Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2453 อย่าได้กวน
ฟุบ!
เย่หยวนตาขุ่นนั้นหายไปจากจุดที่ยืนก่อนที่วินาทีเดียวกันนั้นตัวเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วก็ต้องขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะสัมผัสได้ถึงความอันตราย!
ที่ด้านหลังของเขานั้นมันได้มีคลื่นพลังรุนแรงปะทุขึ้นมา!
มิติสั่นไหวก่อนที่จะปรากฏร่างของเย่หยวนขึ้นที่ด้านหลังเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วไปไม่ถึงร้อยก้าว
พร้อมกันนั้นในมือของเขามันก็มีธนูสาบานสังหารเทพที่ขึ้นดาบแห่งมิติเวลาไว้แล้ว!
ธนูพร้อมปล่อย!
จากนั้นตัวเขาก็ปล่อยนิ้วส่งคลื่นพลังเย็นเยือกพุ่งผ่านห้วงมิติไป!
ในระยะแค่นั้นแล้วด้วยพลังของธนูสาบานสังหารเทพและดาบแห่งมิติเวลามันย่อมจะรุนแรงอย่างไม่อาจอธิบาย
และเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมานี้มันเป็นเวลาแค่เสี้ยววินาทีในแบบที่แม้แต่ตัวเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วยังไม่อาจหันหน้ามามองทัน
เย่หยวนตาขุ่นผู้นี้วางแผนทุกสิ่งอย่างไว้สิ้นแล้ว
ในพริบตาเดียว!
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นไม่ทันจะได้หันกลับไปแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังจนขนลุกตั้งรีบปล่อยพลังออกมาป้องกันตัวเองไว้
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้แม้แต่เทียนชิงเองก็ยังไม่อาจจะขยับตัวทัน
ทุกสิ่งอย่างมันเกิดขึ้นในชั่วเสี้ยววินาที
ตูม!
จากนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดรุนแรงขึ้นมาส่งร่างของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วลอยลิ่วไปไกล
เพียงแค่ว่าตัวเขานั้นมีพลังบ่มเพาะสูงส่งไม่เช่นนั้นแล้วดาบนี้ต่อให้จะเป็นเจ้าฟ้าดินฟ้าทลายเองก็คงได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!
เย่หยวนตาขุ่นผู้นี้มีพลังการคำนวณอย่างไร้ผู้ทัดเทียม!
และด้วยนิสัยเย็นเยือกไร้อารมณ์ของเขานี้มันยิ่งทำให้แสดงพลังของการคำนวณนั้นออกมาได้อย่างชัดเจนยิ่ง
ฟุบ!
เย่หยวนตาขุ่นนั้นหายร่างไปอีกครั้งก่อนหนีลงไปในพิภพโกลาหล
วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งนั้น เขาก็ไปถึงตัวของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วแล้ว
เพียงแค่ว่าตอนนี้เทียนชิงได้พร้อมรับมือไว้
ร่างของเขาพุ่งหายไปด้านหลังของเย่หยวนทันที
หากเย่หยวนสังหารหมี่ลั่ว เขาก็จะสังหารเย่หยวนลง!
ฟุบ!
เย่หยวนหายไปอีกครั้งหนึ่งหลบการโจมตีนี้
เทียนชิงได้แต่มองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึงสุดหัวใจ
เพราะความรู้สึกที่เย่หยวนตาขุ่นผู้นี้มอบให้เขามันคือความอันตรายเสียยิ่งกว่าเย่หยวนตอนก่อนหน้า!
หากให้พูดตามหลักการแล้วด้วยพลังบ่มเพาะและฝีมือของเย่หยวนมันย่อมจะไม่มีทางใดที่จะทำร้ายเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วได้ ต่อให้จะเป็นการลอบโจมตีอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวก็ตาม
แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจังหวะและการเล็งที่แม่นยำจนสามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
หมี่ลั่วนั้นบาดเจ็บหนัก!
ทำร้ายคนของเขาต่อหน้าตัวเทียนชิง ทั้งคนที่ถูกทำร้ายยังเป็นถึงเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วที่มีพลังระดับเทียบเคียงเหล่าบรรพบุรุษต้นตระกูลทั้งหลายได้
เรื่องราวเช่นนี้มันคงมีแต่เย่หยวนตาขุ่นผู้นี้เท่านั้นที่ทำได้
เทียนชิงนั้นมองดูที่เย่หยวนตาขุ่นนั้นก่อนจะกล่าวถามขึ้น “เจ้าเป็นใครกัน?”
ส่วนทางด้านเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นได้กล่าวขึ้นมาพึมพำกับตัวเอง “ป-เป็นเขา! เขาออกมาอีกแล้ว! ใคร… เจ้าเป็นใครกันแน่?”
เย่หยวนตาขุ่นนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้าโง่นั่นทำอะไรตามอารมณ์จนสุดท้ายต้องให้ข้าผู้นี้ออกมาตามล้างตามเช็ดให้!”
