Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2678 ดึงดูดความสนใจ
“เย่หยวน ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ! ข้านั้นจะขอรับใช้เจ้าเยี่ยงทาสตอบแทนที่เจ้าไว้ชีวิตข้าในวันนี้แน่!” เสียงของเถี่ยซินนั้นดังขึ้นมาจากภายในมุ้งน้ำ
เสียงของเขานั้นมันเหมือนแทบจะร้องไห้
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขายอมทนรับความอับอายเพื่อหนีความตายนั้นคนทั้งหลายก็คงพอเดาได้ว่าเขานั้นเป็นคนที่รักชีวิตกลัวตายแค่ไหน
“เย่หยวน ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยข้าไปวันนี้ตระกูลหมินข้าจะติดตามรับใช้เจ้าอย่างไม่คิดขัด!” หมินหนานชานกล่าวขึ้นมาเพราะตัวเขาเองก็ยังไม่อยากจะตายลง
“ใช่ๆๆ! เย่หยวน คนของข้าเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหมิน! ตราบเท่าที่เจ้าไว้ชีวิตข้า เจ้าก็เอาพวกเขาไปใช้งานได้เลย!” เถี่ยซินกล่าวขึ้น
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “เช่นนั้นก็ส่งตราวิญญาณดั่งเดิมของเจ้ามาแล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าให้!”
ในตอนนี้เขาต้องการพลัง การได้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดมาใช้งานนั้นมันย่อมจะไม่แย่มาก
แม้ว่าคนทั้งสองนี้จะมีนิสัยโง่เง่าแต่ตราบเท่าที่เขานั้นยังถือครองตราวิญญาณดั่งเดิมของพวกเขาไว้ ตัวเย่หยวนก็สามารถจะสังหารพวกเขาลงได้ทุกเมื่อ
คนทั้งสองนั้นย่อมจะเกรงถึงผลที่ตามมาจนไม่กล้าทำอะไรอีกต่อไปแน่นอน
เมื่อเถี่ยซินและหมินหนานชานได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไปเช่นกัน
การส่งตราวิญญาณดั่งเดิมให้นั้นมันเท่ากับว่าพวกต้องใช้ชีวิตอยู่ในกำมือของเย่หยวน
เย่หยวนนั้นสามารถสั่งสังหารเขาได้ในพริบตาไม่ต่างอะไรจากทาส
แต่หากพวกเขานั้นไม่ส่งตราวิญญาณดั่งเดิมให้ไปแล้ว พวกเขาก็มั่นใจว่าชีวิตของตนคงต้องจบสิ้นลงแน่
“พวกเจ้ามีเวลาสามอึดใจให้คิด!” ได้เห็นคนทั้งสองลังเลเช่นนั้นแล้วเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาเร่ง
เถี่ยซินนั้นหน้าซีดขาวลงก่อนจะกล่าวขึ้น “ข้าเอาให้แล้ว! เอาให้แล้ว!”
หมินหนานชานกล่าวขึ้นมาตาม “ข้าก็จะเอาให้เช่นกัน!”
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวขึ้น “ไอ้โง่ หยุดมือ!”
ฉลามดำนั้นหันกลับมามองด้วยความไม่พอใจ “พ่อเจ้านี้มีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด แต่เจ้ากลับมาคิดสั่งข้า เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายมังกรหรืออย่างไร?”
แต่เด็กมังกรน้อยนั้นกลับกล่าวขึ้นมาแทรก “พี่เขามีสายเลือดมังกรที่บริสุทธิ์ยิ่ง แม้แต่เหล่าพี่ๆ ของข้าเองก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงเขาได้! เอาล่ะ ลุงฉลามดำ หยุดมือเถอะ!”
เด็กน้อยผู้นี้ทำตามคำสั่งของเย่หยวนทุกอย่างสิ้น ฉลามดำเองก็ได้แต่ต้องหยุดมือลง
เถี่ยซินได้แต่ต้องกัดฟันแน่นยื่นมอบตราวิญญาณดั่งเดิมของตนเองออกมา
เย่หยวนนั้นรับเอาตราวิญญาณดั่งเดิมเข้ามาผสานกับวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเขาพร้อมรู้สึกได้ทันทีว่าเขาสามารถควบคุมชีวิตของเถี่ยซินได้สิ้นเชิง
เขานั้นแค่คิดก็สามารถสังหารเถี่ยซินลงได้!
