Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2507 สิ้นหวังและความหวัง
เย่หยวนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายลมหายใจเริ่มติดขัด
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นยืนมองดูเย่หยวนอยู่ไม่ไกล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้เห็นเย่หยวนมีสภาพเป็นเช่นนี้
แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าชีวิตของหญิงนางนี้มันสำคัญต่อจิตใจของเย่หยวนอย่างหนักหน่วงแค่ไหน
คลื่นพลังสีเขียวอ่อนมันค่อยๆ หลั่งไหลเข้าไปในร่างของมู่หลินเสวีย
เย่หยวนนั้นค่อยๆ ส่งพลังจากหยาดชีวาและพลังจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาลงใส่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของมู่หลินเสวีย
เวลานี้ภายในนั้นมันเหลือเพียงแค่เศษเสี้ยวของจิตเท่านั้น!
เย่หยวนนั้นพยายามข่มใจให้สงบเพราะครั้งนี้เขาจะยอมพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
เพราะจิตสุดท้ายนี้มันไม่อาจจะทนรับความผิดพลาดใดๆ ได้แม้แต่น้อย!
และนี่มันยังเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้สัมผัสถึงหยาดชีวาอย่างแท้จริงและแม้แต่ตัวเขาก็ยังต้องตกตะลึงกับพลังชีวิตที่อัดแน่นอยู่ภายใน
พลังแห่งชีวิตนั้นมันเป็นสิ่งที่ลึกล้ำเข้าใจยาก ดูเหมือนว่ามันนั้นจะแฝงล้ำมาด้วยยอดเต๋าแห่งความเป็นความตาย
ในหมู่ยอดเต๋ามากมายหลากหลายนั้นยอดเต๋าแห่งความเป็นความตายนั้นถือว่าเป็นสุดยอดเต๋าหนึ่ง
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังลึกลับกว่าเต๋าอื่นๆ ไปมาก
เย่หยวนนั้นเคยได้บ่มเพาะฝึกฝนตราประทับชีวาสามนิพพานมาก่อนและพอจะมีความเข้าใจต่อยอดเต๋าความเป็นความตายบ้าง
แต่ต่อให้เขาจะเป็นยอดคนอันดับหนึ่งของมหาพิภพถงเทียนนั้นเขาก็ไม่อาจจะเข้าใจความเป็นความตายได้ถ่องแท้
เพราะผู้คนนั้นมันคือสิ่งที่ซับซ้อนและเข้าใจยากที่สุดบนโลก
ต่อหน้ายอดเต๋าฟ้าดินนั้นผู้คนมันจะเป็นเพียงแค่หยาดน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร
แต่ผู้คนนั้นกลับลึกลับซับซ้อนเหมือนดั่งเครื่องจักรแสนประณีตที่ทำงานไปได้ด้วยตัวของมันเอง
หากให้พูดตามหลักการแล้วผู้คนนั้นย่อมจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเต๋าสวรรค์สิ้น
ทุกชีวิตนั้นจะมีเส้นทางของตนเองมาตั้งแต่กำเนิดจนจบชีวิต
แต่เย่หยวนนั้นได้ผ่านเรื่องราวมากมายหลากหลายจนเข้าใจได้ชัดเจนว่าชะตาชีวิตของคนนั้นมันไม่ได้ถูกเต๋าสวรรค์ควบคุมสิ้นจริงๆ
เหมือนอย่าง… ตัวเขานี้!
เขานั้นเคยพูดถึงชะตาชีวิตของตนกับจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้มาก่อนและได้เข้าใจว่าการผงาดของเขานี้มันไม่ได้มีบันทึกใดๆ ในเต๋าสวรรค์เลย
เขานั้นหลุดพ้นจากการควบคุมของเต๋าสวรรค์มาแล้ว!
