Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2691 ไม่ใช่ของเจ้า
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? นั่นมันมังกรน้ำที่ราคามังกรน้ำดำเรียกขึ้นมามิใช่หรือ? ทำไมมันถึงหันกลับไปโจมตีตัวราชามังกรน้ำดำเล่า?”
“เขานั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าว แต่กลับถูกโจมตีจนต้องกระเด็นถอยกลับไปเป็นร้อยๆ เมตรด้วยมังกรน้ำของตัวเอง! นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน”
“ดูเหมือนว่าเย่หยวนนั้นจะใช้วิชาอะไรออกมาแต่สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันเป็นสมบัติของทะเลหนามใต้มิใช่หรือ?”
…
ไม่มีใครจะเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตรงหน้า!
ตั้งแต่ที่ราชามังกรน้ำดำนั้นได้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมาครองนั้นเขาก็สามารถใช้มันสยบยอดฝีมือทั้งเจ็ดทะเลได้สิ้น
สมบัติยอดหมอกนี้มันย่อมจะเป็นสมบัติที่หาเป็นชิ้นที่สองไม่ได้แล้วในแดนเจ็ดทะเล
แต่เวลานี้เจ้าสมบัติล้ำค่ามันกลับไม่คิดเชื่อฟังคำสั่งของเขาอีก!
แน่นอนว่าคนที่ตกตะลึงมากที่สุดนั้นมันย่อมจะเป็นตัวราชามังกรน้ำดำเอง
เขานั้นได้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมาครองเมื่อราวหมื่นกว่าปีก่อนและหลอมกลั่นให้มันกลายเป็นสมบัติประจำตัวไปสิ้นแล้ว
แต่ก่อนหน้านี้เขากลับเสียการควบคุมของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไป!
เขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่าเย่หยวนทำเช่นนี้ได้อย่างไร!
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้นราชามังกรน้ำดำได้เห็นสภาพอ่อนแอของเย่หยวนจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะจับตัวของเย่หยวนไว้
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับยังสามารถจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้เช่นนี้!
และสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเขาไม่เคยแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ออกมาแต่สภาพของเย่หยวนเมื่อสักครู่นั้นมันราวกับว่าเย่หยวนรู้มาก่อนและระแวดระวังเขาเสมอ
ในวินาทีที่เขาลงมือนั้นเย่หยวนก็ตอบโต้กลับมาได้ทันที
แต่ทำไมกัน?
เย่หยวนนั้นหันมามองที่ราชามังกรน้ำดำก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก “ในที่สุดก็รอไม่ไหวแล้วหรือ? ข้าก็คิดว่าเจ้าจะรอให้พวกเรากลับไปที่วังมังกรก่อนค่อยลงมือเสียอีก”
ได้ยินเช่นนั้นราชามังกรน้ำดำก็มั่นใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นรู้มาก่อนแล้วจริงๆ จึงได้เตรียมการรับมือได้ทัน!
เขาได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น “ราชาผู้นี้ไม่เคยแสดงท่าทีออกมาแท้ๆ ทำไมเจ้าถึงรู้กัน?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ยขึ้น “ยังจำตอนที่ข้าบรรลุก่อนจะเข้าไปในแดนมังกรหลับได้หรือไม่? น่าเสียดายที่ตอนนั้นข้าได้เข้าสู่สภาวะไร้ตัวตนและสัมผัสทุกสิ่งอย่างในที่แห่งนี้ได้ชัดเจน ตอนนั้นแหละที่ข้าได้รู้”
ราชามังกรน้ำดำนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยความเสียใจ
หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เขาคงไม่ปล่อยให้เย่หยวนได้เข้าใกล้แดนมังกรหลับแน่
แต่ตอนนั้นพลังบ่มเพาะของเย่หยวนมันก็ยังต่ำจนเกินใช้งาน
ต่อให้เขาจะเอาไขกระดูกมังกรของเย่หยวนออกมามันก็ไม่แน่ว่าสิ่งนั้นจะช่วยให้เขาบรรลุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้หรือไม่
ใครจะไปคิดฝันว่าเรื่องราวแปลกประหลาดเช่นนั้นมันกลับจะเกิดขึ้นมา?
“เสด็จพ่อ พี่เย่หยวนนั้นเป็นคนดี! ท่านจะฆ่าเขาทำไม?” จิงเฟยน้อยนั้นได้แต่ต้องถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
ราชามังกรน้ำดำนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ป่านนี้แล้วปิดซ่อนไปมันก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร! แม้ว่าข้านั้นจะได้สมบัติออกมาจากแดนมังกรหลับแต่ข้านั้นก็ยังไม่อาจจะบรรลุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ ไขกระดูกมังกรของเจ้าเด็กนี่มันถือเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนั้น! ตราบเท่าที่ราชาผู้นี้หลอมกลั่นไขกระดูกมังกรของมันแล้วข้าก็ย่อมจะสามารถบรรลุขึ้นไปได้แน่!”
เป็นตอนนั้นเองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจท่าทางของราชามังกรน้ำดำทั้งหมด!
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นก็ต้องผงะไปเช่นกันเพราะว่าเขานั้นไม่รู้ถึงเหตุผลที่ราชามังกรน้ำดำคิดร้ายมาก่อน เขานั้นคิดไปว่าอาจจะเป็นเพราะว่าตัวเย่หยวนนั้นไปขัดแผนการสงครามบุกขึ้นฝั่งของทะเลหนามใต้ ไม่นึกว่ามันกลับจะเพราะอีกฝ่ายหมายตาเอาพลังสายเลือดของเขา
“เด็กน้อย ในเมื่อเจ้ารู้แล้วก็คงพอเข้าใจใช่หรือไม่? ส่งไขกระดูกมังกรของตัวเองออกมาเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่สิ ข้าจะแต่งตั้งให้เจ้าได้เป็นราชามังกรของทะเลหนามใต้นี้เลยก็ยังได้” ราชามังกรน้ำดำกล่าวข้อเสนอออกมา
แม้ว่าภาพก่อนหน้านี้มันจะดูเหนือคาดใครหลายคนแต่ว่าตัวเขานั้นจะอย่างไรก็เป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าว
ต่อให้เขาจะไม่อาจใช้พลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกได้แต่เพียงแค่พลังของตัวเขานั้นมันก็มากพอที่จะจัดการปิดทางหนีของเย่หยวนทุกช่องทางสิ้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังมิใช่คนเดียวที่คิดอยากสังหารเย่หยวนในที่นี้!
เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความเย็นเยือกทันทีเพราะว่าไขกระดูกมังกรนั้นมันคือสิ่งสำคัญแก่เผ่ามังกรอย่างที่สุด!
พลังสายเลือดของเหล่ามังกรทั้งหลายนั้นมันล้วนเกิดขึ้นมาจากไขกระดูกมังกร
หากไม่มีไขกระดูกมังกรแล้วมันก็เหมือนมนุษย์ที่เสียโลกใบน้อยไป จะยังบ่มเพาะอะไรมันได้อีก!
แม้ว่ามันจะไม่ถึงตายแต่ก็นับได้ว่าเป็นความพิการในชีวิตนักยุทธ
แม้จะไม่ตายแต่สภาพเช่นนั้นมันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าความตาย
“เสด็จพ่อ ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร?” จิงเฟยนั้นร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ราชามังกรน้ำดำนั้นกล่าวตอบไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “จิงเฟย พ่อเจ้านี้จะหลอมไขกระดูกมังกรเข้าร่างและขึ้นเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน ข้านั้นจะได้กลายเป็นผู้ครองทะเลทั้งเจ็ดนี้อย่างแท้จริงเสียที! ถึงเวลานั้นเจ้าเองก็จะได้กลายเป็นองค์หญิงเจ็ดทะเล!”
“ข้าไม่สนใจองค์หญิงเจ็ดทะเลใดๆ! ข้าอยากเล่นกับพี่เย่หยวน! ท่านห้ามฆ่าเขา!” จิงเฟยร้องลั่นขึ้นก่อนจะเดินมาบังหน้าเย่หยวนไว้
ราชามังกรน้ำดำที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “มันมิใช่เรื่องของเด็กๆ! ฉลามดำ เอาตัวนางไป!”
“ข้าไม่ไปๆ!”
จิงเฟยนั้นไม่คิดยอมแพ้และพยายามเรียกใช้พลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยก
แต่นางกลับต้องได้พบว่าสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันไม่ขยับแม้แต่น้อย นางไม่อาจจะควบคุมมันได้เลย
การควบคุมของตัวนางนั้นยังอ่อนแอมากนักหากเทียบกับราชามังกรน้ำดำ
เมื่อไม่มีสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกแล้วตัวจิงเฟยก็ย่อมไม่อาจจะขัดขืนพลังของฉลามดำได้
เมื่อจัดการเรื่องราวเสร็จสิ้นแล้วราชามังกรน้ำดำก็หันกลับมาหาเย่หยวนด้วยรอยยิ้ม “เด็กน้อย ดูท่าเจ้าจะไปได้อะไรดีๆ จากแดนมังกรหลับมาจริงๆ ถึงขั้นสามารถแย่งการควบคุมของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไปจากมือข้าผู้นี้ได้! แต่ต่อให้จะไม่ต้องใช้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกข้าก็จัดการเจ้าได้ด้วยมือเดียวอยู่ดี!”
