Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2454 เทพแท้ไม่กลัวไฟ
นี่มันคือโลกที่มีสีสันสดใส
รอบกายทั่วทิศทางนั้นมันมีแต่จุดแสงสว่างอยู่สุดลูกหูลูกตา
แต่แม้มันจะสวยงามปานใด ตัวเย่หยวนกลับรู้สึกขนลุกขนพอง
“นี่มัน… พลังของจิตศักดิ์สิทธิ์? ไม่สิ! ดูแล้วมันเหมือนกับพลังของจิตศักดิ์สิทธิ์แต่กลับมิใช่! จุดแสงทั้งหลายนี้มันเหมือนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของจิตศักดิ์สิทธิ์!” เย่หยวนมองดูที่ภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงอย่างสุดหัวใจ
ตัวเย่หยวนนั้นมีความเข้าใจต่อจิตและวิญญาณอย่างสูงล้ำกอปรกับที่เขาบรรลุขึ้นอาณาจักรแห่งการกำเนิดขึ้นมานี้ จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาจึงได้พัฒนาขึ้นมาจนถึงระดับที่น่ากลัว
ต่อให้จะเป็นเจ้าฟ้าดินห้าทลายก็คงไม่อาจเทียบเคียงกับตัวเขาได้!
นักยุทธนั้นเรียกรู้และบรรลุเต๋าสวรรค์ผ่านจิตศักดิ์สิทธิ์ เย่หยวนนั้นเป็นคนที่เข้าใจเต๋าได้อย่างลึกซึ้งแน่นอนว่าความเข้าใจต่อจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาเองมันก็เหนือล้ำกว่าผู้คนไม่มากล้น
แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ว่าจุดแสงทั้งหลายนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่เขานั้นรู้ว่ามันคือส่วนประกอบของจิตศักดิ์สิทธิ์
แต่วินาทีต่อมาสีหน้าของเย่หยวนก็ต้องเปลี่ยนไปก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “ข้าเริ่มเข้าใจแล้ว! สมาชิกเผ่าเทวานั้นนับถือรูปปั้นพวกนี้เป็นดั่งเทพเจ้าในหัวใจ มันเพราะว่าพวกนั้นถูกดึงสิ่งนี้ออกมาจากจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนแล้ว! ซี๊ด… แล้วรูปปั้นนี้มันเก็บจุดแสงไว้มากมายหลายดวง พวกมันต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
“ไม่สิ! เหล่ารูปปั้นนั้นมันมีพลังเทียบเคียงได้กับเขาน้อยแห่งถงเทียน! เพียงแค่ว่าหากเอามาเทียบกับเขาน้อยแห่งถงเทียนจริงๆ แล้วมันมีสัมผัสที่น่าขนลุกกว่ามาก! รูปปั้นทั้งแปดนี้มันกลับเกิดขึ้นมาเพื่อสร้างเผ่าพันธุ์อันทรงพลังเช่นนี้ แต่จุดเริ่มต้นของมันนั้นมาจากที่ใดกันแน่?”
ยิ่งเย่หยวนคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความน่ากลัวเบื้องหลัง
รูปปั้นนั้นมันแตกต่างจากเขาน้อยแห่งถงเทียน เขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันมีพลังเป็นธรรมชาติไร้ธาตุใดๆ
แต่รูปปั้นนี้มันกลับมีพลังบางอย่างที่ดึงเอาส่วนประกอบของจิตศักดิ์สิทธิ์มาเก็บไว้ภายใน
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรมันก็ต้องเป็นแผนการใหญ่ใดสักอย่างแน่
เว้นเสียแต่ว่าใครกันเล่าที่มันวางแผนนี้?
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้เหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาลงมาจากด้านบน มองลงมาอย่างเหนือล้ำโลกหล้า!
ความรู้สึกเช่นนี้มันทำให้เขาสั่นสะท้านอย่างไม่ต้องเจออากาศหนาวเย็น
“ดูจากท่าทางเมื่อครู่นี้แล้วนิสัยของหลี่เอ๋อย่อมจะยังอยู่ดี! พวกมันทั้งหมดทั้งสิ้นรวมไปถึงตัวเทียนชิงด้วย ต่างมีอารมณ์และความต้องการครบถ้วน เพียงแค่ว่าพวกมันทั้งหลายจะมีความรู้สึกนับถือเชิดชูรูปปั้นนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ! ดูท่าแล้วปัญหามันคงอยู่ที่นี่! ที่แห่งนี้มันเหมือนเป็นถังขนาดใหญ่หากข้าทำลายรูปปั้นมันลงได้แล้วปล่อยให้พลังลึกลับเหล่านี้ไหลกลับเข้าร่างเจ้าตัว เช่นนั้นมันก็คงทำให้หลี่เอ๋อกลับมาเป็นคนเดิมได้ใช่หรือไม่?” เย่หยวนตั้งข้อสมมติฐาน
เวลานี้เย่หยวนเริ่มที่จะวิเคราะห์และคาดเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ตั้งแต่อดีตกาลนานนมมาเขาคงเป็นคนแรกที่ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้!