และเย่หยวนเองก็คาดเดาว่าเรื่องราวบนมหาพิภพถงเทียนในตอนนี้เองมันก็คงอยู่เหนือล้ำกว่าการควบคุมของเต๋าสวรรค์มาแล้วด้วย
เย่หยวนนั้นรู้สึกว่าต่อให้จะศึกษาบ่มเพาะเต๋าความเป็นความตายมาเพิ่มมันก็คงไม่อาจจะช่วยให้เขาเข้าใจชีวิตและความตายได้มากมายเท่าไหร่นัก!
หยาดชีวานั้นมันแฝงไปด้วยพลังชีวิตอย่างสูงสุด!
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนี้ในมือเย่หยวนก็เริ่มแสดงความมั่นใจออกมาทางสีหน้าได้
ภายใต้การควบคุมของเย่หยวนนั้นพลังชีวิตมันค่อยๆ หลั่งไหลลงไปใส่จิตที่แสนอ่อนแออันนั้น
เวลาค่อยๆ เลื่อนคล้อยผ่านไปแต่จิตของมู่หลินเสวียนั้นกลับไม่แสดงท่าทีว่าจะแข็งแรงขึ้นมาใดๆ เลย
หลังจากผ่านความหายนะไปหลายครั้งเวลานี้จิตศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือของมู่หลินเสวียมันจึงยิ่งอ่อนแอลงไปมาก
พลังชีวิตใดๆ นี้มันไม่อาจจะเข้าไปเสริมจิตของมู่หลินเสวียได้เลยแม้แต่น้อย
เย่หยวนนั้นอดที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจไม่ได้
แต่เขานั้นก็ยังไม่กล้าที่จะถอดใจลงง่ายๆ ตอนนี้
เวลานี้กล้ามเนื้อทุกมัดบนร่างของเขามันเกร็งอย่างมากทำทุกอย่างด้วยความระวัง
หนึ่งวัน!
สองวัน!
…
หนึ่งเดือนหลังจากนั้นมาเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงคำว่าสิ้นหวังว่าถ่องแท้แต่เวลานั้นเองที่จิตศักดิ์สิทธิ์มันเริ่มจะค่อยๆ ขยายตัวออก
แม้ว่ามันจะขยายออกเพียงนิดแต่เย่หยวนก็ยังเห็นมันได้อย่างชัดเจน!
ความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้มันทำให้เย่หยวนลุกกลับมามีหวัง!
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้จิตของมู่หลินเสวียนั้นได้จมอยู่ในพลังชีวิตมาตลอด
จนสุดท้ายมันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น!
เมื่อมันมีครั้งแรกมันก็ย่อมมีครั้งที่สอง!
เย่หยวนนั้นเชื่อว่ามันจะต้องได้ผลอย่างไม่ลังเลใจอีก!
แน่นอนว่ายิ่งเวลาผ่านไปเสี้ยวจิตนั้นมันก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าจะหยุด
หัวใจของเย่หยวนนั้นมันเต้นรัวจนแทบหลุดออกมาจากปาก
เขานั้นตื่นเต้น!
ที่ขึ้นมาอาละวาดมากมายบนมหาพิภพถงเทียนนี้มันเพื่อเรื่องใดกัน?
เพื่อจะเป็นยอดคนอันดับหนึ่งของมหาพิภพถงเทียน?
เพื่อจะถูกคนนับล้านๆ เชิดชู?
เพื่อนามที่เป็นนิรันดร์?
ไม่!
เขานั้นขึ้นมาบนนี้เพื่อจะช่วยมู่หลินเสวียเท่านั้น!
หญิงแปลกที่มีท่าทางแสนเย็นเยือกแต่กลับกล้าที่จะรักและชังอย่างตรงไปตรงมา!
เวลานี้เขาทำมันได้สำเร็จจนได้!
จิตศักดิ์สิทธิ์ของมู่หลินเสวียมันค่อยๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
จากที่เป็นเสี้ยวจิตในตอนแรกมันค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างแข็งแรงจนดูเหมือนก้อนเพลิง
“อือ…”
จนสุดท้ายมู่หลินเสวียก็ร้องขึ้นมาในลำคอ
เสียงนั้นมันสุดแสนจะเบาบางจนแทบไม่อาจได้ยิน
แต่เมื่อมันเข้ามาถึงหูของเย่หยวนแล้วมันย่อมจะดีเลิศยิ่งกว่าดนตรีใดๆ ในโลกหล้า!
“หลินเสวีย! เจ้าได้ยินหรือไม่? หลินเสวีย! ข้า… ข้าจี้ฉิงหยุน!” เย่หยวนนั้นลืมตนร้องทักขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม
แต่มันกลับไม่มีคำตอบรับใดๆ กลับมา
หลังจากเสียงนั้นดังขึ้นมามันก็ไม่มีการขยับไหวใดๆ อีก
และในเวลานั้นเองแสงอ่อนที่ห้อมล้อมร่างของมู่หลินเสวียไว้มันก็แตกสลายลงเป็นเสี่ยงๆ
พลังของหยาดชีวามันก็แตกสลายลงไปตามด้วยในวินาทีนี้
“ไม่นะ! อย่าเพิ่งสิ!”
สีหน้าของเย่หยวนนั้นเปลี่ยนสีไปทันทีพยายามใช้พลังที่มีรวบรวมเศษแสงที่แตกกระจายนั้นไว้
แต่ทุกสิ่งอย่างมันเปล่าประโยชน์!
เศษแสงนั้นมันค่อยๆ เลื่อนหายจางลงไปกลับสู่ฟ้าดิน
เย่หยวนที่ได้เห็นนั้นต้องยืนนิ่งอย่างไม่อาจแสดงออกสีหน้าทุกข์หรือสุขใดๆ ได้
“หลินเสวีย! ต-ตื่นเถอะ! อ-อย่าได้ทำให้ข้ากลัวไป! ข้านั้นหวังเพียงแค่สิ่งนี้จนมีวันนี้ได้ อ-อย่าได้ทำลายความหวังของข้าลงเลย!”
พูดไปน้ำตาของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ ไหลลงมา
นับพันๆ ปีที่ผ่านมานี้หยาดชีวามันคือเป้าหมายชีวิตที่ทำให้เขากล้าจะเสี่ยงตายจนถึงป่านนี้
แต่เวลานี้ความเป็นจริงมันกลับช่างโหดร้าย มันได้บอกกับเขาว่าหยาดชีวานั้นมันไม่อาจช่วยเหลือมู่หลินเสวียได้
ความสิ้นหวังเกาะกินจิตใจของเย่หยวนในทันที
“หลินเสวีย อย่าได้ทำเช่นนี้เลย!”
“จ-เจ้าตอบข้ามาหน่อยนะ?”
“ข้ารู้นะว่าเจ้าแค่แกล้งหลับเท่านั้น…”
เสียงของเย่หยวนนั้นมันค่อยๆ เบาลงไปเรื่อยจนสุดท้ายมันก็ไม่มีเสียงใดดังขึ้นมาจากปากของเขาอีก
น้ำตาที่ไหลลงมาอาบหน้าของเขานั้นมันแห้งลงเพราะปราณแต่ก็เปียกไปด้วยน้ำตาใหม่ วนซ้ำไปมาเช่นนี้อยู่ไม่รู้กี่รอบ
เขานั้นไม่อาจจะหลอกตัวเองได้อีกต่อไป
เขานั้นเข้าใจแล้วว่าตนเองล้มเหลวลงแล้ว!
แต่เขานั้นยังไม่อาจทำใจยอมรับได้!
เขานั้นหวังว่าภาพตรงหน้านี้มันจะเป็นแค่การแกล้งกันเล่นเท่านั้น!
ที่ด้านข้างทั้งจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ทั้งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเองก็ต่างผงะหลังไปตามๆ กัน
พวกเขานั้นไม่เคยจะเห็นเย่หยวนแสดงท่าทีแบบนี้ออกมาก่อนและไม่เคยคิดฝันด้วยว่าจะได้เห็น!
