Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2748 พ่ายแพ้ครั้งแรก!
หลังจากนั้นมันย่อมจะมีคนมากมายที่คิดเข้าไปลองท้าทาย
แต่มันย่อมจะพ่ายแพ้ลงไปในกระบวนท่าเดียวสิ้น
มีเพียงต้าหวงเท่านั้นที่อยู่รอดได้ราวสิบกระบวนท่า
วินาทีนี้ความมั่นใจของเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกและจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นต่างตกต่ำจนถึงขั้นสุด
“น้องเย่ เจ้าจะลองดูหน่อยหรือไม่?” นักบุญสูงต้าวหยุนนั้นกล่าวขึ้นถาม
เพราะเดิมทีคนที่บอกให้มาฝึกนั้นมันก็คือเย่หยวน แต่สุดท้ายด้วยสภาพเช่นนี้มันคงไม่อาจจะบ่มเพาะฝึกฝนใดๆ ได้เลย
พวกเขานั้นอยากรู้นักว่าเย่หยวนจะฝึกฝนอย่างไร
แต่เอาจริงๆ แล้วคนทั้งหลายมันก็ไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะเก่งกาจมากมาย
การที่เย่หยวนสังหารยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นปลายลงได้ด้วยดาบเดียวนั้น มันย่อมจะเกิดขึ้นได้เพราะดาบในมือเขา
สมบัติยอดหมอกนั้นมันแข็งแกร่งแค่ไหน?
เย่หยวนนั้นยิ้มและเดินกลับมายังห้องแรก
เขานั้นไม่คิดรอช้าเลือกนามของซุนฉีและเดินเข้าห้องไปทันที
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างต้องหันไปมองหน้ากันอย่างมึนงง
นี่มันจะไม่มั่นใจเกินไปหน่อยหรือ?
ซุนฉีนั้นกลับออกมาอีกครั้งพร้อมมองดูเย่หยวนด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น “จักรพรรดิหยก? อ่อนแอจริง!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อ่อนแอหรือไม่เจ้าก็ต้องลองสู้ดูก่อน”
พูดจบเย่หยวนก็ชี้นิ้วขึ้นมาพร้อมสิบหกดาบที่พุ่งทะยาน
ซุนฉีหรี่ตาลงมองด้วยรอยยิ้มทันที “ค่อยน่าสนใจหน่อย!”
ขณะที่พูดไปนั้นซุนฉีก็ชี้นิ้วออกมาเป็นดาบยาวเช่นกัน
ซุนฉีนั้นก็มีแปลงยอดเต๋าของตนเอง!
“แปลงยอดเต๋า! เก่งกาจจริงๆ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องเย่ถึงได้มั่นใจนัก! ข้าไม่นึกเลยว่าเขานั้นกลับจะเป็นยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าด้วย! ที่สำคัญมันยังพัฒนาไปจนถึงรูปแบบที่สามแล้วด้วย!”
“เต๋าโอสถเหนือล้ำฟ้าดิน ไม่นึกเลยว่าเต๋ายุทธของเขานั้นเองก็จะเก่งกาจได้ปานนี้!”
“ดูท่าเขาคงคิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อลับคมตัวเองพัฒนาแปลงยอดเต๋าให้ขึ้นถึงรูปแบบที่สี่แน่!”
“ข้าเกรงว่ามันจะไม่ง่ายปานนั้น! แปลงสามกฎเช่นนี้มันย่อมจะเป็นการยากมากหากคิดพัฒนา!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องพยักหน้ารับตามๆ กัน
เพราะเหล่ายอดฝีมือที่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาได้นี้ต่างล้วนเป็นยอดคนมากพรสวรรค์
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเองก็คงไม่มีปัญญาจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ในทวีปพิรุณใสน้อยๆ นี้
พวกเขาหลายคนนั้นครั้งหนึ่งเองก็เคยเป็นยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าเช่นกัน
แต่ยิ่งระดับของแปลงยอดเต๋ามันสูงขึ้นเท่าไหร่ การแปลงมันก็ยิ่งยากเย็นขึ้นเท่านั้น
ความยากของการฝึกฝนกฎนั้นมันเหมือนพีระมิดกลับด้าน
ยิ่งสูงขึ้นไปมันก็ยิ่งจะยากเย็นล้ำ
หากขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้แล้วคิดอยากฝึกฝนบ่มเพาะกฎให้ถึงระดับหกบ้างมันก็คงยากเสียยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์
เทียบกับการพัฒนาพลังบ่มเพาะเฉยๆ แล้วการฝึกฝนกฎนั้นมันยากเย็นกว่าอย่างไม่อาจเทียบได้
เพราะจะอย่างไรเสียพลังบ่มเพาะมันก็ยังมีตัวช่วยทั้งโอสถสวรรค์หรือพลังจากวรยุทธบ่มเพาะที่เหนือล้ำ
