Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2493 ใครเร็วกว่า
“ตาย! ตาย! ตายด้วยมือของบรรพกาลผู้นี้ไป! เจ้ามารร้าย เจ้ากลับกล้ามาหลอกลวงบรรพกาลผู้นี้! บรรพกาลผู้นี้อยากจะเห็นว่าเจ้าจะตายอย่างไร!”
หลินเฉาเถียนนั้นมีสภาพราวคนบ้าคลั่ง ฝ่ามือที่กระแทกลงใส่ร่างของเย่หยวนนั้นมันต่อเนื่องจนแทบมองตามไม่ทัน
แต่ละฝ่ามือนั้นมันล้วนหนักหน่วงกว่าฝ่ามือก่อนหน้าไปมาก ต่อเนื่องอย่างไม่มีหยุดยั้ง
พลังกฎธาตุไม้นั้นมันเป็นพลังที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตเป็นทุนเดิม สามารถยืดยาวทอดกว้างไกล
พลังฝ่ามือของเขานี้มันจึงเหมือนเป็นท่อนไม้ใหญ่ที่กระแทกลงบนร่างของเย่หยวนซ้ำๆ
แต่เย่หยวนนั้นก็ยังไม่ได้ตอบโต้ใดๆ กลับไป กัดฟันสู้อย่างอดทน
เวลานี้อวัยวะภายในของเขานั้นมันแทบเรียกได้ว่าแตกสลายลงสิ้น
ร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้านั้นมันก็เริ่มแตกสลายลงเรื่อยๆ
แต่เขานั้นก็ยังไม่คิดตอบโต้!
พวกผางเจิ้นทั้งสามนั้นต่างมีน้ำตาไหลนองหน้าไม่กล้าแม้แต่จะมองดู
“ให้ตาย! ให้ตาย! ให้ตาย! นายท่าน… สู้มันเถอะ! ข้าขอร้องล่ะ สู้มันเสียเถอะ!”
ที่ด้านข้างนั้นจางเจิ้นเองก็ได้แต่ยืนหน้านิ่ง
เพราะเวลานี้แม้จะเป็นเขาเองก็ยังอดอิจฉาพวกผางเจิ้นทั้งสามไม่ได้
มีพี่น้องสหายเช่นนี้ มันยังจะต้องการสิ่งใดอีก?
น่าเสียดายที่ตัวเขานั้นย่อมจะไม่มีทางไปเป็นพี่น้องสหายกับเย่หยวนได้!
“คุกเข่าลง!”
วินาทีนั้นหลินเฉาเถียนได้ยกเท้าขึ้นเตะขาของเย่หยวน
เสียงแกรกดังขึ้นมาแสดงชัดเจนว่ากระดูกหน้าแข้งของเย่หยวนมันได้หักลงแล้ว
แต่ว่าเขานั้นกลับไม่คุกเข่าลง!
สีหน้าของเย่หยวนมันขาวซีดไร้สีเลือดใดเพราะความเจ็บปวดแต่เขากลับไม่ยอมคุกเข่าลง!
“ถุย!”
เย่หยวนถ่มเลือดออกมาด้วยพลังของเต๋าดาบจนพุ่งไปติดหน้าหลินเฉาเถียนอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง
“หลินเฉาเถียน เจ้าได้ระบายออกมาแล้ว! แต่อย่าได้คิดจะทำอะไรล้ำเส้น! คิดให้เย่ผู้นี้คุกเข่าลงนั้น เจ้ามันยังไม่มีค่าพอ!” คำพูดของเย่หยวนนั้นกลับแสนเย็นเยือก
หลินเฉาเถียนนั้นรีบเช็ดหน้าก่อนจะตะโกนลั่นกลับไป “หากบรรพกาลผู้นี้คิดจะให้เจ้าคุกเข่าเล่า?”
