Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2758 ลาภลอย
ดินแดนต้องห้ามมารโบราณ หนึ่งในสามดินแดนต้องห้ามของมหาพิภพโรจน์เฉา
เวลานี้เสือขาวตัวหนึ่งกำลังยืนกายโชกเลือดเบื้องหน้าของเขานั้นคือยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์มารโบราณที่ยืนหอบอยู่
มารโบราณนั้นมองดูเสือขาวด้วยสายตาเย็นเยือก “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าเสือน้อยอย่างเจ้านี่จะกลับโจมตีด้วยพลังระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้! แต่น่าเสียดายที่เจ้ายังอ่อนแออยู่นัก!”
เสือขาวตัวนี้มันย่อมจะเป็นน้องชายของเย่หยวน อิ้งหมัวหู่แล้ว!
อิ้งหมัวหู่นั้นมองหน้ามารโบราณนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้น…แบบนี้เล่า?”
ตูม!
จู่ๆ มันก็เกิดคลื่นพลังรุนแรงล้ำปะทุขึ้นมาจากร่างของอิ้งหมัวหู่
พลังสายเลือดของเขานั้นพุ่งทะยานขึ้นมาจนทำให้ดินแดนต้องห้ามนี้สั่นสะท้านขึ้น
มารโบราณนั้นหรี่ตาลงมองก่อนจะร้องลั่นขึ้น “ไอ้เจ้าหนูนี่…สายเลือดของมันกลับพัฒนาขึ้นมาได้อีกครั้งแล้ว! นับครั้งนี้มันก็พัฒนาขึ้นมาได้ถึงสามครั้งในการต่อสู้นี้! น่ารำคาญนัก…ดูท่าข้าคงต้องส่งเจ้าลงนรกแล้ว!”
อิ้งหมัวหู่นั้นปล่อยคลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าทะยานขึ้น
ดูแล้วตัวอิ้งหมัวหู่นั้นเองก็คงทำให้มารโบราณนั้นหวาดกลัวไม่น้อย
แต่ว่ามารโบราณนั้นย่อมจะไม่เปิดโอกาสใดๆ
เขานั้นยกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมด้วยเงามารใหญ่ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง
มารโบราณนั้นไม่คิดลังเลแม้แต่น้อยต่อยหมัดนั้นออกมา
เงามารใหญ่นั้นมันพุ่งมาพร้อมกับหมัดที่แฝงพลังแห่งกฎนี้ แข็งแกร่งจนทำให้คนแทบไม่อาจหายใจ
อิ้งหมัวหู่นั้นกัดฟันแน่นก่อนจะร้องขึ้นอย่างเดือดดาล “อีกนิดเดียว! ข้าขาดไปอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น! หากข้าผ่านมันไปได้ข้าย่อมจะบรรลุเต๋าชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้แน่! ข้าต้องตามพี่ใหญ่ขึ้นไปให้ได้!”
“โฮ่ก!”
ในวินาทีสุดท้ายนั้นอิ้งหมัวหู่ก็ร้องลั่นเปล่งแสงจ้าขึ้น
ในเวลานี้เขานั้นใช้พลังที่เหลือทั้งหมดต่อยหมัดออกไป
ปัง!
ร่างของอิ้งหมัวหู่ปลิวถอยกลับไปพร้อมกระอักเลือดอย่างรุนแรงไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืนอีก
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นตัวมารโบราณเองก็ถูกต่อยจนปลิวไปเช่นกัน!
มารโบราณนั้นหน้าซีดขาวลงแต่ก็ไม่คิดหยุดมือพุ่งตัวเข้ามาหาอิ้งหมัวหู่ที่นอนกองอยู่กับพื้นทันที
เวลานี้ตัวอิ้งหมัวหู่นั้นอยู่ห่างจากชั้นบรรยากาศสวรรค์เพียงแค่เส้นผม!
หมัดก่อนหน้าของเขานั้นมันมีพลังระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์แล้ว
หากเขาไม่สังหารอิ้งหมัวหู่ลงไปผลที่ตามมามันคงมากเกินกว่าจะรับได้!
หมัดก่อนหน้าของเขานั้นมันทำให้อิ้งหมัวหู่หมดแรงใดๆ ลงสิ้น
ได้เห็นมารโบราณพุ่งเข้ามาเช่นนั้นอิ้งหมัวหู่ก็ได้แต่ต้องยิ้มเศร้าๆ
สุดท้ายเขาก็จะต้องมาตายลงที่นี่หรือ?
