Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2609 สามกฎปะทะห้ากฎ!
ชายหนุ่มนั้นมีเรียวปากที่ได้รูปฟันที่ขาวสะอาดและตาคม
แต่เมื่อเย่หยวนได้เห็นเขา เย่หยวนกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล
แรงกดดันนั้นเคล้ายตอนที่เขาเผชิญหน้ากับจางซุนซิงหยู่ตอนนั้น
คนผู้นี้แข็งแกร่ง!
“แปลงสามยอดเต๋า เก่งจริง! พวกเจ้านั้นจะแพ้ก็ไม่แปลกหรอก! ข้าไม่นึกเลยว่ายอดอัจฉริยะเช่นนี้กลับจะปรากฏขึ้นที่โลกภายนอกได้!” ชายหนุ่มมองดูเย่หยวนด้วยสายตาชื่นชม
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เจ้าเองก็ไม่เลว”
ชายร่างใหญ่ที่ติดตามชายหนุ่มนั้นมาได้ยินเข้าจึงร้องลั่น “โอหัง! เจ้ามาพูดกับท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์ด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
ชายหนุ่มนั้นยกมือขึ้นมาห้ามชายร่างใหญ่ก่อนจะกล่าวขึ้น “กำลังฝีมือของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่เฉิง! จากวันนี้ไปเขานั้นจะเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์คนที่สี่ของเขาศักดิ์สิทธิ์! พวกเจ้าอย่าได้เสียมารยาท!”
ชายร่างใหญ่นั้นผงะไปก่อนจะรีบพยักหน้ารับและหันมาก้มหัวให้เย่หยวน “ข้าคารวะท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์!”
คนอื่นๆ ที่ได้ยินต่างก็หน้าซีดขาวลงไปตามๆ กัน ไม่นึกฝันว่าเจ้าเด็กใหม่คนนี้กลับจะได้รับตำแหน่งเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไป
แต่แม้จะไม่อยากยอมรับสักแค่ไหนพวกเขาก็ไม่กล้าจะขัดแม้แต่น้อย
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจท่าทางของชายร่างใหญ่นั้นและหันไปกล่าวกับชายหนุ่ม “โอ้? มันยังมียอดฝีมือระดับเจ้าอยู่บนเขานี้อีกหรือ?”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “ข้านั้นมีนามว่าฮันยี่ เป็นผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สองนั้นนามว่าจี้เจ๋อ เจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สามนั้นมีนามว่าหลี่เฉิง จากวันนี้ไปเจ้าจะเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สี่ของเขาศักดิ์สิทธิ์!”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัดเมื่อได้ยิน “เจ้าศักดิ์สิทธิ์อะไรไร้สาระ ข้าไม่สนใจ! ข้านั้นแค่มาหาคนประมือด้วย เจ้านั้นแข็งแกร่งไม่เบา สนใจมาสู้กันสักตั้งไหม?”
เขานั้นไม่สนใจจะขึ้นครองตำแหน่งใหญ่โตใดๆ ในคุกนี้
สิ่งที่เย่หยวนต้องการนั้นคือการปรับรากฐานให้หนักแน่นเพื่อจะเตรียมการบรรลุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ต่อไป
เขานั้นย่อมจะไม่คิดสนใจมาเสียเวลาขึ้นปกครองดินแดนในแดนเนรเทศ
แต่ว่าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้ยินคำของเย่หยวนนั้นต่างต้องอ้าปากค้างไป
เจ้าหมอนี่มันกลับไม่คิดสนใจตำแหน่งเจ้าศักดิ์สิทธิ์!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังมีหน้าไปท้าทายผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์ มันช่างเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มตอบกลับมา “เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก!”
เย่หยวนจึงถามกลับไป “ยังไม่เคยสู้เจ้ารู้ได้อย่างไรเล่า?”
ชายหนุ่มนั้นส่ายหัวออกมา “เจ้านั้นเป็นยอดอัจฉริยะที่แปลงสามยอดเต๋าได้ แต่ข้านั้นแปลงห้ายอดเต๋า! เจ้าคิดหรือว่าจะเอาชนะข้าลงได้?”
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะไม่เคยได้ถึงมาก่อนว่าอะไรคือแปลงสามยอดเต๋าแต่เขาก็เดาได้ไม่ยากว่ามันคงหมายถึงการที่ใช้สามกฎเป็นฐานในการแปลงยอดเต๋า
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องตะลึงไปไม่น้อยเพราะหากเป็นเช่นนั้นมันก็หมายความว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขานี้กลับใช้ห้ากฎเป็นฐานในการแปลงยอดเต๋าหรือ?
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถทำตัวเป็นเจ้าโลกและตั้งตัวเป็นผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาย่อมจะมีฝีมือเพียงพอแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดว่าสามกฎมันด้อยไปกว่าห้ากฎ!
ดาบ มิติ ค่ายกลนั้นมันคือสุดยอดเต๋าทั้งสามด้าน พวกมันนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไม่อาจเชื่อมโยนแต่เย่หยวนนั้นกลับเอามันผสานเข้าด้วยกันและทำการแปลงยอดเต๋าสร้างรูปร่างให้มันขึ้นมาได้
เมื่อเต๋าทั้งสามนั้นมันพัฒนาไปถึงที่สุดแล้วมันก็จะเกิดเป็นเอกภพของตนเอง
นี่มันคือสุดยอดของสุดยอดเต๋า!
เข้าใจกฎหลายอย่างกว่าแล้วจะแข็งแกร่งกว่าหรือ?
เย่หยวนไม่คิดเช่นนั้น!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากข้ามั่นใจว่าจะชนะข้าจะยังมายืนคุยไร้สาระกับเจ้าอยู่เช่นนี้หรือ? ข้าคงสังหารเจ้าตายไปในดาบเดียวแล้ว! เพราะว่ามันไม่มีความแน่นอนนี่แหละข้าถึงได้คิดสู้! ไม่เช่นนั้นแล้วเข้าแดนเนรเทศมามันจะมีประโยชน์ใด?”
ชายหนุ่มนั้นมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึงก่อนจะพยักหน้ารับ “เจ้านั้นแตกต่างจากคนทั่วๆ ไปจริง! ช่างเถอะ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นเองว่าความแตกต่างระหว่างสามกฎและห้ากฎนั้นมันเป็นเช่นไร!”
พูดจบก็ปรากฏดอกบัวหนึ่งค่อยๆ งอกขึ้นมาจากมือของชายหนุ่ม
ดอกบัวนี้มันมีเมล็ดอยู่ภายในเพียงแค่ห้าเมล็ด!
ดูท่าแล้วแต่ละเมล็ดนั้นมันคงเป็นตัวแทนของพลังแห่งกฎทั้งห้าอย่าง!
วินาทีที่บัวดอกนี้ปรากฏขึ้นมาเย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล
แต่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบของเขานั้นมันก็ไม่คิดกลัว
ความกลัวนั้นไม่มีอยู่!
คำว่ากลัวนั้นเย่หยวนไม่เคยรู้จักมัน
ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับมา “การแปลงยอดเต๋าของข้านั้นมีนามว่าบัวห้าดาว หากเจ้าสามารถรับมือมันได้เกิดสามสิบกระบวนท่าแล้วเจ้าจะได้เป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ลำดับสอง! เพราะจี้เจ๋อนั้นมันรับได้แค่ยี่สิบแปดกระบวนท่าภายใต้การโจมตีของบัวห้าดาวข้า! และเขานั้นก็เหมือนเจ้านี่ เป็นผู้แปลงสามยอดเต๋าเช่นกัน!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
แม้แต่ยอดฝีมือทั้งหลายของเขาศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังรู้สึกตกตะลึงไม่แพ้กัน
เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้รู้ว่าฝีมือของเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนั้นมันกลับแตกต่างกันได้ขนาดนี้!
ได้ยินเช่นนั้นสายตาของพวกเขาต่างก็หันมามองเย่หยวนด้วยความสงสาร
เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังเกินไป ครั้งนี้คงได้หน้าแหกแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบไปอย่างไม่สนใจ “มาสิ พูดมากเสียจริง! ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบ ไป!”
เย่หยวนนั้นก็ไม่คิดจะรอช้ารีบเปลี่ยนตัวเองเป็นดาบพุ่งเข้าใส่ร่างของฮันยี่ทันที
ดาบแสงทั้งสองของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารที่บ้าคลั่ง!
หลังจากออกมาจากการเก็บตัวนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนใช้พลังของดาบทั้งสองพร้อมกัน!
พลังของมันนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาสู้ก่อนหน้าไปอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้
คนทั้งหลายหน้าซีดขาวลงทันทีที่ได้เห็น!
เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าที่สู้ๆ กันมาก่อนหน้านั้นเย่หยวนไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็แทบได้ลงไปเที่ยวยมโลกมาแล้ว
วิชาการเคลื่อนไหวของเย่หยวนนั้นมันรวดเร็วเป็นอย่างมากมาหยุดลงตรงหน้าฮันยี่ในพริบตา
ฮันยี่เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึงในฝีมือของเย่หยวนนี้!
แต่ว่าฮันยี่นั้นเป็นคนระดับไหน? ถึงจะตกตะลึงแต่เขาก็ไม่ตื่นตระหนก
เขานั้นหมุนฝ่ามือปล่อยเมล็ดทั้งห้าของบัวพุ่งออกไปล้อมตัวเย่หยวนไว้ห้าทิศทาง
และในเวลานั้นเองที่เย่หยวนก็เข้ามาถึง!
ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมร่างของคนทั้งสองที่พุ่งออกมาจากการปะทะ!
คนทั้งหลายต่างต้องอ้าปากค้าง!
“ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่หรือไม่? เจ้าเด็กคนนั้นมันกลับเสมอกับท่านผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์ได้?”
“เป็นไปไม่ได้น่า! สามกฎมันจะมาแข็งแกร่งเท่าห้ากฎได้อย่างไรกัน?”
“เจ้าเด็กคนนี้มันใช้กฎอะไรกันแน่?”
…
แปลงห้ายอดเต๋านั้นมันคงเรียกได้ว่าเป็นการแปลงยอดเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุด
เรียกได้ว่ามันไร้เทียมทาน!
แต่ว่าผลนั้นกลับเสมอกับผู้นำเจ้าศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นนี้ด้วยกฎเพียงแค่สามอย่าง!
แม้ว่าจะเป็นการปะทะกันแค่ครั้งเดียวแต่เย่หยวนก็ได้แสดงฝีมือออกมาเป็นที่ประจักษ์ชัด
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหลายย่อมจะต้องตกตะลึง!
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “อวดอ้างเกินจริง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะเหนือล้ำฟ้าดินสักแค่ไหน! ห้ากฎมันก็ทำได้แค่เท่านี้!”
สีหน้าของฮันยี่นั้นเปลี่ยนสีไป!
“ดาบ มิติ ค่ายกล! หึๆ น่าเกรงกลัวนัก ข้าประเมินเจ้าต่ำไป! สามสุดยอดกฎเช่นนี้เจ้ากลับเอามันผสานเข้าเป็นหนึ่งได้ ทั้งยังสามารถบรรลุแปลงยอดเต๋าได้อีก! สองดาบนั้นมันแทนหยินหยาง ไร้ซึ่งที่ติใด ช่างแข็งแกร่งนัก! เจ้ามีสิทธิที่จะประลองกับข้าจริง!”
ท่ามกลางความตกตะลึงนั้นตัวฮันยี่กลับไม่ได้โกรธเคืองใดๆ แต่สีหน้าของเขานั้นมันแสดงถึงความตื่นเต้นดีใจแทน
เขานั้นตื่นเต้นที่จะได้มีคู่มือเสียที
แม้ว่าเขานั้นจะเห็นว่าเย่หยวนใช้สามกฎแปลงยอดเต๋าแต่เขาย่อมจะไม่ถึงขั้นมองออกได้ว่ามันเป็นกฎอะไรบ้าง
แต่การปะทะเมื่อครู่นั้นเขาสัมผัสได้ถึงพลังดาบ มิติและค่ายกลในการโจมตีเดียว แน่นอนว่าเขาจะต้องตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสีไป
เขานั้นย่อมจะรู้ดีว่ากฎทั้งสามนั้นมันเหนือล้ำเพียงใด
แต่สิ่งที่น่าเกรงกลัวที่สุดก็คือการแปลงยอดเต๋าของเย่หยวนนั้นมันกลับสมบูรณ์ไร้ที่ติ!
สมบูรณ์จนไร้ช่องโหว่ใด
เหมือนดั่งโลก เหมือนดั่งธรรมชาติที่ไร้ซึ่งที่ติ!
ใบไม้ทั้งสองนั้นมันอาจจะดูแสนปกติแต่แท้จริงแล้วมันเป็นตัวแทนของหยินหยางแห่งเอกภพ
พลังของมันนั้นย่อมจะเหนือล้ำกว่าที่จะจินตนาการได้!
แม้ว่าเขาจะผสานห้ากฎแต่เขาก็ยังทำไม่ได้ถึงขั้นนี้
เพราะฉะนั้นแม้เขาจะผสานห้ากฎได้แต่พลังของมันก็ยังมีขัดแย้งกันเองบ้าง
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตต่อสู้ของอีกฝ่ายนั้นเย่หยวนก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… ต้องอย่างนี้สิ! มาอีกรอบ!”