Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2530 นักหลอมโอสถสวรรค
“แม่นางเสว่เจิน ข้ามอบมันให้เจ้าจัดการต่อแล้วกัน”
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมาชี้ที่ร่างของหลี่ปาเถียน
หยางเสว่เจินเม้มปากมองดูหลี่ปาเถียนด้วยความเกลียดชัง
ในเวลาเดียวกันนั้นนางก็รู้สึกซาบซึ้งในตัวเย่หยวนอย่างมาก
หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วอย่าว่าแต่จะแก้แค้นใดๆ นางอาจจะต้องไปทนใช้ชีวิตอย่างช้ำหัวใจในตระกูลศัตรูเสียด้วยซ้ำ
วันเวลาเช่นนั้นแค่นึกจินตนาการถึงนางก็สั่นสะท้านไปทั้งกายแล้ว
“ขอบคุณมา เย่หยวน!” หยางเสว่เจินกล่าวขึ้นมาด้วยความจุกในทรวงอก
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าขอบคุณตนเองเถอะ! ทำดีมันย่อมสมควรได้ดี ทำชั่วมันก็ย่อมสมควรจะเจอแต่ความฉิบหาย”
ถังหยูนั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านพี่ เรื่องราวเมื่อวานนั้นมันเป็นน้องเองที่ไม่รู้เรื่องราว หวังว่าท่านพี่จะไม่ถือสามันไว้แก่ใจนัก จากวันนี้ไปน้องจะขอกลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่!”
เวลานี้ตระกูลหยางย่อมจะกลายเป็นจุดสนใจของทุกผู้คน
ด้านนอกประตูคฤหาสน์บ้านตระกูลหยางนั้นทุกผู้คนต่างมองดูภาพนี้ด้วยปากที่อ้าค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“นายน้อยหยู! เขากลับ… กลับคิดขอโทษคนที่ตัดแขนตนเองเช่นนั้นหรือ?”
“ผู้บรรลุสวรรค์ผู้นี้มันช่างแปลกประหลาดเสียจริง มันมีที่มาที่ไปจากที่ใดกันแน่?”
“ข้าได้ยินมาว่าเขานั้นสังหารคนตระกูลกุ้ยด้วยตัวคนเดียว มันน่ากลัวเสียจริง!”
“หึ เจ้าก็เชื่อข่าวนั้นกับเขาด้วย? แค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้นคนหนึ่ง มีหรือที่จะสังหารกุ้ยไห่เฉิงลงได้?”
…
ถังหยูนั้นกล่าวขอโทษออกมาต่อหน้าคนมากมายทั้งมันยังเป็นคำขอโทษที่กล่าวขึ้นเพื่อรับโทษเพิ่มอย่างแท้จริงด้วย
ความจริงใจของเขานั้นมันชัดเจนแก่สายตาคน
แต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่ตอบกลับใดๆ ไปและเพียงแค่ยิ้มมองถังหยูจนทำให้จิตใจของถังหยูแทบหยุดเต้น
เขานั้นรู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นเยือกที่ไหลลงมาพร้อมอากาศที่หนักอึ้งจนแทบไม่อาจหายใจ
ถังหยูนั้นไม่รู้ได้เลยว่าทำไมเขาจึงรู้สึกกดดันเช่นนี้ต่อหน้าเย่หยวน!
“ห-หากท่านพี่คิดว่าน้องยังต้องได้รับโทษใดเพิ่มแล้ว ท่านก็โปรดลงโทษน้องมาให้หนักเถอะ!” ถังหยูนั้นไม่อาจจะทนความกดดันนั้นไว้ได้จนต้องกล่าวขึ้นมาเพิ่ม
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบขึ้นมาอย่างเย็นเยือก “ข้านั้นตัดแขนเจ้าไป เจ้าจะไม่แค้นข้าหน่อยหรือ?”
ถังหยูส่ายหัวออกมาทันทีที่ได้ยิน “น้องผู้นี้ทำการไปไม่ทันคิดถึงความรู้สึกผู้คน โดนแค่นี้มันสมควรแล้ว!”