เพราะแม้แต่ตัวเทียนชิงก็คงไม่เคยจะเข้ามาถึง
เพราะว่าไม่มีใครกล้าขัดขืนคำสั่งเผ่าเทวาและยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะมีใครขัดขืนรูปปั้นทั้งแปดนี้หรือไม่
แต่การท้าทายของเย่หยวนนั้นมันทำให้รูปปั้นทั้งหลายไม่พอใจและลงมือจัดการตัวเขา คิดดึงเอาเขาเข้ามาขังไว้ภายในห้วงมิตินี้ด้วย
ดูท่าแล้วเหล่ารูปปั้นทั้งแปดคงคิดว่าหากเขาอยู่ที่นี่แล้วคงไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้อีก
รูปปั้นทั้งแปดนั้นมันไม่ได้มีความรู้สึกนึกคิดของตนเองแต่เหมือนทำงานตามเจตจำนงของใครบางคน
แน่นอนว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวรูปปั้นทั้งแปดก็ยังดูสุดแสนน่ากลัว
ตัวตนที่มีพลังระดับเขาน้อยแห่งถงเทียน มันย่อมจะน่ากลัวอย่างไม่ต้องทำอะไร!
หรืออย่างน้อยๆ เย่หยวนก็ยังไม่มีปัญญาจะทำลายพวกมันลง
ครืด…
แต่ในวินาทีนี้มันกลับเกิดความเคลื่อนไหวในห้วงมิติ
ด้านล่างเท้าของเย่หยวนนั้นมันเกิดลูกบอลไฟขึ้นมา
ไฟนั้นค่อยๆ ลุกโชนขึ้นมาล้อมรอบจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนไว้ทุกทิศทาง
ความรู้สึกร้อนไหม้นี้มันทำให้เย่หยวนเจ็บปวดร้อนจนต้องร้องขึ้นมา
“เจ้ามดปลวกโอหัง คิดกล้าท้าทายอำนาจสวรรค์! วันนี้ข้าจะส่งแปดยอดไฟสวรรค์ลงไปเผาขยี้เจ้าเสีย! จงลิ้มรสการถูกเผาไม้ด้วยไฟหลากหลายแหล่งให้ดี!” บนท้องฟ้านั้นเกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมา
เสียงนี้มันดังเหมือนฟ้าที่ผ่าลงทำให้หูของเย่หยวนแทบดับ
เย่หยวนนั้นไม่เคยจะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังระดับนี้มาก่อน
พลังนี้มันเหมือนราวกับว่าอยู่เหนือทุกชีวิตบนโลกหล้า!
ก้อนเพลิงไฟทั้งแปดนั้นเปล่งสีแตกต่างกันไปและเล็งเป้าเข้ามาที่จิตศักดิ์สิทธิ์โดยตรงด้วยความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนี้มันราวกับจะระเหยหายไป
“อัก!”
เย่หยวนต้องร้องขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวลงไปดิ้นพล่านบนพื้น
พลังของไฟเหล่านี้มันแตกต่างจากพลังไฟทั่วๆ ไปสิ้นเชิง!
หากเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆ ไปแล้วย่อมจะไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้แม้แต่ปลายผม
เพราะเขานั้นคือบรรพกาลแห่งไฟ!
ต่อให้จะเป็นพลังไฟของเต๋าบรรพกาลไฟวิญญาณเองมันก็ยังไม่อาจจะทำร้ายเย่หยวนได้
แต่แปดยอดไฟสวรรค์นี้มันกลับทำให้เย่หยวนรู้สึกร้อนจนแทบไม่อาจทนทาน!
เขานั้นไม่อาจจะควบคุมมันได้เลย!
ความร้อนของมันช่างแผดเผาตัวเย่หยวนที่แทบลืมความร้อนของไฟไป
แสบ!
แสบไปถึงกระดูก!
ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความแสบร้อน
ที่สำคัญไปกว่านั้นแปดยอดไฟสวรรค์ยังมุ่งเป้าที่จิตศักดิ์สิทธิ์โดยตรงมันจึงทำให้ความเจ็บปวดนี้เข้าไปลึกยิ่งกว่ากระดูกดำ
เย่หยวนนั้นพยายามใช้พลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนออกมาจนถึงที่สุดแต่มันก็เหมือนการเอาน้ำขันเดียวไปราดบ้านที่ไหม้ไฟ
มันเริ่มมีไอระเหยลอยขึ้นมาจากร่างของเขา
นั่นมันคือพลังงานจิตที่เขาใช้ออกมาและถูกแปดยอดไฟสวรรค์เผาไหม้จนระเหยไป!