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งสองได้เข้าใจว่าที่เย่หยวนก้าวเดินขึ้นมาถึงทุกวันนี้ได้มันเป็นเพราะหญิงสามัญชนเพียงแค่คนเดียว!
ในเวลานี้เย่หยวนได้ถูกคนทั้งโลกหล้ายกย่องเป็นผู้นำ
แต่ความรู้สึกในจิตใจของเขานั้นมันกลับไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป
สำหรับนักยุทธแล้วพวกเขาย่อมจะมีรักมากมายทุกที่
และยิ่งได้พัฒนาตนเปลี่ยนผ่านสถานะต่างๆ ขึ้นมาความคิดของพวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
มีหรือที่คนธรรมดามันจะควรค่ากับยอดคนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียน?
มีหรือที่ชีวิตความเป็นความตายของสามัญชนแค่คนเดียวมันจะทำให้จิตใจของยอดคนแตกสลายได้?
แต่เย่หยวนนั้นคือชายประหลาดที่รักได้อย่างลึกซึ้ง!
“เย่หยวน บ-บางที… มันอาจจะยังมีหวัง! เพราะอย่างไรพลังของหยาดชีวามันก็ทำให้จิตของนางแข็งแกร่งขึ้นมากใช่ไหมเล่า? หากหนึ่งหยาดชีวาไม่ได้ผลเราก็ไปหาเพิ่มมาอีกหยาดหนึ่งก็ได้นี่!” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางลังเล
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบกลับมาด้วยสีหน้าตายด้าน “ท่านไม่ต้องปลอบข้าหรอก! ท่านและข้าต่างเป็นคนระดับโอสถเต๋า มันชัดเจนแก่สายตาแล้วว่าหยาดชีวานั้นมีประโยชน์ใดหรือไม่!”
จิตศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือนี้มันเป็นเพียงแค่เสี้ยวจิต
เสี้ยวจิตนั้นมันแข็งแกร่งพัฒนาขึ้นมาด้วยพลังของหยาดชีวาจริง
แต่แม้เสี้ยวจิตนั้นมันจะแข็งแกร่งขึ้นแค่ไหนแต่กลับไร้วี่แววว่าจิตศักดิ์สิทธิ์ส่วนอื่นๆ จะฟื้นคืนกลับมาได้!
นี่มันคือทางตัน!
จิตศักดิ์สิทธิ์ของมู่หลินเสวียมันดับสลายลงไปแล้ว มีเพียงแค่เสี้ยวจิตนี้เท่านั้นที่ยังไม่ดับลงไป
เย่หยวนนั้นรอเสมอมา รอให้หยาดชีวามันเสริมสร้างจิตศักดิ์สิทธิ์ส่วนอื่นๆ กลับขึ้นมาจากเสี้ยวจิตนี้
แต่กลับไร้ผล!
มันไม่มีท่าทางว่าจะฟื้นคืนใดๆ ได้เลย!
ความสิ้นหวังของเขานั้นไม่ได้อยู่ที่หวาดชีวา แต่มันอยู่ที่ปัญหาข้อนี้!
หากไม่มีจิตศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่ว่าเสี้ยวจิตจะแข็งแกร่งไปเท่าใดมันก็เปล่าประโยชน์
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วคิดไปพักหนึ่ง “เย่หยวน จิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเองก็พัฒนาขึ้นไปถึงวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมมิใช่หรือ? เรื่องนี้มันบ่งชี้ว่าระดับของจิตศักดิ์สิทธิ์นั้นมันยังมีเหนือกว่าที่เรารู้จักกัน! บางที… มันอาจจะยังมีทางออก?”
ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้านในทันทีที่ได้ยินก่อนที่ดวงตานั้นจะเริ่มกลับมามีสีอีกครั้ง!
“ใช่! ท-ท่านพูดถูก! เจ้าหมอนั่นมันอาจจะรู้อะไร! ข้ายังจะยอมแพ้ไม่ได้!” เย่หยวนนั้นสูดหายใจเข้าลึกพยายามรวบรวมสติ
เวลานี้แววตาของเขามันได้ปรากฏความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง!