Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2838 หน้าชา
ตอนที่ 2838 หน้าชา!
เย่หยวนมองหน้าเจ้าโลกหยุนซานนั้นก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา “ผู้อาวุโสหยุนซาน ท่านต้องการอะไรถึงจะยอมแพ้กันเล่า?”
หยุนซานนั้นยิ้มตอบกลับไป “ง่ายๆ การแข่งขัน! หากเจ้าชนะข้านั้นก็จะกลับไปทันที! แต่หากข้าชนะเจ้าก็ต้องมาเป็นศิษย์ของข้า! แต่หากไม่รับแล้ว หึๆ…”
หยุนซานนั้นหันไปมองหน้าพวกจั่วเฉินด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์จนทำให้พวกเขาต้องขนลุกตั้ง
‘ทำไมข้าถึงกลายเป็นคนซวยเล่า?’
“บ…บรรพบุรุษท่านให้เย่หยวนประลองกับท่านนั้นมันจะไม่เป็นการรังแกกันเกินไปหรือ?” จั่วเฉินกล่าวขึ้นมาขัด
หยุนซานนั้นหัวเราะขึ้น “มีหรือที่ข้าจะยังมีรังแกจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่ง? ไอ้หนูที่ข้าจะแข่งกับเจ้านั้นมันคือการแจงเต๋าและจะเป็นการแจงเต๋ากับสมุนไพรสวรรค์ระดับห้า! ตราบเท่าที่เจ้ามีสมุนไพรสวรรค์ใดที่มั่นใจเจ้าก็เอามันออกมาได้เลย!”
ท่าทางของหยุนซานนี้มันดูคล้ายกับเย่หยวนไม่น้อย
เย่หยวนหยุดคิดไปพักใหญ่ก่อนจะกล่าวขึ้น “ได้ ข้ายอมรับ! แต่ว่าข้าจะยอมรับกราบท่านเป็นอาจารย์หรือไม่นั้นเราจะตัดสินกันที่ความแพ้ชนะไม่ได้!”
หยุนซานนั้นหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจก่อนถามขึ้น “เช่นนั้นจะตัดสินอย่างไร?”
เย่หยวนตอบกลับไป “ตราบเท่าที่ท่านทำให้ข้ายอมรับได้ ข้าก็ย่อมจะกราบท่านเป็นอาจารย์ ไม่เช่นนั้นจะอย่างไรมันก็ไม่มีทาง!”
หยุนซานนั้นยิ้มตอบกลับมา “ไร้สาระ! เจ้ามันพูดแต่ไม่มีสัญญา หากข้าเอาชนะเจ้าได้อย่างท่วมท้นแล้วเจ้าไม่ยอมรับข้า จะให้ข้าทำอย่างไรเล่า?”
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “เย่ผู้นี้ไม่ได้ตกต่ำปานนั้น! ท่านนั้นคือยอดคนของการโอสถ การเอาชนะข้านั้นย่อมมิใช่เรื่องแปลก แต่หากท่านไม่ได้ชนะอย่างท่วมท้นจนข้ายอมรับแล้วจริงๆ ทำไมข้าต้องมากราบท่านเป็นอาจารย์ด้วย?”
หยุนซานหยุดคิดไปก่อนจะพยักหน้ารับ “เจ้าก็พูดถูก! เอาล่ะ เอาตามที่เจ้าว่าก็ได้! เพราะเจ้านั่นก็คงไม่อาจจะเล่นลูกไม้อะไรต่อหน้าข้าได้เช่นกัน!”
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่ได้คิดเล่นลูกไม้ใดๆ มาแต่แรก
เจ้าโลกหยุนซานนั้นลงทุนออกมาหาเขาเองเช่นนี้เย่หยวนเองก็รู้สึกประทับใจไม่น้อยแล้ว
ตอนนี้เขาได้รู้อยู่แก่ใจว่าความห่างชั้นของเจ้าโลกและจักรพรรดิเซียนนั้นมันแตกต่างกันแค่ไหน
ในสายตาของเหล่าเจ้าโลกนั้น แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เองมันก็ยังเป็นแค่มด นับประสาอะไรกับจักรพรรดิเซียน?
ที่สำคัญไปกว่านั้นหยุนซานยังเข้าใจว่าเย่หยวนคงไม่อาจจะปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้ว
เย่หยวนนั้นมีศักดิ์ศรีแต่ก็ไม่ได้โง่
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีความคับแค้นใดๆ กันมีหรือที่เขานั้นจะไปหาเรื่องขัดใจเจ้าโลก?
เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าหยุนซานนั้นสนใจเขามากจริงๆ แตกต่างจากท่าทางความคิดของจั่วเฉินเมื่อตอนนั้น
เขานั้นสัมผัสได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้คงเพราะว่าผลึกเพลิงโลหิตแน่
เย่หยวนนั้นใช้เวลามากมายไปกับการพัฒนาสูตรผลึกเพลิงโลหิตนี้
ต่อให้จะเป็นจั่วเฉินเขาก็ยังคิดแค่ว่าที่เย่หยวนพัฒนามันได้ก็เพราะว่าเย่หยวนมีแก่นเลือดของเผ่าเลือดเท่านั้น
นี่มันแสดงให้เห็นว่าเขานั้นมีสายตาที่ไม่กว้างใหญ่ยังมองไม่ออกถึงความเหนือล้ำของผลึกเพลิงโลหิต!
แต่หยุนซานนั้นย่อมมิใช่ เขานั้นเป็นถึงเจ้าโลกยอดคนอันดับหนึ่งแห่งเต๋าโอสถในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด มีหรือที่เขาจะมองไม่ออก?
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงอยากจะเห็นว่าช่องว่างระหว่างตัวเขาและยอดคนนี้มันห่างกันเท่าใด!
เย่หยวนนั้นไม่พูดพร่ำให้มากความดึงเอาดอกบัวทองเปล่าออกมาทันที
ดอกบัวทองเปล่านั้นมันคือสมุนไพรสวรรค์ระดับห้าที่ล้ำค่ามากอย่างหนึ่ง เปี่ยมล้นไปด้วยเสี้ยวพลังแห่งกฎ
การแจงเต๋าที่ว่าถึงกันนี้มันคือการดึงเอาเสี้ยวแห่งกฎออกมาจากสมุนไพรสวรรค์เพื่อแสดงให้คนทั้งหลายดู และยิ่งมันแสดงออกมาได้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะแสดงถึงความสามารถด้านการโอสถของคนผู้นั้น
เพราะการจะดึงเสี้ยวกฎออกมาจากสมุนไพรนั้นมันต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
เย่หยวนนั้นย่อมจะมีฝีมือที่ไม่ต้องพูดถึง
ดอกบัวทองเปล่าในมือของเขานั้นมันค่อยๆ บานออกมาเป็นดอกสวยงาม
สีแตกต่างของเสี้ยวกฎทั้งหลายนั้นมันค่อยๆ เรียงตัวกันต่อหน้าจั่วเฉินและหยุนซาน
จั่วเฉินนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้เห็น เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจเรื่องที่เย่หยวนบอกว่าตัวเขาขึ้นไปแตะฐานระดับลึกล้ำได้แล้ว!
เจ้าเด็กคนนี้มันย่างก้าวมาถึงระดับลึกล้ำได้แล้วจริง มันห่างออกไปเพียงแค่ก้าวเท่านั้น!
แน่นอนว่าก้าวสุดท้ายนี้เองที่ได้กลายเป็นคอขวดของเย่หยวน
เขานั้นคิดอยากไปยังนิกายยาสุดล้ำเพื่อจะบรรลุคอขวดนี้ขึ้นสู่ระดับลึกล้ำในที่สุด
เย่หยวนนั้นจะบรรลุขั้นระดับลึกล้ำได้เมื่อไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ต่อให้เขาจะไม่เข้านิกายยาสุดล้ำนั้นมันก็คงสามารถขึ้นถึงได้ในเวลาไม่นานนักเช่นกัน!
เจ้าเด็กคนนี้มันเหนือล้ำสวรรค์โดยแท้!
ทั้งๆ ที่เขานั้นยังเป็นแค่จักรพรรดิเซียนขั้นกลาง!
แต่สิ่งที่หยุนซานเห็นนั้นมันย่อมจะลึกล้ำไปกว่าจั่วเฉิน
ใบหน้าของเขานั้นเรียบเฉยพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก แต่ว่าความตกตะลึงในสายตาของเขานั้นมันไม่อาจจะปิดซ่อนได้
เจ้าโลกหยุนซานนั้นได้แต่ร้องลั่นขึ้นมาในใจ ‘อัจฉริยะ! ยอดอัจฉริยะ! อัจฉริยะยิ่งกว่าโจวซ่งฉวนอีก!’
เด็กหนุ่มคนนี้มีค่าความเข้ากันได้แค่หกสิบเจ็ดเท่านั้น!
แต่เจ้าเด็กนี่กลับแจงเต๋าได้ด้วยแค่สัญชาตญาณ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
เมื่อตอนที่โจวซ่งฉวนยังเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นเขาเองก็ยังไม่อาจทำเช่นนี้ได้!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียโจวซ่งฉวนนั้นเองก็มีค่าความเข้ากันได้ถึงอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุด!
ความเข้ากันได้หนึ่งร้อยนั้นคือเต็มที่แล้ว?
ย่อมมิใช่!
เหนือหนึ่งร้อยไปนั้นมันจะถูกแบ่งเป็นสามอาณาจักร!
อาณาจักรวิญญาณ อาณาจักรลึกล้ำและอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์!
โจวซ่งฉวนนั้นมีความเข้ากันได้ที่สูงล้ำเหนือล้ำฟ้าดินอยู่ถึงอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุด ไม่อาจจะพัฒนาไปได้อีกแล้ว!
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตอนที่โจวซ่งฉวนนั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าเขาเองก็ยังไม่อาจเทียบเงาของเย่หยวนได้
แจงเต๋านั้นมันแค่ความรู้ส่วนหนึ่งของการหลอมโอสถ
แต่การแจงเต๋านั้นมันแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจต่อเต๋าโอสถของนักหลอมโอสถผู้นั้น
ดูท่าแล้วเย่หยวนนั้นย่อมจะเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าหนูนี่มันถึงได้โอหังนัก ที่แท้มันก็มีฝีมือจริง!
ยอดอัจฉริยะเช่นนี้มันย่อมจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน!
เขานั้นมีความเข้ากันได้ต่ำ แต่ว่ากลับเก่งกาจได้กว่าใครๆ!
นี่มันเป็นการโม้เกินตัวหรือ?
หยุนซานนั้นเคยเห็นอัจฉริยะมามากจนเกินกว่าจะนับได้แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ทำให้เขาลืมหายใจได้เช่นนี้มาก่อน!
การเดินทางมาครั้งนี้มันไม่ผิดพลาดแล้ว!
แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่กล่าวมันออกมา
เจ้าโลกนั้นเองก็มีศักดิ์ศรีของเจ้าโลก ใช่ว่าคิดอะไรจะพูดออกไปได้…เพราะไม่ว่าเจ้าจะเป็นยอดอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่มดปลวก!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แต่สุดท้ายการแจงเต๋าของเย่หยวนก็จบลง
ดอกบัวทองเปล่านั้นมันถูกคลี่ออกมาอย่างสวยงามกลายเป็นดอกบัวที่เบ่งบานเต็มที่
เย่หยวนนั้นลอกเปลี่ยนของออกมาพร้อมดึงเสี้ยวกฎจากในดอกบัวทองเปล่าออกมาเรียงกันเป็นรูปดอกไม้
มันเป็นฝีมือที่เหนือล้ำกว่าที่ใครเคยเห็น
จั่วเฉินนั้นได้แต่ต้องสูดหายใจลึก เพราะต่อให้จะเป็นเขา เขาก็คงทำได้พอๆ กับเย่หยวนเพียงเท่านั้น
“สุดยอด! สุดยอดเสียจริง! ไอ้หนู ข้าสอนอะไรเจ้าไม่ได้แล้วจริงๆ!” จั่วเฉินนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง
เขานั้นย่อมจะเก่งกว่าเย่หยวนแน่นอน เพราะตอนนี้เขาสามารถหลอมโอสถสวรรค์ระดับลึกล้ำได้แล้ว
แต่เย่หยวนนั้นคงตามมาถึงเขาได้ในพริบตา
จะมีหรือไม่มีเขา อาจารย์คนนี้มันก็ไม่ส่งผลอะไรมากมาย
เย่หยวนนั้นหยิบเอาดอกบัวทองเปล่าอีกดอกโยนไปให้หยุนซาน “ตาท่านแล้ว!”
หยุนซานนั้นไม่คิดรับและดันมันกลับมาใส่มือเย่หยวนอีกครั้ง
“ไม่ต้อง” หยุนซานกล่าว
เย่หยวนยิ้มขึ้นมากล่าว “ผู้อาวุโสหยุนซาน ท่านยอมแพ้แล้ว?”
คำพูดนั้นมันทำให้หยุนซานอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ยอมแพ้? ฮ่าๆๆ…ไอ้หนู เจ้ามันไม่รู้จักฟ้าดินเสียจริงๆ! อย่าว่าแต่ในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เลย ต่อให้จะมองหาทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์มันก็คงไม่มีใครที่เก่งพอทำให้ข้ายอมแพ้ได้ทันทีหรอก! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นถึงเต๋าโอสถที่แท้จริง!”
พูดจบหยุนซานนั้นก็ยกฝ่ามือขึ้นมาก่อนจะปล่อยไฟพุ่งใส่ดอกบัวทองเปล่าที่เย่หยวนหลอมไว้ก่อนหน้า
ฟุบ!
มันราวกับว่าดอกบัวทองเปล่านั้นได้รับน้ำทิพย์ และค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างทันตา
จากหนึ่งดอกกลายเป็นสอง
จากสองดอกกลายเป็นสี่
จากสี่ดอกกลายเป็นแปด!
ดอกไม้แห่งกฎนั้นมันค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนมีสภาพราวกับเป็นสวนดอกไม้
ภาพนี้มันทำให้คนที่ได้เห็นต้องอ้าปากค้างแต่ก็รู้สึกสดชื่นทั้งใจ
นี่มันเป็นวิชาที่ไม่สนใจกฎใดๆ ทั้งสิ้น!
แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังหน้าถอดสี!
ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างขึ้นมาจนลืมหายใจ
แข็งแกร่ง!
นี่คือ ฝีมือของปรมาจารย์โอสถสวรรค์โกลาหล?
……………………………………………