Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2638 หนีชะตาไม่พ้น!
เสียงร้องลั่นทำให้ศิษย์ทั้งหลายของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นตั้งสติขึ้นมาได้
พวกเขาต่างมุ่งหน้าฝ่าวงล้อมออกไป
ภายใต้การป้องกันของค่ายกลร้อยพิษที่เย่หยวนสร้าง เหล่าศิษย์นิกายสวรรค์ยุทธมั่นทั้งหลายจึงหนีออกไปได้ไม่ยากเย็น
ได้เห็นเช่นนั้นตัวหวงฟู่หยุนซือก็ต้องหรี่ตาลงด้วยความเย็นเยือก
“หึ! ข้านั้นเห็นว่าเจ้ามีพรสวรรค์มากล้ำจึงแสดงความเมตตาให้ แต่ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนี้แล้วข้าก็คงมีแต่ต้องใช้กำลังจัดการ!”
คลื่นพลังสุดแสนรุนแรงเข้ากระแทกร่างของเย่หยวนทันที
เย่หยวนรู้สึกราวกับว่ามันมีใครมาบีบคอเขาไว้
หวงฟู่หยุนซือเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด!
เมื่อสัมผัสถึงพลังของหวงฟู่หยุนซือเย่หยวนก็แทบจะหยุดลมหายใจลง
รองผู้นำของพันธมิตรโอสถนั้นกลับเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด เช่นนั้นแล้วตัวผู้นำพันธมิตรเล่า?
หรือว่าเขาคนนั้นจะเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอันสูงส่ง?
หากเป็นเช่นนั้นแล้วนิกายสวรรค์ยุทธมั่นมันก็คงไม่อาจพ้นหายนะนี้ไปได้แล้ว!
หวงฟู่หยุนซือเองก็ไม่คิดลังเลใดๆ อีกต่อไปกระแทกฝ่ามือออกมาทันที
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันหนักหน่วงมหาศาลตรงหน้า!
เย่หยวนคิดหาเส้นทางรอดอย่างสุดตัว แม้ว่าฝ่ามือนี้มันจะดูสุดแสนธรรมดาแต่แท้จริงแล้วมันเป็นการใช้งานกฎได้อย่างเหนือล้ำ!
เย่หยวนนั้นไม่มีเวลาให้ลังเลใดๆ เขารีบใช้กฎแห่งห้วงมิติออกมาช่วยเพิ่มความเร็วในการหลบหนีทันที
ความเร็วของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำจินตนาการ!
แต่หวงฟู่หยุนซือกลับหัวเราะขึ้นมา “เปล่าประโยชน์! หากแค่เจ้า นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นี้ข้ายังจัดการไม่ได้แล้วข้าก็คงไม่มีคุณสมบัติจะขึ้นมานั่งตำแหน่งรองผู้นำพันธมิตรหรอก!”
เย่หยวนนั้นตื่นตะลึงสุดตัว!
เพราะคลื่นพลังจากฝ่ามือนั้นมันกลับขยับย้ายพุ่งตามตัวเขามาอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังมีความเร็วที่เหนือล้ำกว่าเขาหลายเท่าตัว!
พริบตาเดียวนั้นมันก็ตามมาจนแทบถึงตัวเย่หยวนได้
เขาไม่อาจจะหลบมัน!
เย่หยวนได้แต่กัดฟันและยกมือขึ้นมา
วินาทีเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดเขาลูกใหญ่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา!
เขาแห่งถงเทียนอันน้อยนั้นมันค่อยๆ กลับมาขยายใหญ่ขึ้นจนปิดครอบทั้งฟ้าดินไว้
ตูม!
จากนั้นคลื่นพลังนั้นมันก็กระแทกเข้าใส่เขาลูกใหญ่นั้นทันที
และคลื่นพลังนี้มันกลับทะลุเขาใหญ่นั้นมาได้!
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังกระแทกที่ไหลเข้ามาตามแขนขา
ร่างของเขากระเด็นกลับออกมาพร้อมกระอักเลือดคำโต!
หวงฟู่หยุนซือนั้นช่างแข็งแกร่ง!
เย่หยวนนั้นก็คาดเดาไว้ก่อนแล้วว่าต่อให้ฉือเฟยหยูจะคิดสู้เขาก็คงไม่อาจจะทำอะไรต่อหน้าหวงฟู่หยุนซือได้
หรือจริงๆ แล้วแม้แต่ตัวเจ้านิกายเฟิงซวนยี่เองก็ยังไม่อาจจะรับมือได้เสียด้วยซ้ำ
คนผู้นี้มันแข็งแกร่งไม่แพ้เสี่ยวเฟยไป่คนนั้นแม้แต่น้อย!
ยอดฝีมือระดับเจ้านิกายอีกคนหนึ่ง!
