Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2653 สงครามทะเล
เมื่อบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขึ้นมาได้ทุกรูขุมขนของเจียงหลี่ก็เปิดกว้างรับพลังอย่างสงบ
ความรู้สึกเบิกบานในใจของเขานี้มันยากจะอธิบายให้คนนอกเข้าใจ
เขานั้นค่อยๆ เดินเข้าไปหาเย่หยวนก่อนจะก้มหัวลงต่ำ “ขอบพระคุณอาจารย์เย่! การประลองกับอาจารย์เย่นั้นมันเป็นความไม่ประเมินตนเองของเจียงหลี่เอง โปรดให้อภัยเจียงหลี่ด้วย”
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นรู้ดีว่ายอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งสวรรค์ใต้นั้นเป็นคนที่เย่อหยิ่งแค่ไหน
แต่เวลานี้เจียงหลี่ผู้เย่อหยิ่งกลับก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนด้วยท่าทางราวกับศิษย์ที่กราบอาจารย์!
เขานั้นใช้เงินกว่าหกสิบแปดล้านผลึกสวรรค์ในการซื้อโอสถสวรรค์ระดับสองแล้วยังคิดมาก้มหัวให้แก่อีกฝ่าย
สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วเรื่องเช่นนี้มันย่อมเป็นการเสียศักดิ์ศรีอย่างมาก
แต่เจียงหลี่นั้นทำ!
พวกชุยถงทั้งสามนั้นหันมามองหน้ากันอย่างตกตะลึงสุดหัวใจ
เจียงหลี่เองก็เป็นคนจากหอโอสถสวรรค์ใต้เหมือนๆ กับพวกเขา ตัวเจียงหลี่เองเย่อหยิ่งแค่ไหนพวกเขาย่อมจะรู้ดีแก่ใจ
การทำให้เจียงหลี่ผู้เย่อหยิ่งก้มหัวลงได้เช่นนี้มันย่อมจะมิใช่แค่เพราะเย่หยวนช่วยให้เขาบรรลุได้แต่มันย่อมจะเป็นเพราะว่าฤทธิ์ของโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นที่ทำให้เจียงหลี่เข้าใจถึงความเหนือล้ำของเย่หยวน!
ความแตกต่างเช่นนี้มันย่อมจะมากพอที่จะก้มกราบเป็นอาจารย์ได้!
ในหมู่คนทั้งหลายนี้มันมีเพียงแค่เจียงหลี่เท่านั้นที่ได้กินโอสถสวรรค์ระดับแท้นั่นหมายความว่าคนที่เข้าใจพลังของโอสถสวรรค์ระดับแท้อย่างแท้จริงนั้นมันมีเพียงแค่เขาเช่นกัน
คนอื่นๆ นั้นแค่พอเดาได้จากการที่เขาบรรลุขึ้นมา
แต่ดูท่าแล้วโอสถสวรรค์ระดับแท้มันจะมีฤทธิ์ที่เหนือกว่าที่พวกเขาทั้งหลายได้เห็น!
“อืม” เย่หยวนตอบกลับไป
เจียงหลี่นั้นก้มหัวลงต่ำอีกครั้งหนึ่ง “เจียงหลี่นั้นอยากคิดติดตามรับใช้อาจารย์เย่ไป อาจารย์เย่โปรดรับข้าไว้ด้วย”
เย่หยวนเงียบลงไปทันที
เขานั้นกำลังลังเล
สายตาของคนทั้งหลายนั้นหันมามองเย่หยวนเป็นตาเดียว
หลังจากคิดอยู่นานในที่สุดเย่หยวนก็ตอบกลับมา “ได้!”
เย่หยวนนั้นแบกรับชะตาของนิกายเอาไว้เขาย่อมจะต้องกลับไปยังห้ายอดแดนสวรรค์
เขาต้องกลับไปทำลายพันธมิตรโอสถ!
แต่เขาไม่อาจจะทำลายพันธมิตรโอสถลงได้ด้วยตัวคนเดียว
พันธมิตรโอสถมันแข็งแกร่งจนเกินไป!
แม้จะไม่นับตัวผู้นำพันธมิตรคนนั้น แต่แค่ตัวหวงฟู่หยุนซือนั่นก็คงจะบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ในไม่ช้า
ไหนจะยังมีเสี่ยวเฟยไป่ที่เก่งกาจกว่าเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายอีก ชางหยงหนิงนั้นยังหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ได้ เย่หยวนย่อมจะไม่ประมาทคิดว่าผู้นำพันธมิตรโอสถนั้นหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ไม่ได้
เวลานี้เมื่อพันธมิตรโอสถสามารถยึดครองรวมห้ายอดแดนสวรรค์เป็นหนึ่งได้แล้วพวกเขาย่อมจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปกว่าเก่าหลายเท่าตัว
เย่หยวนจึงต้องหาค่ายสำนักที่ยิ่งใหญ่หนุนหลังไปสู้
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วทำไมเขาจะไม่คิดสร้างค่ายสำนักนั้นขึ้นมาในแดนสวรรค์ใต้นี้เล่า?
