Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2824 สะใจอย่างเหนือคาด
ตอนที่ 2824 สะใจอย่างเหนือคาด!
ตึง!
ตึง!
ตึง!
เสียงของระฆังยักษ์นั้นมันกระแทกขึ้นอย่างรุนแรงจนสั่นสะท้านฟ้าดิน
แต่ละครั้งที่มันดังขึ้นมานั้นหยวนเจิ้นก็ต้องกระอักเลือดออกมา
ส่วนตัวหวู่ชางนั้นเขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้ เพราะกำลังของเย่หยวนนี้มันเหนือล้ำเกินกว่าที่เขาจะยุ่งเกี่ยวด้วยได้
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
“ฮ่าๆๆ…ไอ้เผ่าเลือดขยะ พวกเจ้าโอหังเก่งกาจกันนักไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เป็นอะไรไปเล่า? เป็นใบ้กันไปหมดแล้ว? ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนห่าเหวอะไรกัน ต่อหน้าคู่หูหยางเย่นี้แล้วพวกเจ้าก็ไม่อาจจะเอาชนะได้แม้แต่น้อย! ที่ข้าบอกว่าไร้เทียมทานั้นคือคู่หูหยางเย่เรานี้ต่างหากเล่า! หากเราสองคนร่วมมือกันแล้วจะเป็นจักรพรรดิเซียนหน้าไหนมันก็ไม่มีทางเอาชนะเราได้แน่!”
ได้เห็นเย่หยวนที่เอาชนะได้อย่างขาดลอยนั้นตัวหยางชิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง โอกาสที่จะได้ตบหน้าคนซ้ำเช่นนี้
เขาย่อมจะไม่ปล่อยมันไป
เพราะฉะนั้นคู่หูหยางเย่จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
คนที่ได้ยินต่างต้องกลอกตาหนี แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
เพราะตอนนี้พวกหยวนเจิ้นทั้งสองนั้นถูกเย่หยวนกดดันอย่างหนักหน่วงจนแทบไม่อาจสวนกลับไปได้แล้ว
ความหวังใดๆ ของเผ่าเลือดที่เพิ่งจุดติดขึ้นมาได้มันถูกเย่หยวนเป่าจนดับไปหมดสิ้น
เซี่ยหลิงเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงพุ่งตัวออกมา หมายจะเข้าโจมตีเย่หยวน
แต่เย่หยวนนั้นตั้งสติคอยจับตาดูเซี่ยหลิงอยู่ตลอด วินาทีที่เซี่ยหลิงขยับนิ้วเขาก็ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างสุดตัว ต่อยสองหมัดเข้าหาคนทั้งสองตรงหน้า
ตูม!
มิติตรงหน้านั้นมันสั่นสะเทือนพร้อมๆ กับร่างของพวกหยวนเจิ้นทั้งสองที่ถูกเย่หยวนฉีกออกอย่างไม่มีเวลาแม้แต่จะร้อง
ก่อนที่เซี่ยหลิงจะมาถึงนั้นเย่หยวนก็ได้สังหารเก็บแก่นเลือดของคนทั้งสองพร้อมชิงเอาระฆังเลือดนั้นพุ่งตัวหายไปแล้ว
ได้เห็นพวกเย่หยวนพุ่งตัวออกไปเช่นนั้นเซี่ยหลิงก็ได้แต่ต้องกัดฟันอย่างคับแค้น
แต่เขาก็ไม่ได้ไล่ตามไป
ความตายของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนี้ย่อมจะเป็นความเสียหายใหญ่กับเผ่าเลือด
พวกหยานเจิ้นทั้งสามตายลงนั้นมันก็เป็นปัญหากับเขาไม่น้อยเช่นกัน
มันไม่ใช่ว่าร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนไม่เคยตายลงในสงครามแต่ว่าพวกเขาส่วนมากจะตายเพราะเจอยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิของฝ่ายทัพสวรรค์แรก
มันไม่เคยมีใครตายลงเพราะคนระดับเดียวกันมาก่อน
แน่นอนว่าย่อมจะมีคนที่แพ้บ้างเพราะทางทัพสวรรค์แรกเองก็มียอดอัจฉริยะไม่น้อย แต่คนตายนั้นไม่เคยมีมาก่อน
มันไม่ใช่ว่าพวกเขานั้นเก่งกาจกว่าจักรพรรดิเซียนฝ่ายมนุษย์มากมาย แต่มันเป็นเพราะว่าพลังการคืนชีพของพวกเขาต่างหากที่ทำให้รอดกลับออกมาได้ทุกครั้งไป
แต่วันนี้เรื่องตลกร้ายนั้นมันกลับเกิดขึ้นต่อหน้าเขาแล้ว
ในค่ายของเผ่าเลือดนั้นมันมีแต่คนยืนนิ่งอ้าปากค้าง
“ให้ตายสิวะ! ไอ้เจ้าเด็กบ้านนอกนี่มันเก่งกาจปานนี้ได้อย่างไร?” เซี่ยหลิงร้อง
เมื่อฮันกวงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาบ้าง “ไอ้เด็กคนนี้ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมมันถึงเก่งกาจขึ้นได้ขนาดนี้?”
