Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2599 ใช้จำนวนเข้าสู้!
ลูกน้องของเหลียงเหวินกล่าวขึ้นอย่างสิ้นหวัง “เช่นนั้นมันคงเอาชนะไม่ได้แล้ว?”
แต่เหลียงเหวินกลับส่ายหัวออกมา “ไม่ถึงขั้นนั้น แต่แค่ว่ามีดของชิวเฉิงจือมันเร็วไม่พอเท่านั้น!”
มีดด่วนนั้นเร็วไม่พอ!
นี่มันคงเป็นความอัปยศที่สุดแล้ว
ฟู ฟู ฟู…
เวลาเดียวกันนั้นปราณดาบมันก็พุ่งสวนกลับออกมา
ชิวเฉิงจือนั้นถูกปราณดาบทั้งหลายนั้นจนแทบสิ้นสติไป
“วิชามีดไม่เลวแต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ถึงขั้น!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา
วิชาดาบและวิชามีดนั้นมันอยู่ในกฎระดับหนึ่งทั้งสองฝ่าย
เรียกได้ว่าชิวเฉิงจือพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง!
ชิวเฉิงจือค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมาก่อนจะคุกเข่าลงหน้าเยห่ยวน “ข้าชิวเฉิงจือขอบพระคุณนายท่านที่ไว้ชีวิต ข้าจะขอติดตามนายท่านไปตลอด!”
เย่หยวนตอบกลับมา “ลุกเถอะ ไปรอก่อน”
ชิวเฉิงจือไม่คิดเถียงใดๆ และเดินไปรอในกลุ่มคนที่มุงดู
“หึ! ขยะแท้! ชิวเฉิงจือ ยิ่งมีชีวิตอยู่นานเจ้ามันยิ่งตกต่ำ! ในเมื่อเจ้าพ่ายแล้วก็ตายๆ ไปเสียเถอะ!”
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาในฝูงชน
พร้อมๆ กันนั้นมันก็หอกยาวพุ่งทะลวงโลกออกมาหมายปักหัวใจชิวเฉิงจือ
ชิวเฉิงจือหน้าซีดขาวลงทันทีก่อนจะร้องขึ้น “หอกล้ำเจิ้งเทียนหยาง!”
หอกนี้มันแฝงมาด้วยพลังที่เหนือล้ำโลกจนยากที่จะคาดเดาป้องกันได้
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้ปลายหอกมันอยู่ที่ใดกันแน่!
“อันดับสิบเจิ้งเทียนหยาง! เขามาแล้ว!”
“หอกนี้รุนแรงนัก! เขาหมายสังหารชิวเฉิงจือลง!”
“หึ ชิวเฉิงจือเป็นคนแรกที่ก้มลงยอมแพ้ การหมายสังหารชิวเฉิงจือลงนี้มันย่อมจะคิดตบหน้าเจ้าหมอนั่นแล้ว!”
…
คนทั้งหลายในที่นี้ต่างไม่มีคนโง่เง่า พวกเขาย่อมจะพอมองถึงเป้าหมายของเจิ้งเทียนหยางออก
เพียงแค่ว่าจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เห็นเลยว่าตัวคนเขานั้นอยู่ที่ใดกันแน่!
แต่จู่ๆ มันกลับเกิดภาพเบลอขึ้นไม่ไกลตัวชิวเฉิงจือ
หอกยาวสีฟ้าขาวพุ่งออกมาตรงหน้าของชิวเฉิงจือ
ห่างเพียงแค่สามก้าวด้วยวิชาหอกที่เหนือล้ำเช่นนั้นมันคงทะลวงอกชิวเฉิงจือได้ในพริบตาแล้ว
นี่มันคือความตายของชิวเฉิงจือ
“เอกภพ!”
ในเวลาพริบตาเดียวกันนั้นเองเย่หยวนก็ขยับร่างพุ่งหายไปเช่นกัน
เมื่อเขาปรากฏขึ้นมาอีกครั้งนั้นเขาก็มาบังหน้าชิวเฉิงจือไว้แล้ว
ตูม!
เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาส่งแรงกระแทกจนเจิ้งเทียนหยางต้องกระเด็นถอยมาหลายก้าวกว่าจะยืนหยัดได้อีกครั้ง
ส่วนเย่หยวนนั้นยังอยู่ในจุดเดิมไม่ขยับ!
เจิ้งเทียนหยางนั้นหน้าซีดขาวลงมองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
การลอบโจมตีของเขานั้นมันกลับถูกเย่หยวนปัดป้องไว้ได้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นหอกที่เขาทุ่มแรงโจมตีสุดตัวนี้มันกลับถูกปัดป้องไว้ได้อย่างง่ายดาย
จนถึงตอนนี้เย่หยวนก็ยังยืนมือไพล่หลังและจ้องมองดูเขาพร้อมกล่าว “วิชาหอกที่ดี! แต่เจ้านั้นยังไม่อาจทำให้ข้าสนใจได้ จะยอมก้มหัวหรือตายลง!”