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ถังหยู เจ้านั้นก็เป็นคนฉลาด บางเรื่องข้าไม่ต้องพูดเจ้าก็เข้าใจได้ใช่หรือไม่?”
ถังหยูพยักหน้ารับ “ท่านพี่โปรดวางใจเถอะ! ในวันหน้าตระกูลหยางและตระกูลถังนั้นจะเป็นหนึ่งเดียวกันแน่ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขใดเราก็จะร่วมฝ่าฟันกันไป! พี่สะใภ้เองก็เป็นพี่ของถังหยูผู้นี้ด้วย! ต่อให้ต้องบุกเขาลงมหาสมุนทรอย่างไรข้า ถังหยูก็จะต้องช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของนาง!”
เมื่อคำว่า ‘พี่สะใภ้’ มันถูกกล่าวขึ้นมาทางด้านหยางเสว่เจินก็รู้สึกร้อนขึ้นมาทั้งหน้า
แต่ในหัวใจของนางนั้นมันกลับรู้สึกถึงความหวานชื่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าถังหยูกำลังเข้าใจอะไรผิดแต่เขาก็ไม่คิดจะอธิบายมันออกมา
หยางเสว่เจินนั้นเป็นหญิงสาว ไม่ว่าจะอย่างไรการที่นางคนเดียวดูแลทั้งตระกูลหยางนี้มันก็ถือเป็นเรื่องที่ลำบากไม่น้อย
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลถังแล้ว มันย่อมจะง่ายดายขึ้นมาก
เพราะเบื้องหลังของตระกูลถังนั้นมันมีราชวงศ์หนุนอยู่
หากคนอื่นๆ คิดจะทำอะไรต่อตระกูลหยางแล้ว พวกเขาคงต้องคิดให้ถี่ถ้วนอีกหลายครา
เย่หยวนตอบกลับไป “เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วไป ข้าหวังแค่ว่าเจ้าจะจดจำมันไว้ให้มั่น ไม่เช่นนั้น… เจ้าจะได้รู้ถึงผลที่ตามมาแน่”
ถังหยูนั้นใช้แขนที่เหลืออยู่ข้างเดียวนั้นขึ้นมาทุบอก “ท่านพี่โปรดวางใจเถอะ ถังหยูเป็นคนรักษาคำพูด!”
เย่หยวนมองดูแขนที่ขาดหายไปของถังหยูนั้นก่อนจะถามขึ้นมา “ตระกูลถังเจ้าไม่มีนักหลอมโอสถหรือ?”
ถังหยูผงะไปก่อนจะถามขึ้นมา “นักหลอมโอสถ? ท่านพี่พูดนี้หมายถึง… นักหลอมโอสถสวรรค์ใช่หรือไม่? แน่นอนว่าต้องมี! ตระกูลถังข้านั้นเป็นตระกูลที่ทำการค้าเกี่ยวกับโอสถสวรรค์ แน่นอนว่าเราย่อมจะมีนักหลอมโอสถสวรรค์เช่นกัน! ทำไมหรือท่านพี่? หรือว่าท่านเอง… ก็จะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์?”
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์และชั้นบรรยากาศสามัญนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
บนสามสิบสามสวรรค์นี้เหล่านักหลอมโอสถนั้นจะถูกเรียกว่าเป็นนักหลอมโอสถโอสถสวรรค์มีตำแหน่งฐานะสูงส่ง!
