Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2815 ชนะใจด้วยใจจริง
ตอนที่ 2815 ชนะใจด้วยใจจริง!
“สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้สินะ!”
“มันก็ไม่มีทางเลือก ใครจะไปคิดว่านิกายยาสุดล้ำมันจะทรงพลังปานนั้น? ในทัพสวรรค์แรกนี้มีแค่นิกายยาสุดล้ำที่เป็นยอดฝีมือด้านการโอสถ แม้แต่นิกายระดับเจ้าโลกอื่นๆ เองก็ยังต้องไว้หน้าพวกเขา ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่ได้สู้รบใดๆ กันอีก!”
“แต่ข้าว่าที่อาจารย์เย่ทำนั้นมันก็เพื่อพวกเราทั้งสิ้น! หมอที่ดีอย่างอาจารย์เย่นั้นคิดถึงแต่ความปลอดภัยของพวกเรา!”
“ก็เป็นเช่นนั้น แต่คนเดียวมันจะหักเสาทั้งต้นคงไม่ได้”
ความคับแค้นของเย่หยวนนั้น ย่อมทำให้ศิษย์นิกายยาสุดล้ำไม่พอใจ แต่เหล่าทหารทั้งหลายกลับเห็นด้วยกับเย่หยวน
จักรพรรดิเซียนนั้นอาจจะเป็นตัวตนที่สูงล้ำในทวีปพิรุณใสปกครองโลกหล้า ทว่าในดินแดนส่วนใหญ่ของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นพวกเขาเป็นได้แค่ทหารเลว
ในสงครามครั้งนี้ พวกเขาเป็นได้แค่โล่มนุษย์เท่านั้น
สำหรับยอดฝีมือทั้งหลายแล้ว ชีวิตพวกเขาย่อมจะไร้ค่า แม้แต่ในสายตาศิษย์นิกายใหญ่ๆ ที่ระดับพลังเท่ากัน พวกเขาก็ไร้ค่าไม่ต่างกัน
หากตายก็ตายไป ถือว่าได้สร้างคุณให้ทัพสวรรค์แรก และยังเป็นเกียรติด้วยซ้ำ
คำพูดของจางซิ่วนั้นมันแสดงออกถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่การกระทำของเย่หยวนนั้นให้ค่าแก่ชีวิตของพวกเขาอย่างมาก
พวกเขานั้นซาบซึ้งคุณของเย่หยวนอยู่ในใจแต่ว่าเมื่อตรงหน้าเป็นถึงนิกายยาสุดล้ำอันใหญ่โตแล้ว
พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
ไม่นานนักเย่หยวนก็รักษาคนทั้งสิบจนเสร็จสิ้น
เซียวชานนั้นกล่าวขึ้น “เย่หยวน เจ้านั้นสร้างคุณใหญ่ไว้ถึงสองครั้งจริงๆ แต่เทียบกับนิกายยาสุดล้ำของข้าแล้วเจ้ายังแทบไม่ได้สร้างคุณประโยชน์อะไรเลย! นิกายยาสุดล้ำเรานั้นคือผู้ช่วยเหลือค้ำจุนทั้งทวีปสวรรค์แรกไว้! เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
เต้าเฉินนั้นกล่าวขึ้นมาเสริม “เย่หยวนเจ้านั้นต้องเข้าใจจุดยืนของตัวเองด้วย! เจ้ามันเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าคนเดียว! นิกายยาสุดล้ำเรานั้นเป็นตัวตนที่อยู่เหนือหัวเจ้าไปมากนัก!”
คำพูดพวกนี้ไร้ซึ่งความเคารพใดๆ อย่างสิ้นเชิง คนพวกนี้ได้คืบแล้วเอาศอกอย่างแท้จริง การ ‘ยอม’ ของเย่หยวนนั้นมันทำให้เต้าเฉินและพรรคพวกของเขายิ่งได้ใจ
ระบบนักหลอมโอสถสวรรค์ในทัพสวรรค์แรกนั้นมันคือสิ่งที่นิกายยาสุดล้ำตั้งขึ้นและไม่มีใครกล้าขัด เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ของนิกายยาสุดล้ำทั้งหลาย ต่างก็ถือตัวว่าตัวเองอยู่เหนือหัวใครๆ ถึงแม้นิกายยาสุดล้ำจะสร้างความผิดพลาดใหญ่หลวงในศึกนี้ก็ตาม…แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาโต้แย้งสั่งสอนใดๆ
ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนก็หันหน้ากลับไปตอบเต้าเฉิน “หือ? ในกองทัพนี้คนเราต้องพึ่งยศจากภายนอกด้วย? ไม่ใช่ว่ากฎของกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด?”
