Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2635 สถานการณ์อันสิ้นหวัง
“เบื้องหน้าแล้วมันอาจจะดูเหมือนว่าดินแดนสวรรค์ห้าแสงของเรานั้นได้เปรียบแต่ความจริงแล้วท่านต้องเข้าใจว่าทางพันธมิตรโอสถมันยังไม่ได้ออกฉากหน้ามาเองเลย!”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันทำให้จิตใจของเฟิงซวนยี่ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
พันธมิตรโอสถนั้นมันเป็นค่ายกำลังที่ลึกลับอย่างยากจะเข้าใจ
แต่พวกเขานั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
เพียงแค่ว่าในตอนนี้มันไม่มีใครรู้ว่าพันธมิตรโอสถต้องการจะทำอะไรกันแน่
นี่คือสิ่งที่เย่หยวนกังวลอย่างมากที่สุด
แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจได้ว่าพันธมิตรโอสถนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ดีงามมากนัก!
“เจ้าคิดว่าพันธมิตรโอสถนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน?” เฟิงซวนยี่กล่าวขึ้นมา
เย่หยวนได้แต่ตอบกลับไปด้วยใบหน้าหนักใจ “เดิมทีข้านั้นคือว่าการเอาโอสถสวรรค์ระดับแท้ชุดนี้ออกมามันจะดึงให้พันธมิตรโอสถต้องออกมาฉากหน้าบ้าง! แต่ข้านั้นคิดผิดไป! เพราะฉะนั้นแล้วหากพวกมันออกมาหน้าฉากเมื่อใดทวีปพิรุณใสนี้จะต้องสั่นสะท้านอย่างแน่นอน!”
เฟิงซวนยี่นั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เป็นตอนนี้เองที่เขานั้นได้เข้าใจถึงความคิดแผนการของเย่หยวน
ที่แท้แล้วโอสถสวรรค์ระดับแท้ชุดใหญ่นั้นมันกลับเป็นเพียงแค่ไพ่ที่เขาคิดจะใช้ดึงพันธมิตรโอสถออกมา
แต่จนถึงตอนนี้ทางพันธมิตรโอสถนั้นก็ไม่ได้ตอบโต้ใดๆ กลับมาราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจ!
ตูม!
วินาทีนั้นเองที่มันเกิดระเบิดรุนแรงขึ้นจนทำให้แผ่นดินสั่นไหวไปทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่น
เฟิงซวนยี่และเย่หยวนนั้นหน้าซีดขาวลงพร้อมๆ กัน
คนทั้งสองหันมามองหน้ากันและร้องขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย “พันธมิตรโอสถ!”
เมื่อคนทั้งสองพุ่งตัวมาถึงเขาหน้าพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง!
เพราะเบื้องหน้าค่ายกลป้องกันนิกายนั้นมันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าร้อยคนกำลังเตรียมตัวโจมตีอีกครั้งหนึ่งใส่ค่ายกล
และเวลานี้ตัวค่ายกลป้องกันนิกายมันก็แทบจะแตกสลายลงอยู่แล้ว!
ดูท่าแล้วการโจมตีก่อนหน้านั้นมันคงทำให้พลังของค่ายกลป้องกันนิกายตกต่ำลงไปอย่างมากจนแทบพังทลาย
เวลานี้คนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต่างมุ่งหน้าออกมาด้วยความแตกตื่น
เวลานี้มียอดฝีมือมากมายดักเฝ้าอยู่หน้าประตูขึ้นเขานั้นปิดล้อมทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นไว้ไม่ให้ออกไปไหนได้สิ้น
“นี่หรือคือพลังของพันธมิตรโอสถ? ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าร้อยแปดสิบคน ช่างเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่นัก!” เฟิงซวนยี่นั้นได้แต่ต้องร่ำร้องขึ้นมา
เมื่อลองมองดูไปแล้วเวลานี้มันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าร้อยแปดสิบคนล้อมทุกด้านของค่ายกลเอาไว้
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นเป็นตัวตนสูงส่งที่หาตัวจับยาก
แม้แต่ในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเองก็ยังมีพวกเขาเพียงแค่ราวสี่สิบกว่าคน!