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่ได้คิดยึดครองเมืองตะวันโรจน์นี้จริงๆ จังๆ
เขานั้นแค่ประกาศออกไปเพื่อจะหาคู่มือประลองเท่านั้น
เหล่าคนร้ายที่มากฝีมือผ่านสงครามมากมายมานี้ย่อมจะเป็นศัตรูที่คู่ควรแก่เขา
แต่มันก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
อย่างน้อยๆ ยอดคนอันดับสิบนี้ก็ยังไม่อาจจะทำให้เย่หยวนนั้นสนใจได้
เจิ้งเทียนหยางนั้นแข็งแกร่งจริงแต่มันยังไม่ถึงขั้นให้เขาเอาจริง
เจิ้งเทียนหยางหน้าซีดลงก่อนจะรีบก้มหัวยกมือคารวะ “เจิ้งเทียนหยางขอยอมก้มหัว!”
ไม่ยอมก้มหัวก็ต้องตาย!
การโจมตีเมื่อครู่ของเขานั้นมันตัดสินแพ้ชนะกันไปแล้ว ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ กันอีก
แม้ว่าเขานั้นจะแข็งแกร่งกว่าชิวเฉิงจือมากแต่เขาก็ทำให้แค่ทำให้เย่หยวนขยับตัวออกจากจุดที่ยืนเท่านั้น
หากต่อสู้กันจริงๆ เขาคงไม่รอดเกินสามกระบวนท่าแน่!
เจิ้งเทียนหยางนั้นไม่ได้โง่ เขาย่อมจะไม่คิดรนหาที่ตาย
เพียงแค่ว่าภาพตรงหน้านี้มันช่างเป็นที่น่าตกตะลึงในสายตาของทุกผู้คน
เพราะพูดบรรยายออกมานั้นมันอาจจะฟังดูยาวนานแต่ความจริงแล้วตั้งแต่ที่เจิ้งเทียนหยางพูดเย้ยชิวเฉิงจือจนถึงตอนที่เขาก้มลงกราบเย่หยวนนั้นมันเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
คนทั้งหลายนั้นยังไม่ทันได้หันมาดูเรื่องก็จบลงเสียแล้ว
วินาทีก่อนนั้นเจิ้งเทียนหยางยังเย้ยหยันว่าชิวเฉิงจืออยู่
วินาทีต่อมาตัวเขาเองก็กลับก้มลงกราบเช่นกัน
ภาพนี้มันช่างดูน่าขัน!
แต่ย่อมจะไม่มีใครกล้าหัวเราะ
กลับกัน พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างตกตะลึงสุดใจ
แม้แต่อันดับสิบอย่างเจิ้งเทียนหยางเองก็ยังไม่อาจจะต้านทานเย่หยวนได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
แล้วเขานั้นเก่งกาจแค่ไหน?
หลังจากการท้าทายของเจิ้งเทียนหยางแล้วมันก็มีแต่ความเงียบงัน
ไม่มีใครกล้าก้าวออกมาอีก
เย่หยวนนั้นยังคงนั่งรออยู่ในจุดเดิมเพื่อรอให้ผู้ท้าทายคนต่อไปมาถึง
สองชั่วโมงต่อมามันก็ปรากฏเงาร่างของหกยอดฝีมือเข้าล้อมเย่หยวนจากทุกทิศ
คนทั้งหกนี้มาด้วยคลื่นพลังที่พร้อมต่อสู้อย่างเต็มตัว!
การปรากฏตัวของคนทั้งหกนั้นมันทำให้คนที่มองดูเรื่องราวอยู่รอบๆ ต้องแตกตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“อันดับเก้า โจวเจี้ยน อันดับแปดเฉียนหยูฮ่วย อันดับเจ็ดหลัวเจิน อันดับหกเหลิงเซีย อันดับห้าหลิงบู่ อันดับสี่จ้าวเฉินตง! ยอดหกฝีมือนั้นกลับออกมารับหน้าพร้อมๆ กัน!”
“จะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว! ไม่นึกเลยว่าคนนอกผู้นี้มันกลับจะทำให้หกยอดฝีมือในสิบอันดับแรกออกมาร่วมมือกันได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคนทั้งหกนี้ยังไม่ได้มีฝีมือที่ใกล้เคียงกันด้วย แต่ละระดับที่สูงขึ้นไปนั้นต่างแข็งแกร่งกว่าระดับก่อนหน้าสิ้นเชิง!”
“ดูท่าคนทั้งหกนี้คงไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเองได้จึงต้องมาร่วมมือกันจัดการศัตรูลงเช่นนี้!”