พันธมิตรโอสถมียอดฝีมือระดับเจ้านิกายอยู่ถึงสองคน ย่อมจะแข็งแกร่งเกินกว่าจะต้านทาน
ที่สำคัญไปกว่านั้นผู้นำพันธมิตรโอสถอันลึกลับนี้ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเสียด้วยซ้ำ
“นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งกลับรับฝ่ามือเจ้าวาโยผงาดของข้าไว้ได้ ช่างเหนือล้ำเสียจริง! นอกจากวิชาการโอสถของเจ้ามันจะเหนือล้ำแล้วเจ้ายังมีวิชายุทธที่สุดยอดยิ่งด้วย! เจ้าไม่คิดจะมาเข้าร่วมพันธมิตรโอสถข้าจริงๆ หรือ?” หวงฟู่หยุนซือนั้นมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเย็นเยือก
แท้จริงตัวหวงฟู่หยุนซือเองก็เข้าใจดีว่าเย่หยวนคงไม่มีทางจะคิดเข้าร่วมพันธมิตรโอสถเป็นแน่แล้ว
หากแค่นี้ยังมองไม่ออกเขาก็คงไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้นำพันธมิตรแน่
แต่เขาก็ยังไม่อยากยอมแพ้
เพราะยอดอัจฉริยะอย่างเย่หยวนนั้นมันหาได้ยากนักแม้จะรอนับล้านๆ ปี
เพราะแม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน
เขานั้นมีวิชาและอำนาจของพันธมิตรโอสถจึงก้าวมาถึงระดับนี้ได้
แต่เย่หยวนคนนี้ ไม่มีอะไรหนุน?
เย่หยวนนั้นก้าวขึ้นมาถึงระดับแท้ได้ด้วยพลังของตนเองและเริ่มศาลาโอสถขึ้นมาจนทำให้พันธมิตรโอสถต้องถอนตัวไป
นี่มันคือตัวตนระดับปรมาจารย์อย่างแท้จริง!
วันหน้าหากเย่หยวนรอดชีวิตไปได้เขาย่อมจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของโฉปู้ฉุนได้แน่!
เรื่องนี้มันไม่มีอะไรต้องสงสัย
เย่หยวนนั้นบาดเจ็บหนักหน่วงแต่เขาก็ยังตอบกลับไปด้วยใบหน้าหนักแน่น “เจ้ารู้คำตอบดีทำไมยังต้องถามเล่า?”
หวงฟู่หยุนซือถอนใจยาวออกมา “ข้านั้นรู้คำตอบแต่ข้าก็ยังอดถามไม่ได้! ในความคิดของข้านั้นเจ้ามันสำคัญกว่านิกายสวรรค์ยุทธมั่นมากล้ำนัก!
คำพูดนี้มันทำให้เหล่าคนจากพันธมิตรโอสถต้องหันมามอง
เพราะแม้แต่ตอนที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนั้นหวงฟู่หยุนซือก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีชื่นชมเขามากมายปานนี้!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แต่ในสายตาข้านั้นต่อให้จะมีร้อยพันธมิตรโอสถมันก็ไม่เทียบเคียงแม้แต่เศษเสี้ยวของนิกายสวรรค์ยุทธมั่น!”
สหายดีๆ นั้นมันหายากยิ่งนัก!
หลัวหยุนชิงนั้นเลือกที่จะคอยดูเย่หยวนมานานถึงสิบปีกว่าที่จะเข้ามาชักชวน
หลังจากเข้านิกายมาแล้วตัวเฟิงซวนยี่ยังช่วยปกป้องเขาจากทุกอย่างและเชื่อมั่นในตัวเย่หยวน มันย่อมสมควรได้รับการตอบแทน!
มันก็จริงที่ว่านิกายนี้มันก็มีคนอย่างฉือเฟยหยูอยู่มาก
แต่ความอบอุ่นที่นิกายมอบให้มันก็ไม่น้อยไปกว่ากัน
“หึ! ไม่รู้จักตอบรับเวลาคนเขาไว้หน้า! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วข้าคนนี้ก็จะส่งเจ้าไปเอง!”
หวงฟู่หยุนซือนั้นยกมือขึ้นมาอีกครั้งด้วยใบหน้าเย็นเยือก!
ฝ่ามือนี้มันกลับรุนแรงมากกว่าก่อนหน้าเสียด้วยซ้ำ
เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะไม่มากมายนักทำให้เขาใช้งานเขาแห่งถงเทียนได้อย่างจำกัด ตอนนี้เขาไม่อาจจะควบคุมมันได้แล้ว
กำลังของยอดฝีมือระดับเจ้านิกายนั้นตัวเย่หยวนนี้ย่อมจะไม่มีทางต่อต้านใดๆ ได้
ต่อให้เย่หยวนจะมีสมบัติวิญญาณสวรรค์อย่างเขาแห่งถงเทียนอยู่ในมือแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ใด!
หากความแตกต่างของพลังบ่มเพาะมันสามารถถูกสมบัติมากลบถมได้สิ้นแล้วใครจะยังคิดบ่มเพาะกันอีก?
คลื่นพลังนั้นมันมากพร้อมกันสายลมรุนแรงจนแทบพัดเย่หยวนปลิวไป
แต่แม้จะต้องเจอกับพลังฝ่ามือรุนแรงนี้เย่หยวนกลับยังมีสีหน้าเรียบเฉยได้
ไกลออกไปเหล่าศิษย์นิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นต่างหนีออกไปจากวงล้อมและแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง
บนยอดเขานั้นเองเฟิงซวนยี่และหลัวหยุนชิงต่างก็ยืนตัวโชกเลือดเพราะการต่อสู้อันยาวนานที่แสนเหนื่อยยากนี้
การต้องรับมือยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับร้อยเช่นนี้ไหนจะยังมีตัวเสี่ยวเฟยไป่ที่สุดแข็งแกร่งนั่นอีก มันย่อมจะไม่มีทางรอดปลอดภัยได้ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งกาจสักแค่ไหน
เวลานี้เย่หยวนที่กำลังเผชิญความตายนั้นกลับมีจิตใจที่สุดแสนสงบ
เขานั้นไม่มีแรงเหลือจะดิ้นรน!
พันธมิตรโอสถมันแข็งแกร่งจนเกินไป!
ไม่สิ มันเป็นเขาเองต่างหากที่อ่อนแอจนเกินไป!
ต่อให้จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขึ้นมามันก็คงไม่มีประโยชน์ใด!
ตูม!
มันเกิดเสียงดังลั่นขึ้นมา
เย่หยวนนั้นรู้สึกมึนๆ เล็กน้อยก่อนจะรู้สึกว่าความเจ็บปวดมันจางหายไปสิ้น
เวลานี้มีชายแก่ชุดดำคนหนึ่งยืนบังหน้าเย่หยวนอยู่
ชายแก่ชุดดำคนนี้มันทำให้เขารู้สึกยากจะอธิบาย
มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และเหนือล้ำ!
ตั้งแต่มาถึงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เย่หยวนก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
เหมือนว่าทุกสิ่งอย่างนั้นมีแต่ความยากเย็นและติดขัด
มันเหมือนว่าทุกสิ่งอย่างนั้นได้ถูกเต๋าสวรรค์ผูกมัดไว้สิ้น
แต่ชายแก่คนนี้มันกลับทำลายความเข้าใจนั้นของเย่หยวนลง
เพราะชายแก่คนนี้มีท่าทางเหมือนราวกับว่าเขานั้นหลุดพ้นจากเต๋าสวรรค์และกลายเป็นเทพเจ้าที่ปกครองโลกหล้าอย่างแท้จริง
“เจ้าหนุ่ม เอามันไป!”
ชายแก่คนนั้นโยนของบางอย่างมาให้อย่างไม่แม้แต่จะหันมองเย่หยวน
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมารับและพบว่ามันคือเศษหยกส่วนหนึ่ง
“ผู้อาวุโส นี่มัน…” เย่หยวนกล่าวขึ้นถาม
ชายแก่นั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “นี่มันคือจี้วงหยกฟีนิกซ์สวรรค์ที่ท่านโฉเคยมอบเอาไว้ให้แต่ละเจ้านิกายทั้งห้าคน คนละส่วน! ท่านโฉเคยบอกว่าหากห้านิกายสวรรค์ถึงคราวหายนะแล้วก็จงเอาส่วนทั้งห้านี้มารวมกันและจะสามารถผ่านเรื่องทุกยากไปได้ แต่น่าเสียดายที่วันนี้มันคงไม่มีโอกาสจะได้ใช้งานแล้ว เจ้าเอามันหนีไปเสีย!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “ผู้อาวุโสคงเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนแล้ว? มีท่านอยู่แล้วเราจะยังไม่อาจเอาชนะพันธมิตรโอสถได้อีกหรือ?”
ชายแก่นั้นหัวเราะลั่นขึ้นตอบ “เจ้าหนุ่ม เจ้าเองก็ไม่ได้โง่ เจ้าจะบอกว่ายังมองไม่ออกหรือ? วันนี้มันคงเป็นจุดจบของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นแน่แล้ว!”
เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นทันที!
เพราะความหมายในคำพูดของชายแก่นั้นมันชัดเจน ทางพันธมิตรโอสถเองก็มียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเช่นกัน!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือชายแก่คนนี้ไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วย!