และส่วนใหญ่นั้นยังอยู่แค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นหรือกลางเท่านั้น
แต่ฝ่ายพันธมิตรโอสถมาในวันนี้พวกเขากลับนำกองกำลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาถึงร้อยแปดสิบกว่าคน มันมากกว่ากำลังทั้งหมดของฝ่ายนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเกินกว่าสี่เท่า!
หรือก็คือกองกำลังของพันธมิตรโอสถนี้มันมากพอที่จะเทียบเคียงกับกองกำลังทั้งหมดของห้ายอดนิกายรวมกัน!
ความแตกต่างของพลังนี้มันยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก!
เหล่าคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นต่างต้องสูดหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติของตนลง
กองกำลังลึกลับนี้มันเผยเขี้ยวเล็บออกมาให้โลกหล้าได้เห็นแล้ว!
“หยุนชิง เจ้ารีบไปขอความช่วยเหลือจากนิกายทั้งสี่เร็ว! เปิดใช้งานค่ายกลย้อนย้ายนั้นเสียแล้วบอกให้พวกเขาส่งกำลังมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!” เฟิงซวนยี่สั่งการแก่หลัวหยุนชิง
แต่หลัวหยุนชิงนั้นได้แต่ยืนนิ่งตอบกลับมา “เจ้านิกาย มันทำไม่ได้! เวลานี้จุดเชื่อมค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างเราและนิกายทั้งสี่มันถูกทำลายลงสิ้น! เวลานี้เรามีแต่ต้องรับมือพวกมันด้วยกำลังของเราเอง!”
เฟิงซวนยี่หันกลับมาด้วยใบหน้าซีดขาว “อะไรนะ?! จุดเชื่อมค่ายกลเคลื่อนย้ายพวกนั้นมันสุดแสนจะลึกลับมีแต่คนระดับสูงของนิกายเท่านั้นที่จะรู้ได้ ทำไมมันจึงถูกทำลายลงได้กันเล่า?”
นิกายสวรรค์ทั้งห้านั้นตั้งอยู่ห่างไกลกันอย่างมากล้นและเวลาจะเดินทางด่วนนั้นมันต้องพึ่งพาค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เดินทางผ่านจุดเชื่อมต่อหลายต่อหลายจุด
แต่จุดเชื่อมต่อค่ายกลเคลื่อนย้ายทั้งหลายนี้มันเป็นสุดยอดความลับของทุกนิกาย
แต่จุดลับทั้งหลายนั้นมันกลับถูกพันธมิตรโอสถหาจนเจอ!
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้นมา “ดูท่าทางพันธมิตรโอสถมันจะวางแผนมานานปีแล้ว!”
เฟิงซวนยี่นั้นร้องขึ้นอย่างไม่พอใจ “ให้ตายสิ! พวกมันนั้นควบคุมให้ดินแดนสวรรค์ทั้งสี่เข้ามาโจมตีเราที่แท้มันก็เพื่อจะล่อเสือออกจากถ้ำ!”
หลายปีมานี้ทางนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต้องทำการรบทุกวี่วันจึงต้องส่งกองกำลังกว่าครึ่งไปยังสนามรบแนวหน้า
เวลานี้ยอดฝีมือที่ยังอยู่ในนิกายนั้นมันมีเพียงแค่ครึ่ง
นิกายสวรรค์ยุทธมั่นตกที่นั่งลำบากแล้วจริง!
ตูม!
