นภาษาคนอยู่ถึงวันนี้! ได้เจอเจ้าวันนี้มันก็เหมาะเลย เยี่ยมจริงๆ!”
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วหน้าแดงก่ำขึ้นทันที “รนหาที่ตาย!”
คลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมาก่อนตัวเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วจะต่อยหมัดออกมาจนทำให้มิติสั่นสะเทือน
คลื่นพลังของเต๋าสวรรค์อันรุนแรงนี้มันปิดกั้นมิติรอบๆ ตัวของเย่หยวนไว้อย่างทันที
แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับยิ้มขึ้นมาก่อนจะจางหายไปกับตา!
ตูม!
หมัดนี้ของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วมันพลาดจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไป
“เด็กน้อย ก็ลองหนีข้าให้ได้ดินแดนบรรพบุรุษเผ่าเทวานี้สิ!”
ตูม!
ตูม!
ตูม!
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นบ้าคลั่งโจมตีไปรอบๆ มิติอย่างไม่เลือก
แต่ว่ามิติภายในดินแดนบรรพบุรุษนี้มันกลับเหมือนจะถูกปกป้องไว้ด้วยอะไรบางอย่างทำให้มันยังคงอยู่ได้ไม่มีรอยแตกร้าวใด
แต่ไม่ว่าเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วจะโจมตีไปมากมายแค่ไหนมันก็ไม่ถูกโดนแม้แต่ชายเสื้อของเย่หยวนเลย
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นมา “เจ้าสวรรค์หมี่ลั่ว เจ้านั้นเฝ้ามองดูโลกหล้าเพื่อเผ่าเทวา มันมีคนมากมายเท่าใดที่ต้องตายเพราะเจ้าทั้งทางตรงทางอ้อม? ความผิดร้ายของเจ้านี้มันเกินกว่าที่จะนับ! หมื่นๆ ล้านปีมานี้มันยังไม่พอที่จะเป็นบทลงโทษของเจ้าเสียด้วยซ้ำ! เจ้าเจ็บปวดหรือ? แล้วเหล่าอัจฉริยะของหลากเผ่าพันธุ์ที่ต้องตายเพราะเจ้าเล่า เจ้าได้เข้าใจความเจ็บปวดของพวกเขาบ้างหรือยัง?”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความดูถูก
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นเฝ้าดูโลกหล้าและเป็นนักฆ่าที่มือเปื้อนเลือดที่สุดในยุคสมัย!
ยอดอัจฉริยะมากมายจากหลากเผ่าพันธุ์ตายลงเพราะมือของเขานั้นอย่างมากเกินนับ!
แล้วบาปนั้นมันจะชดใช้ได้ด้วยความเจ็บปวดใจนับหมื่นๆ ล้านปีหรือ?
เย่หยวนคิดว่ามันยังไม่พอ!
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วร้องลั่นขึ้นอย่างบ้าคลั่ง “เหลวไหล! เผ่าเทวาของข้านั้นอยู่เหนือทุกเผ่าพันธุ์! มดที่มันกล้ามากัดเผ่าเทวาเรานั้นมันก็สมควรตายไปแล้ว!”
แต่เย่หยวนกลับหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เช่นนั้นหรือ? ดูเจ้าจะแค้นข้ามากนะแต่ข้ามาอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วเจ้ากลับทำอะไรข้าไม่ได้แม้สักนิด คงขัดใจมากล่ะสิ? เผ่าเทวาเก่งกาจมากมิใช่หรือ? เจ้าที่เป็นยอดคนในระดับบรรพบุรุษนี้กลับไม่อาจจะทำอะไรข้าที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินมาได้เสียด้วยซ้ำ? น่าสมเพชเสียจริง!”
แน่นอนว่าคำพูดเหล่านั้นมันย่อมทำให้เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วคลั่งไป ความคับแค้นนับหมื่นๆ ล้านปีของเขาในที่สุดมันก็หาที่ลงได้
แต่เวลานี้เขากลับไม่อาจทำอะไรคู่แค้นได้!
มันไม่มีอะไรที่จะเจ็บแค้นหัวใจไปได้มากกว่าเรื่องนี้แล้ว