Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2870 โอสถเลียนโลหิต
ตอนที่ 2870 โอสถเลียนโลหิต!
“ตาเฒ่าหยุนซาน เจ้าได้ศิษย์ที่ยอดเยี่ยมมาจริงๆ!”
“ตาเฒ่าครั้งนี้ข้าจะยกให้! ศึกนี้มันสะใจเสียจริง!”
“ตาเฒ่าหยุนซาน ครั้งนี้เจ้าจะอวดอย่างไรข้าก็คงไม่ขัดแล้ว!”
…
ในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายต่างรู้สึกสะใจสุดตัว เพราะชัยชนะที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มทำสงครามกับเผ่าเลือดมา
สะใจอย่างยิ่ง!
ทหารเผ่าเลือดนับแสนคนนั้นมันย่อมจะมิใช่กำลังน้อยๆ ของทัพเผ่าเลือด
หลังจากศึกครั้งนี้พวกเผ่าเลือดคงต้องถอยกลับไปตั้งหลังกันยกใหญ่
“ใครบอกว่าพ่อเจ้านี้จะอวดโม้อะไร? หึ! ไอ้เด็กเวรนี่มาถึงทวีปสวรรค์แรกได้ไม่กี่ปีมันก็สร้างคุณยิ่งใหญ่เหนือหัวพ่อมัน เจ้าโลกคนนี้ไปแล้ว! ไม่ได้การล่ะ ข้าต้องลงไปสั่งสอนมันเสียหน่อยไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งได้ใจไปกันใหญ่!”
ฟุบ!
เงาแสงหนึ่งพุ่งออกไปจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ เจ้าโลกหยุนซานนั้นได้ส่งร่างแยกของตนมุ่งหน้าไปยังมหานครฉีใต้ทันที
สีหน้าของเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นดำมืดลงทันทีเมื่อได้ยิน นี่คือสิ่งที่เรียกว่าไม่อวดโม้ตัว?
‘หากไม่เห็นว่าเป็นผู้อาวุโส ข้าจะเอาเท้าขึ้นลูบหน้าเจ้าให้ดู!’
…
“เย่หยวน? เจ้าจะบอกว่านี่เป็นฝีมือของจักรพรรดิเซียนน้อยๆ คนเดียวหรือ? เดี๋ยวนะ! ทำไมนามนี้มัน…ฟังคุ้นหูจริง?”
ในวิหารโลหิตเทวานั้นหวังจั่วกำลังนั่งมึนอยู่
เพราะเขานั้นไม่อยากจะเชื่อความเป็นจริงที่มันเกิดขึ้นตรงหน้านี้
เดิมทีแล้วมหานครฉีใต้นั้นมันแทบจะแตกกลายเป็นทางเข้าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ทำให้หวังจั่วนั้นพึงพอใจอย่างมาก
ใครจะไปคิดว่ากองทัพนับแสนนั้นกลับถูกกวาดล้างอย่างสิ้นท่า!
เขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
ศึกใหญ่ที่มีโอกาสชนะแทบเต็มร้อยกลับพ่ายแพ้กลับมาอย่างย่อยยับ
และที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเผ่าเลือดทั้งหลายไม่รู้เลยว่าพวกเขาพ่ายแพ้ลงเพราะอะไร
เฟิงเสี่ยวเถียน?
ไม่มีทาง!
เผ่าเลือดนั้นประเมินความสามารถของเฟิงเสี่ยวเถียนไว้นานแสนนานแล้ว
เพราะฉะนั้นวิหารโลหิตเทวาจึงได้ติดต่อกับสายข่าวในทวีปสวรรค์แรกและได้รู้ความจริงทั้งหมดในไม่ช้า
เย่หยวน!
นามนี้มันปรากฏขึ้นมาต่อหน้าหวังจั่ว
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองเผ่าเลือดตอบกลับไป “ท่านหวังจั่วจำถูกแล้ว ความพ่ายแพ้ที่แนวหน้าเหนือเองก็เกิดขึ้นเพราะว่าตัวเย่หยวนนี้เข้ามาร่วมสงครามพอดี เพราะมันนี้ทำให้สุดท้ายเราพลาดที่จะเปิดเส้นทางมิติไป! จนถึงตอนนี้ท่านเชี่ยคงเองก็ยังคงนอนพักฟื้นอยู่เพราะมันคนนี้”
หวังจั่วนั้นหรี่ตาลงด้วยจิตสังหารรุนแรง!
ชัยชนะที่อยู่ในมือเผ่าเลือดทั้งสองครั้งนั้นมันหลุดลอยออกไปเพราะว่าจักรพรรดิเซียนแค่คนเดียวนี้
ช่างอับอายอย่างไร้ที่ระบาย!
หัวหน้าหน่วยนั้นย่อมจะรู้ว่าหวังจั่วคิดอะไรอยู่!
