Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2761 มีปัญญาก็ตามมาล่าให้ได้
ตึง! ตึง! ตึง!
เสียงปะทะรุนแรงเกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนส่งคลื่นพลังออกไปไกลลิบสุดสายตา
วิญญาณดั่งเดิมนั้นเข้าต่อสู้มันย่อมจะไม่มีเลือดสาดเซ็นแต่มันอันตรายยิ่งกว่านั้นมาก
เพราะว่าแต่ละกระบวนท่านั้นมันทำร้ายกันถึงรากฐาน!
หากยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นเสียร่างกายไปแล้วพวกเขาก็ยังสามารถใช้วิญญาณดั่งเดิมของตนบ่มเพาะต่อไปได้
แต่หากไม่มีวิญญาณดั่งเดิมแล้ว ต่อให้จะมีร่างกายมันก็คงเป็นได้แค่ศพไร้เจ้าของ
ธนูแต่ละดอกของเย่หยวนนั้นมันรุนแรงล้ำไม่เปิดช่องให้เหยียนยูเจินได้หลบเลี่ยงใดๆ เลย
อีกด้านตัวเหยียนยูเจินนั้นก็ได้แต่ต้องรับศรธนูทั้งหลายนี้ไว้อย่างไม่รู้ต้องทำอย่างไร
เพราะแม้ว่าเขาจะมีพลังบ่มเพาะถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงแล้วแต่หากวัดกันที่วรยุทธวิญญาณแล้วมีหรือที่เขาจะเทียบเย่หยวนผู้บ่มเพาะกำเนิดเทพได้?
ธนูแต่ละดอกของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมล้ำไปด้วยพลังงานจากการเผาพลาญวิญญาณดั่งเดิม ทำให้พลังการโจมตีของมันนี้เหนือล้ำกว่าระดับของผู้ใช้ไปมากล้น
หากเหยียนยูเจินนั้นยังมีร่างกายอยู่ต่อให้เขานั้นจะมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงที่ไม่เต็มตัวแต่มันก็คงจัดการเย่หยวนลงได้ไม่ยาก
แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนนั้นมีวรยุทธวิญญาณดั่งเดิมที่เหนือล้ำกว่าเขาไปมาก!
“ให้ตายสิวะ! ไอ้เจ้าจักรพรรดิเซียนที่เพิ่งบรรลุขึ้นมาอย่างเจ้านั้นมันกลับมีวรยุทธวิญญาณดั่งเดิมเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องร้องลั่นขึ้นมา
เย่หยวนนั้นยังคงยิงธนูเทพล้างออกมาอย่างไม่มีหยุดมือพร้อมกล่าว “เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าคิดหาเรื่องข้าแล้วมันจะมีจุดจบเช่นใด!”
“เจ้าบ้า! โจมตีเช่นนี้ต่อไปเจ้าต่างหากที่จะตายก่อน!”
เย่หยวนยิ้มเย้ยขึ้น “แล้ว? เมื่อวิญญาณดั่งเดิมของเจ้านั้นมันถูกทำลายไปจนถึงจุดหนึ่งหยอกชีวาราวฝันก็คงจะได้โอกาสทำหน้าที่ของมันปลิดชีวิตเจ้าลงก่อน! ตอนนี้เจ้าต้องใช้พลังวิญญาณส่วนมากไปกับการกดหยอกชีวาราวฝันมิใช่หรอกหรือ?”
เมื่อเหยียนยูเจินได้ยินเช่นนั้นเขาก็แทบคลั่งขึ้นมาทันที แทบจะอยากร้องไห้ลงเสียตรงนั้น
ใช่แล้ว!