เย่หยวนที่เพิ่งมาถึงนั้นนี่ย่อมจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินนามของนักหลอมโอสถสวรรค์และคิดว่ามันช่างฟังดูสูงส่งเสียจริง
เขานั้นสงสัยเหลือเกินว่าฝีมือของเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้มันจะเหนือล้ำปานใด
การที่เขาถามขึ้นมานี้มันย่อมจะเพราะเขาคิดงอกแขนคืนให้แก่ถังหยู
แต่ในเมื่อตระกูลถังนั้นมีนักหลอมโอสถสวรรค์อยู่แล้วแต่ถังหยูยังมีสภาพเช่นนี้มันย่อมจะหมายความว่าสำหรับเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์แล้วการจะงอกอวัยวะที่ขาดหายไปนั้นมันคงมิใช่เรื่องง่าย
เพราะตั้งแต่ที่เย่หยวนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมานั้นเขาเองก็รู้สึกแตกต่างไปจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
เขานั้นรู้สึกเหมือนตนเองได้เกิดขึ้นมาใหม่!
ตัวตนของเขาในเวลานี้ต่อให้จะใช้แค่พลังกายมันก็คงมากพอที่จะสังหารเต๋าบรรพกาลลงด้วยมือข้างเดียว!
ต่อให้จะเป็นโอสถเต๋าของมหาพิภพถงเทียนเอง มันก็คงไม่มีผลใดๆ กับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์แน่
เพราะว่าสมุนไพรบนมหาพิภพถงเทียนนั้นมันอ่อนแอจนเกินกว่าที่ร่างกายของเขาจะใช้ประโยชน์ใดได้!
เมื่อเต๋าโอสถก้าวขึ้นมาถึงระดับกฎแล้ว มันย่อมจะเรียกได้ว่าเกินกว่าระดับที่มหาพิภพถงเทียนจะรับได้
เพราะฉะนั้นเมื่อยอดฝีมือระดับกฎทั้งหลายหลอมโอสถธรรมดาขึ้นมานั้นมันย่อมจะเป็นเรื่องที่ง่ายเสียยิ่งกว่าการหายใจ
เพราะสิ่งที่เหล่ายอดฝีมือระดับโอสถเต๋าทั้งหลายควรหลอมเป็นโอสถนั้นมันคือเหล่าสมุนไพรสวรรค์!
เมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางโลกที่เขาไม่รู้เช่นนั้นแล้วด้วยนิสัยของเย่หยวน เขาย่อมจะไม่ได้ยึดตัวเองเป็นใหญ่และให้คำสัญญามั่วๆ โดยไม่รู้ถึงความเป็นจริง
ในเมื่อถังหยูเป็นคนฉลาด เย่หยวนก็ย่อมจะไม่พูดอะไรออกมาอย่างแน่นอน
แขนนี้เขาเป็นคนตัด เย่หยวนย่อมจะคิดหาทางงอกมันกลับคืนให้แก่ถังหยู
เพียงแค่ว่าก่อนที่จะเข้าใจนักหลอมโอสถสวรรค์ตัวเขานั้นยังไม่กล้าที่จะสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้ามิใช่นักหลอมโอสถสวรรค์ที่ไหน แต่ข้านั้นเคยศึกษาเต๋าโอสถมาก่อน ในเมื่อตระกูลถังเจ้านั้นมีนักหลอมโอสถสวรรค์อยู่แล้ว เจ้าจะพาข้าไปเปิดหูเปิดตาหน่อยได้หรือไม่?”
ถังหยูรีบรับคำ “แน่นอน! ท่านพี่นั้นถ่อมตัวไปแล้ว เคยศึกษามาก่อนใดเล่า! ก่อนที่ท่านพี่จะบรรลุสวรรค์ขึ้นมานั้นท่านพี่คงเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถในโลกของท่านมาก่อนแน่ๆ! เพียงแค่ว่า… การหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันแตกต่างจากการหลอมโอสถของภพเบื้องล่างไปมากทีเดียว ความยากเย็นของมันนั้นแตกต่างกันคนละชั้น! ท่านพี่นั้นคงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าที่จะศึกษาการหลอมโอสถสวรรค์ได้”
ถังหยูนั้นกล่าวอ้อมค้อมไปจนสุดโลก
แต่ว่าเขานั้นก็ได้แทรกความจริงอันโหดร้ายเข้ามาด้วย
ความซับซ้อนของโอสถสวรรค์นั้นมันแตกต่างจากโอสถต่างๆ ในภพเบื้องล่างสิ้นเชิง
โอสถสวรรค์นั้นมันย่อมจะมิใช่สิ่งที่โอสถศักดิ์สิทธิ์ใดๆ จะเทียบเคียงได้
ความยากซับซ้อนของมันนั้นเหนือล้ำกว่านับพันๆ หมื่นๆ เท่า!