…
แดนเนรเทศนั้นมันไม่มีกฎใดๆ
กฎในที่แห่งนี้คือกำลัง!
เมื่อพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะร่วมมือกันเข้ามารุม!
ตัวต่อตัวนั้นไม่มีอยู่จริง!
คนทั้งหกนั้นเข้าประจำตำแหน่งพร้อมด้วยจิตสังหารที่รุนแรงล้ำ
แม้ว่าคนทั้งหกนั้นจะไม่เคยร่วมมือกันมาก่อนแต่นับรบที่เชี่ยวชาญสงครามอย่างพวกเขาย่อมจะรู้ถึงวิธีการผสานกำลังกันจนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
เมื่อมาร่วมกันแล้วมันย่อมจะดูราบรื่น!
อันดับห้าหลิงบู่กล่าวขึ้นมา “เจ้าคนนอก เจ้านั้นเก่งจริง! แต่เจ้านั้นมันก็โอหังจริง! ในแดนเนรเทศนี้คนที่โอหังไม่ประเมินตนนั้นมันต้องตายเพียงเท่านั้น!”
อันดับเจ็ดหลัวเจินกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ “หึๆ เด็กน้อย เจ้าคิดหรือว่าที่นี่มันจะเหมือนโลกภายนอก? ที่นี่มันจะมีแต่คนเข้ามาท้าประลองตัวต่อตัวกับเจ้า? น่าขัน!”
ได้เห็นการมาถึงของคนทั้งหกนั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้สึกได้เลยว่าพวกเจ้านั้นแข็งแกร่ง หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”
หลัวเจินจึงหัวเราะตอบกลับไป “ข้าไม่ทำให้ผิดหวังแน่ พวกข้าจะส่งเจ้าไปนรกให้เอง! สังหารมัน!”
ได้ยินคำนั้นคนทั้งหกก็พุ่งเข้าโจมตีทันที!
คลื่นพลังที่คนทั้งหกปล่อยออกมานั้นมันทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไป
การผสานงานของพวกเขานั้นมันยอดเยี่ยมถึงที่สุด!
ไม่มีใครคิดฝันว่าการร่วมมือกันครั้งแรกมันกลับจะสามารถเข้าขากันได้ถึงขนาดนี้!
กฎที่คนทั้งหกนั้นถนัดนั้นมันแตกต่างกันไป แต่เมื่อเอามารวมพลังกันนั้นมันกลับผสานกันได้อย่างไร้รอยต่อ
ทุกสิ่งอย่างภายในการล้อมของคนทั้งหกนั้นมันต้องถูกบดขยี้
“แข็งแกร่งนัก! การโจมตีของพวกเขาทั้งหกนี้มันอาจจะพอเทียบเท่าพลังของอันดับสามตี้ชิงเลยมิใช่หรือ?”
“เจ้าเด็กคนนั้นมันโอหังเกินไป! ด้วยการร่วมมือของคนทั้งหกนี้แม้แต่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุดก็คงไม่อาจจะเทียบเคียงได้! แค่เขาคนเดียวนั้นมันย่อมจะไม่พอแล้ว!”
“ศึกนี้จบแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันคงสิ้นชีพลงตรงนี้แล้ว!”
…
การผสานงานของคนทั้งหกนั้นมันทำให้เกิดเสียงชื่นชมขึ้นมารอบด้าน
แต่ว่าการผสานงานนั้นมันยังเป็นแค่พลังรอง
เพราะกำลังของคนทั้งหลายนั้นมันเหนือล้ำกว่านักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยมาเป็นทุนแล้ว!
หากพวกเขานั้นอยากจะบรรลุพวกเขาก็ย่อมจะสามารถบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ได้ทุกเมื่อ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นการใช้พลังแห่งกฎของพวกเขานั้นมันก็ฝังลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ
ควบคุมได้ดั่งใจ!
หอกของเจิ้งเทียนหยางนั้นมันคงรับการโจมตีของคนทั้งหกนี้ไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว!
มันไม่อาจจะเอามาเทียบกันได้เลย!
เพราะฉะนั้นแล้วเย่หยวนย่อมจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ได้เห็นการโจมตีที่รุนแรงนั้นเย่หยวนก็ยิ้มขึ้นมา “ไม่เลว มันชักจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว! แดนเนรเทศนี้มันมีเสือซุ่มมังกรหลับอยู่จริงๆ!”
เขานั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล!
เมื่อคนทั้งหกเข้ามาโจมตีพร้อมกันเช่นนี้มันย่อมจะรุนแรงจนไม่อาจคาดคิด!
แต่เรื่องนั้นมันก็ทำให้เย่หยวนเริ่มรู้สึกเครื่องร้อนขึ้นมาเช่นกัน!