Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2497 หลินเฉาเถียนผู้โอหัง
“มัน… มันคิดจะหลอมรวมเผ่าพันธุ์หรือ!”
“ฟังคำสั่งมัน? เช่นนั้นแล้วนักบุญฟ้าครามท่านเล่า?”
“หึ เจ้ายังมองไม่ออกอีกหรือ? มันคิดหมายหัวท่านนักบุญฟ้าครามนั้นแหละ!”
…
เสียงร้องระงมดังขึ้นมาจากกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกลออกไป
นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันแพร่ในทุกๆ เผ่าพันธุ์จนสิ้นแล้วในเวลานี้
คนทั้งหลายนั้นต่างรับฟังคำสั่งของนักบุญฟ้าครามอย่างไม่ลังเล
แต่เวลานี้หลินเฉาเถียนนั้นกลับคิดจะบังคับให้ผู้คนเชื่อฟังด้วยกำลัง!
เขานั้นกลับแต่งตั้งตนเองเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งเผ่าพันธุ์!
เทียนชิงนั้นหันไปมองหลินเฉาเถียนช้าๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่ง
เขานั้นย่อมไม่คิดสนใจเรื่องราวภายในเผ่าพันธุ์ต่างๆ
หลินเฉาเถียนนั้นหัวเราะขึ้น “บรรพกาลผู้นี้เข้าใจดีว่าพวกเจ้าคิดอะไรกัน! หลังจากเย่หยวนมันออกมาแล้วบรรพกาลผู้นี้ก็จะจัดการมันลงเช่นกัน! หากไม่ยอมรับก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น! มิใช่ตัวเย่หยวนเท่านั้น เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายของฝ่ายหลากเผ่าพันธุ์เองก็ต้องก้มหัวให้ข้าด้วยเช่นกัน! ในวันหน้ามันจะไม่มีเก้าเต๋าบรรพกาลใดๆ อีก! มีเพียงแค่ข้าหลินเฉาเถียน!”
คำพูดของเขานี้มันฟังดูสุดแสนโอหังดังลั่นฟ้าดิน
การกำเนิดใหม่แห่งเต๋าสวรรค์ครั้งนี้มันจะมิใช่ยุคสมัยของเก้าเต๋าบรรพกาลอีกต่อไปแล้ว
จากนี้ไปมันจะมีแค่เทียนชิงและหลินเฉาเถียน!
ส่วนตัวเย่หยวนนั้นหลินเฉาเถียนย่อมจะไม่คิดสนใจใดๆ
เมื่อก่อนที่ฆ่าไม่ตายนั้น หลินเฉาเถียนเชื่อว่าเพราะเขายังมีพลังไม่มากพอ
เวลานี้เขาเชื่อสุดใจว่าตัวเขาจะสามารถสังหารเย่หยวนลงได้จริงๆ!
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างโกรธแค้นจนหน้าแดงก่ำ แต่ก็ไม่กล้าจะพูดเถียงใดๆ
เพราะหลินเฉาเถียนในเวลานี้มันแข็งแกร่งจนเกินไป!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองเส้นทางที่สามมันก็ได้ส่องแสงเปิดออกมา!
เต๋าบรรพกาลคนที่สามได้ถือกำเนิด!
สายตาทุกคู่ต่างหันไปจ้องมองที่เส้นทางนั้นในทันที
“ม-มันเป็นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล!”
“เขานั้นกลับได้ครองผลึกแห่งกฎแสงไปกลายเป็นเต๋าบรรพกาลแสง!”
“ไม่ดีแล้ว หลินเฉาเถียนคงไม่ปล่อยเขาไว้เฉยๆ แน่!”
…
ได้เห็นว่าเป็นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นทุกผู้คนก็ต่างเหลือบไปมองหลินเฉาเถียนทันที
แน่นอนว่าเวลานี้ตัวหลินเฉาเถียนก็กำลังยิ้มเผยอขึ้นมา
ดูหน้าตาแล้วมันต้องคิดเรื่องชั่วๆ อยู่แน่!
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นเป็นคนของเย่หยวน
เวลานี้เมื่อเขาได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลไปแล้วมีหรือที่หลินเฉาเถียนจะปล่อยเขาไป?
“ยี่ เจ้ารีบมาคุกเข่าคารวะข้าเสีย!” หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ
เขานั้นก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลแล้วแต่กลับยังมีใครกล้ามาพูดจาเช่นนี้กับเขาได้?
ที่สำคัญเมื่อได้เห็นว่าผู้พูดออกมานั้นมันคือหลินเฉาเถียน เขาก็ยิ่งหรี่ตาลงแน่น
เจ้าหมอนี่มันกลับกลายเป็นเต๋าบรรพกาลไฟวิญญาณ?
