Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2826 ความต้องการของเย่หยวน
ตอนที่ 2826 ความต้องการของเย่หยวน!
มันไม่ใช่แค่ตัวเย่หยวนเท่านั้น เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างหายใจแทบไม่ทั่วท้องด้วยสีหน้าราวกับได้สมบัติล้ำค่ามาไว้ในมือ!
พิษเลือดกัดกร่อนในร่างของหยางชิงตอนนี้มันหายไปอย่างสิ้นเชิง
คนทั้งหลายเข้าใจดีว่านี่มันหมายถึงอะไร!
หลายพันปีที่ผ่านมานี้เหล่ายอดฝีมือที่ต้องตายลง เพราะพิษเลือดกัดกร่อนมันมีมากจนเกินกว่าจะนับ
แม้แต่คนรอบๆ ตัวเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็ตายตกกันลงไปมากมายเพราะพิษเลือดกัดกร่อนนี้
ต่อให้พวกเขาจะมีพลังเหนือฟ้าสวรรค์แต่ก็ไร้ปัญญาจะแก้ไขและต้องเฝ้ามองคนที่รักตายลงไปต่อหน้าต่อตา
ความรู้สึกนี้ทำให้คนแทบคลั่ง แต่ตอนนี้พวกเขาได้มีความหวังขึ้นมาแล้ว!
การที่เย่หยวนรักษาพิษเลือดกัดกร่อนได้นี้มันเป็นจุดเปลี่ยนของยุคสมัยเลยก็ว่าได้!
เพราะเรื่องนี้มันจะทำให้พวกเขาไม่ต้องเกรงกลัวเลือดกัดกร่อนกันอีกต่อไป!
หมายความว่าทหารในกองทัพสวรรค์แรกนับล้านๆ นั้นจะได้โอกาสเกิดใหม่!
มันหมายความว่าจะมียอดฝีมืออีกมากมายที่กลับลงสนามรบได้!
มันเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยคำพูดสั้นๆ!
ทัพสวรรค์แรกนั้นมียอดอัจฉริยะมากมายอย่างไม่อาจนับได้ พวกเขานั้นต่างเป็นยอดคนที่มีอนาคตถึงระดับมหาจักรพรรดิ
แต่เพราะว่าพิษเลือดกัดกร่อนนี้พวกเขามากมายกลับต้องตายลงไปก่อนจะได้ยิ่งใหญ่
เวลานี้ด้วยการรักษาของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะช่วยเหลือทำให้เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายได้มีโอกาสฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
“จะสุดยอดเกินไปแล้ว! สุดยอดเกินบรรยาย! หากมีวิธีรักษานี้อยู่เราจะยังต้องกลัวเผ่าเลือดกันอีกหรือ?!”
“ฮ่าๆๆ…หลายพันปีมานี้สิ่งที่ยากเย็นที่สุดที่นักหลอมโอสถสวรรค์นับไม่ถ้วนต่างต้องยอมแพ้นั้นกลับถูกแก้ไขได้แล้วในที่สุด!”
“สุดยอด! ยอดเยี่ยม! หากวันหน้าต้องไปเผชิญกับเผ่าเลือดกันอีกมันก็คงไม่ต้องกังวลว่าจะโดนพิษเลือดกัดกร่อนอีกต่อไป!”
“สำเร็จจริง! มันสำเร็จจริง! ฮ่าๆๆ…”
เว่ยเหลียงนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาพร้อมดวงน้ำตาที่ค่อยๆ เอ่อขึ้น
“เว่ยหยุน หากเจ้ายังอยู่มันจะดีกว่านี้สักแค่ไหนกัน! มันจะดี…” เสียงของเว่ยเหลียงตีบตันเงียบลงไป
มหาจักรพรรดิคนหนึ่งนั้นกลับร้องไห้ออกมาราวกับเป็นแค่เด็กตัวน้อย
จั่วเฉินเดินเข้ามาประคองร่างของเว่ยเหลียงพร้อมตบบ่าเขา “เว่ยหยุนเองก็คงดีใจอยู่ไม่น้อยแน่!”
เว่ยเหลียงพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่อาจหยุดน้ำตาที่ไหลนองหน้าได้
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเว่ยเหลียงไม่ชอบหน้าเขาแต่ก็ไม่นึกว่าตัวเขาคนนี้กลับจะมีเรื่องราวเบื้องหลังที่ลึกซึ้งนัก
ได้เห็นใบหน้ามึนงงของเย่หยวนนั้นตัวตานเฟยก็เป็นคนกล่าวขึ้นตอบความสงสัย “เว่ยเหลียงและเว่ยหยุนนั้นเป็นสองพี่น้องที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกเป็นยอดอัจฉริยะของนิกายยาสุดล้ำ พวกเขาทั้งสองนั้นสนิทสนมรักกันอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเว่ยหยุนนั้นเขาเป็นถึงยอดอัจฉริยะที่ถูกประเมินไว้ว่าอาจจะก้าวถึงระดับเจ้าโลกได้! แต่น่าเสียดายที่ก่อนนั้นตอนที่พวกเขายังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงเว่ยหยุนถูกพิษเลือดกัดกร่อนเข้าในศึกใหญ่จนตายลงในที่สุด เรื่องนี้มันย่อมจะเป็นปมในใจของเว่ยเหลียงมาจนถึงวันนี้แน่!”
แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่เว่ยเหลียงเท่านั้นที่มีน้ำตาไหลออกมา เหล่ามหาจักรพรรดิคนอื่นๆ เองก็ต่างมีน้ำตาไหลออกมาไม่น้อยเช่นกัน
เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นต่างก้าวเดินขึ้นมาจากผู้อ่อนแอ
ต่อสู้บ้าคลั่งมานับพันๆ ปีแน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะต้องสูญเสียสหายและคนรักไปมากมาย
เวลานี้แม้ได้เห็นยาแก้เลือดกัดกร่อนอยู่ตรงหน้าแต่พวกเขาก็รู้ดีว่าคนรักที่จากไปแล้วนั้นคงไม่อาจหวนกลับ
มีหรือที่พวกเขาจะไม่หลั่งน้ำตาออกมาได้?
“เย่หยวน เจ้าได้หาวิธีรักษาเลือดกัดกร่อน มันไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าเรื่องนี้แล้ว!” ตานเฟยกล่าวขึ้น
แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาด้วยใบหน้าเครียด “ข้าเจอมันจริง แต่วิธีการเช่นนี้มันไม่อาจจะทำเป็นวงกว้างได้เลย เพื่อจะสร้างอ่างผลึกเพลิงโลหิตนี้ขึ้นมาข้านั้นต้องใช้แก่นเลือดไปกว่าหนึ่งในสามและอ่างผลึกเพลิงโลหิตนี้มันคงรักษาคนได้แค่ประมาณพันคนเท่านั้น ต่อให้จะเอาแก่นเลือดของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมาใช้ มันก็คงรักษาได้ไม่เกินห้าพันคนเช่นกัน หลังจากนั้นก็คงหมดหนทางรักษาอีก เพราะว่าแก่นเลือดของเผ่าเลือดนั้นมันหาได้ยากยิ่ง”
ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดมันก็ยังเป็นแก่นเลือดของเผ่าเลือด
ผลึกเพลิงโลหิตที่เย่หยวนคิดค้นขึ้นมานี้มันย่อมจะต้องใช้แก่นเลือดของเผ่าเลือดเป็นส่วนผสมหลัก
ครั้งนี้เขาได้เลือดที่มีคุณภาพสูงมาแต่มันก็ยังน้อยเกินกว่าที่จะใช้ได้อย่างแพร่หลาย และฝ่ายเผ่าเลือดเองก็คงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้เข้าไปหาแก่นเลือดอีกแล้ว หรือก็คือหากศึกครั้งหน้ามีใครคิดพิษเลือดกัดกร่อนมาอีกมันก็คงไม่เหลือยารักษาแล้ว
ตอนนี้มันเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเดือนกว่าจะถึงกำหนดเส้นตายสามเดือน
เผ่าเลือดนั้นยังคงส่งกำลังมาเรื่อยๆ ตอนนี้กองทัพของพวกมันนั้นมีจำนวนกว่าสองหมื่นห้าพันคนไปแล้ว
ส่วนฝ่ายมนุษย์นั้นก็มีกองกำลังเหลือแค่สี่หมื่น
คนทั้งสี่หมื่นนั้นเป็นขีดจำกัดที่ทัพสวรรค์แรกจะส่งมาได้แล้ว
เพราะหลังจากที่เส้นทางมิติถูกเปิด ทางเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เองก็ถูกเผ่าเลือดเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
เพื่อที่จะไม่เปิดโอกาสให้พันธมิตรสวรรค์แรกได้ส่งกำลังมาเสริมทางเหนือ
หากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์แตกลงแล้ว ไม่ว่าเส้นทางมิตินี้จะสำเร็จหรือไม่มันก็ไม่ส่งผลใดๆ มากมายอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นศึกทางเหนือมันจึงเหลือเวลาโจมตีอีกแค่ครั้งเดียวด้วยจำนวนทหารที่จำกัด!
ไม่สำเร็จก็ต้องตายกันไปข้าง!