“เช่นนั้น… ข้าก็จะขอเสี่ยงชีวิตพวกเขาทั้งสามตัดหัวเจ้าลงเสียตรงนี้!” คำพูดของเย่หยวนนั้นมันเย็นเยือกจนเสียดกระดูก
หลินเฉาเถียนผงะหลังกลับไป จิตใจของเขาสุดแสนรุ่มร้อนแต่กลับไม่พูดกล่าวออกมา
เขานั้นเข้าใจเย่หยวนดีว่าเย่หยวนหยิ่งยโสแค่ไหน!
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เช่นใดมันก็ไม่มีทางที่เขาคนนี้จะก้มหัวให้ศัตรู!
คิดให้เย่หยวนคุกเข่าลงนั้นมันเป็นเรื่องที่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
เขานั้นไม่สงสัยในคำพูดของเย่หยวนแม้แต่น้อย
เพราะว่าเย่หยวนจะทำจริง!
คำพูดเมื่อครู่เขานั้นแค่กล่าวออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นจากความอับอาย
เวลานี้เมื่อใจเย็นลงแล้วเขาก็ได้พบว่าเรื่องราวในตอนนี้มันกลับกลายเป็นเย่หยวนที่คุมเกมไว้
การขู่เมื่อสักครู่มันทำให้ตัวหลินเฉาเถียนเดือดดาลด้วยความคับแค้น
แต่เวลานี้เขาเริ่มที่จะสงบลงบ้างแล้ว!
เย่หยวนนั้นเป็นคนที่ฆ่าได้หยามไม่ได้!
“หึ! แล้วเจ้าคิดหรือยังว่าจะเลือกใคร?” หลินเฉาเถียนถามขึ้นมา
นี่มันเท่ากับว่าเขานั้นยอมสงบศึกลง!
จางเจิ้นได้แต่มองดูเรื่องราวด้วยปากอ้าค้าง เย่หยวนนั้นกำลังจะตายลงแล้วแท้ๆ แต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับหยุดมือ?
แค่คำขู่นั้นมันก็มากพอที่จะหยุดมือแล้ว?
มีหรือที่เขาจะเข้าใจว่าเย่หยวนนั้นเป็นอมตะ!
ต่อให้ร่างกายจะแหลกสลายลงตรงนี้ มันก็ยังมิใช่ความตายของเย่หยวน
เย่หยวนนั้นไม่อาจจะตายได้!
“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะช่วยพวกเขาทั้งสอง!” เย่หยวนชี้นิ้วไปหาจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้และว่านเจิ้น
ครั้งนี้เขาไม่มีท่าทีลังเลอีก
ว่านเจิ้นนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายก่อนจะร้องลั่นขึ้นอย่างไม่พอใจ “นายท่าน ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้เองก็กล่าวขึ้นมาสุดเสียง “เย่หยวน จักรพรรดิผู้นี้ไม่ต้องการรับความช่วยเหลือใดๆ! เจ้าช่วยพวกเขา!”
แต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ฮ่าๆๆ… พี่น้องสหายใด! เจ้าหนูผางเจิ้น เห็นหรือไม่? ในสายตาของมันนั้นเจ้าช่างไร้ค่าใด!”
แต่ผางเจิ้นที่ร่างกายอาบไปด้วยเลือดนั้นกลับยิ้มตอบขึ้นด้วยเสียงหัวเพราะในลำคอ “ฮ่าๆๆ… คนเห็นแก่ตัว ชั่วร้ายไร้ยางอายอย่างเจ้านั้นมันจะมาเข้าใจอะไรเรา? นายท่าน ขอบคุณมาก!”
เขานั้นไม่คิดบ่นใดๆ กับคำตัดสินของเย่หยวน!
เพราะเวลานี้ไม่ว่าใครจะถูกช่วยไปพวกเขาก็คงต้องไม่พอใจทั้งสิ้น
เหมือนอย่างผางเจิ้นกล่าวนั้น ความรู้สึกระหว่างพวกเขาที่เป็นสหายสนิทราวพี่น้องมันเป็นสิ่งที่หลินเฉาเถียนไม่อาจจะเข้าใจได้!