เมื่อยื่นมอบตราวิญญาณดั่งเดิมให้ไปแล้วคนทั้งสองต่างก็ทำหน้าเศร้าเหมือนเพิ่งเสียคนรักไป
ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขานั้นก็เป็นถึงยอดคนที่ปกครองดินแดนกว้างใหญ่ แต่เวลานี้พวกเขากลับต้องมาเป็นทาสคนอื่น
เย่หยวนกล่าวขึ้น “พวกเจ้าไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นไป การเป็นทาสของข้านั้นมันอาจจะเป็นโชคของพวกเจ้าเสียด้วยซ้ำ ตราบเท่าที่พวกเจ้าทำงานได้ดีแล้ววันหน้าข้าอาจจะคิดช่วยเหลือให้พวกเจ้าขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนก็ได้”
“เฮอะ! พูดจาไร้สาระเสียจริง! เจ้าคิดว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันเป็นผักกาดหรืออย่างไร?” เสียงของเย่หยวนยังไม่ทันจางหายตัวฉลามดำก็รีบแทรกขึ้นมา
แต่เถี่ยซินและหมินหนานชานนั้นต่างสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของพวกเขานั้นเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความหวัง
หากมันมีใครคนอื่นกล่าวเช่นนี้ขึ้นมาแล้วพวกเขาก็ย่อมจะไม่คิดเชื่อถือแน่
แต่นี่คือเย่หยวน!
เขานั้นคือคนที่สามารถหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ขึ้นมาได้!
ก็จริงที่ว่าตอนนี้เขายังมีพลังบ่มเพาะต่ำต้อยแต่อนาคตวันหน้าของเขานั้นมันยิ่งใหญ่ล้นฟ้า!
หากวันหนึ่งเขาก้าวขึ้นมาเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่ได้แล้ว การจะส่งพวกเขาขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันย่อมมิใช่เรื่องยากเย็นเลย!
“เจ้ามันจะรู้อะไร! มีหรือที่ฝีมือของนายท่านนั้นจะเป็นสิ่งที่คนอย่างเจ้าเข้าใจได้? นายท่านโปรดวางใจเถอะ เถี่ยซินผู้นี้จะทำงานอย่างสุดตัวไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน!” เถี่ยซินนั้นกล่าวขึ้นมาพร้อมก้มหัวอย่างเคารพ
“หมินหนานชานขอกราบนายท่าน!”
ฉลามดำนั้นต้องผงะไปเมื่อได้ยิน ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมท่าทางของคนทั้งสองมันถึงได้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้
หรือว่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งสองนี้มันจะไม่รู้ว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันบรรลุได้ยากยิ่งแค่ไหน?
หากมันบรรลุได้ง่ายๆ แล้วป่านนี้คนทั้งทวีปพิรุณใสก็คงมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอยู่มากมายแล้วมิใช่หรือ?
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ในเมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าทั้งสองก็กลับไปก่อนเถอะ พวกเจ้าต้องทำตัวอย่างไรข้าว่าข้าคงไม่ต้องบอกสั่งหรอกใช่หรือไม่?”
“เข้าใจขอรับ!” คนทั้งสองรีบกล่าวรับทันที
ในเวลานี้เองที่เย่หยวนได้หันมามองจุดที่หวงห่าวหยานและซูเป่ยหยุนซ่อนตัวอยู่ก่อนจะยกมือขึ้นมากวักเรียก
คนทั้งสองนั้นผงะไปเล็กน้อย ที่แท้แล้วเย่หยวนกลับรู้ว่าพวกเขากำลังซ่อนตัวมองดูเรื่องราวอยู่แต่แรก
“อาจารย์เย่ เรา…”
เย่หยวนมือขึ้นมาโบกปัดก่อนจะกล่าว “ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก ข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดทำอะไร พวกเจ้าทั้งสองตามพวกมันนี้กลับไปยังเมืองสวรรค์ใต้เสีย หากมันทำอะไรไม่ชอบมาพากลพวกเจ้าจงใช้สิ่งนี้ติดต่อข้า”
พูดไปเย่หยวนก็หยิบเอาหอยสังข์น้อยออกมาให้คนทั้งสองไป
ได้เห็นกองกำลังที่เย่หยวนพามานั้นพวกหวงห่าวหยานทั้งสองต่างต้องอ้าปากค้างตั้งแต่ต้นจนจบ
วินาทีที่พวกเขาได้เห็นเผ่าทะเลนั้นคนทั้งสองจึงได้รู้ว่าพวกเขาเสียเวลาห่วงเปล่าแล้ว
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นั้นกลับทำให้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดมาเป็นทาส มันเป็นเรื่องที่เหนือล้ำความคาดหมายทุกผู้คน แต่เย่หยวนนั้นทำได้
อย่างไรเสียเย่หยวนก็ยังกังวลเรื่องของคนทั้งสองอยู่จึงคิดส่งพวกเขาไปดูแลกำกับ เมื่อพวกหวงห่าวหยานตามไปด้วยแล้วต่อให้เถี่ยซินกับหมินหนานชานจะคิดไม่ซื่อมันก็คงไม่มีโอกาสทำ ตราบเท่าที่หวงห่าวหยานส่งข้อความมาบอกแล้วเย่หยวนย่อมจะสามารถสังหารคนทั้งสองนี้ได้แม้จะอยู่ห่างไกลกันไปคนละซีกโลกก็ตาม
…
ในทะเลลึกนั้นมันมีวังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
รอบๆ ของมีค่ายกลยิ่งใหญ่หลายชั้นถูกตั้งซ่อนทับกันอยู่ นี่คือวังมังกรหนามใต้!
