Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ
ตอนที่ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ!
โบราณ
ยังคงเป็นวิชาในตำนาน!
พวกนี้มีแต่ของในตำนานทั้งสิ้น!
เชินเฟยเหวินนั้นหยิบมันขึ้นมาดูเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าที่เหมือนได้เห็นผีหลายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ!
กองแผ่นหยกเบื้องหน้าเขานี้มันมีแต่บันทึกโบราณที่สาบสูญ!
เช่นนั้นแล้วของที่อยู่ด้านในเล่า?
เชินเฟยเหวินหยิบแผ่นหยกด้านในไปอ่านและยิ่งเห็นว่ามันเหนือล้ำกว่าด้านนอกไปมาก
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อน!
แต่ว่าหากดูตามสิ่งที่เขียนไว้ในแผ่นหยกนี้แล้ว เขาก็เข้าใจถึงความล้ำค่าของมันได้อย่างทันที!
ได้เห็นสภาพนั้นของเชินเฟยเหวินพวกหวังหลินที่ก่อนหน้ายังว่าเย้ยหยันเย่หยวนก็เริ่มหน้าเสีย
นี่เขาคงไม่ได้เห็นแก่หน้าหลานศิษย์จนเล่นละครตามน้ำเย่หยวนไปหรอกนะ?
หนึ่งหรือสองยังพอเชื่อ!
สามหรือสี่ยังพอทำใจ!
แต่จะบอกว่ากองภูเขาแผ่นหยกนี้มันมีแต่บันทึกล้ำค่าอยู่หรือ?
จากนั้นไม่นานเชินเฟยเหวินก็หยุดมือลงก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวนและกล่าว “หลานศิษย์เย่ เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรืองของนิกาย ข้าคนเดียวไม่อาจตัดสินได้อีกต่อไป! ข้าขอตัวไปรายงานท่านเจ้านิกายก่อนให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ!”
พูดจบเขาก็เดินหายเข้าไปในห้วงมิติทันทีทิ้งคนทั้งโถงคุณงามให้อ้าปากค้าง
นี่มัน…ถึงขั้นส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของนิกายหรือ?
อาจารย์ลุงท่านจะไม่พูดเกินไปหน่อยหรือ?
แค่แผ่นหยกกองเดียวมันจะมีค่าอะไรขนาดนั้น?
ไม่นานจากนั้นซ่งชิงหยางก็มาถึงพร้อมฟานหลี่และเหล่ายอดคนระดับสูงของนิกายด้วยใบหน้าแตกตื่น!
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของนิกายนั้นมันย่อมจะต้องเป็นพวกเขาที่ลงมาดูเอง!
เรื่องของเย่หยวนนั้นซ่งชิงหยางได้แต่ต้องกุมขมับ
‘บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า ท่านช่วยทำตัวเงียบๆ หน่อยไม่ได้หรือ?’
‘ทำไมขยับตัวแต่ละครั้งมันก็กลายเป็นเรื่องที่สั่นสะท้านนิกายไปได้ทุกครั้งเช่นนี้?’
ได้เห็นสายตานั้นของซ่งชิงหยางเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยักไหล่ตอบ
‘ข้าก็ไม่ได้อยากทำ!’
‘แต่ในเมื่อมันมีคนบังคับข้าก็มีแต่ต้องยอมทำแต่โดยดีเท่านั้น’
เพราะของพวกนี้มันน่าจะช่วยทำให้เขาสามารถทำอะไรตามใจในนิกายได้หลังจากใช้หนี้แต้มความดีคืน
เมื่อซ่งชิงหยางและพวกผู้อาวุโสมาถึงโถงคุณงามพวกเขาก็ต่างหยิบแผ่นหยกกันขึ้นมาอ่านคนละชิ้นแต่ยิ่งอ่านไปเท่าไหร่สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งซีดขาวจนสุดท้ายต้องหันมามองเย่หยวนเป็นตาเดียว
นี่เจ้าเด็กคนนี้มันไปปล้นเต๋าโอสถจากทั้งสามสิบสามสวรรค์มาหรือ?
จะเกินเหลือเชื่อไปแล้ว!
แผ่นหยกแต่ละชิ้นนั้นมันมีค่าเหมือนสมบัติที่ไม่อาจจะวัดเป็นเงินได้
แน่นอนว่าวัดเป็นแต้มความดีเองก็ไม่ได้เช่นกัน!
มีบันทึกโอสถทั้งหลายนี้อยู่ในมือ เขาคงสามารถไปสร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้ไม่ยาก!
จะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ซ่งชิงหยางนั้นไม่อาจจะหาคำใดมาอธิบายคนอย่างเย่หยวนได้แล้ว
เพราะแค่คำว่าเหลือเชื่อมันยังไม่พอจะอธิบายถึงความน่าทึ่งนี้ของเย่หยวน
ได้เห็นเหล่าคนเบื้องบนหน้าถอดสีเช่นนั้นพวกหวังหลินก็ต้องทรุดลงทันที
ตอนนี้มันไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วว่าแผ่นหยกของเย่หยวนนั้นมันล้ำค่านัก
แม้แต่พวกหวังหลินเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ!
ช่างน่าคับแค้นใจ!
ซ่งชิงหยางนั้นวางแผ่นหยกลงก่อนจะค่อยๆ ปรับลมหายใจตัวเอง “เย่หยวน แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันทรงคุณค่าจนเกินไป! เอาเช่นนี้ไหม? นิกายจะไม่ใช้ระบบแต้มความดีใดๆ กับเจ้าอีกแล้ววันหน้าหากเจ้าอยากได้อะไรก็บอกนิกายมาได้เลย! ไม่ว่าจะทรัพยากรใดนิกายก็จะจัดหามาให้อย่างไม่สิ้นสุด!”
เมื่อได้ยินคำนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!
ป…ปานนั้น?
รางวัลนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!
ระบบแต้มความดีนั้นคืออะไร?
มันคือระบบที่ทุกนิกายต่างใช้เพื่อควบคุมทรัพยากร!
ภายในนิกายนั้นมันย่อมจะต้องใช้แต้มความดีนี้แทนเงินตรา!
เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้านิกายผู้อาวุโสหรือแม้แต่ท่านทั้งหลายในหอสุดแสงหรือแม้แต่เจ้าโลกเองก็ยังไม่อาจวางตัวเหนือระบบนี้ไปได้!
เจ้านิกายนั้นต้องใช้แต้มความดีแลกเวลาต้องการอะไรด้วยหรือ?
แน่นอน!
หากเจ้านิกายนั้นต้องการอะไรจากนิกายเป็นของตัวเองแล้วเขาก็ต้องเอาแต้มความดีของตนออกมาแลก!
แต่คำพูดของซ่งชิงหยางนั้นกลับบอกว่าจากวันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะไม่ต้องอยู่ในระบบแต้มความดีนี้อีก!
เขานั้นเอาได้ทุกอย่างเท่าที่ต้องการ!
จะบ้าไปแล้ว!
เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่ระดับห้าอยู่ในตอนนี้ก็พูดง่ายสิ!
หากวันหน้าเขาบ่มเพาะถึงมหาจักรพรรดิแล้วเล่า?
หากวันหนึ่งเขากลายเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปได้จริงๆ เล่า?
สมุนไพรสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายนั้นจะมอบให้เขาไปอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ เลยหรือ?
ใช่!
นั่นคือความหมายของคำพูดที่ซ่งชิงหยางบอก!
แผ่นหยกพวกนี้มันมีค่ามากขนาดนั้น!
ซ่งชิงหยางนั้นไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันจะช่วยพัฒนานิกายยาสุดล้ำไปได้แน่นอน!
หลังจากวันนี้เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายคงเดินเข้าออกห้องสมุดคัมภีร์กันไม่ขาดสายแน่นอนเพื่ออ่านบันทึก เหล่านี้!
และฝีมือของพวกเขานั้นมันก็จะพัฒนาไปอย่างมากล้น!
หากมองดูจากภาพกว้างแล้วการกระทำของเย่หยวนนั้นมันก็จะช่วยให้วิชาการโอสถของพันธมิตรสวรรค์แรกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ!
นี่จะช่วยในสงครามกับเผ่าเลือดได้อีกด้วย!
เพราะฉะนั้นแต้มความดีใดๆ มันจึงไม่มีค่าพอจะวัดคุณงามความดีของเขานี้!
การเว้นระบบแต้มความดีนี้มันคงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในนิกายยาสุดล้ำ
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิกายยาสุดล้ำมันคงมีเย่หยวนเป็นคนแรก!
อาจารย์ลุงตัวน้อยของเขานี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!
เขานั้นต้องทำเรื่องใหญ่ไปอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจกัน?