เหตุผลที่เขานั้นไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้จนถึงตอนนี้มันก็เพราะว่าหยอกชีวาราวฝันนี่เอง
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้จะมีแค่วิญญาณดั่งเดิมแต่พลังที่แตกต่างกันไปถึงหนึ่งอาณาจักรเช่นนี้เย่หยวนย่อมจะไม่อาจเอาชนะเขาได้สิ้นเชิงเช่นนี้
จักรพรรดิเที่ยงและจักรพรรดิเซียนนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
สำหรับคนส่วนมากแล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่องว่างที่ไม่อาจหาอะไรมาถม
แต่ก็เพราะว่าเช่นนี้เองที่ทำให้ตอนนี้เหยียนยูเจินยิ่งอยากจะกระอักเลือดด้วยความคับแค้น
เขานั้นวางแผนไว้มากมายกว่าจะขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้แต่ว่าเขานั้นกลับถูกเย่หยวนกดหัวไว้จนไม่อาจเงยหน้าได้ในตอนนี้!
ศึกนี้มันรุนแรงย่อมจะทำให้ยอดฝีมือมากมายมุ่งหน้ามาดูเรื่องราว
ที่ชายขอบของป่านั้นคนนิกายสวรรค์หยกแท้ต่างมุ่งหน้ามาถึงตามๆ กัน เพราะว่าการต่อสู้ตรงหน้าพวกเขานี้มันยิ่งใหญ่ล้ำจนแม้แต่นิกายสวรรค์หยกแท้ยังสั่นสะเทือน
ศึกนี้มันเกิดขึ้นในดินแดนของพวกเขา ย่อมจะไม่มีทางเมินเฉยมันได้
เจ้านิกายเฉินไท่นั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า “ผู้อาวุโสใหญ่ จักรพรรดิเที่ยงผู้นั้นมีพลังวิญญาณที่คุ้นๆ หรือไม่?”
ผู้อาวุโสใหญ่นั้นเองก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันทีที่ได้เห็น “เจ้าจะบอกว่า…เขาคือบรรพบุรุษท่านหรือ? จริงๆ ด้วย! แต่ท่านบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงมาได้แล้วแท้ๆ กลับยังไม่อาจเอาชนะเย่หยวนได้! ที่สำคัญทำไมเย่หยวนถึงได้มาสู้กับท่านด้วยร่างวิญญาณเล่า? หรือว่าเขานั้น…จะเสียร่างเนื้อไปแล้ว?”
เหยียนยูเจินนั้นเองก็เห็นคนทั้งหลายและร้องสั่งขึ้น “ศิษย์นิกายสวรรค์หยกแท้ พวกเจ้าจะยังยืนนิ่งกันทำไมอีก? ข้านั้นคือบรรพบุรุษของเจ้า! รีบๆ มาช่วยข้าสังหารไอ้เด็กนี่ได้แล้ว!”
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าวแน่นอนว่าพวกเฉินไท่ทั้งหลายย่อมจะหน้าเปลี่ยนสีไป
แต่ว่าพวกเขานั้นก็ยังแสดงท่าทีลังเลและไม่แน่ใจออกมา
เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นเมื่อได้เห็นเช่นนั้น “ไอ้เด็กคนนี้มันมีเขาแห่งถงเทียนติดตัวอยู่! ตราบเท่าที่เราสังหารมันลงได้นิกายสวรรค์หยกแท้ก็คงผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง เราจะเอาชนะทุกค่ายนิกายได้แน่นอน! ข้านั้นเสียร่างกายไปแล้วมันจึงไม่มีประโยชน์อะไรกับข้า! ถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็เอาเขาแห่งถงเทียนไปใช้ได้เต็มที่!”
“โลกใบน้อยที่เจ้าผ่านไปยังมิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์นั้นข้าเป็นคนหลอมเปลี่ยนแปลงมันเอง มันมีนามว่ามหาพิภพถงเทียน! เย่หยวนนั้นเป็นคนจากมหาพิภพถงเทียน! พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่เล่า? ไอ้เด็กคนนี้มันไม่มีพลังวิญญาณเหลือมากแล้ว วิญญาณดั่งเดิมของมันเองก็เสียหายไม่น้อย หากพวกเจ้าช่วยข้าเราย่อมสังหารมันได้ไม่ยาก!”