ก่อนที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจะขึ้นเขาแห่งถงเทียนมานั้นเขาก็เป็นยอดฝีมือพลังกฎในด้านเต๋าโอสถก่อนแล้ว
เวลานี้เมื่อได้พลังของเต๋าบรรพกาลแสงมาครอง กำลังของเขามันย่อมจะเรียกได้ว่าเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลทั่วๆ ไปมาก
หลินเฉาเถียนนั้นกลับกล้ามาพูดเช่นนี้ต่อหน้าเขา แน่นอนว่าตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลย่อมจะไม่พอใจ
กอปรกับความแค้นแต่เก่าก่อนนั้น มีหรือที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจะไปก้มหัวให้คนเช่นนี้?
“หลินเฉาเถียน เจ้าจะไม่หลงตัวเองเกินไปหรือ? ต่อให้บรรพกาลผู้นี้จะก้มคารวะใครมันก็คงไม่ทางเป็นเจ้า!” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นกล่าวขึ้น
แต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับยิ้มรับ “เช่นนั้นหรือ? ดูท่าเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนัก!”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นกล่าวตอกกลับไปอย่างไม่แยแส “สถานการณ์ตอนนี้คือข้าเองก็เป็นเต๋าบรรพกาลคนหนึ่งแล้วเช่นกัน! หลังจากที่เย่หยวนมาถึงพร้อมด้วยเจ้าหมูสมบัตินั้น คนอย่างเจ้ามันจะยังมีค่าใด?”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นย่อมรู้ตัวดีว่าเขาไม่อาจเทียบเคียงหลินเฉาเถียนได้
แต่เย่หยวนนั้นมีพลังระดับเต๋าบรรพกาลมาแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
กอปรด้วยฝีมือของเจ้าหมูสมบัติที่เก่งกาจพอจะต่อต้านสองเต๋าบรรพกาลไว้ได้ด้วยตัวเอง กำลังของฝ่ายพวกเขามันย่อมจะเหนือล้ำที่สุดในมหาพิภพถงเทียน!
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้คิดกลัวหลินเฉาเถียนใดๆ
แต่ว่าทางหลินเฉาเถียนนั้นกลับยิ้มตอบกลับ “เจ้าคงยังไม่ได้ยินก่อนหน้านี้ เช่นนั้นบรรพกาลผู้นี้จะช่วยพูดให้เจ้าฟังอีกครา! จากวันนี้ไปหลากเผ่าพันธุ์มันจะต้องยึดถือข้าเป็นผู้นำสูงสุด! เต๋าบรรพกาลทั้งหลายเองก็ต้องก้มหัวให้ข้าสิ้น! ไม่เช่นนั้นเจ้าก็เตรียมรับผลที่จะตามมาด้วยตนเอง!”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่ได้ยินก็ตอกกลับไป “เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครกัน? ถึงกับกล้ามาอวดอ้างตนเป็นผู้นำสูงสุด? รับผลที่จะตามมาเอง? หึ เช่นนั้นบรรพกาลผู้นี้ก็อยากจะรู้เสียจริงๆ ว่าผลที่ตามมานั้นมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร!”
หลินเฉาเถียนพยักหน้ารับ “ได้ เช่นนั้นเจ้าจะได้รู้!”
พูดจบแล้วเขาก็ขยับร่างพร้อมซัดฝ่ามือออกมา
มันไม่ต้องมีคลื่นพลังรุนแรงเหมือนก่อนหน้าใดๆ ฝ่ามือนี้มันดูสุดแสนจะธรรมดา
เพราะเวลานี้แม้จะเป็นเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายเองก็ยังสัมผัสไม่ได้ถึงพลังไฟใดๆ บนร่างของหลินเฉาเถียนเลย
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นไม่คิดเกรงกลัวเขาแค่พ่นลมก่อนจะซัดฝ่ามือกลับออกมาต้าน
วินาทีที่ฝ่ามือนั้นถูกซัดออกมันก็มีพลังกฎแห่งแสงรุนแรงล้ำปะทุขึ้นจากฝ่ามือเขา
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง!
เพียงแค่ว่าหมู่ยอดฝีมือทั้งหลายในที่นี้พวกเขาต่างได้แต่ถอนใจยาว
ดูท่าแล้วมันคงไม่มีใครคิดว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจะสู้ไหว
ปัง!
เต๋าบรรพกาลทั้งสองปะทะกันแต่เป็นฝ่ายมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่สัมผัสได้ว่ามีพลังไฟรุนแรงกำลังแทรกเข้ามาในร่างกายของเขา
“อั่ก!”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นกระอักเลือดขึ้นมาก่อนจะปลิวลิ่วไปด้านหลัง
แค่ฝ่ามือเดียวนี้ก็ทำเอาเขาบาดเจ็บหนักแล้ว!
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลหันไปมองหลินเฉาเถียนก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
เขานั้นเป็นเต๋าบรรพกาลเหมือนๆ กับหลินเฉาเถียนแต่กำลังของคนทั้งสองมันกลับห่างกันราวฟ้ากับเหว!
หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับไป “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้! เจ้าคิดว่าเย่หยวนและเจ้าหมูนั่นมันจะช่วยเจ้าได้? หลังจากมันโผล่หน้ามาบรรพกาลผู้นี้จะเป็นคนจัดการมันให้ด้วยตัวเอง! เอาล่ะ เลือกมาสิ จะยอมก้มหัวหรือตาย!”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นหรี่ตาลงด้วยสีหน้าไม่สู้ดีก่อนจะร้องตอบไป “คิดให้บรรพกาลผู้นี้ก้มหัวให้คนอย่างเจ้า? ฝันไปเถอะ!”
หลินเฉาเถียนได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา “เจ้านั้นมันไม่เห็นโล่งศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ!”
จากนั้นเขาก็ขยับร่างไปปรากฏที่ด้านหลังมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลในพริบตา
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นขนลุกตั้งไปทั้งร่างกาย ความรู้สึกอันตรายอย่างถึงที่สุดมันสั่นสะท้านอยู่ในใจ
วินาทีเดียวกันนั้นเขาจึงต้องพุ่งตังหนีหาย
การผสานเต๋าแต่เดิมของเขาเข้ากับการเป็นเต๋าบรรพกาลนั้น วิชาการใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขามันจึงเรียกได้ว่าเหนือล้ำจนถึงที่สุด
ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยพลังของเต๋าบรรพกาลแสงนั้น วิชาการเคลื่อนไหวด้วยแสงมันย่อมจะสุดแสนรวดเร็ว
ระหว่างเต๋าบรรพกาลและเต๋าบรรพกาลนั้นมันมีความต่างได้!
แต่ในหมู่พวกเขาหากคิดจะฆ่าสังหารกันมันคงเป็นเรื่องยากเกินทำ
ไม่เช่นนั้นหลายหมื่นล้านปีมานี้มันคงไม่มีทางใดที่เต๋าบรรพกาลทั้งเก้าจะได้อยู่กันครบถ้วนเช่นนี้
เมื่อหลบการโจมตีนี้ได้มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็ต้องถอนใจยาว
แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหู
“เปล่าประโยชน์! เจ้าหนีจากบรรพกาลผู้นี้ไม่พ้นหรอก!”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่หลินเฉาเถียนนั้นตามตัวเขามาทัน!
และตัวเขานั้นกลับไม่ทันรู้สึกเสียด้วย!
น่ากลัว!
จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
เรื่องเช่นนี้มันเป็นไปได้อย่างไร?
แต่เขานั้นไม่เหลือเวลาให้คิดอีก
หลินเฉาเถียนนั้นได้ตะปบฝ่ามือลงมาที่กลางอกของเขา
“อ่อก!”
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลกระอักเลือดออกมารู้สึกได้ชัดเจนว่าอวัยวะภายในเสียหายหนัก
ฝ่ามือนี้มันกลับถึงขั้นทำลายอวัยวะภายในของเขาลงได้
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นตกลงมาสู่พื้นดินไม่อาจจะขยับเคลื่อนไหวได้อีก
เขานั้นหันไปมองหลินเฉาเถียนด้วยความตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อสายตา
ทำไมกัน?!
เต๋าบรรพกาลด้วยกันแท้ๆ แต่ทำไมหลินเฉาเถียนถึงได้เก่งกาจนัก?
หลินเฉาเถียนนั้นยืนมองลงมาด้วยมือไพล่หลังก่อนจะทิ้งน้ำหนักลงเหยียบหน้าอกของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล “ข้านั้นจะทิ้งให้เจ้าได้มีชีวิตก่อน เวลานี้ให้ร่างกายของเจ้ามันได้เก็บผลึกแห่งกฎแสงไว้ หลังจากบรรพกาลผู้นี้สังหารเย่หยวนมันลงได้แล้วข้าจะค่อยกลับมาส่งเจ้าไปหามัน!”
วินาทีที่เต๋าบรรพกาลตายลงนั้นผลึกแห่งกฎมันก็จะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่
เต๋าบรรพกาลคนใหม่จะถือกำเนิดขึ้น
เพียงแค่ว่าในยุคก่อนมันไม่มีเต๋าบรรพกาลคนใดตายลง ทำให้ไม่มีเต๋าบรรพกาลคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นเช่นกัน
แต่ยุคนี้มันมิใช่!
หลินเฉาเถียนผู้นี้สุดแสนจะแข็งแกร่ง!
เหล่ายอดฝีมือจากหลากเผ่าพันธุ์ที่ได้เห็นเรื่องราวนั้นแทบไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างลงได้
พวกเขานั้นไม่นึกฝันว่าช่องว่างระหว่างเต๋าบรรพกาลทั้งสองมันจะห่างชั้นกันได้มากมายปานนี้!
…………………………