ศาลาโอสถถูกทำลายลงไปแล้ว แต่เขาก็สามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ในแดนสวรรค์ใต้นี้!
เจียงหลี่นั้นยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบรับของเย่หยวนก่อนจะรีบเดินไปยืนด้านหลังทันที
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
บรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาได้แล้วตัวเจียงหลี่ย่อมจะเป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่
แต่เขานั้นกลับยังคิดติดตามเย่หยวนไป!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เก่อหลิงได้ก้าวขึ้นมาตาม “อาจารย์เย่ ศิษย์เองก็คิดอยากติดตามท่าน!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ได้!”
เก่อหลิงนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาก่อนจะเดินวนไปยืนข้างๆ ตัวเจียงหลี่
พวกชุยถงทั้งสามคนนั้นได้แต่หันมองหน้ากันอย่างมึนงง
แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้ค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะยกมือขึ้นคารวะคนทั้งหลาย “ขออภัยทุกท่านด้วยจริงๆ แม่นางซูและหวงห่าวหยานนั้นได้ช่วยข้ามาจากทะเลมันถือเป็นคุณแก่เย่ผู้นี้ เย่ผู้นี้จึงคิดจะอยู่ในเมืองสงบทักษิณต่อไป”
ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของชุยถงและซุนหยุนจิงทั้งหลายก็ต้องเปลี่ยนสีไป ใบหน้านั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความผิดหวัง
แต่ซูยี่นั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา
เขานั้นรู้สึกสิ้นหวังมาตลอดตั้งแต่ได้ยินคำเชิญของซุนหยุนจิง ไม่นึกฝันว่าสุดท้ายแล้วเย่หยวนกลับจะเลือกอยู่ที่เมืองของเขานี้
ยอดปรมาจารย์เช่นนี้อยู่ในเมืองสงบทักษิณมันย่อมจะสร้างประโยชน์มหาศาล
ต่อให้จะต้องยกเมืองสงบทักษิณนี้ให้เย่หยวนไปเขาก็ยอม
ซูยี่นั้นคาดหวังไว้ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเมืองสงบทักษิณนี้มันจะต้องกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของแดนสวรรค์ใต้เป็นแน่
ยอดฝีมือมากมายจะต้องมารวมตัวกันที่นี่
สถานการณ์เช่นนี้มันย่อมจะสร้างประโยชน์ให้เจ้าเมืองอย่างเขามหาศาล
ตูม!
ปัง! ปัง!
แต่ซูยี่ยังยิ้มได้ไม่นานมันก็ต้องเกิดเสียงฟ้าผ่ารุนแรงลงมาท่ามกลางท้องฟ้าที่แสนสดใส
“ฟ้าโปร่งเช่นนี้แท้ๆ ทำไมมันถึงมีเสียงฟ้าผ่าลงมาได้? ไปเร็ว ไปดูมา!” ซูยี่กล่าวขึ้นมา
ลูกน้องของเขานั้นรับคำสั่งและพุ่งตัวหายไปทันที
ไม่นานจากนั้นเขาก็พุ่งตัวกลับเข้ามาในห้องก่อนจะกล่าวรายงานขึ้น “ท่านเจ้าเมืองทั้งหลาย เวลานี้มันเกิดลมฟ้ารุนแรงที่ด้านนอกพร้อมด้วยเมฆฝนดำครึ้มที่คืบคลานท้องฟ้าเปี่ยมล้นไปด้วยสายฟ้าพุ่งผ่านฟ้าผ่าลงมาตามรายทาง!”
ชุยถงนั้นเบิกตากว้างขึ้น “ทำไมจู่ๆ อากาศมันถึงเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้? หรือว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน? ไป! ไปดูกันเสียหน่อยพวกเรา!”
คนทั้งหลายนั้นต่างพุ่งตัวออกมาด้วยใบหน้ามึนงงสงสัย
เวลานี้ท้องฟ้าครึ่งนี้มันโปร่งใสแต่อีกครึ่งหนึ่งนั้นมันกลับมีเมฆฝนดำมืดสนิทเคลื่อนตัวเข้ามา
ไม่นานเมฆดำนั้นมันก็ปกคลุมท้องฟ้าสิ้น
พร้อมกันนั้นฝนรุนแรงมันก็ซัดซาดลงมาราวกับฟ้ารั่วลงใส่ทั้งเมืองจนแทบมองไม่เห็นภาพตรงหน้า
เมื่อซูยี่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “หากมันยังตกในระดับนี้ต่อไปน้ำทะเลมันต้องหนุนขึ้นในไม่ช้าแน่! หากภูติแท้เผ่าทะเลนั้นบุกขึ้นมาแล้วผลที่ตามมามันคงเหลือล้ำเกินรับมือ! รีบส่งคำสั่งไป ให้เหล่าผู้คนในเมืองย่อยรอบๆ นั้นรีบหนีเข้ามาหลบในเมืองสงบทักษิณ!”
ชุยถงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “สภาพนี้ หรือว่า…”
หวู่เต้าที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นพยักหน้ารับ “แน่นอนแล้ว มันต้องเป็นวิชาลับกำเนิดพิรุณสวรรค์ของราชวงศ์หนามใต้แน่! แต่วิชาลับขนาดใหญ่เช่นนี้ ราชวงศ์หนามใต้คงใช้สังฆราชระดับสี่ไม่น้อยกว่าสิบตนแน่! การใช้วิชาลับระดับนี้ออกมามันย่อมจะทำให้เหล่าสังฆราชนั้นขยับไม่ได้ไปอีกนาน อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นถึงสามสิบปีแน่! ราชวงศ์หนามใต้มันคิดทำบ้าอะไรของมันกัน?”
ซูยี่ที่ได้ยินนั้นต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยความตกตะลึง “มันกลับเป็นวิชาลับกำเนิดพิรุณสวรรค์! นี่ราชวงศ์หนามใต้มันคิดจะประกาศสงครามทะเลหรือ? มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
สงครามทะเลนั้นมันคือสงครามเต็มรูปแบบ!
สงครามในระดับนี้มันจะส่งผลเสียหายไปทั้งแดนสวรรค์ใต้อย่างไม่มีใครสามารถรอดพ้นไป
ในสงครามเช่นนี้มันย่อมจะต้องมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายมหาศาลไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายแดนสวรรค์ใต้หรือของฝ่ายเผ่าทะเลทั้งหลาย
แต่ฝ่ายที่จะเสียหายมากกว่ามันย่อมจะเป็นแดนสวรรค์ใต้แน่แล้ว
หลายปีมานี้แม้ว่าแดนสวรรค์ใต้จะมีเรื่องปะทะกับทะเลหนามใต้มาตลอดแต่มันก็ไม่ถึงขั้นจะเปิดฉากสงครามเต็มรูปแบบ
สงครามเช่นนี้มันก็เคยเกิดขึ้นมาในอดีตแต่ส่วนใหญ่แล้วมันจะเกิดขึ้นมาเพราะมีเหตุพิเศษบางอย่าง
แต่ว่าในครั้งนี้ทางราชวงศ์หนามใต้นั้นกลับบุกเข้ามาทำสงครามอย่างไม่มีการประกาศบอกสัญญาณเตือนใดๆ
วิชาลับกำเนิดพิรุณสวรรค์นั้นมันคือสุดยอดวิชาที่ใช้พลังของกฎธาตุน้ำสร้างฝนขึ้นมา!
หลังจากที่ทำให้เกิดฝนหนักแล้วมันก็จะเหมือนเป็นการสร้างทะเลขึ้นมาในเมือง!
เมื่อซูยี่ได้เห็นเช่นนั้นมีหรือที่เขาจะไม่ตกตะลึง?
ชุยถงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าหนักใจ “เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว! เราต้องรายงานทางเมืองสวรรค์ใต้ทันทีแล้วให้ท่านเจ้าเมืองส่งกำลังเสริมออกมาช่วย! แต่จะอย่างไรมันก็คงช้าเกินป้องกันแล้ว สงครามทะเลครั้งนี้มันกะหันทันจนเกินไป!”
ซูยี่นั้นกังวลจนได้แต่ต้องกระทืบเท้ากัดฟันแน่น “ทำไมกัน? ทำไมมันกลายเป็นเช่นนี้ไป? แดนสวรรค์ใต้ของเรานั้นน่าจะยังอยู่ในสัญญาสงบศึกกับราชวงศ์หนามใต้อีกไปพันปี! ทำไมพวกมันจึงคิดฉีกสัญญาลงหน้าด้านๆ เช่นนี้?”
การโจมตีของราชวงศ์หนามใต้นั้นมันย่อมจะมิใช่สิ่งที่เมืองชายขอบอย่างเมืองสงบทักษิณจะรับมือไว้ได้
พวกเขานั้นมีกำลังยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมากพอที่จะทำลายเมืองสงบทักษิณลงได้ในพริบตา
ในฝูงชนนั้นเย่หยวนก็ได้แต่ต้องผงะไปเมื่อได้ยิน
เวลานี้สมองของเขามันย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องที่พวกซูเป่ยหยุนถูกตามไล่ล่าในทะเล
หากฟังจากที่ซูเป่ยหยุนว่ามานั้นเผ่าเงือกมันย่อมจะไม่ได้มีนิสัยโหดร้ายรุนแรงจนจะตามไล่มาสุดทางเช่นนี้
แต่พวกมันนั้นกลับตามไล่มา
คนทั้งหลายนั้นไปลักทรัพสมบัติของอีกฝ่ายมา ดูท่าแล้วในหมู่สมบัติที่เอามานั้นมันจะต้องมีสิ่งที่สำคัญล้ำอยู่ด้วยแน่
เวลานี้แม้แต่ราชวงศ์หนามใต้ก็ยังออกโรงมา
เช่นนั้นแล้วมันย่อมจะหมายความว่าสมบัตินั้นมันเป็นสิ่งของสำคัญต่อราชวงศ์หนามใต้เช่นกัน!
หรือว่าคือหอยสังข์นั่น?
…………………………