เมื่อเย่หยวนเข้ามาถึงวังมังกรเขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
เพราะเวลานี้ทุกส่วนในวังมันมีแต่เสียงดนตรีรื่นเริง กลุ่มหญิงงามมากมายร่ายรำกันทุกหนแห่ง
เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดหลงตัวเองถึงขั้นว่าจะเข้าใจผิดคิดว่านี่คือการต้อนรับจากราชามังกรน้ำดำ
“จิงเฟย หรือว่าตอนนี้ในวังมังกรมันจะมีแขกสำคัญมาเยี่ยมเยียน?” เย่หยวนถามขึ้น
จิงเฟยยิ้มตอบกลับไป “ฮี่ๆ พี่ตามมาเถอะเดี๋ยวก็รู้เอง”
เย่หยวนนั้นได้แต่ยืนนิ่งเพราะดูจากสีหน้าของเด็กน้อยคนนี้แล้ว นางคงจะวางแผนการอะไรไว้แน่นอน
เมื่อเดินตามจิงเฟยไปเรื่อยๆ เย่หยวนก็มาถึงยังโถงใหญ่ภายในวังมังกร
เมื่อเข้ามาถึงนั้นเขาได้เห็นว่ามันกำลังมีงานเลี้ยงใหญ่จัดขึ้นภายใน
เมื่อเย่หยวนเดินเข้ามาถึงนั้นมันย่อมจะทำให้สายตาหลายคู่หันมาจ้องมอง
กลางโถงใหญ่นั้นมันมีบัลลังก์ใหญ่ตั้งอยู่พร้อมด้วยยอดฝีมือที่มีหัวเป็นมังกรและร่างเป็นคน ใบหน้าของเขานั้นมันเป็นสีดำมืด ดูท่าแล้วนี่คงเป็นราชามังกรน้ำดำ
ราชามังกรน้ำดำนั้นให้ความรู้สึกที่ลึกล้ำแก่เย่หยวน เหมือนดั่งตัวชายชุดดำที่มาช่วยเขาไว้ในครานั้น
เพียงแค่ว่าความลึกล้ำของราชามังกรน้ำดำนั้นมันยังไม่เท่าของตัวชายชุดดำคนนั้น
ดูท่าแล้วเขาคงยังก้าวขึ้นไม่ถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างเต็มตัว!
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ข้ากลับมาแล้ว!” จิงเฟยนั้นวิ่งนำเย่หยวนเข้าไปกอดราชามังกรน้ำดำทันที
ราชามังกรน้ำดำนั้นกล่าวดุขึ้นมา “เด็กคนนี้ เจ้าลักพาตัวแม่ทัพของข้าออกไปสิ้น นี่ไปก่อเรื่องที่ไหนมาอีกแล้วเล่า?”
จิงเฟยนั้นยิ้มกว้างตอบกลับไป “ฮี่ๆ มันมีคนร้ายคิดหมายชีวิตพี่ข้า ข้าจึงออกไปช่วยพี่ข้ามา อ่า จริงด้วย! เขานี่แหละคือพี่คนที่ข้าเคยพูดถึง เขาสุดยอดมาก! แม้แต่เสด็จพี่ทั้งหลายเองก็คงยังไม่สุดยอดเท่าพี่คนนี้เลย”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องรู้สึกขนลุกทั้งร่างขึ้นมาทันทีเพราะสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรจากทั่วทิศ
ในโถงใหญ่นี้มันมีชายหนุ่มอยู่มากมายและดูจากสภาพการแต่งตัวแล้วพวกเขาคงเป็นชนชั้นสูงของเผ่าทะเลเป็นแน่
คำพูดประโยคเดียวของเด็กน้อยคนนี้มันกลับทำให้เขากลายเป็นเป้าสนใจทันที!
เย่หยวนหันไปเขม็งตามองจิงเฟยแต่อีกฝ่ายนั้นกลับยิ้มตอบ “ใช่แล้ว… ข้าจงใจทำ!”
……