วรยุทธบ่มเพาะที่ดีนั้นมันย่อมจะทำให้การบ่มเพาะของคนรวดเร็วได้เป็นเท่าตัว
แต่ว่าพลังของกฎนั้นมันขึ้นอยู่กับความสามารถการเรียนรู้ของนักยุทธคนนั้นๆ โดยสิ้นเชิงมีแต่ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจมันไปเรื่อยๆ หรืออีกทางหนึ่งก็คือเรียนรู้มันด้วยการใช้งานต่อสู้จริง
เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ฝึกฝนกฎมันจึงยากยิ่ง และการสำเร็จพลังแห่งกฎนั้นมันเป็นเรื่องที่ต้องได้รับความยอมรับจากเต๋าสวรรค์ ยากเย็นเสียยิ่งกว่าสิ่งใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับห้านั้นที่การฝึกฝนกฎมันช่างยากเย็นล้ำกว่าระดับก่อนๆ สิ้นเชิง
เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายจึงยอมแพ้ไป แทนที่จะใช้แปลงยอดเต๋าระดับต่ำมาสูงนั้น สู้เอาเวลาไปบ่มเพาะพลังและใช้ปราณดึงพลังแห่งกฎมาดีกว่า จะอย่างไรชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศและชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิมันก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอยู่แล้ว แค่แปลงยอดเต๋าหนึ่งกฎมันก็ยากที่จะพัฒนาแล้ว ไม่ต้องพูดถึงแปลงยอดเต๋าสามกฎของเย่หยวนเลย เพราะฉะนั้นการกระทำของเย่หยวนนี้มันจึงไม่ได้ต่างอะไรจากการเสียเวลาเปล่าในสายตาคนทั้งหลาย
พริบตาเดียวนั้นเย่หยวนก็ปะทะกับซุนฉีไปกว่าสิบกระบวนท่า ฝีมือการต่อสู้เช่นนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
แต่ว่าจะอย่างไรเสียหลังผ่านไปได้อีกราวสิบกระบวนท่าสุดท้ายเย่หยวนก็เริ่มแสดงแววที่จะพ่ายแพ้ออกมา ซุนฉีนั้นสมชื่อว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับร้อยของประวัติศาสตร์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต เขานั้นแข็งแกร่งจนน่าขนลุก
ที่สำคัญไปกว่านั้นบนดาบของเขานั้นมันยังมีวงแสงถึงสี่ชั้น เป็นสัญญาณบอกว่าแปลงยอดเต๋าของเขานั้นมันอยู่ในรูปแบบที่สี่แล้ว!
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลตรงหน้า ศัตรูคนนี้ของเขามันเก่งกาจเกินไป แปลงยอดเต๋าของซุนฉีนั้นมันมีแค่กฎเดียวแต่เขานั้นมีเต๋าดาบที่หนักแน่นมากจึงทำให้พลังของเขามันช่างเฉียบคม
พลังของเขานั้นมันทำให้เย่หยวนแทบไม่อาจจะหายใจออกได้
ฟู่!
หลังผ่านไปได้ราวร้อยกระบวนท่าในที่สุดซุนฉีนั้นก็เห็นช่องว่างในค่ายกลดาบของเย่หยวนและแทงดาบออกมาในที่สุด
เย่หยวนพ่ายลง!
ซุนฉีนั้นไม่ได้จางหายไปและหันมามองเย่หยวน “เจ้าเก่ง! หลังจากแปลงยอดเต๋าเจ้าบรรลุรูปแบบที่สี่ได้ข้าคงไม่อาจเอาชนะเจ้าได้แล้ว! แต่ว่าข้าเองก็ไม่ได้เป็นจักรพรรดิหยกที่เก่งกาจมากมาย ข้าเพิ่งจะเริ่มพัฒนาได้จริงๆ จังๆ ตอนที่เข้ามาเป็นศิษย์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตแล้วนี้! ข้าอยากจะลองประลองมือกับเจ้าตอนที่เจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเสียจริง!”
คนทั้งหลายนั้นต้องอ้าปากค้างไปทันทีเพราะคำบอกเล่าของเย่หยวนนั้นมันถูกยืนยันแล้ว!
หากคิดจะเข้าเป็นศิษย์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันต้องมีพลังอย่างน้อยชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!
ค่ายสำนักที่ยิ่งใหญ่ปานนี้จะมีศิษย์คนใดบ้างที่มิใช่ยอดคนสวรรค์ส่ง?
เย่หยวนนั้นกลับสามารถรับมือยอดคนอันดับหนึ่งร้อยได้ถึงขั้นนี้!
นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงฝีมือของเย่หยวนได้อย่างดี! หรือก็หากเย่หยวนต้องประลองกับคนภายนอกที่มีพลังระดับเดียวกันแล้ว มันคงไม่มีใครเอาชนะเขาลงได้จริงๆ!
เย่หยวนหรี่ตาลงด้วยใบหน้าดำมืด “หลังข้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้แล้วข้าจะกลับมาอีกแน่!”
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้เย่หยวนนั้นต่างเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้เสมอๆ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาพ่ายให้แก่คนที่มีพลังระดับเดียวกันเช่นนี้
เย่หยวนนั้นเป็นคนฉลาดมั่นคงย่อมจะไม่เจ็บแค้นใจกับความพ่ายแพ้นี้มากมาย
แต่ความพ่ายแพ้นี้มันทำให้จิตใจใฝ่การแข่งขันของเขาตื่นขึ้น!
การประลองนี้เขาได้แต่ต้องตั้งรับตลอดเวลาตั้งแต่กระบวนท่าแรก
แค่รอดมาถึงร้อยกระบวนท่าได้มันก็ต้องพึ่งสัญชาตญาณอย่างมากแล้ว
หากเป็นคนอื่นๆ นั้นต่อให้พวกเขาจะบรรลุสามกฎได้มันก็คงไม่รอดเกินสามสิบกระบวนท่า!
เพราะคู่ต่อสู้ของเขาคนนี้เก่งกาจจนไม่เปิดช่องให้ได้หายใจ!
ห้องฝึกฝนนี้มันจะบันทึกเหล่าศิษย์ผู้เก่งกาจไว้ในตอนที่พวกเขาแข็งแกร่งที่สุด
คนที่เอาชนะมาถึงอันดับร้อยได้นั้นมันย่อมจะมีแต่ยอดคนในหมู่ยอดคน
เพราะว่าห้องฝึกฝนทั้งสิบนี้ มันบันทึกไว้ได้แค่หนึ่งพันชื่อ!
ศิษย์รุ่นใหม่นั้นย่อมจะก้าวขึ้นมาแทนที่ผู้อาวุโสของตนและทิ้งเงาร่างพลังของตนเองไว้
คนที่จะทิ้งชื่อไว้ในที่แห่งนี้ได้มันย่อมจะมีแต่ยอดอัจฉริยะในหมู่ยอดอัจฉริยะ!
แท้จริงแล้วการที่เย่หยวนรอดมาจนถึงตอนนี้ได้ด้วยแปลงยอดเต๋าสามกฎมันก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
แต่เขานั้นยังไม่พอใจ!
วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตแล้วทำไม?
ยอดคนร้อยอันดับในประวัติศาสตร์แล้วทำไม?
เขา เย่หยวนคนนี้จะไม่ขอยอมแพ้ง่ายๆ!
หากไม่เก่งเท่า ก็จะฝึกฝนจนเก่งได้เท่า!
ซุนฉีพยักหน้ารับ “เจ้าจะยังสู้ต่อหรือไม่?”
เย่หยวนพยักหน้ารับพร้อมกลืนโอสถสวรรค์ลงคอไปรักษาอาการบาดเจ็บในทันที
เขานั้นไม่คิดลังเลและกระโดดเข้าไปในห้องฝึกฝนต่อทันที
“น้องเย่นั้นมีสัญชาตญาณการต่อสู้ที่น่ากลัวนัก! หากเรามีพลังบ่มเพาะและพลังแห่งกฎเท่ากับเขาแล้วเราคงไม่อาจจะเอาชนะเขาได้แน่!” จื่อหยางกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
คนอย่างเขานั้นย่อมเคยเห็นยอดอัจฉริยะมามากมาย
แต่เขานั้นยังไม่เคยเจอใครที่อัจฉริยะเท่าเย่หยวนมาก่อน
คนทั้งหลายในที่นี้ต่างไม่มีใครเป็นมือใหม่ พวกเขานั้นต่างมีชีวิตยืนยาวมานับหมื่นๆ ปี
ตอนที่เย่หยวนรับมือไปถึงช่วยสามสิบกระบวนท่านั้นเขาก็เริ่มจะแสดงถึงสัญญาณแห่งการพ่ายแพ้ออกมาแต่สุดท้ายกลับทนทานรับไปได้ต่อจนถึงร้อยกระบวนท่า!
เรื่องเช่นนี้มิใช่ว่าคิดจะทำมันก็ทำได้
ต้าวหยุนนั้นพยักหน้ารับ “เจ้าหมอนี่มันเกิดมาเพื่อสู้โดยแท้! กระบวนท่าที่สี่สิบสามของซุนฉีนั้นข้าคิดว่าเย่หยวนคงต้องแพ้แน่แล้ว ไม่นึกว่าวินาทีนั้นเขากลับจะใช้กฎแห่งห้วงมิติหลบไปได้อย่างเฉียดฉิว! การใช้งานพลังแห่งกฎเช่นนี้ข้าไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย! หากมันเคลื่อนไปแม้แต่น้อยมันก็คงไม่มีทางรอดได้! เจ้าหมอนี่มันช่างมีพรสวรรค์ที่มากล้นเสียจริง!”
…………………………