เขานั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ ก่อนหน้าเขานั้นเอาแต่ร้องบอกว่าจะแก้แค้นๆ แต่หากออกไปจริงแล้วคงได้ตายอย่างไร้ค่าใดๆ แน่
ทหารเผ่าเลือดคนอื่นเองยิ่งตกใจกลัวจนหน้าซีด
เหล่าร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันคือตัวตนระดับพระเจ้าในสายตาของพวกเขา
แต่เวลานี้พระเจ้าของพวกเขากลับพ่ายแพ้ลง!
“ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นกลับ…แพ้ลงง่ายๆ เช่นนี้?”
“ไอ้เจ้าบ้านั่นมันยังเป็นแค่จักรพรรดิเซียนขั้นกลางแท้ๆ ยังไม่ถึงขั้นปลายด้วยซ้ำ! หากวันหนึ่งมันบ่มเพาะไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นสุดได้แล้วใครจะยังสู้มันได้?”
“ทวีปสวรรค์แรกมันมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร? เจ้าบ้านี่คงได้กลายเป็นศัตรูร้ายของเผ่าเลือดเราแน่แล้ว!”
…
เผ่าเลือดนั้นต่างยืนเหนือหัววางตัวเหนือคนทวีปสวรรค์แรก แต่ตอนนี้ความรู้สึกสูงล้ำของพวกเขาได้ถูกเย่หยวนทำลายลงสิ้น
เมื่อไม่มีความได้เปรียบเรื่องการคืนชีพ เผ่าเลือดนั้นก็ไม่ได้เก่งกาจมากมายกว่าเผ่าอื่นนัก เพราะอย่างน้อยๆ เย่หยวนคนนี้ก็จัดการจุดแข็งตรงนั้นของพวกเขาได้อย่างสิ้นเชิง
“ฮ่าๆๆ เจ้าพวกอ่อนแอ มีปัญญาก็กลับออกมาสู้อีกสักครั้งสิ! พลังเลือดบ้าบออะไร? อันดับหนึ่งในสวรรค์? เผ่าเจ้ามันมีแต่คำโม้! ถูกปู่หยางเจ้ากระทืบจนเสียท่าเช่นนี้แล้วกลับไม่กล้าแม้แต่จะเถียงใดๆ อีกหรือ?”
“พวกเจ้ามีร้อยบุตรมิใช่หรือ? นี่มันออกมาแค่สามเอง เรียกที่เหลือออกมาด้วยสิ! หยางเย่เรานี้จะกระทืบมันให้สิ้นท่าเอง! ทำไมไม่มีใครตอบข้าแล้วเล่า? ปู่หยางเจ้านี้เหงาเหลือเกิน!”
“แล้วก็เจ้าบ้าที่มีนามว่าเซี่ยหลิงนั่น! เจ้ารอก่อนเถอะ หลังปู่หยางเจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงไปได้แล้วข้าจะกลับมากระทืบเจ้าให้กลายเป็นแค่กองเศษเลือดเอง!”
…
หลังจากเซี่ยหลิงกลับเข้าค่ายมาหยางชิงและเสี่ยวชิงก็ก้าวออกมาอีกครั้ง
เผ่าเลือดนั้นโกรธแค้นจนหน้าดำหน้าแดงแต่ว่าไม่มีใครกล้าออกมาท้าทายอีกแล้ว
ไม่ว่าหยางชิงจะพูดท้าไปแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีการตอบสนองแม้แต่น้อย
“ให้มันร้องไป มันเหนื่อยเดี๋ยวมันก็หยุดเอง! เราจะปิดค่ายห้ามใครมาขอออกไปสู้อีก ไม่เช่นนั้นข้านี่แหละจะช่วยสังหารให้เอง!” เซี่ยหลิงร้องสั่ง
จากนั้นมันก็ไม่มีใครกล้าออกมาขอใดๆ อีก
แต่ต่อให้เซี่ยหลิงจะไม่สั่งเช่นนั้นออกมามันก็ไม่มีใครกล้าออกไปต่อสู้อีกต่อไปแล้ว
จะบ้าหรือแม้แต่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนยังตาย ทหารทั้งหลายนั้นจะเอาอะไรรอด?
แต่มันก็ช่างน่าคับแค้น!
หยางชิงนั้นมีปากที่เหม็นเน่าโดยแท้
ฝีมือของเขานั้นไม่ได้ถึงขั้นไร้เทียมทานแต่ฝีปากของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าคำว่าไร้เทียมทานไปมาก
ดูสภาพเป็นคนเจ็บแท้ๆ แต่ฝีปากของเขานั้นมันกลับไม่อ่อนแอลงแม้แต่น้อย
เผ่าเลือดทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องกลืนความคับแค้นลงคอไปอย่างไม่อาจทำอะไรได้
น่าคับแค้นใจ!
ในห้วงมิตินั้นทางมหาจักรพรรดิของทัพสวรรค์แรก ต่างต้องเบิกตาค้างตามๆ กัน
พวกเจ้าบ้าทั้งหลายนี้มันกลับถูกสั่งสอนจนไม่กล้าโผล่หัวออกบ้านมาแล้ว?
แม้ว่าเผ่าเลือดนั้นมันจะเสียเปรียบเพราะถูกโจมตีไม่ทันตั้งตัวแต่สุดท้ายพวกเย่หยวนทั้งหลายก็ได้แสดงฝีมือออกมาจนเผ่าเลือดได้แต่ต้องมุดหัวอยู่ในค่าย
ตอนนี้แม้แต่ตานเฟยนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
แม้ว่าพวกเขานั้นจะรู้ว่าเย่หยวนเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตแต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นผู้บ่มเพาะนอกรีตคนไหนที่นอกรีตได้ขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าเขาจะกล้าไปท้าทาย เพราะเขานั้นเตรียมตัวมาดี
“ไม่มีใครออกมาแล้วหรือ? เช่นนั้นอย่าได้หาว่าปู่หยางเจ้าไม่เปิดโอกาสให้ได้ล้างแค้นเล่า หากไม่มีใครมาแล้วจริงๆ ปู่หยางเจ้าก็กลับก่อนล่ะ!” หยางชิงนั้นกล่าวขึ้นมาหลังจากด่าต่อไปอีกราวครึ่งวัน
ครึ่งวันที่ผ่านมานี้เขาด่าออกมาอย่างไม่มีซ้ำคำ เป็นอะไรที่น่าสะใจอย่างมาก
การได้ด่าคนอย่างสุดใจแต่อีกฝ่ายนั้นกลับไม่มีปัญญาเถียงกลับนั้นมันช่างน่ารื่นรมย์!
“เอาล่ะ กลับเถอะ! พวกมันคงไม่กล้าออกมากันแล้ว!” เย่หยวนเองก็ยอมแพ้ไปด้วยเช่นกัน
ได้เห็นพวกเย่หยวนพุ่งตัวจากไปนั้นเหล่าคนเผ่าเลือดต่างก็ต้องถอนหายใจยาว
“พวกมารร้ายมันกลับไปแล้ว!”
“ข้าโดนมันด่าจนเริ่มสงสัยชีวิตตัวเองแล้ว!”
“นี่พวกเจ้าว่า…เราอ่อนแอจริงๆ หรือไม่?”
…
ในค่ายนอกเมืองทัศน์เหนือนั้นเว่ยเหลียงต้องหัวเราะลั่นจนทุบโต๊ะออกมา “โคตรสะใจเลยโว้ย! ข้านั้นผ่านศึกสงครามมาเกินจะนับแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่มันจะสะใจได้ปานนี้!”
การเดินปิดหน้าค่ายเช่นนี้มันช่างน่าสะใจอย่างบ้าคลั่ง
แม้แต่เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็อดตื่นเต้นขึ้นไม่ได้
ศึกครั้งนี้มันทำให้จิตใจของเผ่าเลือดนั้นตกต่ำอย่างมาก เจ้าสังหารคนแท้ๆ แต่อีกฝ่ายนั้นกลับชุบชีวิตคืนชีพมาได้
จากนั้นหากได้สู้กันอีกพวกมันนั้นกลับจะมาพร้อมด้วยสภาพสมบูรณ์เต็มร้อย
แต่หากเจ้านั้นถูกพิษเลือดกัดกร่อนเข้าแล้วเจ้าก็มีแต่ต้องรอความตาย
เย่หยวนนั้นสังหารร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงสามคนและยังสังหารนายกองไปเกือบครึ่งในการบุกครั้งนี้
นี่มันคือการสังหารอย่างสมบูรณ์ อีกฝ่ายไม่อาจคืนชีพได้แม้แต่น้อย!
ที่สำคัญไปกว่านั้นค่ายเผ่าเลือดยังถูกปิดล้อมด้วยคนไม่กี่คน ถูกตะโกนด่ากันจนหูชาแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ โต้เถียงกลับมา
มันโคตรสะใจ!
นี่คือความชนะที่สะใจที่สุด!
แม้ว่าศึกครั้งนี้มันจะมีขนาดเล็กน้อยแต่ว่ามันช่างสะใจจนเหนือความคาดหมาย!
มหาจักรพรรดิอีกคนหนึ่งหัวเราะขึ้นตาม “ฮ่าๆๆ! สุดยอดเสียจริง! เย่หยวนเอาชนะได้อย่างราบคาบ! แล้วเจ้าเด็กหยางชิงนั้นเองก็มีฝีปากที่น่าชังนัก ข้าล่ะทั้งเกลียดทั้งชอบมันเสียจริง!”
“นี่เป็นครั้งแรกของข้าเลยที่ได้เห็นเผ่าเลือดหดหัวเช่นนั้น ไม่กล้าพูดอะไรกลับมาสักคำ! สะใจ! สะใจจริงโว้ย!”
“เจ้าเห็นหรือไม่ว่าตอนที่ค่ายเผ่าเลือดมันเงียบกริบนั้นทหารแต่ละคนของมันนั้นหน้าดำหน้าแดงกันอย่างไม่รู้จะระบายอย่างไร! ฮ่าๆๆ โคตรจะสะใจเลย!”
…
มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างเฉลิมฉลองชัยชนะเล็กๆ นี้อย่างสะใจ
พวกเขานั้นคิดไปก่อนหน้าว่าเย่หยวนคงต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงแล้ว
ใครจะไปคิดว่าพวกเขานั้นกลับได้ชัยชนะที่สะใจอย่างเหนือคาดเช่นนี้กลับมา
ที่สำคัญมันยังได้ประโยชน์มากมายกลับมาด้วย!
สังหารร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงสามคนและนายกองไปเกือบครึ่ง มันยิ่งใหญ่และจะส่งผลต่อสงครามภาพรวมที่ยิ่งกว่าการสังหารกองทัพนับห้าหมื่นลงด้วยซ้ำ!
……………………………………………………