“ข้าเห็นด้วย! บันทึกพวกนี้มันล้ำค่านัก! สามารถใช้สร้างนิกายยาสุดล้ำใหม่ได้ไม่ยากเลยด้วยซ้ำ! รางวัลนี้ไม่ได้เกินเลยไปแต่อย่างใด!” ฟานหลี่กล่าวขึ้นมาตาม
“ข้าเองก็ไม่ขัด! รีบๆ จัดการเถอะ ข้าจะกลับไปเก็บตัวแล้ว! ความรู้พวกนี้มันคงทำให้ข้าเข้าถึงต้นกำเนิดได้แน่!” เหมียวชวนกล่าวขึ้นมาตาม
“ข้าเห็นด้วย!”
“ข้าก็ไม่คิดขัด!”
…
เหล่ายอดคนทั้งหลายของนิกายนั้นต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
เรื่องนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบสิ้นสติ!
บ้า!
บ้าเกินไปแล้ว!
“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? สร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้! เย่หยวนคนนี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!”
“เจ้านี่มันมีชะตาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ กลับมีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้ติดตัวมา!”
“พวกหวังหลินคิดเอาเย่หยวนมาเย้ยหยันต่อหน้าคน! สุดท้ายมันกลับเป็นคนที่ต้องอับอายกลับไปเอง!”
…
คนรอบๆ นั้นแตกตื่นกันไปตามคาด
เพราะเรื่องตรงหน้านี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดของฟานหลี่นั้นที่บอกว่าสามารถไปตั้งนิกายยาสุดล้ำแห่งใหม่ได้ มันทำให้คนฟังลืมหายใจ!
เจ้าหมอนี่มันเกินคำว่าบ้าไปแล้ว!
สิ่งที่สร้างนิกายได้ทั้งนิกาย เจ้ากลับเอามามอบให้นิกายง่ายๆ เช่นนั้น?
คนเรานั้นเห็นแก่ตัว มันย่อมจะถือประโยชน์ตัวเองเหนือประโยชน์ใด
การสร้างนิกายค่ายสำนักใหม่ขึ้นมา กลายเป็นผู้ก่อตั้งนั้นมันคือเกียรติอันสูงส่ง!
ใครบ้างเล่าที่จะไม่อยากได้มัน?
แต่ขณะที่คนทั้งหลายยังไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างลงได้นั้นเย่หยวนก็กล่าวขึ้นต่อด้วยท่าทางสบายๆ “ไม่ต้องหรอก แผ่นหยกทั้งหลายนี้เดิมทีข้าก็คิดจะบริจาคให้นิกายอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าหลังข้ามาถึงนิกายนั้นข้าเอาแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องการบรรลุระดับลึกล้ำทำให้ลืมเรื่องมันไป ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดี ท่านเจ้านิกายข้าขอใช้พวกมันแลกกับแต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้ม นอกจากนั้นขอสมุนไพรสวรรค์ระดับห้าให้ข้าอีกชุดก็พอแล้ว”
วินาทีต่อมาคนทั้งหลายก็หยุดพูดลง!
แม้แต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังลืมหายใจ!
นี่มันบ้าไปแล้ว?
เขานั้นกลับคิดจะบริจาคของพวกนี้ให้แก่นิกายหรือ?
พวกมันนี้คือสมบัติล้ำค่าไร้เทียบ เย่หยวนกลับเอามันมาบริจาคง่ายๆ?
แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นฝ่ายรับแต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังรู้สึกเสียดายแทนจับใจ!
ฟุ่มเฟือย!
แค่แต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้มมันจะมีค่าใด?!
“จ…เจ้าล้อเล่นแล้ว?” มุมปากของซ่งชิงหยางนั้นกระตุกขึ้นมา
เขานั้นแทบอยากจะก้มลงกราบอาจารย์ลุงตัวน้อยของเขาคนนี้!
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ตอนที่ข้ากราบอาจารย์จั่วเฉินนั้นข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าข้าจะมอบสมบัตินี้ให้แก่นิกายเพื่อแลกกับการเข้าดูในห้องสมุดคัมภีร์อย่างอิสระ ตอนนี้ข้าได้อ่านบันทึกในห้องสมุดคัมภีร์ไปก่อนแล้ว ย่อมจะไม่ถือว่าติดค้างอะไรกันอีก แต่ข้านั้นมีความต้องการเพียงอย่างเดียวคือแผ่นหยกที่ข้ามอบให้นี้ ข้าอยากจะให้ศิษย์ทั้งหลายสามารถเข้าดูได้อย่างไม่ต้องจ่ายแต้มใดๆ!”
…………………………………………………