คำพูดนี้ย่อมทำให้สีหน้าของพวกเฉินไท่เปลี่ยนสีไปอีกครั้ง
การพูดเช่นนี้ออกมาได้มันย่อมจะหมายความว่านี่คือบรรพบุรุษของพวกเขาจริงๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นเหยียนยูเจินนั้นยังกล่าวได้ถูกจุดทำให้พวกเขาเกิดสนใจขึ้นมา
สมบัตินั้นหากไม่มีร่างกายมันย่อมจะไม่อาจใช้งานได้ นี่คือเรื่องจริง
เพราะฉะนั้นตราบเท่าพวกเขาสังหารเย่หยวนลงแล้วเขาแห่งถงเทียนก็คงกลายเป็นของพวกเขาจริงๆ
นี่เป็นสิ่งที่เย้ายวนอย่างมาก
เย่หยวนหัวเราะกล่าวขึ้นมาบ้าง “อย่าได้หลงเชื่อคำมัน! พวกเจ้านั้นเป็นได้แค่หมากบนกระดานของมันเท่านั้น! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามิติวิเศษกรองศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกเปิดขึ้นโดยมัน! แต่พวกเจ้าก็เห็นว่ามันไม่ได้คิดช่วยเหลืออะไรพวกเจ้าแม้แต่น้อย! หากมิใช่เพราะข้านี่พวกเจ้าคงได้กลายเป็นผีเฝ้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปแล้ว! เวลานี้มันเสียเปรียบมันจึงคิดใช้งานพวกเจ้าเท่านั้น!”
“เฉินไท่ หากเจ้าไม่มายุ่งเรื่องของข้า ข้าจะช่วยเจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างแน่นอน! ข้าเย่หยวนนั้นพูดคำไหนคำนั้น เจ้าเองก็รู้ดี!”
เฉินไท่และพวกที่กำลังคิดจะลงมือต้องผงะหยุดเท้าลงทันทีเมื่อได้ยินคำของเย่หยวน
ตอนที่เข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปนั้นเย่หยวนยังเกรงพวกเขาอยู่ไม่น้อยจึงไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้สมบัติระดับที่จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนไป
แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันเชื่อถือได้
ก่อนนั้นที่เย่หยวนชิงเอาดอกกระจับน้ำฝังสวรรค์ของชิเยว่ไปนั้นสุดท้ายเขาก็ยังช่วยชิเยว่หลอมโอสถสี่ชีพตามค่ำที่เคยให้
หากเป็นคนอื่นพวกเขาคงไม่มีใครคิดสนใจคำพูดที่ให้ไว้ก่อนจะปล้นชิง
เมื่อเห็นว่าพวกเฉินไท่ลังเลเหยียนยูเจินก็ต้องใจหายขึ้นมาทันที!
เพราะเวลานี้เขาแทบไม่อาจจะกดพลังของหยอกชีวาราวฝันไว้ได้อีกต่อไป
หากมันปะทุขึ้นมาแล้วภายใต้พลังจากภายในและการโจมตีจากภายนอกที่รุนแรงเช่นนี้ เขาคงได้ตายก่อนเย่หยวนแน่นอน!
เป็นเช่นนี้ต่อไปมันมีแต่จะตายกับตาย!
เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องเสียใจที่คิดลงมือเช่นนี้!
เขานั้นคิดว่าเย่หยวนใช้เวลาหลายปีที่ผ่านในการตามหาคนย่อมจะไม่มีเวลามาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนจึงทำให้เขานั้นมุ่งหน้ากลับมาสะสางล้างแค้นพิษหยอกชีวาราวฝัน
แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับมีวิญญาณดั่งเดิมที่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมาก่อนหน้านั้นแล้ว
แม้ว่าเขานั้นจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้แต่ว่าพลังส่วนมากของเขานั้นก็ยังต้องใช้มันดับพิษของหยอกชีวาราวฝันไว้
ภายใต้ความคับแค้นนี้เขาจึงได้ลงมือต่อเย่หยวนอย่างไม่ทันดูตาม้าตาเรือ
ผลลัพธ์นั้นมันทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา
เขานั้นกลัวเกรงเย่หยวนมาก หากรู้เช่นนี้แต่แรกเขาคงหนีหายไปสุดหล้าหลังบรรลุได้แล้ว!