แปดยอดไฟสวรรค์นั้นมันน่ากลัวอย่างแท้จริง
เวลานี้พลังจิตศักดิ์สิทธิ์อันหนาแน่นของเย่หยวนมันค่อยๆ ระเหยหายไปอย่างรวดเร็ว
พร้อมๆ กันนั้นร่างของเย่หยวนก็ค่อยๆ จางลง
“ฮ่าๆๆ… เห็นหรือไม่เล่า? นี่แหละคือพลังของสวรรค์! ต่อหน้าสวรรค์แล้วหากไม่ยอมก้มกราบมันก็มีแต่ต้องตาย!” เสียงนั้นดังขึ้นมาด้วยท่าทางสะใจ
เย่หยวนเริ่มที่จะหมดสติลงไปเรื่อยๆ
เวลานี้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นมันแทบไม่อาจจะทนรับได้ไหวอีก
“ข้า… จะตายหรือ?”
“คู่ต่อสู้ครั้งนี้มันเหนือล้ำเกินไป! ดูท่าแล้วมันคงมาจากระดับเหนือมหาพิภพถงเทียนขึ้นไปอีก!”
“หากข้าตายแล้ว… ลี่เอ๋อจะเป็นอย่างไร? นางต้องกลายเป็นทาสของพวกมันนี้ไปตลอดกาล?”
“หากข้าตายแล้วหลินเสวียจะเป็นอย่างไร? จิตสุดท้ายของนางนั้นมันแทบจะมอดดับอยู่แล้ว!”
“ไม่! ข้าจะตายลงไม่ได้!”
“อำนาจสวรรค์แล้วมันจะทำไม! หากเจ้าเป็นสวรรค์ข้าก็จะฝ่าสวรรค์ให้ดู!”
“เจ้าคิดบดขยี้ข้า แต่นี่มันคือการหลอมฝึกฝนข้ามิใช่หรือ?”
“ข้าจะท้าทายสวรรค์ให้เจ้าดู!”
“เทพแท้ไม่กลัวไฟ!”
เย่หยวนนั้นใช้พลังที่เหลือทั้งหมดค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งลง
เขานั่งลงขัดสมาธิและเปิดจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนรับแปดยอดไฟสวรรค์เข้ามาเต็มที่
เวลานี้เขาไม่ได้คิดจะขัดขืนพลังของมันอีกต่อไป
ในวินาทีนี้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นย่อมจะถูกเผาไหม้หนักกว่าเก่าจนซีดจางเริ่มมองทะลุกายได้
ความเจ็บปวดที่เขาได้รับเองมันก็เพิ่มพูนขึ้นไปอีกหลายเท่า!
เย่หยวนนั้นเปิดจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนและดึงเอาแปดยอดไฟสวรรค์เข้าไปในร่างทำให้จิตศักดิ์สิทธิ์ในทุกส่วนของเขานั้นถูกแผดเผาสิ้น
ความเจ็บปวดนี้มันหนักกว่าเก่านับหมื่นนับแสนเท่า!
เวลานี้ตัวเย่หยวนต้องกัดฟันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดนั้นไว้
แต่เขาก็ยังนั่งขัดสมาธิไร้การเคลื่อนไหว
เขานั้นควบคุมจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเพื่อจะนำทางแปดยอดไฟสวรรค์ทั้งหลายนี้!
เจ้าคิดจะใช้มันบดขยี้ข้า?
เช่นนั้นข้าจะใช้แปดยอดไฟสวรรค์ของเจ้านี้ในการฝึกฝนจิตศักดิ์สิทธิ์ตนเอง!
ไม่สำเร็จก็แค่ตาย!
เพราะไฟอันรุนแรงนี้มันกำเนิดขึ้นมาจากที่ห่างไกลล้ำสวรรค์ไป ปกติแล้วมันคงไม่มีทางเจอได้ในมหาพิภพถงเทียน
มันอาจจะเป็นมหันตภัยของเย่หยวน แต่บางทีมันก็อาจจะเป็นโชคด้วยเช่นกัน?
เมื่อไม่อาจจะฝ่าฟันไปได้แล้วชีวิตของเขานี้มันก็คงจบสิ้นกัน
แต่หากเขาผ่านมันไปได้เย่หยวนคงจะพัฒนาขึ้นอย่างไม่อาจเทียบเคียงกับตัวเขาคนเก่า!
เวลานี้เย่หยวนจึงหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… เยี่ยม! เจ้าบอกว่าจะขยี้ข้ามิใช่หรือ? ยังไม่พอหรอก! มันยังไม่พอ! แปดยอดไฟสวรรค์ของเจ้ามันอ่อนแอเกินไป! ยังไม่พอที่จะบดขยี้ข้าได้! นี่หรือคือพลังของสวรรค์? อ่อนแอสิ้นดี!”
………………………..