ทั้งเหล่าผู้บรรลุสวรรค์นั้นเป็นคนนอกสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแต่เดิมทำให้พวกเขาไม่มีความเข้ากันได้ต่อสมุนไพรสวรรค์ต่างๆ
เพราะฉะนั้นต่อให้เหล่าผู้บรรลุสวรรค์จะคิดอยากเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์มันก็คงจะเป็นเรื่องยากเย็นกว่าการฝึกฝนของเหล่ายอดฝีมือท้องถิ่นไปมากนับพันๆ เท่า!
และก็เพราะว่าด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ในหมู่ผู้บรรลุสวรรค์นั้นมันแทบไม่มีใครเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์เลย
ในหมู่ยอดฝีมือเต๋าโอสถที่บรรลุขึ้นมาได้นับพันๆ คนนั้นมันอาจจะไม่มีใครเลยก็ได้ที่จะกลายเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์!
และนี่ยังนับแค่เหล่ายอดฝีมือวิชาโอสถทั้งหลายเท่านั้น หากจะให้นับกับเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหมดแล้ว คนที่จะกลายเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์มันคงมีน้อยจนเกินกว่าจะหาได้
เพราะต่อให้จะเคยเป็นสุดยอดฝีมือวิชาโอสถของภพเบื้องล่างมาก่อน เมื่อขึ้นมาถึงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้พวกเขาก็จะกลายเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องยอมแพ้ในเส้นทางการโอสถ
และพวกเขานั้นมิได้ยอมแพ้เพราะอยากยอมแพ้ แต่พวกเขาจำใจต้องยอมแพ้!
เพราะเหตุนี้ด้วยที่ทำให้เหล่ายอดฝีมือท้องถิ่นมักจะดูถูกเหล่ายอดฝีมือที่บรรลุขึ้นมาจากภพเบื้องล่าง!
ดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นเป็นสถานที่ที่เหล่าผู้บรรลุสวรรค์ไปรวมตัวกันแต่ในหมู่คนทั้งหลายนั้นพวกเขาก็ยังต้องเคารพเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์อย่างมาก
หลายครั้งหลายทีพวกเขานั้นต้องยอมเป็นขี้ข้าทำงานให้แก่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ไป
หากต้องใช้เวลาร้อยปีหลอมโอสถสวรรค์ที่คนอื่นๆ ใช้เวลาแค่หนึ่งปีหลอมแล้ว มันจะยังมีค่าใดอีก?
เมื่อเย่หยวนได้เห็นสีหน้าของถังหยูนั้นมีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายแค่คิดพูดอ้อมโลก?
แต่ก็เพราะได้ยินเช่นนั้นมันจึงทำให้เย่หยวนยิ่งสนใจในวิชาโอสถสวรรค์นี้
เขาจึงกล่าวขึ้นมา “วันหน้าเวลาพูดกับข้าให้พูดตรงๆ ตามความจริง ไม่ต้องอ้อมค้อมใด! พูดออกมาตรงๆ ได้เลย!”
ถังหยูผงะไปเล็กน้อยก่อนจะรีบกล่าวขึ้นตาม “ขอรับท่านพี่!”
ถังหยูนั้นจึงได้ค่อยๆ เล่าเรื่องราวความยากเย็นในการเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาจนทำให้เย่หยวนต้องขมวดคิ้วแน่น
เขาเองก็ไม่นึกฝันว่าขั้นตอนการหลอมของมันจะยากเย็นได้ขนาดนี้!
…………