Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2605 สามปี
จางซุนซิงหยู่ผู้ยิ่งใหญ่กลับตายลงเช่นนั้น
มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันแต่ไม่ได้เกินจริง
วินาทีที่เย่หยวนสำเร็จแปลงยอดเต๋านั่นก็คือวินาทีที่จางซุนซิงหยู่จบชีวิตลงแล้ว
ในแดนเนรเทศนี้การที่ราชันจะถูกลากลงจากบัลลังก์มิใช่เรื่องแปลกประหลาด
เพียงแค่ว่าจางซุนซิงหยู่นั่นมากพรสวรรค์จนเกินไป เขาจึงสามารถจะยืนหยัดเป็นราชันมาได้นานนับสิบๆ ปี
เดิมทีแล้วด้วยพลังฝีมือของจางซุนซิงหยู่ เขาย่อมจะไม่มีทางเสียบัลลังก์ให้แก่ใครเว้นเสียแต่ว่าเขานั้นจะขึ้นไปยังชั้นสอง
แต่สัตว์ประหลาดนามเย่หยวนนี้กลับปรากฏตัวขึ้นมา
บรรลุเต๋าในวินาทีสุดท้ายจนเอาชนะจางซุนซิงหยู่ได้แต่ดาบเดียว!
เฮ่อหยุนเซียงและตี้ชิงนั้นนำคนทั้งหลายที่หนีไปไกลกลับมาก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเย่หยวน “เฮ่อหยุนเซียงนำชาวเมืองกราบคารวะท่านเจ้าเมืองคนใหม่!”
เย่หยวนมีสภาพที่ดูไม่จืดร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลแตกต่างจากตอนที่สมบูรณ์พร้อมมาก
แต่ต่อให้จะอยู่ในสภาพนี้มันก็ไม่มีใครกล้าจะมาท้าทายเขาแม้แต่คนเดียว
ศึกเดียวของเขานี้มันทำให้ฟ้าดินมั่นคงลงทันที!
เย่หยวนพยักหน้ารับ “จากวันนี้ไปข้าจะเข้าเก็บตัว เรื่องราวของเมืองตะวันโรจน์เจ้าจัดการต่อแทนข้าเถอะ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ให้ทำกันไปตามปกติ!”
เฮ่อหยุนเซียงไม่คิดแปลกใจและก้มหัวลงรับทันที
การต่อสู้ยาวนานถึงสามวันนั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนได้รับประโยชน์มหาศาล
แน่นอนว่าเวลานี้เขาย่อมจะต้องเข้าเก็บตัว
เย่หยวนโยนแผ่นหยกออกมาให้แก่เฮ่อหยุนเซียงก่อนจะสั่ง “เจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรสวรรค์ตามรายการภายในหนึ่งปีจากนี้ แน่นอนว่าพวกเจ้าย่อมจะได้รับส่วนแบ่งด้วย”
เฮ่อหยุนเซียงรับแผ่นหยกนั้นไปก่อนจะส่งจิตลงไปดูจนต้องร้องลั่นขึ้นมา “ซี๊ด… โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ! นายท่านนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้ด้วยหรือ?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องเลิกคิ้วสูงขึ้น “เจ้ากลับรู้สูตรโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิด้วย?”
เฮ่อหยุนเซียงยิ้มแห้งๆ ตอบกลับมา “ก่อนที่ข้าน้อยนั้นจะบรรลุสวรรค์ขึ้นมาข้าเองก็เป็นนักหลอมโอสถคนหนึ่งเช่นกัน! หลังจากขึ้นมาบนสามสิบสามสวรรค์แล้วข้าน้อยก็เคยคิดจะไปเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์เพียงแต่ว่าข้าน้อยนั้นมีความเข้ากันได้ต่ำจนเกินไป แต่จะอย่างไรข้าก็ได้ศึกษาเรื่องของการโอสถมาบ้างและสมุนไพรสวรรค์ที่นายท่านคิดอยากได้นี้มันมีแต่โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่จะใช้มัน! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายท่านจึงได้มีฝีมือเหนือล้ำปานนี้ ท่านนั้นคงมีร่างกายเต๋าก่อนกำเนิดระดับสูงเป็นแน่แล้ว!”
ในความคิดของเขาเย่หยวนที่หลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้เขาย่อมจะต้องมีค่าความเข้ากันได้เกินเจ็ดสิบขึ้นไป!
ในหมู่ผู้บรรลุสวรรค์นั้น ค่าความเข้ากันได้ขนาดนั้นมันคงเรียกได้ว่าเป็นเทพจุติ
ความแปลกประหลาดในวิชาฝีมือของเขานั้นมันดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันทีหากพูดเช่นนั้น
นิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นได้สมบัติล้ำค่ามาจริง!
