Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2700 ให้โชคพวกเจ้า
ได้เห็นเย่หยวนถามขึ้นมาเช่นนั้นตัวจั่วชิงก็ต้องทำหน้าดำมืดขึ้นทันที
ดูท่าแล้วเขาเองก็คงเจ็บแค้นกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
“ฮะ! เมิ่งฮั่นเฟิงมันไม่อยู่แล้วการจะบุกยึดเมืองสวรรค์ใต้มันย่อมง่ายดายแน่นอนแต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ เมืองสวรรค์ใต้มันกลับจะมีสามยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวถึงสามคนขึ้นมาปกครองได้! ด้วยกำลังและการนำของพวกมันนั้นกอปรกับพลังของค่ายกลป้องกันเมืองต่อให้จะเป็นราชาทั้งห้าเองก็ยังไม่อาจจะบุกเข้าไปได้ง่ายๆ!” จั่วชิงกล่าวขึ้น
“สามยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าว?”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ “ดูท่าพวกนั้นมันจะทำได้ไม่ผิดหวังข้าจริงๆ!”
หากเขาเดาไม่ผิดคนทั้งสามที่ว่านี้ สองคนแรกมันคงเป็นเจ้าหอใหญ่และเจ้าหอรองอย่างจ้าวซุนและอู้จี้อัน ส่วนคนที่สามอาจจะเป็นซ่งเทียนหยางหรือไม่ก็หยุนปั่วหยู่
ดูท่าแล้วคำแนะนำของเขามันจะช่วยผลักดันช่วงสุดท้ายให้แก่พวกเขานั้น
เมื่อจั่วชิงได้ยินคำพูดของเย่หยวนเขาก็ต้องหัวเราะเย้ยขึ้น “ไม่ทำให้ผิดหวัง? เด็กน้อย เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกันเล่า? พูดราวกับว่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งสามนั้นเจ้าเป็นคนชุบเลี้ยงมาก็ไม่ปาน!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เลิกพูดไร้สาระเถอะ ข้าอยากเจอห้าราชา นำทางไป”
จั่วชิงที่ได้ยินก็ต้องตวาดตอบกลับไป “พลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำก็คิดว่าจะเข้าพบห้าราชาได้หรือ? ลู่เหยียน ทำอะไรอยู่? ทำไมยังไม่สังหารมันลงอีก?”
ลู่เหยียนนั้นได้แต่ยืนนิ่งทำหน้าเหยเก
เขานั้นจะกล้าพูดหรือว่าเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกจับตัวมา?
เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นมาเพื่อมอบโชคให้แก่ห้าราชา! หากเจ้ายังมัวชักช้าอีกความผิดของเจ้ามันจะใหญ่เกินรับแล้ว”
แต่ตัวจั่วชิงที่ได้ยินนั้นกลับต้องร้องเย้ยมาอย่างดูถูก “เจ้าจะให้โชคห้าราชา? ฮ่าๆๆ น่าขันนัก! ลู่เหยียนมันนั้นไม่กล้าลงมือไม่ได้หมายความว่าแม่ทัพผู้นี้จะไม่กล้าเหมือนมัน ไปตายเสีย!”
พูดไปจั่วชิงก็ยกมือขึ้นมาซัดใส่ร่างเย่หยวน
เย่หยวนที่ได้เห็นนั้นต้องหัวเราะขึ้นมาก่อนพุ่งตัวหายไป
ตูม!
ในเวลานั้นเองมันก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา
เขาลูกใหญ่ยักษ์นั้นมันตกลงมากลางดงทหารภูติแท้บดขยี้พวกมันจนตายไปนับร้อยๆ
เดิมทีแล้วเย่หยวนไม่ได้มาด้วยท่าทางหาเรื่องใดๆ ทำให้เหล่าทหารทั้งหลายไม่ได้หันมาสนใจ
แต่เวลานี้ตัวเขาย่อมจะกลายเป็นเป้าสายตาของทุกผู้คนแล้ว
จั่วชิงนั้นหน้าซีดลงทันทีไม่นึกฝันว่าวิชาการเคลื่อนไหวของเย่หยวนนั้นมันจะรวดเร็วจนแม้แต่เขายังมองตามแทบไม่ทัน
ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าหมอนี่มันกลับยังมียอดสมบัติเช่นนี้ติดตัวมาด้วย
เย่หยวนหันไปมองจั่วชิงก่อนจะกล่าวขึ้น “ยังคิดอยากจะสู้หรือ”
จั่วชิงนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืดทันที “เด็กน้อย ไม่ว่าเจ้าจะเร็วสักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางฝ่ากองทัพออกไปได้แน่!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้านั้นไม่ได้มาหาเรื่องแต่แรกแล้ว นี่เป็นแค่การเตือนของข้าเท่านั้น แต่ระหว่างที่ข้าอาละวาดอยู่นั้นเจ้าช่วยไปรายงานเหล่าราชาได้หรือไม่เล่า?”
“ใครกันที่มันกล้ามาทำเรื่องในเขตของราชาผู้นี้!” แน่นอนว่าในเวลานั้นเองมันก็เกิดเสียงร้องลั่นอย่างไม่พอใจขึ้นมาพร้อมการปรากฏของชายร่างใหญ่ที่มีหัวเป็นสิงโตเดินขึ้นมา
จั่วชิงที่ได้เห็นเช่นนั้นจึงรีบก้มลงรายงานทันที “ราชาราชสีห์เถื่อน เจ้ามนุษย์คนนี้มันบอกว่ามีเรื่องสำคัญและอยากขอเข้าพบราชาทั้งห้าแต่ข้าน้อยไม่ยอมให้มันเข้าพบมันจึงเอาสมบัติออกมาไล่สังหารเหล่าทหารขอรับ!”
“พลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นต้น มันจะมีเรื่องสำคัญอะไรไปได้มากมาย? รีบๆ ฆ่ามันให้จบๆ ไป!” ราชาราชสีห์เถื่อนนั้นสั่งขึ้นมาอย่างไม่พอใจพร้อมเตรียมโจมตีเย่หยวน
ราชาราชสีห์เถื่อนนั้นเป็นคนที่มีนิสัยดุร้ายป่าเถื่อน แต่ละก้าวที่เขาย่างเดินนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความหนักแน่นพลังรุนแรงล้ำฟ้า
แม้แต่เหล่าภูติแท้ตนอื่นๆ เองก็ยังเกรงกลัวเขา
แต่เย่หยวนนั้นยิ้มตอบไปอย่างไม่คิดกลัวเกรง “ข้านั้นคือเจ้าหอสามแห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ เย่หยวน ข้านั้นมาเพื่อมอบโชคให้แก่ราชาทั้งห้าแน่นอนว่าหากพวกเจ้าไม่อยากได้มันก็สังหารข้าลงไปเสียตรงนี้เลยก็ได้”
ราชาราชสีห์เถื่อนที่ได้ยินต้องผงะหยุดมือลง “ให้โชคเรา? ฮ่าๆๆ ช่างเป็นคำพูดที่สวยหรูนัก! คนอย่างเจ้านี้จะให้โชคอะไรพวกเราได้เล่า?”
“ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!” เย่หยวนกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับว่ามันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร
“ฮะ นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำคนหนึ่งก็กล้ามาพูดถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหรือ พลังบ่มเพาะของเจ้ามันอยู่ต่างจากระดับนั้นไปคนละโลก ช่างกล้าพูดออกมาได้!” ในเวลานั้นเองที่มันได้ปรากฏเงาร่างของชายอีกคนผู้มีปากยาวตาคมกริบขึ้น
แม้ว่าคลื่นพลังของเขานั้นมันจะแตกต่างจากตัวราชาราชสีห์เถื่อนแต่มันก็เทียบเคียงกันได้ ดูท่าคงเป็นราชาอีกคน
เย่หยวนนั้นไม่คิดเถียงใดๆ กลับไป เขาเพียงแค่ยิ้มตอบ “ราชาทั้งสามที่เหลือเองก็จะไม่ปรากฏตัวออกมาหน่อยหรือ?”
ชายปากยาวและราชาราชสีห์เถื่อนนั้นอดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วแน่นด้วยความตกตะลึงไม่น้อยในใจ
เจ้าเด็กพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำคนนี้มันกลับสัมผัสถึงตัวตนของคนทั้งสามได้หรือ?
หากเป็นก่อนหน้าตัวเย่หยวนย่อมไม่มีทางสัมผัสถึงการซ่อนตัวของยอดคนระดับนี้ได้
แต่ตั้งแต่ที่เย่หยวนได้ฝึกฝนกำเนิดเทพมานั้นวิญญาณดั่งเดิมของเขามันก็เฉียบคมขึ้นมากพอที่จะสัมผัสถึงวิญญาณต่างๆ รอบกายได้ชัดเจน
เย่หยวนหันไปมองสามมุมรอบตัวอย่างแม่นยำจนทำให้ชายปากยาวและราชาราชสีห์เถื่อนนั้นไม่คิดสงสัยติดใจใดๆ อีก
เวลาเดียวกันนั้นเหล่าทหารภูติแท้ทั้งหลายก็ได้เปิดทางออกเผยให้เห็นสามเงาร่างเดินออกมา
ห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวได้มารวมตัวกันแล้ว!
ราชาราชสีห์เถื่อน ราชาหมื่นคชสาร ราชาชวดสวรรค์ ราชาขาลเจิดและราชามฤคยักษ์!
“เด็กน้อย ราชาผู้นี้ขอยอมรับว่าเจ้านั้นมีฝีมือจริง! แต่หากเจ้าไม่อธิบายออกมาให้ดีราชาผู้นี้จะสังหารเจ้าลงแล้ว!” ราชาหมื่นคชสารหรี่ตามองหน้าเย่หยวน
พวกเขาทั้งสามนั้นมาถึงตั้งแต่แรกแล้วเพียงแค่ว่าพวกเขานั้นปกปิดพลังของตนไว้เพื่อจะมองดูสถานการณ์ไปก่อน ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับจะตรวจจับเจอพวกเขาได้
เย่หยวนตอบกลับไป “ราชาทั้งห้า ที่พวกท่านส่งกำลังออกมาจัดการแดนสวรรค์ใต้นี้มันคงเพราะเรื่องที่เมิ่งฮั่นเฟิงแย่งชิงสมบัติที่พวกท่านเจอไป แต่พวกท่านทั้งหลายก็คงไม่ได้โง่ ท่านรู้ดีว่าต่อให้จะสังหารแดนสวรรค์ใต้จนไม่เหลือแม้แต่วิญญาณใดตัวเมิ่งฮั่นเฟิงมันก็คงไม่ออกมาแน่ แต่หากวันหนึ่งเขานั้นบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้จริงๆ แล้วมันจะเกิดผลเช่นไรตามมาพวกท่านรู้หรือไม่?”
คำพูดของเย่หยวนมันทำให้ราชาทั้งห้าทำหน้าเครียดออกมาทันที
พวกเขาทั้งห้านั้นร่วมมือกับทำลายรากฐานของเมิ่งฮั่นเฟิง แน่นอนว่าหากเมิ่งฮั่นเฟิงบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้จริงๆ แล้วเขาคงไปตามแก้แค้นแน่
แม้ว่าบนเขาหมื่นอสูรนั้นมันจะมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอยู่เช่นกันแต่ว่าพวกเขาก็คงไม่ออกหน้ามาเพราะว่าคนทั้งห้าแน่
แท้จริงบนเขาหมื่นอสูรนั้นมันก็ไม่ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเช่นกัน
หากมิใช่เพราะว่าเรื่องของเมิ่งฮั่นเฟิงในครานี้แล้วพวกเขาทั้งห้าราชานี้ก็คงจะยังเอามีดจ่อคอกันอยู่
ตราบเท่าที่เมิ่งฮั่นเฟิงไม่ได้อาละวาดจนเกินไปเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนบนเขาหมื่นอสูรเองก็คงไม่ออกมาทำอะไรเช่นกัน
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปพร้อมพูดเร่งขึ้นมา “เพราะฉะนั้นแม้พวกท่านจะโจมตีเมืองสวรรค์ใต้ได้สำเร็จระบายความคับแค้นออกไปแต่สุดท้ายมันก็ยิ่งมีแต่จะทำให้เมิ่งฮั่นเฟิงไม่พอใจหนักกว่าเก่า มันไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น”
ราชาชวดสวรรค์ยิ้มตอบกลับมา “แล้วทำไมเล่า? หรือเจ้าจะบอกว่าตัวเองช่วยให้พวกเราบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบไปทันที “มิใช่ตอนนี้ แต่วันหน้าทำได้แน่!”
“ฮะ! ในวันหน้า! หลังจากเจ้าบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนไปได้แล้วค่อยกลับมาหลอมโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ให้เราน่ะหรือ? แม้จะไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าเจ้าจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้หรือไม่ ต่อให้เจ้าจะบรรลุได้มันก็ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ กว่าจะถึงตอนนั้นเราก็ตายด้วยมือของเมิ่งฮั่นเฟิงไปแล้ว! แทนที่จะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไป สู้สังหารให้มันสาแก่ใจก่อนตายไปจะดีกว่า!” ราชาชวดสวรรค์กล่าว
แต่เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “ไม่ต้องรอถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหรอก ตราบเท่าที่ข้าบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้ข้าย่อมจะสามารถช่วยพวกท่านขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้แน่!”
คำพูดนี้ทำให้คนทั้งห้าแสดงความมึนงงออกมาตามๆ กัน
คำพูดเช่นนี้มันจะต่างอะไรจากการเอาน้ำทะเลให้คนกระหายดื่มเล่า?
ราชาขาลเจิดนั้นหัวเราะตอบกลับมา “เด็กน้อย เจ้าคิดว่าพวกเรานั้นไม่มีสมองกันหรือ? เจ้าคิดใช้แผนการดึงเวลาได้โง่เกินไปแล้ว! เลิกพูดจาไร้สาระแล้วสังหารมันให้จบๆ เถอะ! สังหารมันแล้วก็หันไปตีเมืองต่อ!”
คนทั้งสี่เองก็พยักหน้าขึ้นเมื่อได้ยินและเตรียมพร้อมจะลงมือ
เย่หยวนนั้นยกนิ้วขึ้นมาชี้เสือน้อยที่ด้านหลังราชาขาลเจิดก่อนจะถามขึ้น “นี่ลูกท่าน?”
…………………………