จะยังมาล้างแค้นใดได้?
นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ!
เวลานี้วิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนนั้นมันจางลงไปมากแทบจะสิ้นใจ
“ให้ตายสิวะ! เย่หยวน เจ้าบังคับข้าแล้ว!”
เหยียนยูเจินนั้นพุ่งร่างออกไปด้วยพลังส่งของศรธนูมุ่งหน้าใส่คนทั้งหลายที่ริมป่า
เย่หยวนเองก็พุ่งตัวออกไปตามพร้อมด้วยศรที่พุ่งออกไปอีกครั้ง!
“อัก!”
เหยียนยูเจินนั้นร้องขึ้นมาแต่ก็ใช้พลังกระแทกของศรนั้นเร่งความเร็วตัวเองขึ้นยิ่งกว่าเก่า!
และจุดที่เขามุ่งหน้าไปนั้นมันก็คือตำแหน่งที่พวกเฉินไท่อยู่กัน!
เมื่อเฉินไท่ได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ซีดขาวลงก่อนจะมุ่งหน้าพุ่งตัวหนีไปสุดกำลัง
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!
เหยียนยูเจินนั้นรวดเร็วแค่ไหน?
เขานั้นจับร่างของเฉินไท่ไว้ก่อนจะฉีกวิญญาณดั่งเดิมของเฉินไท่ออกมาทันที!
เหยียนยูเจินนั้นแข็งแกร่งอย่างมากเฉินไท่ย่อมจะไม่อาจขัดขืนได้เลย
และมิใช่แค่เฉินไท่เท่านั้นที่เป็นเหยื่อของเขา แม้แต่เห่าจักรพรรดิหยกรอบๆ ตัวเขานั้นเองก็ถูกดึงวิญญาณดั่งเดิมออกมาเช่นกัน
“พวกเนรคุณ! ข้านั้นอุตส่าห์ตั้งนิกายสวรรค์หยกแท้มาให้พวกเจ้าได้ฝึกฝนตัว แต่พวกเจ้านั้นกลับไม่เคารพช่วยเหลือข้าในยามลำบาก! ช่างเถอะ ข้าจะขอใช้วิญญาณดั่งเดิมของพวกเจ้านี่รับความหายนะไว้แทนแล้วกัน!”
เย่หยวนที่ได้เห็นนั้นต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นก่อนจะยิงธนูเทพล้างออกไปอีกครั้ง
เหยียนยูเจินนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาก่อนจะโยนร่างวิญญาณของเหล่ายอดฝีมือนับสิบๆ นั้นไป
ตูม!
มิติสั่นสะท้าน!
วิญญาณดั่งเดิมของพวกเฉินไท่นั้นระเบิดขึ้นมา
แต่เหยียนยูเจินนั้นก็ถือโอกาสนี้ใช้แรงกระแทกพุ่งตัวหนีไปทางใต้
เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นร้องตามหลังไป “เหยียนยูเจิน เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก! ธนูเทพล้างของข้านั้นมันฝังตราวิญญาณดั่งเดิมของข้าไว้กับเป้าหมาย เจ้านั้นโดนมันยิงใส่นับสิบๆ ดอก ต่อให้เจ้าจะมุดดินหนีไปถึงแกนโลกข้าก็จะหาเจ้าจนเจอได้!”
ไกลออกไปเหยียนยูเจินก็หัวเราะตอบกลับมา “ข้านั้นเอาชนะเจ้าไม่ได้ แต่ข้านั้นหนีจากเจ้าได้แน่! วันนี้ข้าจะขอลาทวีปพิรุณใสนี้ไปแล้ว หากเจ้ามีปัญญาก็มาตามล่าข้าให้ได้เถอะ!”
………….