เพราะในสมองของหลินเฉาเถียนนั้นมันมีแต่ตัวเอง!
พวกเขานั้นพร้อมที่จะรับดาบแทนกัน พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อช่วยอีกฝ่าย ยอมที่จะทิ้งซึ่งทุกสิ่งอย่าง!
ความรู้สึกนี้มันฝังลึกจนเกินกว่าจะงัดออกมาได้
มีหรือที่คนเลือดเย็นเช่นหลินเฉาเถียนจะมาเข้าใจ?
กลับกัน เวลานี้นอกจากผางเจิ้นจะไม่ได้คับแค้นใดๆ เย่หยวนแล้วเขายังรู้สึกขอบคุณเย่หยวนเสียด้วยซ้ำ
เพราะว่าเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนต้องลำบากใจแค่ไหนกว่าจะตัดสินเรื่องนี้ออกมาได้!
ความเจ็บปวดในจิตใจของเย่หยวนนั้นมันคงเหนือล้ำยิ่งกว่าความเจ็บปวดของร่างกายไปแล้ว!
เย่หยวนค่อยๆ ปิดตาลงก่อนจะกล่าวขึ้น “พี่น้องข้า ขออภัย! ข้า… มีผลึกแห่งกฎแค่สองชิ้น!”
ผางเจิ้นในตอนนี้มันเหมือนลืมเลือนซึ่งความเจ็บปวดใดๆ ร้องตอบกลับมาด้วยเสียงหัวเราะ “นายท่าน ขอบคุณท่านมาก! ชีวิตนี้ผางผู้นี้ได้ติดตามนายท่านนั้นมันถือเป็นเกียรตินัก! มันเป็นท่านที่สั่งสอนให้ข้ากลายเป็นผู้เป็นคนอย่างแท้จริง! มันเป็นท่านที่ได้เปิดโอกาสให้ข้าได้เจอโลก! หากชาติหน้ามีจริงแล้วข้าหวังเพียงแค่อยากจะกลับมารับใช้นายท่านอีกสักครั้ง!”
หลินเฉาเถียนนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นตรงหน้านี้
เขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าเหตุใดผางเจิ้นนั้นยังคงซื่อสัตย์ต่อเย่หยวนได้ทั้งๆ ที่เป็นผู้ถูกเย่หยวนทอดทิ้ง
ฟุบ!
ผลึกแห่งกฎพุ่งเข้าใส่หลินเฉาเถียน
เขานั้นรีบยกมือขึ้นรับมันทันที
สีหน้าของเขาในเวลานี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยความยินดี
ผลึกแห่งกฎธาตุไฟ!
“ฮ่าๆๆ… ผลึกแห่งกฎธาตุไฟ ของดีเสียจริง! การให้เต๋าบรรพกาลไฟเจ้าโง่นั้นมันเอาผลึกแห่งกฎธาตุไฟไปนับว่าเสียของยิ่งนัก! เวลานี้เมื่อบรรพกาลผู้นี้ได้ผลึกแห่งกฎธาตุไฟมาแล้วต่อให้จะเป็นเทียนชิงมันนั้นข้าก็คงไม่ต้องเกรงกลัวใด!” หลินเฉาเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในเก้าผลึกนั้นมันก็คือผลึกแห่งกฎธาตุไฟนี้
เพราะไม้เสริมไฟ!
การได้ครองผลึกแห่งกฎธาตุไฟนั้นมันจะเพิ่มกำลังของเขาไปได้อีกหลายขุม!
