Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2529 สับเปลี่ยน
“หยูเอ๋อ ใครกันที่มันทำลูกเป็นเช่นนี้?! พ่อจะไปสับร่างมันเป็นชิ้นๆ!”
เมื่อถังหยูได้กลับมาถึงตระกูลถังแล้วถังจินหัวที่ได้เห็นสภาพของลูกชายก็ต้องรีบร้อนออกมาถามไถ่ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เขานั้นให้ค่าลูกชายคนนี้อย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นด้านพรสวรรค์การบ่มเพาะหรือว่าความฉลาดในการจัดการเรื่องราวต่างๆ นั้น ถังหยูต่างเหนือล้ำคนรุ่นเดียวกันไปมาก
เรื่องราวมากมายในตระกูลถังนั้นมันถูกถังหยูจัดการดูแลอยู่ไม่ขาด
ความยิ่งใหญ่ของตระกูลถังในทุกวันนี้ ตัวถังหยูถือได้ว่าเป็นผู้ที่ช่วยสร้างมันขึ้นมากับมือ
แต่เวลานี้ถังหยูกลับมีใบหน้าซีดขาวเพราะเลือดที่เสียไปอย่างมากมาย
ได้เห็นถังจินหัวกำลังเดือดดาลเช่นนั้นเขาก็ต้องรีบกล่าวห้ามขึ้น “ท่านพ่อ อย่าเพิ่งรีบร้อนไป! ข้านั้นไม่อาจจะอ่านคนผู้นี้ได้ เราอย่าเพิ่งไปท้าทายเขาจะดีกว่า! อย่างน้อยๆ ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้เราก็ยังไม่อาจจะลงมือทำอะไรผลีผลามได้!”
คำพูดของถังหยูนั้นมันเหมือนน้ำเย็นที่รดลงบนหัวของถังจินหัวทันที
หลายปีมานี้ถังหยูนั้นวางตัวเหนือหัวคนมากมายเท่าใด?
นอกจากคนในราชวงศ์แล้ว ถังหยูไม่เคยคิดจะไว้หน้าเกรงใจใครๆ
ใครก็ตามที่คิดท้าทายตัวเขานั้นจะต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝัง
แต่เวลานี้ตัวเขานั้นกลับไม่กล้าที่จะหาเรื่องคนที่ตัดแขนของเขาลง มีหรือที่ถังจินหัวจะไม่ตกตะลึง?
“หยูเอ๋อ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้านั้นไปช่วยตระกูลหลี่ครองตระกูลหยางมิใช่หรือ? ทำไมเจ้าจึงกลับมามีสภาพเป็นเช่นนี้ไป?” ถังจินหัวอดถามขึ้นมาไม่ได้
ถังหยูส่ายหัวออกมา “เรื่องนี้มันอธิบายสั้นๆ ไม่ได้หรอกท่านพ่อ เดี๋ยวข้าจะค่อยเล่าให้ท่านพ่อฟังทีหลังแต่ตอนนี้เรามีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการก็คือเราต้องไปจัดการทำลายตระกูลหลี่ลงเสียและจับตัวหลี่ปาเถียนมาไว้ ยิ่งเร็วยิ่งดีท่านพ่อ! ข้ารู้สึกได้ว่า… มันจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในไม่ช้า!”
ยิ่งได้ฟังจิตใจของถังจินหัวก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้น
ลูกชายของเขานั้นออกไปช่วยตระกูลหลี่มิใช่หรือ? ทำไมหลังจากกลับมาพร้อมแขนที่ขาดไปข้างหนึ่งนี้เขากลับจะทำลายตระกูลหลี่ลงเสียเล่า?
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
แต่ถังจินหัวนั้นก็เข้าใจดีว่ามันย่อมจะมีเหตุผลที่หนักหน่วงพอ
เขานั้นย่อมจะไม่นึกอยากทำลายก็ขอให้ถังจินหัวไปทำลายตระกูลหลี่ลงแน่
ถังจินหัวจึงพยักหน้ารับ “ได้ เจ้ากลับไปรักษาแผลเสียก่อนเถอะ พ่อจะพาคนออกไปจัดการตระกูลหลี่ลงบัดเดี๋ยวนี้!”
ถังหยูพยักหน้ารับด้วยลมหายใจอ่อนแรง “ท่านพ่อ จำไว้ว่าอย่าได้สังหารหลี่ปาเถียนลงก็พอ ท่านต้องจับเป็นมัน ข้ายังใช้ประโยชน์จากมันได้อยู่!”
ถังจินหัวหรี่ตาลงมองก่อนจะพยักหน้าและก้าวเดินหายไป
ได้เห็นถังจินหัวที่ออกไปรวบรวมกำลังคนถังหยูก็บ่นขึ้นมาลำพัง “ตาของมันนั้นช่างคมกริบนัก! มันเหมือนดั่งข้าไปยืนตัวเปล่าเปลือยต่อหน้ามันไม่อาจจะปกปิดความลับใดๆ ได้สิ้น! มันนั้นกล้าท้าทายตระกูลใหญ่ของเมืองจักรพรรดิมากมายเช่นนี้ มันย่อมจะต้องมีอะไรให้พึ่งพาแน่ๆ!”
…
วันต่อมานั้นข่าวใหญ่มันก็ได้กระจายไปทั่วเมืองหลวงจนทำให้หลายต่อหลายตระกูลใหญ่ต้องอ้าปากค้าง
ผู้นำตระกูลกุ้ย กุ้ยไห่เฉิงนำพากำลังยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางกว่าสิบคนของตระกูลกุ้ยบุกไปลอบโจมตีเย่หยวนยังตรอกเมฆม่วงและกลับเป็นฝ่ายถูกสังหารลงสิ้น!
ผู้นำตระกูลกุ้ย กุ้ยไห่เฉิงตายลงคาที่!
เรื่องนี้มันย่อมทำให้คนทั้งเมืองต่างอกสั่นขนลุกกันไปตามๆ กัน
เย่หยวนผู้เป็นแค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้นนั้นกลับสังหารยอดฝีมือนับสิบลงด้วยตัวคนเดียว
และในหมู่คนที่ไปนั้นมันยังมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายอยู่ด้วย!
มันมีหลายคนที่เห็นว่าเย่หยวนเดินเข้าตรอกเมฆม่วงไปจริงๆ ย่อมจะไม่ผิดคนแน่
ตรอกเมฆม่วงนั้นมันเป็นเส้นทางสุดเปลี่ยวที่แทบไม่มีใครใช้สัญจร
คิดมาได้ถึงตรงนี้ คนทั้งหลายก็เข้าใจทันทีว่านี่มันคือตัวเย่หยวนจงใจล่อคนตระกูลกุ้ยออกมาสังหาร!
เมื่อตระกูลลู่ได้ยินข่าวนี้พวกเขาก็ขนลุกทั้งกายรีบเก็บข้าวของออกจากเมืองไปในคืนเดียวกันนั้น!
แท้จริงแล้วตระกูลลู่เองก็ได้วางแผนว่าจะลอบโจมตีเย่หยวนเช่นกันเพียงแค่ว่าพวกเขานั้นลงมือช้ากว่าตระกูลกุ้ยไปมาก
ในคืนเดียวกันนั้นพวกเขาเองก็ได้ยินข่าวเรื่องการกวาดล้างตระกูลหลี่ขึ้นมา ตัวผู้นำตระกูลอย่างหลี่ปาเถียนถูกถังจินหัวจับตัวไป
ตระกูลลู่นั้นคิดว่าเย่หยวนทำร้ายนายน้อยถังหยูจนสาหัสเช่นนั้นแล้ว ตระกูลถังย่อมจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่ ต้องเตรียมกกำลังออกมากวาดล้างตระกูลหยางสิ้น
แต่ใครจะไปคิดว่าตระกูลที่ถูกทำลายลงนั้นมันกลับมิใช่ตระกูลหยางแต่เป็นฝั่งตระกูลหลี่แทน
เช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?
มันหมายความว่าตระกูลถังนั้นก้มหัวรับใช้เย่หยวนจนสุดตัว!
ยอดตระกูลยักษ์ใหญ่อย่างตระกูลถังนั้นกลับยังยอมก้มหัวให้ผู้บรรลุสวรรค์คนหนึ่ง!
แล้วมีหรือที่ตระกูลลู่จะยังกล้าคิดทำการอะไรอีก?
พวกเขานั้นรู้ได้ทันทีว่าเมืองจักรพรรดิแห่งนี้มันไม่มีที่ให้พวกเขาได้ยืนแล้ว
แต่เทียบกับตระกูลกุ้ยหรือตระกูลหลี่แล้ว พวกเขายังถือว่าดวงดีกว่ามาก
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้ตัดสินใจเก็บของย้ายหนีกันไปในคืนนั้นเอง
หยางเสว่เจินนั้นได้แต่มองดูชายหนุ่มตรงหน้าของนางด้วยความรู้สึกอับอายอย่างถึงที่สุด
นางนั้นไม่เคยคิดฝันว่าคนข้างทางที่นางเก็บมาระหว่างเดินทางจะกลับกลายเป็นผู้มีพระคุณของนางเช่นนี้
ตอนที่นางนั้นกำลังสิ้นหวัง เย่หยวนได้ทุบทั้งเมืองจักรพรรดิลงด้วยมือข้างเดียวเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองและอำนาจภายในเมืองจนสิ้น
หยางเสว่เจินนั้นแทบไม่อยากเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้เป็นความจริง เพราะมันช่างเหมือนความฝัน
เขานั้นเป็นแค่ผู้บรรลุสวรรค์ที่ขึ้นมาจากภพเบื้องล่างมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้น เป็นมือใหม่ฝึกหัดที่ยังไม่รู้เรื่องราวของโลกนี้แม้แต่น้อย
ทั้งอย่างนั้นเขากลับเป็นสุดยอดฝีมือที่สยบทั้งเมืองจักรพรรดิลงในชั่วข้ามคืน!
ตอนที่เย่หยวนคิดจะใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อตระกูลกุ้ยนั้นหยางเสว่เจินย่อมจะคัดค้านอย่างสุดเสียง
นางนั้นย่อมไม่คิดว่าเย่หยวนจะรอดชีวิตกลับมาได้
แต่ข่าวที่ตามมาจากนั้นมันทำให้นางแทบหุบปากที่อ้าค้างไม่ลง
นางนั้นไม่รู้ว่าเย่หยวนทำได้อย่างไร แต่มันก็ยังน่าตกตะลึงจนเกินรับ!
นิกายพันกระเรียนนั้นมียอดอัจฉริยะหนุ่มสาวมากมาย คนที่คิดตามจีบตัวหยางเสว่เจินเองก็มีไม่น้อย
แต่ในหมู่ยอดคนหนุ่มทั้งหลายนั้น มันไม่มีใครที่จะเทียบได้แม้แต่เสี้ยวเล็บเท้าของเย่หยวน
ภายใต้ความยิ่งใหญ่ของเย่หยวนนั้นหยางเสว่เจินได้ขึ้นมาควบคุมตระกูลหยางสิ้นพร้อมจับหยางจินและแม่ไปขังคุกรอการลงโทษ
พร้อมๆ กันนั้นเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลที่หักหลังตระกูลหยางพร้อมๆ กับคนทั้งสองนั้นก็ถูกนางขับไสไปสิ้น
หยางเสว่เจินนั้นได้กลายเป็นผู้นำตระกูลหยางทั้งในนามและในความเป็นจริงในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน!
“เย่หยวน ข้า… ข้าขอโทษด้วย!” หยางเสว่เจินกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าอับอาย
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ทำไมต้องขอโทษเล่า?”
หยางเสว่เจินก้มหัวลงต่ำ “ข้านั้นคิดมาตลอดทางว่าเจ้านั้นเป็นแค่มือใหม่ไร้วิชาใด คิดไปเสียด้วยซ้ำว่าที่ข้าช่วยเหลือเจ้านั้นมันเป็นบุญคุณ ลองมานึกย้อนไปแล้วมันช่างน่าขันนัก”
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ทุกสิ่งมันล้วนเป็นเหตุและผลของตัวมันเอง เจ้านั้นอยู่ในสถานการณ์แสนลำบากเช่นนี้แต่ก็ยังมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นออกมา เย่ผู้นี้ย่อมจะจดจำมันไว้มั่นในใจ ไม่เช่นนั้นแล้วข้าเองก็คงไม่คิดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวครั้งนี้หรอก”
หยางเสว่เจินนั้นผงะไปทันทีเมื่อได้ยิน นางนั้นแทบจะไม่อาจหายใจได้เมื่อได้ยินคำตอบของเขา
ที่แท้แล้วเย่หยวนแค่ตอบแทนที่นางช่วยพาเขาออกมาจากป่านั้น?
แต่เรื่องนั้นมันจะนับเป็นบุญเป็นคุณใดๆ ได้!
ระหว่างที่สมองของหยางเสว่เจินยังไม่ทันคิดจบถังหยูก็มาถึง
เขานั้นนำตัวหลี่ปาเถียนเข้ามาขอโทษเรื่องที่ผ่านมา
หลังนอนรักษาอยู่ทั้งคืน สุดท้ายแผลของถังหยูมันก็ไม่มีร่องรอยของเลือดไหลออกมาอีกแต่แขนที่ขาดนั้นมันกลับดูประหลาด
ร่างของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นมันพิเศษ เพราะมันคือร่างที่ประกอบขึ้นมาด้วยพลังของกฎ การจะงอกอวัยวะออกมามันจะใช้แค่ปราณเทวะไม่ได้
“ท่านพี่ ข้าได้จับตัวคนผู้นี้มาให้แก่ท่านแล้ว! คิดอยากสังหารหรือทำอะไรกับมันก็เชิญท่านลงมือได้เลย!” ถังหยูก้มลงกล่าวต่อเย่หยวนด้วยท่าทางสุดเคารพ
ตั้งแต่ที่เขาได้ยินว่าตระกูลกุ้ยนั้นถูกสังหารล้างตระกูลถังหยูก็ยิ่งต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อาจหุบลงได้ไปทั้งคืน
เขานั้นรู้ดีว่ามันจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นตามมาแน่ แต่ก็ไม่นึกว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะเป็นได้ถึงขนาดนั้น
เขารู้ดีว่ากำลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางมันไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้ แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าแม้แต่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายเองก็จะตายลงด้วย!
เพราะจะอย่างไรเสีย ถังจินหัวตัวพ่อของเขานั้นเองก็เป็นยังอยู่แค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายเช่นกัน!
หากพวกเขาคิดหาเรื่องเย่หยวนต่อแล้วจริงๆ ตระกูลถังนั้นเองก็คง…
คิดมาถึงตรงนี้ภังหยูก็รู้สึกถึงเหงื่อเย็นเหยียบที่ไหลลงบนกาย
มิใช่แค่ถังหยูเท่านั้น เพราะเวลานี้แม้แต่ถังจินหัวเองก็ยังต้องเหงื่อตกเมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากปากลูกชาย
ผู้บรรลุสวรรค์นี้มันประหลาดเกินรับ!
เขานั้นได้แต่ต้องชมความฉลาดและไหวพริบของลูกชาย เพราะหากพวกเขาตัดสินใจปะทะกับเย่หยวนแล้วตระกูลถังอาจจะเหลือเพียงแค่นามเท่านั้น
ก็จริงที่ว่าพวกเขานั้นมีราชวงศ์หนุนหลังตระกูลถังแต่มันก็แค่การหนุน
หรือให้พูดตรงๆ ก็คือพวกเขานั้นเป็นแค่เครื่องมือของราชวงศ์ พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่สนใจความเป็นความตายของตระกูลถัง
หากตระกูลถังล่มสลายลงไป มันก็ยังมีตระกูลหลี่หรือตระกูลจางให้พวกเขาใช้งานอยู่อีก
……………………..