ในเวลานั้นเองที่ปราณเทวะมากล้นมันก็พุ่งทะลวงเข้ามาภายในนิกายได้สำเร็จ
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าร้อยสี่สิบคนนั้นโจมตีขึ้นพร้อมๆ กันมันย่อมจะมีเสียงดังลั่นฟ้าดินก่อนที่สุดท้ายค่ายกลป้องกันนิกายมันจะแตกสลายลง
เกิดแรงสั่นสะเทือนตามขึ้นมาอีกครั้ง!
เวลานี้เหล่าคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต่างตัวสั่นด้วยความกังวล
เมื่อค่ายกลป้องกันนิกายมันแตกลงแล้วยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าร้อยสี่สิบคนก็ค่อยๆ ลอยตัวผ่านเหนือยอดเขาเข้ามา
แรงกดดันที่สัมผัสได้จากคนทั้งหลายนั้นมันทำให้หลายคนแทบสิ้นสติไป
ชายวัยกลางคนในชุดขาวผู้หนึ่งก้าวนำออกมาตามด้วยชายวัยกลางคนใบหน้าเย็นเยือกอีกคนที่เดินตามมา
เฟิงซวนยี่นั้นจำได้ทันทีว่าชายผู้นี้ใบหน้าเย็นเยือกคนนี้มันคือเสี่ยวเฟยไป่ที่ต่อสู้กับพวกเขาเหล่าเจ้านิกายทั้งห้าที่มหารัฐเมฆรุ้งในคราวก่อนนั้น!
แน่นอนว่าชายชุดขาวที่เดินนำออกมาย่อมจะเป็นหวงฟู่หยุนซือแล้ว
หวงฟู่หยุนซือมองดูเฟิงซวนยี่ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้านิกายเฟิง ข้าขอแนะนำตัวหน่อย ข้านั้นมีตำแหน่งเป็นร้องผู้นำพันธมิตรโอสถมีนามว่าหวงฟู่หยุนซือ! ชายคนนี้ท่านน่าจะเคยได้สู้กับเขามาก่อนแล้ว เขานั้นคือเจ้าโถงยุทธสวรรค์ของพันธมิตรโอสถเรานามว่าเสี่ยวเฟยไป่!”
เฟิงซวนยี่นั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “พูดมากไร้สาระอะไรของเจ้า! หากเจ้าคิดอยากสู้เจ้าก็เข้ามา! นิกายสวรรค์ยุทธมั่นของเรานั้นสืบสานเจตนารมณ์ของท่านโฉไว้และจะไม่ยอมก้มหัวให้แก่ศัตรู!”
ได้เห็นเช่นนั้นเฟิงซวนยี่ก็ย่อมจะไม่โง่พอที่จะคิดไปว่าหวงฟู่หยุนซือนั้นแค่จะมาพูดคุยด้วย
นี่มันคือศึกที่ไม่อาจจะเลี่ยงได้แล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นเฟิงซวนยี่นั้นยังพอเข้าใจได้ว่านี่มันคงเป็นจุดสิ้นสุดของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นแล้วแน่!
พันธมิตรโอสถนั้นวางแผนมายาวนานก่อเรื่องไว้เบื้องหลังมากล้น
แต่พวกเขาเหล่าคนนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นกลับไม่รู้ตัวถึงมันเลย!
ศึกนี้มันสมควรที่จะพ่ายแล้ว!
แต่หวงฟู่หยุนซือนั้นกลับยิ้มขึ้นมาตอบ “ท่านเจ้านิกายเฟิงนั้นมีนิสัยที่รุ่มร้อนนัก! แต่ว่าข้าเองนั้นก็ไม่ได้คิดสนใจในตัวท่านเจ้านิกายเฟิงมากมายนัก ข้าแค่สงสัยว่าท่านเจ้านิกายเฟิงจะมอบตัวเย่หยวนมาให้แก่พวกเราได้หรือไม่?”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมานั้นสายตาของทุกผู้คนก็ต่างหันไปมองที่เย่หยวน
พันธมิตรโอสถนั้นส่งกองกำลังใหญ่ยิ่งเช่นนี้ออกมากลับเพื่อจะเอาตัวเย่หยวนไป?
หลายคนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนใจยาวออกมาอย่างโล่งอก
เพราะหากพวกเขาต้องการแค่เย่หยวนแล้วเรื่องราววันนี้มันคงยังพอผ่านพ้นไปได้อย่างไม่เสียหายมากมาย
แม้จะสัมผัสได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนรอบกายแต่เย่หยวนก็ยังวางท่านิ่งได้
เฟิงซวนยี่หันมามองเย่หยวนด้วยความตกใจแต่ไม่นานเขาก็ต้องหัวเราะขึ้นมา “อย่าได้คิดหลอกลวงเจ้านิกายผู้นี้เลย! เจ้าคิดว่าเจ้านิกายผู้นี้เป็นเด็กสามขวบหรือ? พันธมิตรโอสถของเจ้านั้นมันนำเอากองกำลังระดับนี้ออกมา มันย่อมจะไม่มีทางเพื่อเอาตัวเย่หยวนไปเท่านั้นแล้ว!”
หวงฟู่หยุนซือนั้นยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับมาแต่ฉือเฟยหยูก็กล่าวขึ้นมาแทรกแทน
“ท่านเจ้านิกาย! นิกายสวรรค์ยุทธมั่นเราตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้มันก็เพราะว่าเจ้าเย่หยวนนี้! มาถึงขั้นนี้แล้วท่านกลับยังคิดจะปกป้องมันอีกหรือ?” ฉือเฟยหยูกล่าวขึ้นมา
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวขึ้นมาเสริม “ใช่แล้ว! หากมิใช่เพราะเย่หยวนเอาแต่ท้าทายพันธมิตรโอสถซ้ำแล้วซ้ำเล่านิกายสวรรค์ยุทธมั่นมันก็ไม่มีทางต้องมาเจอสถานการณ์เช่นนี้! เย่หยวนนั้นควรจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้!”
เมื่อมีคนทั้งสองนี้นำแล้วเหล่ายอดฝีมือของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นอีกหลายคนต่างก็กล่าวขึ้นมาแสดงความไม่พอใจต่อตัวเย่หยวน
ความขัดแย้งในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนี้ตัวหวงฟู่หยุนซือย่อมจะไม่คิดขัดและยืนยิ้มมองดูมันไปเงียบๆ
“พวกเจ้าหุบปาก!”
แต่วินาทีนี้เองที่เฟิงซวนยี่ได้ตวาดร้องขึ้นมาก่อนจะกล่าวขึ้นตาม “เจ้าโง่ทั้งหลายแผนศัตรูคิดจะสร้างรอยร้าวให้พวกเราเช่นนี้ยังแยกแยะกันไม่ออกหรือ? ใช่แล้ว พวกมันมาเพื่อเอาตัวเย่หยวน แต่มันจะหยุดแค่ตัวเย่หยวนหรือ? มาถึงขั้นนี้แล้วพวกเจ้ายังจะโง่เง่าตาบอดมองไม่เห็นความจริงกันอีกหรืออย่างไร? เจ้าคิดว่าแค่ส่งตัวเย่หยวนไปแล้วพันธมิตรโอสถมันจะปล่อยให้นิกายสวรรค์ยุทธมั่นเราลอยหน้าต่อไปหรือ?”
เฟิงซวนยี่นั้นผิดหวังในตัวฉือเฟยหยูและผู้อาวุโสใหญ่อย่างมาก
ดูอย่างไรมันก็เป็นแผนการที่พันธมิตรโอสถวางมาอย่างยาวนานเพื่อจัดการกับดินแดนสวรรค์ห้าแสงของพวกเขา!
เย่หยวนแค่บังเอิญก้าวเข้ามาเป็นชนวนมันก็เท่านั้น!
……………………….