Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2741 ศพอัปยศ
เวลานี้ตัวหวูฟางย่อมคิดจะอวดเบ่งพลัง
หากมันเป็นนักบุญสูงภูติแท้คนอื่นๆ แล้วมันคงสังหารเขาลงด้วยกระบวนท่าเดียวแน่
แต่นักบุญสูงภูติแท้ทั้งหลายในที่แห่งนี้มันไม่มีสติปัญญา
ก่อนหน้าตอนที่หวูฟางโดนนักบุญสูงภูติแท้ตนนี้ไล่ไปนั้นเขาได้แต่ต้องหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว
ใครเล่าจะไปคิดฝันว่าในวินาทีสุดท้ายนั้นตัวเขากลับบรรลุพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวขึ้นมาได้ทำให้ศาสตร์คุมภูติของเขาเองก็บรรลุขึ้นมาเช่นกัน
เขานั้นยื้อกับภูติแท้นั้นไปกว่าครึ่งเดือนกว่าที่สุดท้ายจะเอาชนะมันลงได้
ใบหน้าของเหล่านักบุญสูงทั้งหลายดำมืดลงทันทีที่ได้เห็น
พวกเขานั้นต่างเสียหายกันไปใหญ่หลวงแต่เจ้าหมอนี่กลับได้ประโยชน์เสียอย่างนั้น!
“ยินดีกับพี่หวูฟางด้วย! พี่หวูฟางมีวิชาฝีมือเหนือล้ำกลับทำให้นักบุญสูงภูติแท้ยอมสยบลงได้!”
ในเวลานั้นเองที่มันมีเงาร่างหนึ่งขี่หลังกระทิงเหลืองเดินเข้ามาใกล้
เมื่อได้เห็นหน้าเย่หยวนคนทั้งหลายต่างก็หันไปมองด้วยดวงตาอาฆาตทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าสิบสามนักบุญสูงนั้น พวกเขาต่างหวังจะฉีกร่างเย่หยวนเป็นชิ้นๆ
แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจสายตาอาฆาตของคนทั้งหลายและเดินเข้าไปหาหวูฟาง
เหล่าคนทั้งหลายนี้มันมีแต่คนเจ้าเล่ห์มากกล หากเขาไม่วางแผนรับมือพวกเขาไว้ก่อนสุดท้ายคนที่เสียท่ามันก็จะกลายเป็นเย่หยวน
“หึๆ ยินดีกับเจ้าด้วย! เจ้าเองก็บรรลุขึ้นมาได้มิใช่หรือ? กว่าก่อนหน้าจนต้องอ้าปากค้าง
มันเร็วเกินไป!
ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นหากอยากเพิ่มพลังบ่มเพาะแล้วมันย่อมจะเป็นงานที่ยากยิ่ง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่านักบุญสูงทั้งหลายต่างต้องสะดุ้งตัวมองดูหน้าเย่หยวนอย่างคับแค้นกว่าเดิม
ที่ต้าหวงบรรลุขั้นมาได้นี้มันย่อมจะเป็นเพราะสมุนไพรสวรรค์นับไม่ถ้วนทั้งหลายนั้นแน่นอน!
ให้ตาย!
พวกเขานั้นเสียหายกันไปหนักหนาแต่กลับไม่ได้อะไรคืนมา!
ส่วนเรื่องการที่เย่หยวนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางขึ้นมานั้นมันย่อมจะไม่มีใครสนใจ
เพราะในที่แห่งนี้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางนั้นมันแสนจะอ่อนแอ
นักบุญสูงต้าวหยุนนั้นอดกล่าวขึ้นไม่ได้ “ไอ้หนู เจ้ายังมีหน้าโผล่หัวมาอีกหรือ? เจ้าคิดว่าพวกเราเหล่านักบุญสูงนั้นเป็นนักบุญจริงๆ หรืออย่างไร?”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “พวกเจ้าย่อมมิใช่นักบุญแน่นอน แต่พวกเจ้านั้นก็มีแต่ต้องทำบุญ ทำไม? หรือว่าพวกเจ้ายังอยากจะลอง? ข้าพาพวกมันกลับมาได้ไม่ยากหรอกนะ”
ต้าวหยุนนั้นได้แต่ต้องหุบปากลงไปทันที
นักบุญสูงเทียนลู่นั้นกล่าวขึ้นมา “ช่างเถอะ ของดีจริงๆ มันย่อมจะอยู่ในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต มาเถียงกับมันไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี! หลังจากเข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปแล้วข้ายังอยากรู้นักว่ามันจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยคำพูดสั้นๆ “เรอะ เช่นนั้นเจ้าก็รอดู!”
แต่ในเวลานั้นเองที่มันได้มีเสียงหนึ่งกล่าวทักขึ้นมาจากด้านหลังเย่หยวน “คือว่า…น้องเย่ ข้ารวบรวมสมุนไพรสวรรค์ที่ใช้หลอมโอสถสี่ชีพมาแล้ว เจ้าพอจะ…”
เย่หยวนนั้นหันกลับไปมองและพบว่าเจ้าของเสียงมันคือชิเยว่
เขานั้นรู้แล้วว่าต้าหวงที่ติดตามเย่หยวนมานั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน แน่นอนว่าเวลานี้เขาย่อมจะไม่มีทางทวงถามความแค้นใดๆ กับเย่หยวนได้
ครั้งนี้ชิเยว่นั้นมีโชคเหนือคนอื่นและไม่ได้ถูกเหล่านักบุญสูงภูติแท้ไล่ติดตาม
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือระหว่างที่เขาวิ่งหนีไปไม่รู้เหนือใต้นั้นเขากลับไปพบเข้ากับสวนสมุนไพรสวรรค์และได้สมุนไพรสวรรค์สำหรับหลอมโอสถสี่ชีพมาโดยบังเอิญ
เวลานี้เขาจึงได้เข้ามาลองคำที่เย่หยวนได้ให้ไว้
เมื่อเย่หยวนเห็นเขานั้นเย่หยวนก็อดผงะไปไม่ได้เช่นกัน
เพราะเจ้าหมอนี่กลับเก็บรวบรวมมันมาได้ครบจริง
แต่คำที่เย่หยวนเคยให้ไว้เขาย่อมจะไม่ปฏิเสธ “แน่นอน ย่อมได้!”
ไม่นานสีหน้าของเหล่านักบุญสูงทั้งหลายต่างเปลี่ยนสีไปทันที
“ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์!”
“โอสถสวรรค์จักรพรรดิระดับสี่! ฝีมือเช่นนี้มันคงเทียบได้กับเหล่าผู้อาวุโสระดับสูงทั้งหลายของพันธมิตรโอสถเลยมิใช่หรือ?”
“ข้าว่าข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมนักบุญสูงต้าหวงนั้นจึงได้ติดตามเขามาเช่นนี้!”
…
ได้เห็นโอสถสี่ชีพระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นเหล่านักบุญสูงทั้งหลายต่างต้องเปลี่ยนสีหน้าไป
การจะหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิขึ้นมาให้ได้ถึงระดับนี้มันมีแต่เหล่ายอดฝีมือของยอดฝีมือเท่านั้น!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียกับคนที่หลอมโอสถสี่ชีพได้จนถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์เช่นนี้ เหล่านักบุญสูงทั้งหลายเองก็ยังต้องเกรงให้ความเคารพกับนักหลอมโอสถสวรรค์คนนั้น!
เหล่านักบุญสูงทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องยืนตัวสั่น พวกเขานั้นกลับไปลบหลู่หาเรื่องตัวตนระดับนี้เข้า!
ชิเยว่นั้นถือโอสถสี่ชีพไว้ในมือด้วยตัวที่สั่นกลัว
เขานั้นแค่อยากได้ระดับเจ็ดแต่เย่หยวนนั้นกลับให้ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์กับเขา!
ฤทธิ์ของโอสถนั้นมันแตกต่างกันเป็นร้อยเท่าได้!
ได้เห็นชิเยว่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวต่อหน้าเช่นนั้นเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดทั้งหลายต่างต้องอิจฉาจนหน้าดำหน้าแดง
พวกเขานั้นยอมเสี่ยงตายเข้ามาในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้เพื่อเป้าหมายใด? มันก็เพื่อจะบรรลุเพิ่มพลังฝีมือขึ้นมิใช่หรือ?
ระหว่างที่เย่หยวนหลอมโอสถและชิเยว่กลั่นพลังของโอสถไปใช้นั้นเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายที่แตกแยกกันไปต่างก็ค่อยๆ ทยอยกลับมารวมตัวกัน
เหล่านักบุญสูงทั้งหลายนั้นต่างก็ไม่มีใครกล้าบุกเข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปเพราะว่าตอนนี้พวกเขายังต้องรอโล่มนุษย์ให้มีมากกว่านี้ก่อน
วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตตรงหน้าพวกเขานั้นมันเป็นวังที่ใหญ่โตเชื่อมต่อกันทอดยาวไปแต่แม้จะดูสวยงามแค่ไหนคนที่ได้เห็นกลับรู้สึกหวั่นกลัวในใจ
เหล่านักบุญสูงทั้งหลายนั้นย่อมจะรักชีวิตและไม่กล้าบุกเข้าไปตรงๆ
“มันคงมากับครบแล้ว ไปเถอะ! พลังปิดกั้นรอบๆ วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้มันแตกสลายลงไปนานแสนนานแล้ว แต่จะอย่างไรเราก็ต้องระวังให้มาก” เทียนลู่กล่าวขึ้นมาสั่ง
คนทั้งหลายที่ได้ยินก็พยักหน้ารับไปตามๆ กัน
ดูแล้วพวกเขานั้นก็ต่างจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความอันตรายเช่นกัน
เย่หยวนเองก็ไม่คิดรอช้าเดินตามหลังกลุ่มคนเข้าไปในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต
เมื่อเข้ามาถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตพวกเขาต่างก็ต้องพบกับคลื่นพลังงานอัปยศปะทะเข้าเต็มแรง
พลังงานอัปยศนั้นมันรุนแรงจนทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมาบนร่างกายของคนทั้งหลาย
“ช่างเป็นพลังงานอัปยศที่รุนแรงล้ำนัก!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“ตอนวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตยังสมบูรณ์ดีนั้นมันมีศิษย์อยู่นับล้าน! ศิษย์ที่อ่อนแอที่สุดนั้นก็ยังมีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน แน่นอนว่าวิญญาณแค้นในที่แห่งนี้มันย่อมจะมีมากมายเจ้าคิดว่าพลังงานอัปยศแค่นี้เหนือคาดหรือ? วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตที่พวกเจ้าเข้ามานี้มันก็แค่ส่วนปลายสุดขอบวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเท่านั้น! หากเจ้าเข้าไปถึงทางขึ้นเขาหลักแล้วร่างกายของพวกเจ้าทั้งหลายคงได้ถูกพลังงานอัปยศนี้สับจนเป็นผงแน่!” หมี่เทียนกล่าวขึ้น
เย่หยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ต้องผงะไปเช่นกัน
มีศิษย์นับล้าน!
อ่อนแอที่สุดยังเป็นถึงจักรพรรดิเซียน!
สำนักเช่นนี้มันย่อมจะอยู่เหนือความเข้าใจของเขาไปสิ้น
เพราะเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนบนทวีปพิรุณใสนั้นคือตัวตนที่สูงล้ำหัวเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายไปสิ้น
“นี่มันยังมิใช่ทางขึ้นเขาหลัก?” เย่หยวนที่นึกขึ้นมาก็อดถามขึ้นไม่ได้
“แน่นอนว่ายังไม่ใช่! ด้วยกำลังของเจ้าในตอนนี้มีหรือที่จะไปถึงประตูหลังของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้? นี่แห่งนี้มันยังนับเป็นนิกายนอกของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไม่ได้ด้วยซ้ำ! หากเจ้าไปถึงประตูหลักได้จริงๆ แล้วแม้แต่ข้าเองก็คงช่วยเหลือปกป้องเจ้าไม่ได้! ที่แห่งนั้นแม้แค่จะโดนเศษฝุ่นปลิวมาใส่เจ้าก็คงตายลงแน่” หมี่เทียนกล่าวขึ้นมา
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องยืนนิ่งไปอย่างมึนงง แค่เศษฝุ่นมันจะฆ่าคนได้อย่างไร
“ไม่รู้ว่าหักโมฆะเซียนผงาดนั้นมันอยู่ที่ใด” เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา
วังนี้มันแสนยิ่งใหญ่ ต่อให้เป็นเย่หยวนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากที่ไหน
เหยียนยูเจินนั้นบอกแค่ว่าต้องการหักโมฆะเซียนผงาด ไม่ได้บอกว่ามันอยู่ที่ไหน
แต่มาคิดๆ ดูแล้วที่แห่งนี้มันก็อันตรายเสียจริง
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยกำลังของเหยียนยูเจินในตอนนั้น มีหรือที่เขาจะเอามันกลับออกไปไม่ได้
“อ้าก!”
“กรี๊ด!”
…
คนทั้งหลายที่เดินเข้ามานั้นต่างต้องยกมือขึ้นปิดหูเพราะเสียงจากด้านหลัง
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นต่างต้องหันกลับไปมองและพบว่าที่ด้านหลังนั้นมันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกตายลงไปหลายคน
สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปทันทีเพราะไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ด้านหลังของพวกเขานั้นมันกลับมีกลุ่ม ‘คน’ อีกกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น
‘คน’ ทั้งหลายเหล่านี้มันมีชุดร่างที่มอมแมมพร้อมถือดาบยาวในมือมีการเคลื่อนไหวที่แสนรวดเร็ว
พวกเขานั้นดูเหมือนมนุษย์แต่ดวงตาและปากของพวกเขานั้นมันกลับมีหมอกควันสีดำไหลออกมา
เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายนั้นเตรียมตัวรับมือพวกมันขึ้นทันที
เหล่าคนที่รอดมาถึงตอนนี้ได้ล้วนแล้วแต่มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นปลายขึ้นไปทั้งสิ้น ไม่มีใครอ่อนแอ
แต่เมื่อได้ปะทะกับกลุ่ม ‘คน’ ทั้งหลายนี้แล้วพวกเขานั้นกลับไม่อาจจะทำอันตรายอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย
เสียงของคนผู้หนึ่งร้องขึ้น “พลังงานอัปยศในที่แห่งนี้มันรุนแรงเกินไป ศพทั้งหลายนั้นมันนอนกองอยู่ในพลังงานอัปยศมาแสนนานทำให้หอกดาบไม่อาจทำอันตรายใดๆ พวกมันได้กลายเป็นศพอัปยศไป!”
…………………………