ก่อนหน้านี้เขาได้ช่วยเสริมพลังโจมตีของเต๋าบรรพกาลไฟด้วยพลังแห่งกฎธาตุไม้จนทำให้มารคลั่งระบำเพลิงนั้นรุนแรงขึ้นไปหลายเท่า
แต่ว่าที่ทำเช่นนั้นได้มันเป็นเพราะว่าพลังกฎธาตุไม้ของเขาแทบทั้งสิ้น
หากเขาสามารถควบคุมพลังกฎธาตุไม้และไฟพร้อมๆ กันได้แล้วมารคลั่งระบำเพลิงนั้นมันยังจะมีค่าใด?
ทุกครั้งที่เขาแห่งถงเทียนเปิดออกคนผู้หนึ่งจะสามารถหลอมพลังของผลึกได้แค่ชิ้นเดียว
แต่หลังจากผ่านการกำเนิดใหม่เห็นเต๋าสวรรค์ไปอีกครั้ง คนผู้นั้นก็จะสามารถหลอมผลึกแห่งกฎอันที่สองได้!
การครอบครองสองพลังแห่งกฎ กำลังของหลินเฉาเถียนย่อมจะก้าวไกลไปอย่างมากล้ำ!
“ปล่อยพวกเขา!” เย่หยวนกล่าว
หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มตอบกลับไปก่อนจะยกมือส่งตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ออกไปให้แก่เย่หยวน
เย่หยวนยิงปราณเทวะขึ้นมารองรับร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ไว้
เขานั้นไม่คิดสนใจอาการของตนเองและรีบส่งกระแสจิตศักดิ์สิทธิ์ลงตรวจสอบร่างกายของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ในทันทีจนทำให้หน้าถอดสี
เพราะภายในร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมันได้มีพลังธาตุไม้อันรุนแรงหนึ่งแฝงอยู่ในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์!
ดูแล้วมันคงเป็นฝีมือหลินเฉาเถียนไม่ผิดแน่
ตราบเท่าที่เขาคิดลงมือพลังธาตุไม้นี้มันก็จะปะทุขึ้นมาทำลายร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ให้แหลกลงเป็นชิ้นๆ
เมื่อหลินเฉาเถียนเห็นเช่นนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมา “หึๆ ยอมแพ้แล้วหรือ? มาดูกันสิว่าดาบของเจ้ามันจะเร็วกว่าหรือความคิดของข้ามันจะเร็วกว่า! เอาล่ะ มันยังเหลือผลึกแห่งกฎธาตุน้ำอยู่อีก ส่งมา!”
ได้ยินเช่นนั้นจางเจิ้นก็สั่นสะท้านไปทั้งกายมองดูภาพนี้ด้วยรอยยิ้มกว้าง
เหตุผลเดียวที่เขายอมรับข้อเสนอของหลินเฉาเถียนนั้นมันก็เพราะผลึกแห่งกฎ!
พี่น้องสหายใด? ความซื่อสัตย์ภักดีใด? ต่อหน้าเต๋าบรรพกาลแล้วมันจะยังมีค่าใด?
เย่หยวนหยิบเอาผลึกแห่งกฎธาตุน้ำออกมาโยนให้หลินเฉาเถียนอย่างไม่ลังเล
หลินเฉาเถียนรีบยกมือขึ้นมารับด้วยใบหน้ายิ้ม
เขาและจางเจิ้นนั้นสาบานต่อเต๋าสวรรค์ไว้ว่าหากเขาได้ผลึกแห่งกฎอันที่สองมาจะมอบให้แก่จางเจิ้น
และหลังจากจางเจิ้นขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลเขาก็จะกลายเป็นคนรับใช้ของหลินเฉาเถียนไปตลอดกาล!
เขายกมือคิดส่งผลึกแห่งกฎออกไป
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เขากลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดในจิตศักดิ์สิทธิ์ราวกับว่ามันถูกเข็มนับหมื่นๆ เล่มทิ่มแทง
วินาทีนี้สติของเขามันจึงได้ดับวูบลง
………………………..