เต้าเฉินยิ้มตอบกลับด้วยความเย้ยหยัน “ในกองทัพนั้นกฎถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด! แต่ว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าเป็นแค่คนนอกทวีปไม่มีอำนาจสั่งการอะไรแม้แต่น้อย! เจ้าไม่ใช่คนของกองทัพด้วยซ้ำ เจ้ากลับกล้ามาสั่งให้ลงโทษตามกฎของกองทัพหรือ? น่าขัน!”
“ฮ่าๆ เจ้าบอกว่าให้ลงโทษตามกฎกองทัพ เราก็ต้องรับโทษตามที่เจ้าบอกหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองคือท่านแม่ทัพใหญ่หมิงยี่? เจ้าเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าไร้ที่มาที่ไป แต่มาออกคำสั่งใครมันให้อำนาจเจ้ามา?” จางซิ่วหัวเราะขึ้นตาม
อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าไม่ประเมินตัวเอง?
มันก็คงเป็นคนอย่างเย่หยวนนี้แล้ว!
ในสายตาของคนนิกายยาสุดล้ำนั้น เย่หยวนเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่ง
ในระบบนักหลอมโอสถสวรรค์ย่อมจะไม่มีใครกล้าขัดนิกายยาสุดล้ำ!
จ่าวเฉินที่ได้ยินแบบนี้ก็ปั่นป่วนไปทั้งใจ เพราะตอนนี้เขาได้มองเย่หยวนเหมือนดั่งเป็นผู้กอบกู้ไปแล้ว
เขานั้นสัมผัสได้ถึงความจริงใจและคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของเย่หยวน
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงปล่อยให้ศิษย์นิกายยาสุดล้ำได้ฝังเข็มฝึกไปเรื่อยๆ และไม่สนใจความเป็นความตายอะไรก็ได้…
แต่เขานั้นไม่ปล่อยผ่าน
แถมเย่หยวนยังแสดงให้คนที่จะลงมือดูก่อนทุกครั้ง เขาแสดงการใช้หยกมุกเก้าใบออกมาอย่างประณีตเพื่อให้พวกศิษย์นิกายยาสุดล้ำเรียนรู้ได้เร็วขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังกังวลและต้องคอยจับตาดูปล่อยให้เข้ามารักษาแค่ทีละกลุ่มเล็กๆ และความเป็นจริงนั้นมันก็เป็นตามที่เย่หยวนกังวล
จ่าวเฉินนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ว่านิกายยาสุดล้ำนั้นคือเสาหลักของทวีปสวรรค์แรกในตอนนี้
แต่พวกเขานั้นไม่สนใจชีวิตความเป็นความตายของทหารทั่วไปเลย แท้จริงแล้วหลายๆ ครั้งพวกเขายังเอาเหล่าทหารไปเป็นหนูทดลองด้วย
เวลานี้เมื่อได้เห็นว่านิกายยาสุดล้ำนั้นคิดข่มเหงเย่หยวน เขาก็อดกล่าวขึ้นไม่ได้ “อาจารย์เย่ช่วยชีวิตเราไว้ เขานั้นคือพี่น้องของเรา เขานั้นย่อมจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแล้ว!”
“ใช่แล้ว! อาจารย์เย่นั้นคือคนที่ช่วยทวีปสวรรค์แรกไว้อย่างแท้จริง ด้วยการส่งข่าวเสี่ยงชีวิต! เวลานี้เขายังช่วยประคองอาการเลือดกัดกร่อนให้เราอีก เขานั้นคือพี่น้องสหายของเรา!”
“ที่นายกองจ่าวพูดนั้นไม่มีผิด เขานั้นคือพี่น้องเราแล้ว!”
เมื่อจ่าวเฉินกล่าวขึ้นมานั้นมันย่อมจะเกิดเสียงร้องดังตามขึ้นเป็นแถบๆ เพราะความจริงใจหลายครั้งมันมักจะซื้อใจทหารได้ง่ายๆ
หากพวกเจ้าดีกับพวกเขา พวกเขาก็จะดีตอบ
ที่สำคัญไปกว่านั้นความสนิทของเหล่าทหารนั้นมันมักจะแน่นแฟ้นราวกับพี่น้องจริงๆ
และหลายวันมานี้เย่หยวนได้ทำการรักษาอย่างไม่หลับไม่นอนหรือพักผ่อนใดๆ
หัวใจของเหล่าทหารนั้นมันได้นับถือเย่หยวนเป็นพี่น้องไปแล้ว
รอบๆ เต็นท์ตอนนี้มันมีทหารอยู่กว่าร้อยคน เมื่อพวกเขากล่าวขึ้นมาพร้อมๆ กัน ย่อมจะทำให้คนนิกายยาสุดล้ำหลังชนฝาทันที
ตอนนี้แม้แต่เซียวชานเองก็ยังได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา เพราะพวกเขานั้นถูกตบหน้าเข้าอย่างจังแล้ว!
“จ่าวเฉิน! เจ้าคิดก่อกบฏหรือ?” เต้าเฉินถามขึ้นอย่างไม่พอใจ
จางซิ่วเองก็กล่าวขึ้นมาถามเช่นกัน “เย่หยวนช่วยชีวิตพวกเจ้า แล้วนิกายยาสุดล้ำของข้าไม่ได้ช่วยหรือไง?”
จ่าวเฉินนั้นตอบกลับไปอย่างซื่อตรง “นิกายยาสุดล้ำย่อมช่วยชีวิตเราไว้หลายครั้ง แต่พวกเจ้าไม่ได้ช่วย! นอกจากว่าจะไม่ช่วยแล้ว พวกเจ้ายังเกือบทำให้ด้านหน้านี้แตกพ่ายลง!”
คำพูดเดียวของจ่าวเฉินนี้มันทำให้คนนิกายยาสุดล้ำไม่รู้จะตอบอะไร เพราะพวกเขาไม่อาจจะเถียงไปได้ เพราะมันคือความจริงที่เกิดขึ้น!
เต้าเฉินหัวเราะขึ้นอย่างไม่พอใจ “หึๆ จ่าวเฉิน เจ้ามันช่างกล้าพูด! ก่อนหน้านี้เจ้าเยินยอพวกเราไว้แค่ไหนเจ้าลืมไปแล้วหรือ? เจ้าลืมแล้วหรือว่าตัวเจ้าเองก็เป็นตัวการสำคัญที่ขัดคำเตือนของเย่หยวนมัน?”
จ่าวเฉินนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าใสซื่อ “ที่เจ้าพูดมันถูกต้อง! ก่อนนั้นข้าเชื่อในนิกายยาสุดล้ำมากจนเกินไป ทำให้เกิดหายนะอย่างทุกวันนี้ขึ้นมา! จากทหารสามร้อยคนภายใต้คำสั่งข้านั้น ตอนนี้เหลืออยู่ไม่ถึงร้อยแล้ว! นอกจากนี้ในร้อยคนกว่าเจ็ดสิบคนที่ติดพิษเลือดกัดกร่อนไป! หากไม่ได้อาจารย์เย่ช่วย เราทั้งร้อยคนคงไม่ได้กลับมาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ! ต่อให้กลับมาได้…อย่างมากก็คงเหลือคนพิการแค่ยี่สิบสามสิบคนเท่านั้น!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเหล่านายกองทั้งหลายก็พยักหน้ารับ
จ่าวเฉินนั้นพูดแทนใจคนทั้งหลาย นายกองบางคนที่รับผิดชอบดูแลแนวหน้าบางหน่วยได้ถูกสังหารจนสิ้น
ทว่ามันกลับทำให้เต้าเฉินไม่พอใจหนักไปกว่าเก่า
ซึ่งเวลาจะตีคนนั้นอย่าได้ตีหน้า ทว่าเวลานี้พวกเขากลับถูกตบจนหน้าหัน
ไม่มีใครเคยตบหน้านิกายยาสุดล้ำเช่นนี้มาก่อน
เจ้าบ้านี่ไปกินใจหมีดีเสือที่ไหนมา?
เซียวชานนั้นร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด “พวกเจ้า! จ่าวเฉินนั้นมันปล่อยข่าวลือทำลายชื่อนิกายยาสุดล้ำ! จับมันไปลงโทษตามกฎกองทัพเสีย!”
วินาทีนั้นมันก็มีทหารรับใช้ของเขาสองคนเดินออกมาหิ้วร่างจ่าวเฉินทันที
จ่าวเฉินเองก็ไม่คิดขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเขานั้นไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าเซียวชานนั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงและเป็นแม่ทัพคนหนึ่งของด้านหน้าทิศเหนือนี้
ตอนที่เขาคิดมาพูดแทนเย่หยวนนี้เขาก็รู้ตัวดีว่าคงถูกลงโทษเข้าแน่ๆ
แต่เขานั้นก็ไม่อาจจะอยู่เฉยได้จริงๆ
แต่ก่อนที่ทหารรับใช้นั้นจะลากตัวจ่าวเฉินไป เย่หยวนก็กล่าวขึ้นห้าม “หยุด!”
เซียวชานหันมามองเย่หยวน “เจ้าไม่ใช่คนของกองทัพ เจ้าคิดจะมายุ่งกับเรื่องภายในกองทัพของเราอย่างนั้นหรือ?”
เย่หยวนทำหน้านิ่งและหยิบเอาตราอันหนึ่งขึ้นมาก่อนจะถาม “เจ้าว่าอะไรนะ? ไหนลองว่ามาอีกทีสิ!”
……………………………