“เจ้ารู้หรือยังว่าทำไมมหาค่ายกลป้องกันมหานครฉีใต้มันถึงได้ฟื้นคืนสภาพขึ้นมากลางศึกเช่นนั้น?” หวังจั่วถามขึ้นมาต่อ
หัวหน้าหน่วยนั้นตอบกลับไป “เรารู้แล้วขอรับ มันเกิดขึ้นได้เพราะว่าศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยของเจ้าโลกหลัวเทียน! ว่ากันว่าสุดท้ายนั้นศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนี้ตกไปอยู่ในมือวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต ข้าน้อยเกรงว่าเจ้าเด็กคนนี้มันอาจจะไปได้สมบัติจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตมาก็เป็นได้!”
หวังจั่วนั้นต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน
สมบัติจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต มันเหมือนเป็นคาถาวิเศษทำให้เขาตกสู่ภวังค์!
เพราะนี่มันคือนิกายใหญ่ที่ยึดครองเกือบครึ่งสวรรค์ไป!
ต่อให้จะเป็นเผ่าเลือดชั้นสูงอย่างเขาคนนี้เองก็ยังต้องหูตั้งเมื่อได้ยินนามของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเช่นกัน!
“นอกจากนั้นแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกมันยังได้ส่งมอบศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยต่อๆ กันไปยังนครทั้งร้อยแปดด้วย! วันหน้าหากเราคิดจะบุกเข้าไปอีกมันคง…เป็นเรื่องยากยิ่งแล้ว!” หัวหน้าหน่วยคนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก
เพราะเดิมทีแล้วหลังจากผ่านศึกมานานเผ่าเลือดย่อมจะเริ่มเห็นชัยชนะในการบุกเข้าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าสุดท้ายแล้วความได้เปรียบที่สะสมมาหลายปีนี้มันกลับจะถูกเย่หยวนบดขยี้ในชั่วข้ามคืน!
ให้ตาย…แล้วจะเอาไปร้องเรียนใครได้?!
หวังจั่วนั้นหยุดคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะสั่งออกมา “สั่งการพวกอัศวินดำให้สังหารเย่หยวนลงให้จงได้!”
หัวหน้าหน่วยคนนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาทันที
อัศวินดำนั้นคือชื่อของเหล่าสายลับเผ่าเลือดที่ลอบเข้าไปในสวรรค์แรกได้และคนที่ติดต่อกับอัศวินดำได้นั้นมันก็มีแค่เขาคนนี้เท่านั้น
ข่าวของเขาเองก็มาจากพวกอัศวินดำเช่นกัน
เพราะพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่าเลือดนั้นมันทำให้ยากต่อการจะหลุดรอดผ่านขึ้นไปบนทวีปสวรรค์แรกอย่างมาก!
เพราะฉะนั้นอัศวินดำแต่ละคนนั้นจึงเป็นบุคลากรที่มีค่ามาก
แต่หวังจั่วนั้นกลับยอมที่จะเสี่ยงให้คนทั้งหลายนั้นถูกเปิดโปงเพื่อสังหารจักรพรรดิเซียนคนเดียว?
หากเย่หยวนอยู่นอกเมืองมันยังพอว่าแต่หากเขายังเก็บตัวอยู่ในมหานครฉีใต้แล้วมันคงยากเกินกว่าจะสังหารเขาลงได้!
เพราะเฟิงเสี่ยวเถียนไม่ได้มีดีแค่ชื่อ!
…
“อะไรนะ? เจ้า…เจ้าอยากเดินทางออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์?”
ได้ยินคำของเย่หยวนนั้นเจ้าโลกหยุนซานก็ต้องอ้าปากค้าง
เจ้าจะบ้าหรือ? พ่อเจ้านี้ยังไม่กล้าออกไปแต่เจ้ากลับคิดออกไปหรือ?
เย่หยวนพยักหน้ารับ “นี่มันก็ผ่านมาเป็นพันๆ ปีแล้ว เผ่าเลือดนั้นแข็งแกร่งขึ้นทุกวี่วัน! แต่เรานั้นกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันเลย เป็นเช่นนี้ต่อไปคงเป็นเรื่องแย่ต่อเราอย่างมากแน่ หากข้าเดาไม่ผิดพวกท่านเองก็คงรู้สึกกดดันกันมากไม่ใช่หรือ?”
ยิ่งกว่ากดดัน!
มันเหมือนต้องแบกภูเขาไว้ตลอดเวลา!
เผ่าเลือดที่ได้ครองสองทวีปใหญ่ไปนั้นมันย่อมจะได้เลือดมากมายมหาศาลไป แน่นอนว่าพวกมันย่อมจะพัฒนากันทุกวันทุกคืน!
หลายพันปีมานี้เผ่าเลือดได้มีเจ้าโลกใหม่ถือกำเนิดขึ้นถึงห้าคน!
ส่วนพันธมิตรสวรรค์แรกนั้นไม่มีแม้สักคน!
นอกจากว่าจะไม่มีเจ้าโลกคนใหม่แล้ว เจ้าโลกถึงสามคนของพันธมิตรก็ได้สิ้นใจลงไปด้วยในช่วงหลายพันปีนี้!
ฝ่ายหนึ่งพัฒนา ฝ่ายหนึ่งตกต่ำ มันย่อมชัดเจนว่าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ย่อมจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเจ้าโลกเผ่าเลือดมันคงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแม้จะมีเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ก็คงไม่อาจต้านทานเจ้าโลกเผ่าเลือดได้อีกต่อไป
ถึงตอนนั้นมันคงเป็นหายนะที่แท้จริงแล้ว!
เจ้าโลกหยุนซานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางไม่เห็นด้วย “เรื่องนั้นเจ้ายังไม่ต้องกังวลหรอก! สิ่งที่เจ้าต้องทำตอนนี้คือบ่มเพาะให้เร็วที่สุด! หากแค่เจ้าบรรลุขึ้นเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้เจ้าก็คงสร้างประโยชน์ให้พันธมิตรได้อย่างไม่มีใครเทียบแล้ว!”
เด็กหนุ่มคนนี้เก่งกาจปานนี้ตั้งแต่เป็นจักรพรรดิเซียน
เช่นนั้นหากวันหนึ่งเขาบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ขึ้นมาแล้ว หยุนซานไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง
บางมันอาจจะกลายเป็นฝันร้ายของเผ่าเลือดไป!
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับมาอย่างหนักแน่น “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง แต่เรานั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูเลยมันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากในสงคราม! ที่สำคัญมันมีแต่ข้าเท่านั้นที่เหมาะสมจะเข้าไปสืบเรื่องเผ่าเลือด!”
เจ้าโลกหยุนซานนั้นหัวเราะขึ้นมา “เผ่าเลือดนั้นมีคลื่นพลังเป็นเอกลักษณ์ หลังจากเจ้าออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ไปแล้วพวกมันก็คงจับเจ้าได้ทันที เผ่าเลือดนั้นมันคงรู้เรื่องของมหานครฉีใต้นี้แล้วด้วย ถึงตอนนั้นพวกมันคงหัวเราะเยาะพร้อมจับเจ้าไปแน่นอน”
เย่หยวนยิ้มก่อนจะเปลี่ยนคลื่นพลังภายในตัวไป
คลื่นพลังเลือดที่ชั่วร้ายปะทุขึ้นมาจากร่างของเย่หยวน
คลื่นพลังเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรจากเผ่าเลือดเลย!
ราวกับได้เห็นผี!
หากไม่ใช่เพราะว่าเย่หยวนยังนั่งคุยกับเขาอยู่ก่อนหน้าหยุนซานคงสังหารเย่หยวนลงเพราะคิดว่าเป็นเผ่าเลือดที่ปลอมตัวมา!
เจ้าโลกหยุนซานนั้นเบิกตากว้างขึ้นถามอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไร?”
คลื่นพลังของเผ่าเลือดนั้นมันไม่อาจจะลอกเลียนได้
เพราะนี่มันคือคลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากพลังสายเลือดในร่างกาย ออกมาจากส่วนลึกสุด
ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกเองก็คงไม่อาจจะลอกเลียนพลังของเผ่าเลือดไปได้
ไม่เช่นนั้นแล้วทางพันธมิตรคงส่งสายลับเข้าไปในเผ่าเลือดแล้ว
แต่เย่หยวนกลับทำได้!
เย่หยวนหยิบโอสถสวรรค์หนึ่งขึ้นมาพร้อมยิ้มกว้าง “นี่มันเรียกว่าโอสถเลียนโลหิต หลังจากกลืนมันลงไปแล้วคนผู้นั้นจะสามารถเปลี่ยนคลื่นพลังเป็นเผ่าเลือดได้แต่ตั้งต้นกำเนิด แม้แต่เผ่าเลือดเองก็คงไม่อาจจะตรวจจับได้เช่นกัน หึๆ แก่นเลือดของเผ่าเลือดมันของดีจริงๆ!”
หลายปีมานี้เย่หยวนย่อมจะเก็บสะสมแก่นเลือดเผ่าเลือดไว้มากมายและย่อมจะยังไม่หยุดค้นคว้าศึกษามัน โอสถเลียนโลหิตนี้เองก็เป็นหนึ่งในผลที่ได้จากการศึกษานั้น!
เจ้าโลกหยุนซานนั้นมองดูโอสถตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ของเช่นนี้มันย่อมมีแต่เย่หยวนที่ทำได้จริงๆ!
แต่น่าเสียดายที่ตัวเขาเองไม่อาจใช้มันได้
เพราะพลังบ่มเพาะของเขาสูงเกินไป!
“ก็ได้ ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วข้าก็จะไม่หยุดเจ้าไว้ แต่เจ้าต้องรู้ว่าเผ่าเลือดนั้นมันแตกต่างจากมนุษย์เราสิ้นเชิง เจ้าต้องระวังให้มาก!” เจ้าโลกหยุนซานกล่าวย้ำเตือนขึ้นมาด้วยท่าทางกังวล
…………………………