แต่เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขากลับยิ้มขึ้นมา “กายเต๋าก่อนกำเนิด? หึๆ… ข้านั้นมีแค่ร่างกายสามัญเท่านั้น”
พูดจบเย่หยวนก็เดินทิ้งเฮ่อหยุนเซียงให้อ้าปากค้างอยู่ตรงนั้นไป
“กายสามัญ! ร่างกายสามัญก็หลอมโอสถได้หรือ? กายสามัญจะสำเร็จแปลงยอดเต๋าได้หรือ? เขา… เขาคงล้อเล่นแน่แล้ว?” เฮ่อหยุนเซียงกล่าวขึ้นมา
…
การต่อสู้อันหนักหน่วงหลายวันมานี้มันย่อมจะให้ประโยชน์แก่เย่หยวนอย่างมากมายและต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ย้อนหลังมาก
ไหนจะยังเรื่องของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบเอกภพที่เย่หยวนต้องฝึกการควบคุมมันให้สมบูรณ์อีก
การแปลงนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะการบรรลุของเย่หยวน
แต่ตอนที่เขาใช้มันสังหารจางซุนซิงหยู่ลงนั้น มันยังไม่อาจจะเรียกได้ว่าบรรลุได้สมบูรณ์นัก
หากเขาทำให้มันสมบูรณ์ได้จริงการจะสังหารจางซุนซิงหยู่นั้นมันคงลำบากแค่ขยับนิ้ว
แล้วสมุนไพรสวรรค์ที่เย่หยวนสั่งให้เฮ่อหยุนเซียงไปหามานั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรสวรรค์ที่จะใช้เพื่อหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่น
เขานั้นคิดจะใช้โอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่นนั้นเพื่อช่วยในการบรรลุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุด
หนึ่งปีจากนั้นมาเย่หยวนก็สามารถทำให้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบเอกภพรูปร่างแรกสมบูรณ์ได้และเวลานี้พลังของมันก็เหนือล้ำกว่าก่อนหน้าไปหลายเท่าตัว!
หากเวลานี้เขาต้องไปสู้กับจางซุนซิงหยู่อีกครั้งนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะสังหารเขาได้ด้วยมือเดียวแน่
แต่ว่าความยุ่งยากซับซ้อนของแปลงยอดเต๋านั้นมันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่เย่หยวนคาดการณ์ไว้มาก
แม้ว่ารูปร่างแรกนั้นมันจะเป็นเพียงแค่ต้นอ่อนแต่ความซับซ้อนของมันนั้นกลับเหนือล้ำเทียบเคียงได้กับค่ายกลดาบเอกภพทีเดียว
การดึงพลังยอดเต๋าออกมานั้นมันคือการดึงพลังจากสวรรค์!
ไม่แปลกที่คนจะเรียกมันว่าคือสุดยอดพลังของกฎ!
แต่โชคยังดีที่สมองของเย่หยวนดีพอที่จะทำความเข้าใจมันได้และใช้เวลากว่าหนึ่งปีนี้ในการขัดเกลามันให้สมบูรณ์
ความเร็วเช่นนี้สำหรับตัวเย่หยวนย่อมจะเรียกได้ว่าช้า
แต่หากให้คนที่กำลังฝึกแปลงยอดเต๋าคนอื่นๆ ได้ยินเข้าแล้ว พวกเขาคงแทบคลั่งอยากจะเข้าไปต่อยหน้าเย่หยวนเลยทีเดียวหรือผลักลงเหวไปซะเลย
การบรรลุแปลงยอดเต๋านั้นเหล่านักยุทธทั้งหลายต้องใช้เวลานับสิบๆ หรืออาจจะถึงร้อยๆ ปี กว่าที่จะสำเร็จมันได้
แต่เย่หยวนที่ใช้เวลาแค่ปีเดียวซ้ำยังคิดว่ามันช้า
จากนั้นอีกสองปีเย่หยวนก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการพยายามโจมตีบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุด
เขานั้นหลอมสนเสียงขาวที่เก็บมาได้ทั้งหมดให้กลายเป็นโอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่น
และสุดท้ายหลังเดินปราณตามสวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำเขาก็บรรลุขึ้นมาได้สำเร็จ
การต้องใช้โอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่นระดับเก้าขั้นสุดหลายต่อหลายเม็ดเช่นนี้มันย่อมจะมีเพียงเย่หยวนที่ทำได้
หากคนอื่นๆ มาได้ยินเข้าแล้วพวกเขาคงอิจฉาจนกระอักเลือด
ผลของโอสถสวรรค์พวกนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าโอสถสวรรค์ระดับสอง!
สวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำนั้นเองก็สมชื่อว่าเป็นสุดยอดวรยุทธการบ่มเพาะที่ทำให้นิกายสวรรค์หยกแท้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ปกครองทวีปพิรุณใส มันแข็งแกร่งอย่างมาก
โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดินั้นมันคือของที่สวรรค์สัมฤทธิ์ไร้คำต้องการอย่างขาดไม่ได้!
เย่หยวนนั้นใช้เวลาสองปีในการบรรลุมันขึ้นมา
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังมีรากฐานที่สุดแสนหนักแน่น เรียกได้ว่าหากเขาคิดจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่เมื่อใดเขาก็ย่อมจะทำได้ทันที!
พิภพโกลาหลของเย่หยวนก็เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตอย่างมากมาย
ออกจากการเก็บตัวสามปีนี้เย่หยวนได้ทำให้พวกเฮ่อหยุนเซียงต้องสั่นสะท้าน
พวกเขานั้นคิดว่าเย่หยวนอาจจะต้องเก็บตัวไปนานอย่างน้อยๆ สักสิบยี่สิบปี ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนกลับใช้ออกมาในเวลาแค่สามปี
“ยินดีกับนายท่านด้วยที่บรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุดได้! เพียงแค่ว่า… นายท่านไม่คิดจะปรับแปลงยอดเต๋าให้สมบูรณ์ก่อนหรือ?” เฮ่อหยุนเซียงถามขึ้น
เย่หยวนหันไปมองพร้อมกล่าวตอบ “มันสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว ในเมื่อบรรลุขึ้นมาได้แล้วทำให้มันสมบูรณ์นั้นจะเป็นเรื่องยากอะไรเล่า?”
เฮ่อหยุนเซียง ตี้ชิงและคนทั้งหลายต่างอ้าปากค้างด้วยใบหน้าซีดขาว
นายท่านผู้นี้เป็นดั่งเทพอย่างแท้จริง!
เย่หยวนโยนโอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่นให้พวกเฮ่อหยุนเซียงทั้งหลายไปคนละเม็ดพร้อมกล่าวขึ้น “โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิทั้งหลายนี้ข้าให้พวกเจ้าแล้วกัน กินแล้วก็รีบๆ บรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่เสียเถอะ! ในแดนเนรเทศนี้หากพวกเจ้าไม่ก้าวหน้ามันก็มีแต่ต้องรอความตายเท่านั้น อยู่ที่นี่ต่อไปมันก็มีแต่จะตายลงในสักวัน!”
เฮ่อหยุนเซียงก้มลงมองโอสถสีทองในมืออย่างตกตะลึงจนแทบทำมันหลุดมือ
“ร-ระดับเก้าขั้นสุด! นายท่าน ท่าน… ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” เฮ่อหยุนเซียงกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงติดขัด
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “เจ้าคิดว่าข้ามีเวลามาล้อเล่นกับเจ้า?”
เฮ่อหยุนเซียงรีบก้มหัวลงทันที “ไม่ๆ! นายท่านเข้าใจผิดแล้ว! ข้าน้อยแค่ตกตะลึงที่นายท่านนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้ถึงระดับเก้าขั้นสุดเช่นนี้ด้วยร่างกายสามัญ! มันเหลือเกินกว่าที่ข้าจะเชื่อได้! โอสถเช่นนี้ต่อให้จะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่เองก็คงไม่อาจจะหลอมได้!”
เฮ่อหยุนเซียงนั้นได้เข้าใจแล้วว่านายท่านของเขาคนนี้มีวิชาการโอสถที่เป็นสัตว์ประหลาดเสียยิ่งกว่าวรยุทธการต่อสู้ของเขา!
ในวิชายุทธนั้น เย่หยวนในตอนนี้มีกำลังฝีมือที่แข็งแกร่งพอจะสังหารยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นต้นได้ง่ายๆ
แต่ในด้านการโอสถเขากลับสามารถก้าวข้ามสามชั้นบรรยากาศขึ้นไปกดหัวนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่ได้!
ฝีมือระดับนี้มันไม่อาจจะใช้คำใดมาอธิบายได้
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือนายท่านผู้นี้กลับมีแค่ร่างกายสามัญ!
กายสามัญ!
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ใครบอกเล่าว่าเจ้าไม่อาจใช้กายสามัญหลอมโอสถได้? บางอย่างนั้นมันก็แค่เจ้ามือไม่ถึงเอง! อ่า จริงด้วย เจ้าช่วยข้าส่งจดหมายท้าดวลไปยังเหล่าเจ้าเมืองทั้งเก้าที จากวันพรุ่งนี้ไปข้าจะท้าทายเจ้าเมืองทั้งเก้า!”
เมื่อเฮ่อหยุนเซียงได้ยินเขาก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “นายท่าน เรื่องนั้นข้าเกรงว่า… มันคงทำไม่ได้แล้ว!”
…