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดเงาสีขาวหนึ่งปรากฏขึ้นมาขวางหน้าเขาไว้
เขานั้นได้ยินแค่เสียงของมารโบราณร้องก่อนจะจางหายไปไม่เหลือเศษซาก
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามีปราณเทวะสายหนึ่งพุ่งเข้ามาในร่าง
อาการบาดเจ็บของอิ้งหมัวหู่นั้นมันค่อยๆ ดีขึ้นอย่างทันตา
“สงบใจและตั้งจิตให้มั่น ทำความเข้าใจเต๋าสวรรค์เสีย! เต๋าสวรรค์นั้นไร้จิตใจ แต่คนเรานั้นมีจิตใจ! ข้านั้นต่อต้านสวรรค์ด้วยเลือดและเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสวรรค์!”
อิ้งหมัวหู่นั้นสั่นสะเทือนไปทั้งกายก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา
ได้แต่ยินเสียงที่แฝงมาด้วยพลังนี้เขาก็ต้องใจหายไปเช่นกัน สุดท้ายเขาจึงรีบสงบใจและตั้งจิตพยายามบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์!
ด้วยการชี้แนะนี้ความลังเลใดๆ ของเขามันได้จางหายไปสิ้น!
ตูม!
หลังจากบ่มเพาะมายาวนานนับหมื่นปีในที่สุดอิ้งหมัวหู่ก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมาได้ในที่สุด!
ด้วยความช่วยเหลือของเย่หยวนนั้นพลังของอิ้งหมัวหู่จึงเข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว
“พี่!” อิ้งหมัวหู่ร้องขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้ากอดเย่หยวน
“หึๆ น้องข้า เจ้ากลับใช้ความสามารถของตัวเองบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้! เก่งจริงๆ!” เย่หยวนได้แต่ต้องพูดขึ้นมาอย่างโล่งใจ
หลังจากผ่านไปได้ห้าปีเย่หยวนนั้นใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเดินทางผ่านมหาพิภพต่างๆ และสุดท้ายก็ได้มาเจออิ้งหมัวหู่ในมหาพิภพโรจน์เฉานี้
ห้าปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนไม่คิดหยุดแม้แต่เสี้ยววินาทีและพบเจอพวกลู่เอ๋อ เฉียนจี้และคนทั้งหลายไปเรื่อยๆ
ในตอนนี้นอกจากเยวี่ยเมิ่งลี่แล้วเย่หยวนก็ได้เจอคนสนิทของตัวเองจนครบหมดสิ้น
แต่ว่าเย่หยวนนั้นก็รู้ดีว่าเหยียนยูเจินนั้นกำลังจะบรรลุแล้วเช่นกัน!
เขานั้นมีเวลาเหลือไม่มาก!
“ฮ่าๆ ข้าจะทำให้พี่ต้องอับอายได้อย่างไรกัน? ตอนที่ข้าตื่นได้สติขึ้นมานั้นข้าก็ได้พบว่าตัวเองมาอยู่ต่างโลกเสียแล้ว ในตอนนั้นข้าไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรแต่ข้าสัมผัสได้ว่าเต๋าสวรรค์ของมหาพิภพโรจน์เฉานี้มันเด่นชัดมาก นั่นทำให้พลังสายเลือดของข้ามันปะทุขึ้นมาข้าเลยคิดว่าไหนๆ ก็มาถึงแล้วก็ควรจะใช้ประโยชน์จากมันให้ถึงที่สุด ข้าจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์และขึ้นไปหาพี่! แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นพี่ที่ลงมาหาข้าแทน!” อิ้งหมัวหู่กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เรื่องนี้มันยากจะอธิบายได้ด้วยเวลาสั้นๆ เราค่อยไปคุยกันใหม่ทีหลัง! เวลานี้วิกฤตมันยังไม่ผ่านพ้น!”
พูดไปเย่หยวนก็ได้ล้างตราวิญญาณดั่งเดิมบนร่างของอิ้งหมัวหู่ออกไปและกำลังจะออกเดินทางต่อ
แต่ในเวลานั้นเองเขากลับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจนต้องหยุดเท้าลง
“หืม? นี่มัน…”
เย่หยวนนั้นพุ่งตัวเข้าไปยังส่วนลึกสุดของดินแดนต้องห้ามมารโบราณนี้
ความอันตรายใดๆ ในที่แห่งนี้มันไม่ถือเป็นความอันตรายสำหรับเขาเลย
เบื้องลึกของดินแดนต้องห้ามมารโบราณนี้มันมีค่ายกลใหญ่ตั้งอยู่
ส่วนที่ลึกที่สุดของดินแดนต้องห้ามนี้มันก็คือส่วนใจกลางของค่ายกลนี่เอง
เบื้องหน้าของเขานั้นที่ใจกลางของค่ายกลมันมีหินห้าสีลอยอยู่กลางอากาศปล่อยคลื่นพลังที่รุนแรงสำหรับคนภพเบื้องล่างอย่างมาก
“ไม่ผิดแน่ นี่มันเขาแดนอนันต์! นี่คือศิลาสวรรค์เบญจรงค์หนึ่งในเจ็ดยอดสมบัติที่ท่านเจ้าโกลาหลประกอบสร้างขึ้นมา! แต่ว่าศิลาสวรรค์เบญจรงค์นี่มันอาการหนักเสียยิ่งกว่าเขาแห่งถงเทียนของเจ้าอีก! ตอนนี้มันมีพลังเหลือเพียงเท่าสมบัติระดับชั้นบรรยากาศสามัญ!” หมี่เทียนกล่าวขึ้น
ก่อนที่เย่หยวนจะทันได้ออกไปจากมหาพิภพนี้ เขาแห่งถงเทียนในร่างของเขามันกลับเกิดสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ราวกับว่าตัวเองกำลังจะได้เจอสหาย
เมื่อได้มาดูมันก็เป็นเช่นนั้นจริง!
“ไม่ว่าจะมีสภาพอย่างไรตอนนี้ข้าก็ได้เจอเขาแดนอนันต์ชิ้นที่สองแล้ว!”
พูดไปเย่หยวนก็ยื่นมือเข้าไปหยิบเอาศิลาสวรรค์เบญจรงค์ออกมา
ค่ายกลเบื้องหน้าของเขานั้นมันไม่ต่างอะไรจากม่านกระดาษ
เมื่ออิ้งหมัวหู่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดอ้าปากค้างขึ้นไม่ได้
ในความคิดของเขานั้นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ย่อมจะเก่งกาจ
แต่ดูท่าแล้วแม้แต่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลายมันก็คงไม่ต่างจากมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชายของเขานี้!
เขานั้นแทบจะต้องตายลงในดินแดนต้องห้ามมารโบราณนี้
ที่สำคัญไปกว่านั้นที่แห่งนี้มันยังเป็นใจกลางของดินแดนต้องห้ามมารโบราณ สถานที่สุดแสนอันตราย แต่เย่หยวนนั้นกลับเดินเข้าไปได้ราวกับเป็นสวนหลังบ้าน
“พี่ หินนี้มัน…” อิ้งหมัวหู่ถามขึ้นมา
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดว่ามันเป็นเขาแห่งถงเทียนอีกอันหนึ่งก็ได้!”
เมื่ออิ้งหมัวหู่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
เขานั้นรู้ดีว่าเขาแห่งถงเทียนทรงพลังแค่ไหน!
เขาไม่นึกฝันว่าหินก้อนนี้มันกลับจะมีพลังระดับเขาแห่งถงเทียน!
“ไอ้หนู หลอมศิลาสวรรค์เบญจรงค์นี้เข้าเป็นหนึ่งกับเขาแห่งถงเทียนของเจ้าเสีย มันคงช่วยทำให้เขาแดนอนันต์นั้นพัฒนาเป็นสมบัติยอดหมอกระดับสองได้! ด้วยความช่วยเหลือของมันนี้เจ้าคงสู้ข้ามขั้นได้ง่ายขึ้นมาก!” หมี่เทียนกล่าวขึ้น
เย่หยวนเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินแต่ก็ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ผู้อาวุโส เราจะไปหาพลังงานยอดหมอกมาจากที่ไหนกันเล่า?”
“เจ้าโง่! เจ้าเอาสมบัติยอดหมอกมากมายมาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมิใช่หรือ? ในสมบัติยอดหมอกมันย่อมจะมีพลังงานยอดหมอก! เจ้านั้นดึงเอาพลังงานพวกนั้นออกมาหลอมใส่ศิลาสวรรค์เบญจรงค์เสีย มันคงพอที่จะพัฒนาเป็นสมบัติยอดหมอกระดับหนึ่งได้ ส่วนพลังงานยอดหมอกที่เหลือนั้นเจ้าก็เฉลี่ยมันหลอมเข้าเขาแดนอนันต์ทั้งสอง!” หมี่เทียนกล่าว
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องยกมือขึ้นตบเข่าฉาด “ที่แท้มันกลับทำเช่นนี้ได้!”
เย่หยวนนั้นเอาสมบัติยอดหมอกออกมาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทั้งหมดทั้งสิ้นถึงสามสิบสี่ชิ้น
หลังจากให้เหล่านักบุญสูงทั้งหลายและต้าหวงไปสิบสามชิ้น เขาก็ยังเหลือในมืออีกถึงยี่สิบเอ็ดชิ้น
สมบัติยอดหมอกมากมายเช่นนี้มันคงพอจะคืนสภาพให้ศิลาสวรรค์เบญจรงค์ได้แน่!