“ในศึกครั้งก่อนนั้นคนตายไปนับหมื่นแต่ว่าพวกเขาส่วนมากนั้นก็เป็นคนที่ถูกพิษเลือดกัดกร่อน ตอนนี้ในกองทัพจึงมีคนที่ถูกพิษเลือดกัดกร่อนแค่ราวห้าพันคนพอดี เราจะได้ออกไปรบอย่างเต็มกำลังได้ ตอนนี้เจ้าอย่าเพิ่งสนใจว่าผลึกเพลิงโลหิตมันทำได้ยากแค่ไหน แค่นับแค่ในศึกนี้เจ้าก็ถือว่าได้ทำเรื่องใหญ่โตเกินกว่าใครแล้ว! เจ้านั้นเข้าพันธมิตรมาได้แค่เดือนกว่าๆ แต่กลับทำปาฏิหาริย์ขึ้นมาติดต่อกันถึงสี่ครั้ง พูดมาเถอะว่าเจ้าต้องการอะไร?” ตานเฟยกล่าวถาม
พูดมาถึงตรงนี้สีหน้าของตานเฟยนั้นมันก็มีแค่ความชื่นชมอย่างสุดใจ
ในเวลาสั้นๆ แค่เดือนกว่านี้เย่หยวนได้บุกทะลวงผ่านแนวป้องกันของเผ่าเลือดบุกขึ้นฝั่งมาเรียกทัณฑ์สวรรค์ส่งข่าวให้คนทั้งแดนเหนือ จากนั้นสร้างธนูที่พลิกสถานการณ์สงครามช่วยให้ทัพถอยกลับมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นยังบุกไปสังหารนายกองเผ่าเลือดพร้อมๆ กับร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน และสุดท้ายยังคิดค้นผลึกเพลิงโลหิตนี้ขึ้นมาได้อีกด้วย
ความสำเร็จทั้งสี่นี้แต่ละอย่างนั้นมันล้วนเกินมือคนทั่วไป จะเรียกมันว่าปาฏิหาริย์ก็คงไม่แปลกเลย
แต่ว่าปาฏิหาริย์ทั้งสี่นี้กลับเกิดขึ้นมาจากมือเย่หยวนแค่คนเดียว
ตานเฟยนั้นรับใช้กองทัพมานานและย่อมจะสร้างคุณงามไว้นับไม่ถ้วน
แต่เทียบกับสี่ปาฏิหาริย์ของเย่หยวนนี้ เขากลับไม่กล้าจะไปเทียบ และเย่หยวนทำมันทั้งหมดได้ในเวลาแค่เดือนกว่า!
เขาต้องยอมรับเลยว่าหากไม่ได้เย่หยวนแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกในตอนนี้คงแตกพ่ายไปแล้ว
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นคงตกไปอยู่ในมือศัตรูแล้ว!
ความสำเร็จนี้ยิ่งใหญ่จนเกินกว่าจะใช้ตำแหน่งแม่ทัพสูงมาตอบแทนได้
แต่หากจะให้คิดหารางวัล ตัวตานเฟยก็ไม่อาจจะคิดได้จริงๆ ว่ามันต้องใช้อะไรตอบแทน
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เลือกถามเย่หยวนขึ้นมาเอง
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าว “ข้านั้นอยากเข้าไปศึกษาวิชาโอสถทั้งหมดของนิกายยาสุดล้ำ!”
ตานเฟยที่ได้ยินต้องผงะไป “แค่นี้?”
เขานั้นคิดว่าเย่หยวนจะเรียกร้องอะไรใหญ่โต ไม่นึกฝันว่าความต้องการของเย่หยวนมันกลับจะเป็นเรื่องแค่นี้
แน่นอนว่าวิชาโอสถของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันย่อมจะมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปเข้าถึงได้
หากคิดจะเข้าไปศึกษาคนผู้นั้นก็ต้องมีตำแหน่งที่ใหญ่โตพอ
แต่เรื่องแค่นี้ไม่นับว่าเป็นงานสำหรับพันธมิตรสวรรค์แรกด้วยซ้ำ
ที่สำคัญไปกว่านั้นเทียบกับปาฏิหาริย์ที่เย่หยวนสร้างขึ้นมาแล้ว แค่วิชาโอสถนี้มันย่อมจะไม่เป็นปัญหาใดๆ
เย่หยวนพยักหน้ารับ “แค่นี้! แน่นอนว่าข้าจะไม่ได้เข้าไปดูวิชาของนิกายยาสุดล้ำฟรีๆ ตัวข้านี้ก็มีวิชาโอสถติดตัวมาไม่น้อย ข้าจะคัดลอกมันแล้วมอบกลับให้นิกายยาสุดล้ำในภายหลัง”
คำพูดนี้ทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
เหล่ายอดคนทั้งหลายนั้นไม่มีใครโง่ พวกเขาย่อมจะรู้ดีว่าเย่หยวนที่ใช้หยกมุกเก้าใบออกมาได้เช่นนี้ย่อมจะมีวิชาที่เหนือล้ำติดตัวอยู่อีกไม่น้อย
แต่ของเช่นนี้ใครเจอก็ได้ไปและมีหรือที่คนอื่นจะไม่หวังครอบครองมัน?
แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจิตใจกว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทรคิดเปิดเผยวิชาที่เขาได้มานั้นมอบให้แก่นิกายยาสุดล้ำ!
……………………..