Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2513 หนึ่งนิ้ว
บนท้องฟ้ากว้างนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งผ่านห้วงมิติไปอย่างรวดเร็วนับแสนๆ กิโลเมตรต่อวินาที
เมื่อออกมาจากเมืองอินทรีสวรรค์เย่หยวนก็มุ่งหน้าตรงไปยังเขาแห่งถงเทียนในทันทีด้วยความเร็วสูงสุด!
เขานั้นคิดว่าผู้อยู่เบื้องหลังแปดจอมเทพนั้นจะต้องลงมายังมหาพิภพถงเทียนเป็นแน่ และสถานที่ที่ดูน่าจะมีความเป็นไปได้ที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นมากที่สุดมันก็คือเขาแห่งถงเทียน
ด้านหน้าของเย่หยวนนั้นเขาเริ่มจะเห็นเงาของเขาแห่งถงเทียนขึ้นมาลางๆ
ฟุบ!
แต่วินาทีนั้นเองมันกลับมีอีกเงาร่างหนึ่งพุ่งสวนเขาไป!
แทบจะในวินาทีเดียวกันนั้นร่างของทั้งสองฝ่ายก็ต่างหยุดลงทันที
จากนั้นพวกเขาก็หันมามองหน้าของอีกฝ่ายด้วยสายตาแปลกประหลาด
ตรงหน้าของเย่หยวนนั้นมันมีชายหนุ่มในชุดคลุมลัทธิเต๋าสีฟ้า เขานั้นย่อมจะเป็นชายหนุ่มที่ลงมาจากยอดเขาแห่งถงเทียนนั้นแล้ว!
เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความรู้สึกกดดันอย่างไม่ทราบที่มา
เขานั้นไม่อาจจะมองชายหนุ่มคนนี้ได้ออกเลยแม้แต่น้อย!
แท้จริงแล้วตัวชายหนุ่มเองก็ไม่ได้คิดปล่อยพลังออกกมากดดันใดๆ เย่หยวนเพียงแค่ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าอบอุ่นเหมือนราวกับว่าเขานั้นไร้พิษภัยใด
แต่มันเพราะว่าใบหน้าเช่นนั้นที่ทำให้เย่หยวนรู้สึกราวกับตนเองกำลังได้เผชิญหน้ากับขุนเขา!
ตัวเขาที่ไร้เทียมทานในมหาพิภพถงเทียนนั้นกลับกำลังเผชิญหน้าเขาใหญ่อีกลูก!
ชายหนุ่มคนนั้นมองดูเย่หยวนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มขึ้น “หากข้าเดาไม่ผิดแล้วเจ้าคงเป็นเย่หยวนที่พวกมันพูดถึงกันนั้น”
เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะพยักหน้ารับ “เจ้าคือตัวจริงของแปดจอมเทพ?”
ชายหนุ่มนั้นยิ้มตอบกลับมา “หึๆ ใช่แล้ว! ดูท่าคนที่ทำลายแปดจอมเทพลงนั้นจะเป็นเจ้าไม่ผิดแน่แล้ว! อืม ชั้นบรรยากาศสามัญขั้นสุด วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมระดับต่ำ ห้าพลังแห่งกฎ เจ้ามันแตกต่างจากมดตัวอื่นจริง! ในโลกที่ถูกทิ้งร้างนี้เจ้ากลับยังพึ่งกำลังของตนสร้างเส้นทางที่จะขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้ด้วยตัวเอง! เจ้านั้นมีสิทธิพอที่จะเป็นข้ารับใช้ของข้าได้ จงก้มกราบและรับพรไปเสีย ในวันหน้า… มหาพิภพถงเทียนนี้ข้าจะฝากให้เจ้าจัดการดูแลมัน”
น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มชุดฟ้าคนนี้กลับไม่ได้คิดลงมือจัดการเย่หยวนในทันทีแต่กลับต้องการรับเย่หยวนเข้าเป็นคนใช้แทน
น้ำเสียงของเขานั้นมันสุดแสนจะธรรมดาราวกกับกำลังพูดเรื่องปกติธรรมดา
แต่เย่หยวนนั้นกลับขนลุกตั้งทั้งตัว
เพราะเวลานี้อีกฝ่ายกลับมองตัวเขาได้ทะลุปรุโปร่ง
ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นความลับได้เลย
ชายหนุ่มชุดฟ้าผู้นี้กล่าวและพูดถึงพลังต่างๆ ของเขาได้อย่างแม่นยำ!
น่ากลัว!
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะเตรียมใจรับมานานแสนนานแล้วแต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องตื่นตะลึง
เขานั้นชักจะอยากเข้าใจขึ้นมาจริงๆ แล้วว่าบนเขาแห่งถงเทียนไปมันมีตัวตนเช่นใดอยู่กันแน่!
ชายหนุ่มนั้นกล่าวขึ้น “หืม? เจ้าไม่คิดยอมหรือ? เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าหากไม่รับคำแล้วมันจะจบเช่นไร”
เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตอบกลับไป “เจ้านั้นคิดใช้แปดจอมเทพนั้นสั่งสอนเต๋า เช่นนั้นแล้วเจ้าจะเอาส่วนหนึ่งของจิตศักดิ์สิทธิ์นั้นออกไปทำอะไรกัน?”
ชายหนุ่มชุดฟ้ายืนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าเจ้าจะเข้าใจเรื่องราวไม่น้อย! บอกเจ้าไปก็คงไม่เสียหายใด แม้ว่าพวกเจ้าทั้งหลายนั้นจะเป็นแค่มดปลวกไร้ค่าใดๆ แต่ส่วนหนึ่งของจิตศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้ามีนั้นมันก็พอจะยังเป็นประโยชน์ได้บ้าง มันสามารถช่วยให้ข้าบ่มเพาะวิญญาณดั่งเดิมของตนได้ เต๋าสวรรค์ที่เผ่าเทวานั้นบ่มเพาะกันแท้จริงแล้วมันคือเต๋าที่ข้าส่งต่อลงมาเท่านั้น เมื่อใดที่พวกมันนั้นบ่มเพาะเต๋าสวรรค์พวกมันก็จะต้องมอบส่วนหนึ่งของจิตศักดิ์สิทธิ์ออกมาให้แก่ข้าทั้งคนที่พวกมันทั้งหลายสังหารลงนั้นเองก็จะถูกแปดจอมเทพดึงเอาจิตศักดิ์สิทธิ์ออกมาสู่ห้วงมิติภายในแปดจอมเทพนั้น นี่มันถือว่าเป็นเกียรติแก่พวกเจ้าเหล่ามดปลวกทั้งหลาย!”
ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างมาล้อมมุงดูเรื่องราวมากมาย
ได้ยินเช่นนั้นไปพวกเขาก็แทบสิ้นสติลง
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ว่าตนเองมิใช่ยอดคนใดๆ เป็นได้เพียงแค่สัตว์ในคอกของผู้อื่นเท่านั้น!
ในสายตาของชายหนุ่มคนนี้แล้วพวกเขานั้นไม่ได้ต่างจากเศษหินเศษดิน จะตายหรืออยู่ก็ไร้ค่าใด
คับแค้นแต่ไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน!
พวกเขาทั้งหลายที่เพิ่งลงมาจากเขาแห่งถงเทียนนั้นต่างได้เห็นถึงความเก่งกาจของชายหนุ่ม
“ให้ตายสิ! ชีวิตนับล้านๆ บนมหาพิภพถงเทียนนี้แท้จริงแล้วมันเป็นได้แค่ของเล่นของเขา!”
“สงครามสิ้นโลกใด สงครามสองเผ่าพันธุ์ใด น่าขัน! ช่างน่าขันนักชีวิต!”
“ท่านนักบุญฟ้าคราม มหาพิภพถงเทียนนั้นคงมีแต่ต้องพึ่งพาท่านแล้ว!”
…
ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างได้แต่หวังกับเย่หยวน
พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นเป็นความหวังสุดท้ายและความหวังเดียว!
ต่อให้เต๋าบรรพกาลยังไม่อาจจะต่อต้านพลังของชายหนุ่มคนนี้ได้แม้แต่ครั้ง มันจะยังมีใครบนโลกหล้านี้ต้านทานกำลังของเขาได้?
แต่ในเวลานั้นเองที่มุมปากของชายหนุ่มมันก็กระตุกขึ้นมาก่อนจะยกนิ้วขึ้นดีด
จากนั้นมันก็เกิดเสียงลมโบกพัดรุนแรง!
ฟู ฟู ฟู…
ยอดฝีมือเจ้าฟ้าดินมากมายรวมถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตายตกลงหายไปสิ้น!
“หึๆ มดนั้นมันไม่มีสิทธิจะมาโกรธแค้นใด! พวกเจ้ารู้แค่ว่าข้านั้นคือสวรรค์ก็พอ! สวรรค์อันยิ่งใหญ่! พวกเจ้านั้นทำได้เพียงแค่ก้มลงกราบข้าเท่านั้น!” ชายหนุ่มนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องร้ายแรงใดๆ ลงไป
เย่หยวนหรี่ตาลงมองเพราะแรงกดดันมหาศาลนั้นเองก็มาถึงตัวเขาเช่นกัน!
แข็งแกร่ง!
ดีดนิ้วครั้งเดียวนั้นกลับทำลายเจ้าฟ้าดินและจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงมากมาย!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเย่หยวนกลับไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงพลังปราณใดๆ และยังไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังกฎใดๆ ด้วย
มันเหมือนแค่เป็นการดีดนิ้วธรรมดาๆ!
หากเย่หยวนอยากจะสังหารผู้คนแล้ว เจ้าฟ้าดินหรือจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็คงไม่อาจต้านทานเขาได้
แต่มันย่อมจะไม่เรียบง่ายดั่งเช่นที่ชายหนุ่มคนนี้ทำ!
ได้เห็นความตกตะลึงในสายตาของเย่หยวนนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มกลับมาอย่างพอใจ
เขานั้นกล่าวขึ้นต่อ “เห็นหรือไม่? มันมิใช่ความห่างชั้นระหว่างเจ้ากับข้า แต่มันเป็นความห่างชั้นของโลก! ต่อหน้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์พวกเจ้ามันเป็นได้แค่มดปลวก! เจ้านั้นอาจจะเป็นผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนนี้แต่ต่อหน้าข้าเจ้าเองก็ไม่มีสิทธิจะมาเชิดหน้าชูตาใด! ข้านั้นแค่ขยับนิ้วครั้งเดียวมันก็มากพอจะสังหารเข้าลงได้! การที่ข้าเสนอรับเจ้าเป็นคนใช้นี้มันถือเป็นเกียรติของเจ้าอย่างมากแล้ว เข้าใจหรือไม่?”
ชายหนุ่มนั้นหยุดพูดลงไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “เอาล่ะ คุกเข่ารับพรไปเสีย!”
เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะดึงสติตัวเองกลับมา
เขาค่อยๆ เปิดปากตอบกลับไป “ข้าขอปฏิเสธ!”
ชายหนุ่มนั้นไม่ได้แสดงท่าทางตื่นตกใจใดๆ เพียงแค่ยิ้มตอบกลับมา “เจ้าจะตาย”
เขานั้นตอบกลับมาอย่างสุขุม!
ไม่มีท่าทางอารมณ์ใดๆ ในสีหน้าของเขา
มีหรือที่เทพองค์หนึ่งจะมาเสียอารมณ์กับท่าทางของมดไปได้?
เย่หยวนหรี่ตาลงมองอย่างเย็นเยือก “ยังไม่ได้สู้จะรู้ได้อย่างไร?”
เขานั้นคือเย่หยวน คนที่ไม่ยอมก้มหัวให้สิ่งใดมาก่อนแม้จะเป็นสวรรค์ก็ตาม
ฆ่าได้หยามไม่ได้!
ก่อนนั้นตอนที่เขายังเป็นแค่เทพสวรรค์ตัวเขาก็ยังกล้าจะท้าทายต่อสู้กับหยวนเจี่ยว
การต่อสู้เช่นนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาพบเจอมาตลอดชีวิตหลายพันปีนี้
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
แต่ว่าชายหนุ่มนั้นกลับไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ แต่ยิ้มตอบกลับมา “ได้สิ ข้านั้นจะให้โอกาสเจ้า! ข้าจะใช้แค่นิ้วเดียวเท่านั้น หากเจ้าทำให้ข้าต้องใช้ทั้งมือได้มันจะถือว่าเจ้านั้นมีสิทธิพอรับรู้นามของข้าได้!”
หนึ่งนิ้ว!
คำพูดนี้มันช่างดูโอหังอย่างถึงที่สุด!
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายบนมหาพิภพถงเทียนต่างรู้สึกอึดอัดไปสุดใจ!
เย่หยวนนั้นคือราชันย์ของมหาพิภพถงเทียน!
เขานั้นเป็นที่หนึ่งในทุกๆ ด้าน ถูกยอมรับจากผู้คนสิ้น!
แต่เวลานี้ชายหนุ่มคนนี้กลับบอกว่าจะใช้แค่นิ้วเดียวสู้!
นี่มันคือการเหยียดหยามหรือ?
ไม่!
เพราะทุกคนนั้นสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังที่จะทำได้จริง
เขานั้นมิได้มีท่าทางโอหังของเด็กหนุ่มใดๆ เขานั้นแค่ดูถูกทุกชีวิตอย่างเท่าเทียม!
เขานั้นมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเหมือนกำลังจ้องมองมดตั้งแต่ต้นจนถึงเวลานี้!
มีหรือที่สวรรค์จะมาสนใจมด?
ไม่!
เพราะพวกมันนั้นไร้ค่าใด!
เย่หยวนหรี่ตาลงอย่างเย็นเยือก
ตูม!
ปราณดาบรุนแรงปะทุขึ้นมาในพื้นที่รอบๆ ระยะราวพันกิโลเมตร
ค่ายกลดาบเอกภพ!
วินาทีที่เย่หยวนลงมือเขาก็ใช้สุดยอดวิชาของตนออกมาทันที!
เพราะเขานั้นรู้ดีว่าหากไม่ทุ่มสุดตัวต่อสู้กับชายหนุ่มคนนี้มันคงเท่ากับการรนหาที่ตาย!
เขานั้นไม่อาจจะถอยได้แล้ว!
แม้จะถูกขังอยู่ในค่ายกลดาบนั้นแต่ชายหนุ่มชุดฟ้าผู้นี้ก็ยังยืนนิ่งมือไพล่หลังมองดูค่ายกลดาบเอกภพตรงหน้าก่อนจะพยักหน้ารับออกมาเบาๆ
………………………..