พูดจบแล้วเขาก็หันไปมองทางเทียนชิงอีกครั้ง “เจ้าไม่ต้องสงสัย ข้านี่แหละเย่หยวน! เรานั้นคือสองจิตหนึ่งกาย เพียงแค่ว่าเจ้านี่ปกติมันกดข้าไว้เวลานี้เมื่อจิตศักดิ์สิทธิ์ของมันถูกดูดออกไป ข้าผู้นี้จึงได้ออกมา! พวกเจ้าจงฟัง ข้าผู้นี้จะไปบ่มเพาะในดินแดนของตระกูลสายเลือดสวรรค์ อย่าได้ปล่อยให้ใครมารบกวนข้า ไม่เช่นนั้นแล้วจะหมูหมาที่ไหนแต่หากมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นปลายแล้วข้าจะสังหารสิ้น!”
พูดจบเย่หยวนตาขุ่นขาวผู้นั้นก็พุ่งตัวจากดินแดนบรรพบุรุษไปทิ้งคนทั้งสามให้อ้าปากค้าง
ใบหน้าของเทียนชิงนั้นมันเหยเกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขานั้นกลับถูกคนอื่นมาข่มขู่!
เขา ยอดคนอันดับหนึ่งของมหาพิภพถงเทียนนี้กลับถูกใครบางคนก้าวข้ามหัวขึ้นมาข่มขู่!
“อ่อก!”
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วกระอักเลือดออกมาพร้อมพยายามสูดหายใจ ดูท่าแล้วอาการบาดเจ็บของเขานี้มันคงสาหัสอย่างมาก
เขานั้นกัดฟันแน่นกล่าว “ท่านเทียนชิง เจ้าหมอนี่มันกลับกล้าข่มขู่ท่าน! ท่านต้องสังหารมันลงเสีย!”
แต่เทียนชิงนั้นกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้าดำมืด “จะฆ่ามันอย่างไรเล่า? เจ้าไม่เห็นหรือว่าเย่หยวนคนนี้มันมีพลังการคาดคำนวณที่น่ากลัวแค่ไหน? ความเป็นภัยของมันนั้นเหนือล้ำกว่าเย่หยวนคนก่อนเสียด้วยซ้ำ! ที่สำคัญไปกว่านั้นดูเหมือนเจ้าเย่หยวนคนนี้มันจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เลย หากเราไปท้าทายมันเข้าจริงแล้วมันคงได้ไล่สังหารคนทั้งตระกูลสายเลือดสวรรค์แน่!”
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นหน้าซีดลงทันทีที่ได้ยินก่อนจะกล่าวขึ้นตอบ “เช่นนั้น… เช่นนั้นเราจะปล่อยมันไว้เฉยๆ อย่างนี้หรือ?”
เทียนชิงได้แต่ถอนหายใจยาว “ช่างเถอะ ให้มันทำไป! ที่มันยังไม่ออกไปมันย่อมจะอยู่รอเจ้าเย่หยวนคนก่อนออกมาแน่แล้ว”
เวลานี้เทียนชิงกลับรู้สึกคิดถึงเย่หยวนคนก่อนขึ้นมาจับใจ
เพราะเย่หยวนคนนั้นยังจะเห็นแก่หน้าเยวี่ยเมิ่งลี่ไม่คิดสังหารคนไม่รู้เรื่องราวให้มากมาย
แต่เย่หยวนคนนี้มันไม่สนใจใดๆ
เขานั้นสัมผัสได้ถึงความเย็นเยือกของเย่หยวนคนนี้ มันเป็นความเย็นเยือกที่เสียบเข้าถึงกระดูกดำ!
เขานั้นไม่คิดสงสัยเลยว่าเย่หยวนตาขุ่นผู้นี้จะสังหารสมาชิกเผ่าของเขาอย่างไม่เลือกหน้าจริงไหม!
เพราะเย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นี้ทำการอย่างไม่สนใจความรู้สึก คิดถึงแต่ผลลัพธ์เท่านั้น!
คนเช่นนี้มันคือคนที่รับมือได้ยากที่สุด
ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยความสามารถในการวิเคราะห์คำนวณที่มากล้ำของเขามันยิ่งทำให้การจับกุมตัวเย่หยวนผู้นี้เป็นไปไม่ได้มากกว่าเก่า
เมื่อต้องลังเลว่าจะเกิดความฉิบหายตามมา เทียนชิงจึงต้องทำตามคำขู่ไปอย่างไม่อาจเลือก
เพียงแค่ว่าตัวเทียนชิงเองก็สงสัยอยู่ไม่น้อยว่าทำไมเย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นี้จึงมั่นใจนักว่าเย่หยวนคนก่อนจะกลับออกมาได้?
เพราะจะอย่างไรเสียนี่มันก็คือแปดจอมเทพ แปดจอมเทพที่สร้างเผ่าเทวาอันแข็งแกร่งขึ้นมา!
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่คิดอยากเชื่อเรื่องราวตรงหน้า
ทำไมเขาถึงต้องถูกโจมตีด้วย?
แต่เมื่อคิดย้อนกลับไปแล้วตัวเขาก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม
เรื่องเดียวที่ทำให้เขารอดชีวิตมาได้นั้นคือพลังบ่มเพาะของเย่หยวนยังไม่ถึงขั้น ไม่เช่นนั้นแล้วตัวเขาคงหมดลมไปแสนนาน!
การโจมตีเมื่อครู่นี้มันสุดแสนรุนแรง!
เทียนชิงหันไปมองทางเยวี่ยเมิ่งลี่ก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเคยพบกับเย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นี้? มันคืออะไรกันแน่?”
เยวี่ยเมิ่งลี่ส่ายหัวออกมา “ข้านั้นก็ไม่ทราบได้ว่ามันคืออะไรแต่เย่หยวนผู้นี้แข็งแกร่งอย่างมาก อย่าได้ไปท้าทายเขาจะดีกว่า! เย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นี้มีการตัดสินใจที่เฉียบขาดและสามารถควบคุมทุกสิ่งบนสนามรบได้! ตอนที่หยวนเจี่ยวจะพาข้ากลับมานั้นเย่หยวนเคยได้เข้าสู่สภาวะนี้ไปครั้งหนึ่งและตอนนั้นเขากลับสามารถทำลายพลังบ่มเพาะของหยวนเจี่ยวได้ด้วยกำลังของอาณาจักรเทพสวรรค์!”
เมื่อคนทั้งสองได้ยินเรื่องราวพวกเขาก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้นทันที
ฟังอย่างไรก็ไม่ควรไปท้าทายจริงๆ!
เทพสวรรค์เผ่ามนุษย์กระโดดข้ามอาณาจักรบ่มเพาะขึ้นมาจัดการหยวนเจี่ยวที่เป็นถึงเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายในเวลานั้นจนแทบสิ้นสภาพ
พลังการต่อสู้เช่นนี้มันคงเรียกได้ว่าน่ากลัว
ต่อให้จะเป็นเทียนชิงเองเขาก็คงไม่อาจทำได้เช่นกัน!
…
ในตระกูลสายเลือดสวรรค์นั้นมันเกิดความแตกตื่นขึ้นอย่างไม่อาจห้าม
เพราะมันกลับมีมนุษย์คนหนึ่งบุกเข้าไปยังแหล่งที่พลังงานวิญญาณหนาแน่นที่สุดและเริ่มทำการบ่มเพาะอย่างไม่สนใจใคร!
ให้ตาย! โอหังจนเกินไปแล้ว!
“เด็กน้อย เจ้ามันกล้ามากหรือถึงได้มาทำตัวเช่นนี้ในตระกูลสายเลือดสวรรค์?”
“เด็กน้อย ไสหัวไป! ไม่เช่นนั้นแล้วหากนายท่านทั้งหลายมาเจ้าจะได้ตายลงแน่!”
“ยังไม่ไปอีกหรือ? ข้าว่าเจ้าคงอยากตายแน่แล้ว!”
ฟุบ!
ดาบแสงพุ่งผ่านตัดชีวิตของคนทั้งหลายลงสิ้น
คนที่เหลือนั้นต่างอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
เจ้าเข้ามายึดที่แล้วกลับยังกล้าสังหารคนเผ่าเทวาลงอีก?
โอหังเกินไป!
เวลานี้มันจึงได้ปรากฏคลื่นพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งมาถึง
เหล่ายอดฝีมือของตระกูลสายเลือดสวรรค์ค่อยๆ ทยอยกันมาทีละคนสองคน
เพราะท่าทางของเจ้าเด็กมนุษย์นี้มันโอหังเกินรับ ไม่คิดสนใจไว้หน้าเผ่าเทวาใดๆ!
“เด็กน้อย บรรพกาลผู้นี้ให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ไปเสีย! ไม่เช่นนั้นก็จงรับผลที่จะตามมาด้วยตัวเจ้าเอง!”
คนที่พูดนั้นคือเทียนฉิง บรรพบุรุษรุ่นที่สองของตระกูลสายเลือดสวรรค์!
ตำแหน่งของเขานั้นเรียกได้ว่าเป็นรองแค่เทียนชิงและยังมีพลังฝีมือเป็นรองแค่เทียนชิงด้วย เรียกได้ว่าเขานั้นมีสถานะสูงส่งไม่แพ้เหล่าบรรพบุรุษต้นตระกูลอื่นๆ!
คำพูดนี้ของเขามันย่อมจะฟังดูสมเหตุสมผลที่สุด
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาจากทางดินแดนบรรพบุรุษ
“เทียนฉิง ให้มันได้บ่มเพาะในเทือกล้ำสวรรค์ไป สั่งคนทั้งหมดว่าอย่าได้ไปรบกวนมัน!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน