Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2732 นิกายสวรรค์เจ็ดดาวผู้ยิ่งใหญ่
เย่หยวนที่ได้ยินต้องหน้าซีดขาวลงทันที
แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นป่าหมึกเรือง!
“จุดไหนของป่าหมึกเรือง?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
เฒ่าคนนั้นกล่าวบอกตำแหน่งออกมาและที่แห่งนั้นมันย่อมเป็นตำแหน่งของมหาพิภพถงเทียนแล้วมิใช่หรือ?
ถึงเวลานี้แล้วเย่หยวนย่อมจะไม่คิดหวังว่ามันจะผิดพลาดไปได้อีก!
เพียงแค่ว่าเขานั้นก็กังวลอย่างมาก ทำไมมหาพิภพถงเทียนนั้นมันถึงเป็นสถานที่ตั้งของมิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์ไปได้?
เย่หยวนเริ่มกังวลเรื่องของลี่เอ๋อทั้งหลายขึ้นมาสุดหัวใจ
เขาขมวดคิ้วแน่นถามออกมา “เช่นนั้นแล้วมันเกิดปรากฏการณ์ประหลาดอะไรขึ้น?”
เฒ่าคนนั้นตอบ “หลายวันก่อนนั้นมันมีลำแสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานขึ้นมาจากที่แห่งนั้นย้อมฟ้าให้กลายเป็นสีแดงฉาน กอปรกับข่าวที่ลือๆ กันมาก่อนหน้าทำให้เราสามารถสรุปได้ว่ามิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์นั้นมันอยู่ในป่าหมึกเรือง!”
เย่หยวนได้แต่ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความกังวล
“พวกเจ้าส่งคนเข้าไปดูบ้างหรือยัง?”
เฒ่าคนนั้นส่ายหัวออกมา “แสงสีแดงเลือดนั้นมันรุนแรงอย่างมาก เราเข้าไปใกล้ไม่ได้! แต่ว่าพลังของมันนั้นก็ค่อยๆ จางหายลงไปเรื่อยๆ จนใกล้จะเปิดช่องให้เราเข้าถึงได้แล้ว แต่เรานั้นไม่มีความมั่นใจจึงได้ส่งจดหมายเชิญยอดคนผู้กล้าทั้งหลายมา”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ่งกังวลหนักกว่าเดิม
เพราะเขานั้นไม่รู้ได้เลยว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นในมหาพิภพถงเทียนในเวลานี้
พวกลี่เอ๋อจะเป็นอะไรไหม?
“ต้าหวง จัดการมันเสีย!” เย่หยวนสั่ง
“ขอรับ!” ต้าหวงรับสั่งและปลิดชีวิตของเฒ่าคนนั้นลง
…
เคล้ง!
ในห้องลับของนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นมันมีแผ่นศิลาชีวิตเรียงราย
ที่แห่งนี้มันคือห้องเก็บแผ่นศิลาชีวิตของเจ้านิกายรุ่นก่อนๆ!
ศิษย์ที่ดูแลห้องนี้อยู่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมหน้าที่ซีดขาว
“ฉิบหายแล้ว ศิลาชีวิตของบรรพบุรุษหลู่เจิ้งซินแตกลง!”
เหล่าคนเบื้องบนของนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นแตกตื่นไปตามๆ กันเมื่อได้ยินข่าว
ในวินาทีสุดท้ายนี้ไม้ตายสุดท้ายของนิกายสวรรค์หยกแท้อย่างหลู่เจิ้งซินยอดฝีมือจักรพรรดิเซียนสามเต๋าทุกข์นั้นกลับตายลงไป!
เจ้านิกายสวรรค์หยกแท้คนปัจจุบัน เฉินไท่นั้นกลับมาจากยอดปักหยกด้วยสีหน้าขาวซีดไร้สีเลือด
มันมีแค่ตัวเขาและผู้อาวุโสใหญ่เท่านั้นที่รู้ถึงตัวตนของหลู่เจิ้งซิน!
“เจ้านิกาย มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่? ใครเป็นคนสังหารท่านบรรพบุรุษกัน?” ผู้อาวุโสใหญ่นั้นอดถามขึ้นไม่ได้
“ไม่รู้ว่าใครมันลงมือ! แต่มันต้องเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนที่ซ่อนตัวเข้ามาแน่! นอกจากว่ามันจะสังหารท่านบรรพบุรุษแล้วมันยังเอาพลังลึกลับในเขาหลังไปด้วย! ช่างโหดเหี้ยมนัก! นี่มันเท่ากับทำลายนิกายสวรรค์หยกแท้เราลงชัดๆ!”
พูดมาถึงตรงนี้เฉินไท่นั้นก็อดต้องกันฟันแน่นไม่ได้
แต่นอกเหนือจากความคับแค้นแล้วมันเป็นความสิ้นหวังมากกว่า
เหตุผลที่หลู่เจิ้งซินบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นไปได้นั้นมันเพราะว่าเขาได้ศึกษาพลังงานยอดหมอกนั้น
แต่หลู่เจิ้งซินก็ไม่สามารถจะออกมาจากถ้ำนั้นได้เช่นกัน
เพราะว่าเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียนครั้งที่สี่ของเขามันเลยกำหนดไปนานแสนนานแล้ว
เขานั้นสามารถหลบพลังสวรรค์อยู่ภายในถ้ำนั้นได้จึงสามารถหลบเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียนมาถึงทุกวันนี้ได้
นี่คือเหตุผลที่ทำให้นิกายสวรรค์หยกแท้ตกต่ำลงจนถึงทุกวันนี้
เพราะไม่มีผู้สืบทอด!
แต่ตราบเท่าที่เขายังอยู่นั้นเขาย่อมจะเป็นเหมือนดั่งเทพปกปักนิกายสวรรค์หยกแท้
แต่เวลานี้เทพของพวกเขากลับตายลง!
พลังงานลึกลับที่ช่วยบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้นั้นเองก็หายไปเช่นกัน
ทั้งยังไร้ข่าวคราวเรื่องเขาแห่งถงเทียน
นิกายสวรรค์หยกแท้นั้นมันถึงจุดวิกฤตแล้วจริงๆ
เย่หยวนนั้นไม่ได้รู้เลยว่าการที่เขาเอาพลังงานยอดหมอกไปนั้นมันกลับจะสร้างความเสียหายยิ่งใหญ่ให้นิกายสวรรค์หยกแท้เช่นนี้
แต่ต่อให้จะรู้เขาก็คงไม่สนใจเช่นกัน
เพราะเขานั้นไม่ได้ชื่นชอบนิกายสวรรค์หยกแท้มันแม้แต่น้อย
หากมิใช่เพราะเหยียนยูเจินแล้วมีหรือที่มหาพิภพถงเทียนจะถูกลากมาเกี่ยวพันกับเรื่องเช่นนี้ต้องตกสู่ห้วงความลำบากนับร้อยๆ ล้านปี?
“เราจะทำอย่างไรดี?” ผู้อาวุโสใหญ่ถามขึ้นมา
“จะปล่อยให้คนนอกรู้เรื่องนี้ไม่ได้ เราต้องทำเหมือนทุกสิ่งอย่างนั้นปกติดี! การไปยังมิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์ของเราครั้งนี้มันถือเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว! ตราบเท่าที่เราหาเขาแห่งถงเทียนได้เจอนิกายสวรรค์หยกแท้ของเราก็พอจะมีหวังกลับมาได้!” เฉินไท่นั้นกล่าวสั่ง
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนของพวกเขาตายลงแต่พวกเขานั้นไม่มีเวลามาสืบสาวได้แต่ต้องกลืนความคับแค้นนี้ไว้
…
หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ยอดฝีมือนับร้อยๆ มันได้มารวมตัวกันที่นิกายสวรรค์หยกแท้
แน่นอนว่ามันย่อมจะมีเรื่องบาดหมางกันเกิดขึ้นบ้าง
แต่ตั้งแต่วันที่ต้าหวงกระทืบชิเยว่ไปนั้นมันก็ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องพวกเขาอีก
ทุกคนนั้นรู้ดีว่ากระทิงเหลืองของเย่หยวนนั้นเก่งกาจล้ำ
ในตลาดนั้นเย่หยวนได้พบเจอของดีมากมาย
จนถึงวันเดินทางเย่หยวนก็แทบไม่อาจจะทนรอได้อีก
เฉินไท่นั้นยกมือขึ้นกล่าวคารวะทุกผู้คนที่มา “ขอบคุณสหายทั้งหลายที่มา เฉินไท่ผู้นี้ซาบซึ้งอย่างมาก! การเปิดขึ้นของมิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้เจ้านิกายผู้นี้ขอสัญญาว่าตราบเท่าที่เราสามารถหาเขาแห่งถงเทียนของบรรพบุรุษยูเจินได้พบเราจะไม่ขอเอาอะไรอย่างอื่นอีก! แต่หากมีใครคิดอยากแย่งเขาแห่งถงเทียนไปแล้วนิกายสวรรค์หยกแท้เราจะขอสู้กับมันจนกว่าแผ่นดินจะมอดไหม้! แม้ว่าบรรพบุรุษเจิ้งซินท่านนั้นจะเก็บตัวอยู่ภายในเขาแต่หากมีใครคิดท้าทายแล้วข้าว่ามันก็คงมีแต่ความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอน!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องหันไปมองหน้าต้าหวงทันที
แม้ว่าเขานั้นจะไม่รู้ถึงนามของหลู่เจิ้งซินแต่มันก็เดาได้ไม่ยาก
เฉินไท่นั้นกลับเอาชื่อคนตายมาข่มขู่คน มันช่างน่าขัน
แต่ว่าอย่างไรเสียเย่หยวนก็ไม่คิดไปขัดเพราะหากเขาแสดงตัวมันก็ย่อมจะเหมือนเป็นการยอมรับความผิดไปด้วย
ทำเช่นนั้นมันมีแต่จะโดนหมายหัวไม่ได้ประโยชน์อะไร
ที่สำคัญไปกว่านั้นในหมู่จักรพรรดิหยกทั้งหลายนี้เองมันอาจจะมียอดคนหลบซ่อนพลังอยู่ด้วยก็ได้
“เจ้านิกายเฉิน วางใจเถอะ เราแค่จะเข้าไปหาสมบัติธรรมชาติ ไม่แย่งอะไรพวกท่านหรอก!”
“ใช่แล้ว พวกเราเข้ามิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์ไปครั้งนี้ก็หวังเพียงแค่จะหาโอกาสบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเท่านั้น!”
“มันเป็นของนิกายสวรรค์หยกแท้ท่านอยู่แล้ว เราไม่แย่งชิงมันหรอก!”
…
วินาทีที่เฉินไท่กล่าวออกมามันก็เหมือนเป็นการประกาศถึงตำแหน่งและพลังของตน
ว่ากันว่าในนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหลบซ่อนอยู่ แต่เรื่องนี้ไม่มีใครยืนยันได้
แต่คนส่วนมากย่อมเชื่อ
เพราะจะอย่างไรเสียนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นก็เคยเป็นนิกายสวรรค์อันดับหนึ่งของดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยง ย่อมจะมีรากฐานที่ลึกล้ำ
ได้เห็นคนทั้งหลายตอบรับเช่นนั้นแล้วเฉินไท่ก็พยักหน้ารับอย่างพอใจออกมา “เอาล่ะ เช่นนั้นเราก็เดินทางกันเถอะ!”
“เดี๋ยว!”
แต่ก่อนที่คนทั้งหลายจะทันได้ขยับตัวถังเฉียนก็กล่าวขึ้นมา
ได้เห็นเขาเปิดปากพูดเช่นนี้คนทั้งหลายย่อมเข้าใจแล้วว่ามันต้องมีเรื่องสนุกๆ ให้ดู
หลายวันมานี้พวกเขานั้นสงสัยมาตลอด
นิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมิใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมารังแกง่ายๆ
ถูกตบหน้าเข้าอย่างนี้แล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่ตอบโต้ไป
คนทั้งหลายต่างคิดว่ามันแปลก ไม่นึกฝันว่าที่แท้ถังเฉียนนั้นกำลังรอเวลานี้อยู่
“อะไรหรือผู้อาวุโสถัง?” เฉินไท่กล่าวขึ้นถาม
ถังเฉียนหันไปมองหน้าเย่หยวน “เว่ยหยูนั้นเป็นว่าที่เจ้านิกายสวรรค์เจ็ดดาวเรา มันกลับมีคนกล้ามาหยามเหยียดเขามันก็เท่ากับหยามเหยียดนิกายสวรรค์เจ็ดดาวเราด้วย! ในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้มันยังไม่เคยมีใครมาหาเรื่องนิกายสวรรค์เจ็ดดาวเราเช่นนี้แล้วรอดไปได้! วันนี้ข้าจะขอทวงถามศักดิ์ศรีคืนต่อหน้าคนทั้งหลาย”
คนที่ฉลาดหน่อยย่อมจะมองออกได้ทันทีว่าถังเฉียนนั้นต้องการอะไร
เขานั้นคิดใช้โอกาสใหญ่โตเช่นนี้ประกาศต่อคนทั้งดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงว่านิกายสวรรค์เจ็ดดาวของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน!
แต่จริงๆ คนที่จะกล้าท้าทายนิกายสวรรค์ตะวันเที่ยงนั้นมันย่อมมีแค่ไม่กี่คน
ต่อให้อีกฝ่ายจะอ่อนแอกว่าก็ตาม
แต่เย่หยวนนั้นกลับเป็นหนึ่งในคนที่กล้านั้น
เมื่อเว่ยหยูได้เห็นถังเฉียนกล่าวขึ้นนำมาเขาก็หันไปมองเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ย “เด็กน้อย วันนี้เจ้าจงคุกเข่าลงกราบขอขมาต่อหน้าทุกคนเสียจากนั้นก็ทำลายพลังบ่มเพาะของตนพร้อมส่งกระทิงเหลืองนั้นมาให้นิกายสวรรค์เจ็ดดาวเรา เรื่องนี้จะถือว่ามันจบลงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้เจ้าจะไม่ได้ไปที่ไหนทั้งสิ้น!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็อดส่ายหัวออกมาไม่ได้
เว่ยหยูนั้นสมชื่อว่าเป็นว่าที่เจ้านิกาย เขานั้นช่างมีแววตาที่คมกริบ
เขานั้นเห็นได้ชัดเจนว่ากระทิงเหลืองนี้ไม่ธรรมดาแค่ไหน จึงได้กล่าวเช่นนั้นออกมา
หากนิกายสวรรค์เจ็ดดาวได้ตัวต้าหวงไปแล้วเอาไปเลี้ยงดูให้ดี วันหน้ามันคงได้กลายเป็นอาวุธสำคัญแน่!