ตูม!
คลื่นพลังรุนแรงจากร่างของราชามังกรน้ำดำพุ่งทะยานขึ้นมาจนทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายในที่นี้เปลี่ยนสีไป
เขานั้นจะอย่างไรก็มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวแน่นอนว่ามันคือตัวตนที่สูงล้ำที่สุดของเจ็ดทะเลนี้
ตัวเขานั้นแทบไม่เคยจะใช้พลังเต็มที่ออกมาต่อหน้าผู้คน ภาพในวันนี้มันจึงทำให้เหล่ายอดอัจฉริยะหนุ่มสาวทั้งหลายได้เปิดหูเปิดตา
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจแม้แต่น้อยและยิ้มตอบกลับไป “หากเจ้าจะไม่ใช้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกแล้ว ข้าก็ขอใช้มันเองแล้วกัน!”
ราชามังกรน้ำดำนั้นผงะไปเมื่อได้ยินแต่ก็อดหัวเราะตอบกลับมาไม่ได้ “เจ้าคิดอยากใช้มัน? เพราะอะไรข้าถึงต้องให้เล่า? ข้านั้นหลอมครอบครองสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมากว่าหนึ่งหมื่นสองพันปีแล้ว สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวข้าไปแล้ว!”
แต่ระหว่างที่ราชามังกรน้ำดำกล่าวพูดไปเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาวาดตราบนอากาศ
ราชามังกรน้ำดำที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยอยู่นั่นจู่ๆ ก็ต้องผงะไปด้วยใบหน้าขาวซีด
เพราะสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันกำลังหาทางออกมาจากร่างกายของเขา
เขานั้นรู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองไม่อาจจะควบคุมสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกได้อีกต่อไปแล้ว
เพื่อที่จะไม่ถูกเย่หยวนแย่งควบคุมสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นตัวราชามังกรน้ำดำจึงได้ซ่อนสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไว้ในหว่างคิ้วของตน
“เจ้า! เจ้า… ได้ยังไงกัน?”
ราชามังกรน้ำดำนั้นได้แต่ต้องทำหน้าตาแตกตื่นและพยายามดึงรั้งสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไว้ในกายแต่เขาก็ค่อยๆ เสียพลังควบคุมสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไปทีละน้อยๆ
ฟุบ!
จนสุดท้ายสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันก็พุ่งออกไปจากกายของราชามังกรน้ำดำ!
ได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของคนทั้งหลายก็ต้องขาวซีดลงตาม
“นี่…เป็นไปได้อย่างไรกัน? ราชามังกรน้ำดำนั้นกลับไม่อาจควบคุมสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกได้หรือ!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันไปได้อะไรในแดนมังกรหลับมากันแน่?”
“แย่งไปแล้ว! มะ…มันแย่งไปได้จริง!”
…
สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นพุ่งเป็นแสงออกไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเย่หยวนทันที
ราชามังกรน้ำดำนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าดำมืด
เพราะเขานั้นสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสายสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาและสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมันถูกตัดขาดลงสิ้นแล้ว!
กว่าหมื่นปีมานี้ เขาเพิ่งจะเคยได้รู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรก
เมื่อสมบัติเช่นนี้ถูกหลอมกลั่นควบคุมเสร็จสิ้นแล้วมันก็ย่อมจะผสานเป็นหนึ่งกับเจ้าของ หากเขาไม่ตายลงมันก็ย่อมจะไม่มีทางถูกคนอื่นช่วงชิงไป
แต่เย่หยวนกลับทำได้!
เย่หยวนหันไปมองหน้าราชามังกรน้ำดำก่อนจะกล่าวขึ้น “สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นเดิมทีมันก็เป็นของแดนมังกรหลับนี้ ให้เจ้ายืมใช้ไปหลายปีมันก็ถือว่าเป็นคุณแก่เจ้าแล้ว วันนี้ข้าจะขอรับมันคืน! มันมิใช่ของเจ้าอีกต่อไป!”
พูดไปนั้นเย่หยวนก็ยกมือขึ้นมาหมุนเป็นวงอีกครั้ง
ตราวิญญาณของราชามังกรน้ำดำที่ฝังไว้ในสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันถูกลบล้างออกไปจนหมดสิ้นทันที
“อัก!”
ราชามังกรน้ำดำนั้นกระอักเลือดคำโตออกมาเหมือนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ดูท่าจิตของเขานั้นคงได้รับผลกระทบไปอย่างรุนแรงแล้ว
เขาหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาที่โกรธแค้นจนอยากจะเผาร่างของเย่หยวนให้สิ้นซากไป